xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ]SONDHI TALK : ปี 2565 แพงทั้งแผ่นดิน - เปิดหมดเปลือก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เสียหายกว่า 100 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 14 ม.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ และช่องยูทูป Sondhitalk โดยประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ มีหลายเรื่อง เริ่มตั้งแต่ กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับวัคซีน VIP เรื่อง "กลลวงยุค 5G" แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สร้างความเสียหายหลักหลายร้อยล้าน และยังมีอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ 

เรื่องอเมริการุกจีน ปิดล้อมจีน และจีนก็ใช้เพื่อนบ้าน ลาว เขมร พม่า มาปิดล้อมไทยเป็นหมากล้อม การฝึกซ้อม Cobra Gold ที่จะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ ศัตรูของไทยคือใคร? จำเป็นหรือไม่ที่ศัตรูของอเมริกาต้องเป็นศัตรูของไทยเช่นกัน

เรื่องสุดท้าย  "หมูแพง" สรุปเบื้องหน้าเบื้องหลัง แบบม้วนเดียวจบ โยงไปถึงบทบาทข้าราชการไทย และนักการเมืองไทย เป็นภาพสะท้อนที่ฟ้องว่าประเทศไทยเป็นอย่างนี้ก็เพราะข้าราชการไทย และนักการเมืองไทย และไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น ที่น่ากลัวที่สุด คนไทยเริ่มถูกเช็กบิลจากการกู้หนี้ของรัฐบาล สถานการณ์จะสาหัสกว่า 2564 ต่อเนื่องไปอีกเรื่อ EEC กำลังวิกฤต เป็นข้อมูลที่ไม่มีใครรู้ ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.120



[คำต่อคำ]SONDHI TALK : ปี 2565 แพงทั้งแผ่นดิน

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์ : www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2565 เป็นศุกร์ที่สองของปีนี้ ศุกร์นี้ก็จะมีเรื่องราวที่น่าสนใจเหมือนเดิม ศุกร์ที่ผ่านมาก็มีหลายเรื่อง เรื่องการเมือง ท่านผู้ชมคงดูกันมาแล้ว ก็ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างสูง เฉพาะท่านผู้ชมที่เข้ามาดู Full Program และ Live Program ทั้งยูทูป ทั้งเฟซบุ๊ก เฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 2 ล้าน 7 แสนคนได้

วันนี้เราจะขอเปิดตัวแอปพลิเคชันอีกครั้งหนึ่ง เราเปิดตัวให้ดาวน์โหลดไปแล้ว ทั้งระบบ iOS ก็คือท่านที่ใช้ iPhone ท่านเข้าไปได้ที่ App Store แล้วก็ระบบ Android ท่านเข้าไปที่ Google Play ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เราเปิดให้ดาวน์โหลดกัน มีคนเข้ามาดาวน์โหลดหลายหมื่นคนแล้ว แต่ว่าบางคนดาวน์โหลดมาแล้วยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ ผมจะแนะนำให้ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบง่ายๆ อย่างนี้ครับ


สามารถดาวน์โหลด Sondhi App ได้ทั้งในระบบ Android และ iOS ให้เข้าไปที่ App Store พิมพ์คำว่า Sondhi App แล้วกดติดตั้ง ระบบ Android เข้าไปที่ Google Play พิมพ์คำว่า Sondhi App แล้วกดติดตั้งเช่นเดียวกัน หลังจากดาวน์โหลด Sondhi App ลงบนสมาร์ทโฟนของคุณ เข้าไปที่ Sondhi App เพื่อทำการลงทะเบียน กดไปที่ไอคอนรูปคนขวามือด้านล่าง กดตรงคำว่า "เข้าสู่ระบบ" ให้กดเข้าไปที่ด้านล่างตรงคำว่า "สมัครสมาชิกฟรี" จากนั้นจะเข้ามาสู่หน้า "สมัครสมาชิก" ให้ท่านสมัครสมาชิกโดยใช้เบอร์โทรศัพท์ของเครื่องที่ติดตั้ง Sondhi App หรืออีเมลของท่าน แล้วกดตรงคำว่า "รับรหัส" จากนั้นจะมีข้อความจาก QCLOUD ส่งรหัสตัวเลข 6 ตัว มายังกล่องข้อความในโทรศัพท์ หรือทางอีเมลของท่าน ให้ท่านนำรหัสที่ได้ มากรอกใส่ในช่องรหัส ให้ท่านตั้งรหัสผ่านของท่านเองอย่างน้อย 6 ตัว และทำการยืนยันรหัสผ่านของท่านอีกครั้ง จากนั้นให้กด "ส่ง" เพียงเท่านี้ ท่านจะไม่พลาดข่าวสารข้อมูลสำคัญจาก Sondhi App

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ก่อนที่จะเริ่มรายการ เรามาอัปเดตกันเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และไวรัสที่กลายพันธุ์ "โอมิครอน" และขออัปเดตการแจก ฟทจ. ฟ้าทะลายโจรของรายการ กับมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน

ตอนนี้ยอดติดเชื้อโควิดสะสมทั่วโลก ท่านผู้ชมฟังแล้วอย่าตกใจนะครับ 313 ล้านราย คนที่เสียชีวิตไปแล้ว 5 ล้าน 5 แสนราย ตัวเลขล่าสุด ประเทศที่ติดมากที่สุดก็ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา ก็คือ 62,204,730 ราย มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในโลก ก็คือ 842,000 ราย รองลงมาก็เป็นอินเดีย 35,875,790 ราย ที่สาม บราซิล 22,563,104 ราย อังกฤษอยู่อันดับสี่ 14,826,336 ราย ฝรั่งเศสอยู่อันดับห้า คือ 12,68,780 ราย เมื่อเทียบประเทศไทยกับบรรดาประเทศพวกนี้แล้ว ยังถือว่าเรายังอยู่อันดับท้ายๆ อยู่ ไม่ได้หมายความว่าเราอยู่อันดับท้ายๆ แล้วเราจะการ์ดตก ยังไงเราก็ต้องระวังตัวเราเอง


ตอนนี้ 10 อันดับประเทศที่มีผู้ติดโควิดรายใหม่ ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประเทศในทวีปยุโรป สเปน อิตาลี เยอรมนี โปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และกรีซ ส่วนของไทยนั้น 10 มกราคม ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงว่าไทยพบโควิดกลายพันธุ์ "โอมิครอน" 5,397 ราย กระจายไป 71 จังหวัด เกือบทั่วประเทศแล้ว กระทรวงสาธารณสุขเรียกว่า "การระบาดระลอก มกราคม 2565" เป็นการติดเชื้อระลอกที่ 5 ของประเทศ ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม มาจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 77,022 ราย คลัสเตอร์ที่เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ จะเป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร ร้านอาหารนั่ง สถานบันเทิง เป็นคลัสเตอร์ที่พบมากที่สุด และมีการรายงานมาต่อเนื่อง

ที่สำคัญ ท่านผู้ชมครับ กรมควบคุมโรค คาดการณ์ว่าช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม 2565 อาจจะมีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับ 2 หมื่นกว่ารายต่อวัน และถ้ายังเป็นตามนี้ ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ อาจจะขึ้นไปแตะที่ 3 หมื่นกว่าราย

แต่ก็มีข่าวดีในท่ามกลางข่าวร้าย ที่สหรัฐอเมริกานั้น นักวิจัย ตลอดจนนักวิทยาศาสตร์หลายคน คิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่อเมริกาและทางยุโรปเริ่มพีก (Peak) แล้ว หมายความว่า พอพีกแล้ว ถึงจุดๆ หนึ่งหลังจากพีกแล้ว ยอดผู้ติดเชื้อก็จะลดอย่างฮวบฮาบเลย ก็ต้องถือว่าเป็นข่าวดี

แต่ที่สำคัญที่สุด ท่านผู้ชมครับ เราต้องดูแลตัวเอง ผมพูดมาหลายครั้งแล้ว งดรวมตัว งดสังสรรค์ งดไปที่ชุมชนถ้าไม่จำเป็น ท่านผู้ชมครับ ผับกับบาร์เลิกไปเลย อย่างที่ผมบอก เราต้องเลิกยึดติดกับวิถีชีวิตเดิมๆ ได้แล้ว เราต้องพยายามอยู่กับ New Normal ให้ได้ เพราะเชื้อโรคมันเปลี่ยนทุกอย่างไปหมดแล้ว และเราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเราเอง ผมอยากจะให้ท่านผู้ชมติดฟ้าทะลายโจรเอาไว้ ฟทจ. พิสูจน์ อย่างน้อยที่สุดจากการวิจัยของพวกผม กลุ่มพวกผมที่สนับสนุน ฟทจ. พิสูจน์ชัดแล้วว่ารักษาโรคได้


โชคดีที่โอมิครอนนั้นลงมาแค่ระบบทางเดินหายใจ ไม่ได้ลงมาที่ปอด แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราจะละเว้นและประมาท ฟทจ. ติดตัวเอาไว้ ท่านผู้ชมไปที่ไหนที่มีคนเยอะๆ กลับมา และจริงๆ แล้วผมอยากจะแนะนำให้ทานวันละ 2 เม็ด ติดหรือไม่ติดก็ทานเอาไว้ก่อน ไม่มีผลต่อตับ แล้วผมเห็นคนที่เขาทาน ฟทจ. กันประจำวันละ 2 เม็ด นี่ของอาจารย์ปานเทพ ซึ่งเป็นพรีเมียม ค่อนข้างจะแพง กล่องละประมาณ 350 บาท นี่คือ ฟทจ. ของม้ามังกรบิน นี่ผมเอาแค่ตัวอย่างมาให้ดู ตอนนี้ราคาก็ประมาณ 70-80 บาท แต่ว่าตอนนี้ที่น่าสนใจอย่าง ช่วงนี้ตัวเลขคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็เลยมีการติดต่อขอ ฟทจ. ผ่านรายการนี้และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินเรื่อยๆ อาทิตย์ที่ผ่านมาส่งของไปเยอะมาก หลังจากที่ลดลงมาเยอะแล้ว เช่น นครพนม ขอมา 500 กระปุก พระท่านขอมา วัดพระธาตุศรีคุณ แม้กระทั่งสำนักงานเขตบางรักยังขอมา 900 กระปุก วัดรวก กทม. 100 กระปุก แล้วก็แจกไปตามชุมชนต่างๆ ที่ขอมา 4,550 กระปุก หมดครับ ไม่ว่าจะเป็นเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี สมุทรปราการ สกลนคร กระบี่ ศรีสะเกษ เชียงราย บางละมุง ชลบุรี สันป่าตอง เชียงใหม่ พัทลุง บุรีรัมย์ และบุคคลทั่วไปที่ขอมาอีกก็ประมาณ 1,000 กระปุก รวมแล้วเราส่ง ฟทจ. ไปแล้ว วันที่ 1-6 มกราคม 7,000 กระปุก ตอนนี้ ฟทจ. เรามีเหลืออยู่ประมาณเกือบๆ 20,000 กระปุก และเราเพิ่งสั่งเพิ่มเป็นล็อตสุดท้ายเข้ามาแล้ว อีก 45,000 กระปุก จากเงินที่ท่านผู้ชมได้บริจาคมาเพื่อช่วยชีวิตคน สรุปแล้วเราแจกไปร่วม 40 กว่าล้านกระปุก เยอะมาก ทั่วประเทศไทย ไม่มีใครแจก ฟทจ. ได้มากเท่ากับเราแล้ว แล้วท่านผู้ชมที่เสียสละ เสียเงินเสียทองมาช่วย เป็นกุศลผลบุญอันยิ่งใหญ่ มาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้ผมมีเรื่องหลายเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับวัคซีน VIP ที่เป็นเรื่องราวดรามากันยิ่งใหญ่ คุณธนาธร ถึงกับบอกว่ากำลังเตรียมที่จะฟ้องคนหมิ่นประมาท ที่กล่าวหาว่าคุณธนาธร ด้อยค่าวัคซีน ซึ่งคุณธนาธร ยืนยันว่าไม่ได้ด้อยค่า เพียงแต่พูดว่า ทำไมแทงม้าตัวเดียว ก็คือ แอสตร้าเซนเนก้า แล้วในที่สุดคุณธนาธร ก็กลับมาฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน มาดูข้อเท็จจริง ข้อมูลจริงๆ กันเสียที ว่าข้อเท็จจริงที่คุณธนาธรพูด กับที่คนอื่นพูด มันเป็นอย่างไร

เรื่องที่สอง ผมเคยพูดเรื่องแก๊งฉ้อโกงทางออนไลน์ วันนี้ผมจะเปิดหมดเปลือกเลย "กลลวงยุค 5G" แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ช่วงหลังนี่จะอ้าง DHL ก็คือบริษัทขนส่งสินค้า DHL มาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ พบผู้เสียหายเยอะมาก มูลค่าเสียหายหลักหลายร้อยล้าน และยังมีอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ ไม่หยุดเลย ผมก็เลยเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังมา และมาแนะนำท่านผู้ชมให้รู้วิธีการว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจฟังให้ดีๆ แล้วพวกนี้จะมีเคล็ดลับอยู่บางอย่าง ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ผมจะเอามาเปิดหมด แล้วพวกนี้ถ้ายังจะใช้วิธีเดิมๆ อีก ท่านผู้ชมก็จะรู้ทันทีเลยว่านี่คือขบวนการฉ้อโกง

เรื่องที่สาม ก็เป็นเรื่องเก่าๆ แต่มันมีมิติใหม่มา ก็คือเมื่ออเมริการุกจีน ปิดล้อมจีน ส่วนจีนก็ใช้เพื่อนบ้าน ลาว เขมร พม่า มาปิดล้อมไทยเป็นหมากล้อม และผมก็จะพูดถึงเรื่องการฝึกซ้อม Cobra Gold ที่จะมีขึ้นประมาณวันที่ยี่สิบกว่า เดือนกุมภาพันธ์นี้ แว่วข่าวว่าอเมริกานั้นส่งทหารเข้ามาอยู่ในหลักหมื่นกว่าคน ซึ่งเป็นการส่งทหารเข้ามาที่เยอะที่สุดในการฝึกซ้อม Cobra Gold ผมก็เลยตั้งคำถามว่า Cobra Gold ยุคหลังสงครามเย็นนั้น ยังมีความจำเป็นอยู่หรือเปล่า แล้วไทยถลำตัวลึกเกินไปไหม จากการที่ไปฝึกซ้อมกับอเมริกาตลอดเวลา คำถามสุดท้ายที่ทุกคนต้องตอบคือ ศัตรูของไทยคือใคร ? จำเป็นหรือไม่ที่ศัตรูของอเมริกาต้องเป็นศัตรูของไทยเช่นกัน ? ท่านผู้ชมตามผมมาก็แล้วกัน

เรื่องสุดท้าย ซึ่งจะมีหลายๆ เรื่องประกอบกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ แน่นอนที่สุด เรื่อง "หมูแพง" เรื่องหมูแพงนี่คนพูดกันเยอะเหลือเกิน แต่วันนี้ผมจะสรุปเรื่องหมูแพง เบื้องหน้าเบื้องหลัง ให้ท่านผู้ชมฟัง ม้วนเดียวจบ ท่านผู้ชมไม่ต้องไปฟังที่ไหนอีกแล้ว ท่านผู้ชมจะเข้าใจหลักการ วิธีการ เรื่องหมูแพง แล้วเรื่องหมูแพงมันมีนัยที่โยงไปถึงบทบาทข้าราชการไทย และนักการเมืองไทย เป็นภาพสะท้อนที่ฟ้องท่านผู้ชมและฟ้องสังคมไทยได้ ว่าประเทศไทยเป็นอย่างนี้ก็เพราะข้าราชการไทย และนักการเมืองไทย และไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น ชั่วมาตลอด ปิดบังข้อเท็จจริงมาตลอด กลัวความจริง แล้วต่อจากนั้นผมจะพูดในเรื่องของการกู้หนี้ยืมสินของรัฐบาลไทย ซึ่งตอนนี้ที่น่ากลัวที่สุด คนไทยเริ่มถูกเช็กบิลจากการกู้หนี้ของรัฐบาล ข้อมูล แน่นอนที่สุด ผมก็มีอยู่ แม่นยำพอสมควร ยังไม่พอ ผมเอาเหตุการณ์ในโลกนี้ ซึ่งธนาคารโลก (World Bank) ได้เตือนมาแล้วว่า 2565 (ปีนี้) เศรษฐกิจโลกโชกเลือด สถานการณ์จะสาหัสกว่า 2564 ก็ต่อเนื่องไปอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวโยงกัน ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่า ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า EEC กำลังวิกฤต ลองคุยดู ลองรับฟังการพูดจาของคุณคณิต แสงสุพรรณ เลขาฯ EEC ว่ามันวิกฤตอย่างไร และเป็นข้อมูลที่ไม่มีใครรู้ ท่านนายกฯ ท่านเป็นประธานในที่ประชุม แต่ท่านก็ไม่พูดอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องสนใจติดตามเอาไว้ เป็นเรื่องที่ควรรู้ และต้องรู้ด้วย เพราะเกี่ยวพันกับพวกเราทุกคน


ท่านผู้ชมครับ วันนี้ต้องพูดถึงคุณธนาธร นิดหนึ่ง เมื่อสองวันที่แล้วคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ออกแถลงข่าวเป็นทางการว่า คุณธนาธร จะฟ้องกลุ่ม IO ที่กล่าวหาคุณธนาธร แล้วก็ทางหน่วยงานราชการ ก็คือ "หมอพร้อม" ที่เอาข้อมูลการฉีดวัคซีนของคุณธนาธร ออกมาเปิดเผยให้กับสาธารณชนทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อหาที่คุณธนาธร แจ้งมา คือข้อหาที่มากล่าวหาว่าคุณธนาธร นั้นไปแย่งวัคซีนคนแก่ฉีด เรื่องราวเป็นอย่างไร ? เรามาตามเรื่องนี้กันนิดหนึ่ง

คุณธนาธร ได้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แล้วก็ปรากฏว่าติดโควิด พอติดโควิดแล้ว ก็มีคนมาให้กำลังใจคุณธนาธร เยอะ วันที่ 5 มกราคม 2565 ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ ก็ได้เปิดเผยประวัติการฉีดวัคซีนของบุคคลรายหนึ่ง ที่เรียกว่า "ไอ้ตี๋" ก่อนติดโควิด ก็คงจะ ... ผมไม่รู้ว่าท่านหมายถึงใครนะครับ แต่ว่าผมก็เดาเอาเองนะครับ ไม่ได้หมายความว่าท่านเป็นคนพูด ผมก็เดาเอาว่าน่าจะเป็นคุณธนาธร โดยที่ข้อมูลออกมาว่า วัคซีนเข็มแรกที่คุณธนาธร ฉีดนั้น เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ล็อตที่ A10062 ผลิตจากสยามไบโอไซเอนซ์ เมื่อวันที่ 1 คุณธนาธร ฉีดวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เวลา 19.15 น. ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ ผ่านไปอีก 5-6 เดือน คุณธนาธร ก็ฉีดอีกเข็มหนึ่ง เข็มที่สอง โมเดอร์นา วันที่ 22 ธันวาคม 2564 เวลา 10.42 น. ที่โรงพยาบาลรามคำแหง


เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้จริงๆ ไม่มีอะไรเลย มันก็แค่ฉีดวัคซีน แต่เผอิญคุณธนาธร เคยพูดจาอะไรที่เป็นการทำให้คนหลายๆ คนซึ่งเป็นฝั่งตรงกันข้ามกับคุณธนาธร และไม่ชอบคุณธนาธร วันนี้ผมไม่มีคำว่าชอบ หรือไม่ชอบ ผมมาเล่าเรื่องความจริงให้ฟังว่าข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร

วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่คุณธนาธร ฉีดในวันนั้น ออกมาจากโรงงานสยามไบโอไซเอนซ์ ผู้รับจ้างผลิตแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งคุณธนาธร เคยออกเฟซบุ๊กไลฟ์ในหัวข้อที่ว่า "วัคซีนพระราชทาน ใครได้ใครเสีย"


คุณธนาธร พูดอย่างนี้นะครับ หลักฐานมีอยู่ รัฐบาลต้องการใช้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ในการผลิตวัคซีน เพื่อต้องการเชิดชูและสร้างชื่อเสียงให้กับพระมหากษัตริย์ และยังกล่าวหาว่ารัฐบาลแทงม้าตัวเดียว โดยมุ่งหวังให้แอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งเรื่องนี้คุณธนาธร ก็โดนแจ้งข้อหาผิดมาตรา 112 กล่าวหา ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จกับพระมหากษัตริย์ โดยหลักการแล้ว ในข้อเท็จจริง คือ สยามไบโอไซเอนซ์ ไม่ได้เป็นเจ้าของแอสตร้าเซนเนก้า แต่เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า


นอกจากนี้แล้ว การไปฉีดวัคซีนวันที่ 1 กรกฎาคม ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจังหวะนั้นเป็นช่วงที่เขาฉีดให้กับผู้สูงวัย อายุเกิน 60 ปี ในขณะซึ่งคุณธนาธร ในช่วงนั้น อายุ 42 ปี ควรจะได้รับการฉีดซิโนแวคมากกว่า วันนั้น ฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โรงพยาบาลก็เลื่อนการฉีด เพราะว่าวัคซีนมีไม่พอ นี่ก็เลยเป็นที่มาของข้อกล่าวหาว่าคุณธนาธร กำลังเตรียมตัวฟ้อง หาว่าคุณธนาธร ไปฉีดวัคซีนแย่งคนแก่ ท่านผู้ชมครับ เรื่องมันไม่เป็นเรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ว่าเดี๋ยวมันมีที่มาที่ไป

หลังจากนั้นแล้ว สื่อมวลชนก็ไปสัมภาษณ์หมอที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ คุณหมอก็ยืนยันว่าฉีดเข็มที่ 1 ที่โรงพยาบาลจริง หมอก็ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคุณหมออาจจะไม่ได้ติดตามข่าวตั้งแต่ต้น มันก็แค่ฉีดวัคซีนธรรมดานี่เอง โดยสรุปแล้ว การฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลในเวลานั้น ที่คุณธนาธร ไปฉีด เขาใช้ระบบ Walk in คือใครก็ได้เดินเข้าไป แล้วก็ฉีดเลย เพราะว่าต้องรีบฉีด เนื่องจากว่าหลอดหนึ่งฉีดได้ 6 เข็ม ถ้าช้าไปแล้วอายุวัคซีนจะหมดไป โรงพยาบาลฯ ก็เลยให้บอกต่อๆ กันไป มาฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด จะได้ครอบคลุมไปได้ ส่วนใครจะบอกคุณธนาธร โรงพยาบาลบอกว่าไม่รู้เรื่อง วันนัดหมายฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็มีโทรศัพท์ตาม จากการตรวจสอบก็มีชื่อคุณธนาธร รวมอยู่ด้วย ตอนนั้นโรงพยาบาลก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็บอกว่าฉีดให้ประชาชนแล้วกัน ฉีดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้


ตอนนั้นโรงพยาบาลฉีดวัคซีนแล้ว ปรากฏว่าวัคซีนหมด เมื่อหมด ก็เลยจำเป็นที่จะต้องพักการฉีดวัคซีน เมื่อพักการฉีดวัคซีนแล้ว ก็เลยต้องหยุดการฉีดและรอล็อตต่อไป ที่มันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเพราะว่าคนที่โจมตีคุณธนาธร ก็บอกว่า คุณธนาธร กล่าวด้อยค่าวัคซีน แต่คุณธนาธร ชี้แจงมาว่า ไม่ได้ด้อยค่าวัคซีน แค่เตือนเรื่องรัฐบาลแทงม้าตัวเดียว

10 มกราคม 2565 เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีคนใช้เฟซบุ๊กเข้าไปถามเรื่องนี้ในเฟซบุ๊กของคุณธนาธร ว่า "ทำไมด้อยค่า AZ แล้วจึงไปฉีดวัคซีนก่อนผู้สูงอายุ เมื่อด้อยค่าแล้วมีคนหลงเชื่อ จึงไม่ไปฉีด ทั้งซิโนแวค และ AZ มีคนตายจากโควิด-19 ด้วยสาเหตุนี้จำนวนมาก พอชาวบ้านได้เห็นข่าวการเสียชีวิตของดาราตลก จึงเริ่มไปฉีดวัคซีนที่ถูกด้อยค่านี้" คุณธนาธร ก็เลยบอกว่า "ข้อวิจารณ์ของผมเรื่องวัคซีน คือการจัดหาแบบแทงม้าตัวเดียว ที่มีข้อผิดพลาด จนทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการด้อยค่าวัคซีน ผมแนะนำว่าก่อนที่จะกล่าวหาหรือเชื่อในคำกล่าวหาใดๆ ควรจะมีการศึกษาข้อมูลให้ได้ข้อเท็จจริงเสียก่อน ณ เดือนกรกฎาคม 50% ของคนที่ฉีดวัคซีนเป็นคนทั่วไป ในพื้นที่เสี่ยง 20% เป็นคนสูงอายุ และ 45% ของคน กทม. กับ 25% ของคนสมุทรปราการได้ได้วัคซีนแล้ว เรื่องนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทั่วไปครับ แนะนำให้สละเวลาลองอ่านดูสักหน่อย"

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่ได้ต้องการที่จะมาจับผิดคุณธนาธร แต่ผมจะเอาความจริง เรื่องราวที่คุณธนาธร พูดแต่ละเรื่องมาวางให้ดู กับสิ่งที่คุณธนาธร แก้ตัว

คุณธนาธร นั้นภูมิลำเนาอยู่ที่เขตประเวศ อยู่ในหมู่บ้านเลคไซด์วิลล่า 2 ถนนบางนา-ตราด กม.7 ทำไมถึงพูดอย่างนั้น ? เพราะว่าคุณธนาธร ในการเลือกตั้งปี 2562 เคยพาภรรยาไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ณ เขตเลือกตั้งที่ประเวศ กรุงเทพมหานคร คำถามมีอยู่ว่า ทำไมคุณธนาธร จึงได้ไปฉีดวัคซีนข้ามจังหวัดถึงพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ อยู่คนละฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อาจจะเป็นเพราะว่าฐานการผลิตของเครือไทยซัมมิท ของครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เป็นไปได้หรือเปล่าว่าคุณธนาธร ใช้เส้นสายบริษัทตัวเองเพื่อให้ได้โควตาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าของโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์


เอาล่ะ ย้อนกลับไปเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 แอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ กำลังผลิตมีอยู่จำกัด เพราะต้องส่งไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะฉะนั้นแล้วประชาชนส่วนใหญ่ที่มีอายุ 18-59 ปี จะได้ฉีดวัคซีนซิโนแวค ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตาย นำเข้าจากประเทศจีน มีเฉพาะผู้สูงอายุเกิน 60 เท่านั้น และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง จะได้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนแบบไวรัลเวกเตอร์ (Viral Vector Vaccine) ที่ทยอยส่งมอบเป็นล็อตๆ ไป

ท่านผู้ชมครับ แล้วก็ไม่ใช่ว่าโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ จะมีวัคซีนเยอะ เขาเองก็มีวัคซีนไม่พอฉีด

17 กรกฎาคม โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ ประกาศขอเลื่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ที่มีนัดฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม เนื่องจากโรงพยาบาลฯ ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลังถ้ามีการจัดสรรเพิ่มเติม


ท่านผู้ชมครับ เมื่อไปค้นข้อมูล ยังพบว่าในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 (คุณธนาธร ฉีดกรกฎาคม นะครับ) โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ฯ มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กว่าได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเป็นการเลื่อนนัดผู้ได้คิวมาตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม - 13 สิงหาคม ให้มาฉีดวัคซีนในวันที่ 10 สิงหาคม พร้อมประกาศย้ำว่า สำหรับผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และประชาชนทั่วไปอายุ 18-59 ปี ขอให้รอดในรอบถัดไป เนื่องจากวัคซีนที่ได้มาเป็นวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง คำถามมีอย่างนี้ครับ อ่านจากแถลงการณ์ของโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ฯ แล้ว ก็เลยเกิดคำถามว่า แล้วทำไมคุณธนาธร จึงสามารถ Walk in ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ?

ท่านผู้ชมครับ ประเด็นที่คุณธนาธร อ้างว่าไม่เคยด้อยค่าวัคซีน เพียงแต่เตือนรัฐบาลเรื่องแทงม้าตัวเดียว ความจริงแล้ว เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 คุณธนาธร ระบุว่า "ยอมรับผิดเรื่อง COVAX หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 9 เดือน แล้วเมื่อไรจะยอมรับผิดพลาดเรื่องแทงม้าตัวเดียว ที่ทำให้คนไทยได้รับวัคซีนช้า น้อย และไม่มีประสิทธิภาพ ผมจะรอฟังคำแถลงการยอมรับความผิดพลาดอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลและคุณประยุทธ์"


ท่านผู้ชมครับ การที่คุณธนาธร ลงในทวิตเตอร์บอกว่า แทงม้าตัวเดียว ที่ทำให้คนไทยได้รับวัคซีนช้า น้อย และไม่มีประสิทธิภาพ "ม้าตัวเดียว" นั้นหมายถึง แอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยเป็นฐานการผลิตและสั่งซื้อมากที่สุด คือ 61 ล้านโดส คำว่า "ได้รับวัคซีนช้า น้อย" ไม่เถียง เพราะเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่คำพูดของคุณธนาธร ในทวิตเตอร์ ที่บอกว่า "ไม่มีประสิทธิภาพ" หมายถึงอะไรล่ะ ? แล้วที่คุณธนาธร ติดโควิดทั้งๆ ที่ฉีดวัคซีนเทพ mRNA อย่างโมเดอร์นา เข้าใจว่าเป็นวัคซีนที่คุณธนาธร เสียเงินซื้อเองกับโรงพยาบาลเอกชนไป เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

วันนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ คุณธนาธร ว่าวัคซีนมีไว้กันตาย ไม่ได้กันติด เพราะฉะนั้นพรรคพวกและสาวกของคุณธนาธร ออกมาปั่นว่าวัคซีนเทพต้อง mRNA จะยี่ห้อใดก็แล้วแต่ แล้วก็มีคนหลงเชื่อพวกคุณ ไม่ยอมฉีดวัคซีน บอกว่าวัคซีนจีนเป็นวัคซีนด้อยคุณค่า วัคซีนเซินเจิ้น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนพระราชทาน คำพูดอย่างนี้พวกคุณจะรับผิดชอบได้ไหม คุณธนาธร นี่จับโกหกคุณชัดๆ เลยนะ ไปดูทวิตเตอร์คุณได้ และผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะฟ้องชาวบ้านเขาไปอย่างไร ในเมื่อข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ อย่างไรศาลก็ยกฟ้อง อย่าไปเสียเวลาแก้เกี้ยวเลย คุณธนาธร สิ่งหนึ่งซึ่งคุณควรจะแก้ไขคืออะไร รู้ไหม ? ผมเคยเตือนทั้งคุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณช่อ พรรณิการ์ รวมทั้งคุณพิธา รวมถึงพรรคพวกของคุณ ว่า ไม่ว่าคุณจะใช้ชื่อพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล หรือคณะก้าวหน้า กรุณาอย่าอวดฉลาด


ที่สำคัญ อย่าหน้าไหว้หลังหลอก อย่าหลอกคน อย่าหลอกเด็ก หลอกเยาวชนไปติดคุก ไปตายแทนอุดมการณ์คุณ เพราะคนเหล่านั้นเขามีพ่อมีแม่ มีคนที่เขารักเหมือนกัน มันไม่ผิดหรอกครับคุณธนาธร ที่คุณจะมีอุดมการณ์ หรือแสดงความเห็นอะไรต่อบ้านเมือง แต่การกระทำของคุณจะเป็นเครื่องชี้วัดว่าพวกคุณเป็นของจริงหรือของปลอม เป็นพวกพูดอย่างทำอย่างหรือเปล่า ที่ผ่านมา คุณธนาธร ก็พิสูจน์กันหลายเรื่องแล้วว่าคุณเป็นของจริงหรือของปลอม พูดอย่างทำอย่าง หรือพวกดีแต่พูดหรือเปล่า

กรณีวัคซีน คำพูดของคุณธนาธร ก็เป็นกรณีหนึ่ง ล่าสุดที่ผมเอาข้อความในทวิตเตอร์ของคุณมาเปิดเผยให้คนเขาดู ว่าคุณพูดจริงๆ ว่า วัคซีนที่มีอยู่นั้น ประสิทธิภาพด้อยค่า แทงม้าตัวเดียว คือ แอสตร้า เซนเนก้า แล้วคุณต่อด้วยว่า มีประสิทธิภาพที่ต่ำ นั่นคือการด้อยค่าแอสตร้าเซนเนก้า เพราะฉะนั้นแล้ว การที่เขาบอกว่าคุณอ้างว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าด้อยค่า แล้วคุณไปฉีดทำไม นั่นก็เป็นข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาท

ก่อนหน้านั้นคุณออกมาโจมตีสถาบันกษัตริย์ โจมตีสำนักงานทรัพย์สินฯ แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวคุณกลับต้องการหาประโยชน์กับที่ดินทรัพย์สินฯ แถวๆ แยกราชประสงค์ ชิดลม


กรณี 1MDB ที่คุณช่อ พรรณิการ์ อ้างเป็นตุเป็นตะว่าโยงคนโน้นคนนี้ในประเทศไทย แต่มาวันนี้เอาเข้าจริงไม่มีอะไรสักอย่าง

"ดีลไฟเซอร์ทิพย์" ของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่อ้างกลางสภาฯ ว่า มีรุ่นพี่อยู่ MIT เป็นผู้บริหารไฟเซอร์ ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อ ขี้โม้

ผมไม่ปฏิเสธว่าการเมืองเก่า นักการเมืองรุ่นเก่า แย่จริงๆ โกหกพกลม เอาตัวรอด ตระบัดสัตย์ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เห็นแก่ตัว แต่ผมถามจริงๆ นะคุณธนาธร พวกคุณที่อ้างว่าเป็นอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า ก้าวไกล ทำตัวอย่างนี้ เล่นการเมืองอย่างนี้ ดีแล้วใช่ไหม ? แล้วคนอย่างผม ประชาชนลูกหลานคนไทยจะมีทางเลือกอะไร เพราะดูแล้วคุณก็ไม่แตกต่างอะไรกับพวกนักการเมืองหรือทหารที่คุณด่าเลยแม้แต่นิดเดียว


.ท่านผู้ชมครับ เมื่อประมาณสามเดือนที่แล้ว ถ้าท่านผู้ชมดูรายการผมอยู่ ก็จะจำได้ว่าในตอนที่ 107 วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ผมเคยหยิบเรื่อง "กลโกงออนไลน์" จากกรณีเด็กสาวอายุ 19 ปี ที่ใช้ชื่อว่า พันช์ พิยดา ทองคำพันธ์ ปัจจุบันนี้ ข่าวล่าสุดก็คือถูก ปปง. สั่งอายัดทรัพย์ไปอีก 10 ล้านบาท ทำเรื่องเพื่อจะโกงเด็ก โกงลูกค้ามาพักหนึ่งแล้ว จนเรื่องมาแดงเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 เมื่อน้องก้อง เด็กอายุ 14 ปี เรียนอยู่ ม.2 จังหวัดเชียงใหม่ เครียดหนักจนเส้นโลหิตในสมองแตก เพราะว่าโอนเงินไปให้พันช์ พิยดา เพื่อซื้อมือถือมือสอง แล้วไม่มีของส่งมา


ในรายการวันนั้นผมยกตัวอย่างกลโกงยอดฮิตในยุค '5G' 7 กรณี เพื่อมาเตือนสติเตือนใจให้ท่านผู้ชมทุกท่านได้ระมัดระวัง ข้อแรก เชิดเงินหนี ไม่มีสินค้าส่งจริง สอง สินค้าไม่ตรงสเปก สาม ตุ๋นขายของแบบผ่อนชำระ สี่ จ่ายซื้อแบรนด์เนมแต่ได้ของก๊อปปี้ ห้า หลอกให้รับพัสดุจ่ายเงินปลายทาง หรือ COD หก หลอกให้รับพัสดุผิดกฎหมาย เจ็ด หลอกให้หิ้วของ ตอนนี้มันมีเรื่องของการฉ้อโกงที่รุนแรงขึ้นมามาก ท่านผู้ชมอาจจะไม่สังเกต

หลังจากที่ผมออกรายการเรื่อง "กลโกงออนไลน์" ผมก็ให้ทีมงานเกาะติดอยู่อย่างละเอียด ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหยื่อ ผู้เสียหาย อย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าพบว่าในช่วงหลายเดือนหลังที่ผ่านมามีกลโกงในรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี การสื่อสาร เปลี่ยนแปลงไปเป็นเครื่องมือ ล่าสุดใช้วิธีการโกงโดยใช้องค์ประกอบต่างๆ เข้ามา คือ หนึ่ง ในแอปพลิเคชัน LINE ทั้งการส่งข้อความ และใช้โทรศัพท์ผ่าน LINE สอง ใช้เทคโนโลยีการปลอมแปลง account LINE เพื่อหลอกว่าเป็นบัญชีทางการของเจ้าหน้าที่รัฐและภาครัฐที่พวกฉ้อโกงพวกนี้คิดค้นขึ้นมา สาม นิยมส่งของทางไปรษณีย์ หรือบริษัทขนส่งต่างๆ ตามที่คนเคยใช้บริการ อย่างเช่น ท่านผู้ชมเคยใช้ kerry เขาก็ใช้ kerry ส่ง สี่ การเกิดขึ้นของ Mobile Banking ทำให้การโอนเงินทำได้ง่ายดาย ห้า แอบอ้างสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดการแจ้งความผ่านแอปพลิเคชัน LINE เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้เสียหาย ก็คือเป็นเหยื่อนั่นล่ะ ไม่ต้องเดินทางไปที่ สน. แล้วตัวเองก็แอบเสียบตัวเองเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หก การแอบอ้างกฎหมายปราบปรามการฟอกเงินให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะเอาเรื่องซึ่งเป็นความจริงออกมาเปิดเผย วิธีโกง 4 รูปแบบ วิธีหลอกล่อเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี่ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเป็นคนไทย เจ้าของเป็นคนจีน แต่ตั้งฐานอยู่ที่เขมร กัมพูชา มีคนไทยประมาณ 2,000 คน ทำงานอยู่ นี่ได้ข้อมูลมาจากท่านผู้การสืบสวนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ท่าน พล.ต.ต.พันธนะ


แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงเงินผ่านทางโทรศัพท์ใช้วิธีการทั่วๆ ไป ถ้าท่านผู้ชมเจอแบบที่ผมเล่าให้ฟัง ให้รู้ไว้เลยว่ากำลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์เล่นงาน พวกนี้จะหาเหยื่อ ผู้เสียหาย จะมีวิธีการหลอกลวงและการแบ่งหน้าที่ เขาแบ่งหน้าที่กัน 3-4 แบบ รูปแบบที่หนึ่ง เขาอ้างว่าเขาส่งของผิดกฎหมายไปต่างประเทศ พัวพันแก๊งฟอกเงิน คนร้ายจะโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายว่าเขาเป็นพนักงานส่งของ DHL แจ้งว่าท่านส่งของผิดกฎหมายไปประเทศจีน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดีฟอกเงิน จากนั้นก็โอนสายให้ผู้เสียหายติดต่อกับร้อยเวร คือพนักงาน DHL โทรมาบอกว่าของที่ท่านส่งไปประเทศจีนนั้น มันเกี่ยวพันกับประเทศจีน คนที่ประเทศจีนที่มีปัญหาในเรื่องของการฟอกเงินถูกจับได้ เดี๋ยวผมจะโอนสายให้กับร้อยเวรนะครับ พอถึงตอนนี้ก็จะมีคนในแก๊งคอลเซ็นเตอร์รับหน้าที่เป็นทอดๆ เลย ประการแรก คือ เปิดก่อน เปิดประตูบ้าน ประการที่สอง ส่งต่อ คนที่รับหน้าที่ต่อไปที่ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ในที่สุดแล้วก็จบลงด้วยการโอนเงิน


กรณีของ DHL จะแบ่งการติดต่อเหยื่อเป็น 2-3 ขั้นตอน สายที่หนึ่ง มีหน้าที่ในการโทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อเบื้องต้น อ้างว่าเป็นพนักงาน DHL ใช้ชื่อว่า เอกภพ แสงงาม แจ้งกับเหยื่อว่า เหยื่อได้ส่งพัสดุไปประเทศจีนแต่ถูกตีกลับ ทางกรมศุลกากรไทยตรวจสอบพบว่าภายในพัสดุนั้นมีหนังสือเดินทางปลอม สมุดบัญชีธนาคาร/บัตรเครดิต จำนวนหลายรายการ ผิดกฎหมาย มีอัตราโทษสูง

หลังจากนั้นเขาก็จะบอกให้โอนสายติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านแอปพลิเคชัน LINE สายที่สองที่มารับงานต่ออ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีตำแหน่งเป็นร้อยเวรสอบสวน หรือพนักงานสอบสวน แปลกมาก 2 สภ. สภ.เมืองเชียงใหม่ หรือ สภ.พนัสนิคม 2 สภ.นี้ถูกอ้างมากที่สุด


ในเคสนี้เจ้าหน้าที่อ้างตัวเองว่า ชื่อ ร.ต.ต.ศรัณย์ ศรีวิชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเชียงใหม่ หลังจากนั้นคนที่รับสายซึ่งเป็นพวกฉ้อโกงนี่ล่ะ ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ร.ต.ต.ศรัณย์ ก็แจ้งให้เหยื่อทราบว่าเป็นเรื่องคดีฟอกเงิน เจ้าหน้าที่จับผู้ต้องหาได้ แล้วผู้ต้องหาซัดทอดว่าซื้อบัญชีมาจากเหยื่อ ก็คือท่าน เพื่อทำการฟอกเงิน แบ่งค่าตอบแทนให้เหยื่อเป็นเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบที่มาของเงินในบัญชีธนาคารของท่าน จากนั้นพวกนี้ก็จะหลอกสอบถามถึงข้อมูลส่วนตัว บัญชีธนาคาร จนเขาทราบข้อมูลว่าท่านมีเงินในบัญชีธนาคารเท่าไร แล้วเขาก็จะให้ท่านโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อส่งให้ ปปง. ตรวจสอบ ดูเหมือนกับว่าเป็นระบบราชการ หากตรวจสอบไม่พบก็จะคืนเงินให้ เมื่อเหยื่อ หรือท่าน ผู้เสียหาย หลงเชื่อโอนเงินไปบัญชีธนาคารที่คนร้ายเตรียมไว้ เมื่อเหยื่อโอนเงินไปแล้ว พวกนี้ปิดงานเลย ถือว่าจบแล้ว เพราะเมื่อโอนไปแล้ว มันจะมีบัญชีม้าซึ่งพวกแก๊งฉ้อโกงตั้งเอาไว้ พวกนี้ก็ผ่องเงินออกมา

กรณีที่เหยื่อไม่เชื่อ สมมุติ ฉันไม่รู้เรื่อง นู่นนี่นั่น เขาก็จะหลอกลวงให้ท่าน คือเหยื่อ พูดกับเขาต่อไป อ้างว่าเขามีตำรวจ ตอนนี้ไม่ใช่ ร.ต.ต. แล้ว อาจจะเป็นรองผู้กำกับ หรือผู้กำกับ สายที่สาม อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ สารวัตร ผู้กำกับ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ คนร้ายจะหลอกลวงท่านว่าสามารถช่วยเหลือท่านได้นะ ไม่ให้ถูกตรวจยึดอายัดเงินที่เหยื่อฝากไว้ในบัญชี แต่จะต้องถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของตัวเองก่อน โอนเงินเเข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งคนร้ายจะหลอกลวงเหยื่ออีกว่า ถ้าปฏิบัติตาม ก็จะไม่ถูกดำเนินคดี และจะได้เงินคืนในที่สุด ทีนี้ ท่านก็กลัวสิ เรื่องจริงหรือไม่จริง ท่านรู้ว่ามันไม่จริง แต่ว่าท่านรู้สึกว่ามันถึงตัวท่าน ท่านก็โอนไปให้ เมื่อโอนเข้าบัญชีธนาคารแล้ว พวกนี้เขาก็จะให้คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่ง มีหน้าที่ถอนเงินอย่างที่ผมบอก จบกระบวนการหลอกลวงในระบบ DHL คือส่งของ แล้วเจ้าหน้าที่ DHL ที่อ้างชื่อว่านายเอกภพ ก็โทรศัพท์มา

ผมเอา LINE ให้ดูนะครับ สภ.เมืองเชียงใหม่ ท่านผู้ชมดูนะครับ สวัสดีครับ สะดวกแจ้งความผ่าน LINE เลยไหมครับ - สวัสดีค่ะ - ครับ แล้วที่สำคัญมันเอารูปเหยื่อขึ้นมาให้ดู ท่านผู้ชมรู้ไหมรูปที่มันเอาขึ้นมาน่ะ


ไม่ใช่รูปใครหรอก รูปประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประสิทธิ์ เจียวก๊ก โดนจับข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่ท่านจำหน้ามันไม่ได้ ท่านก็เลยคิดว่าไอ้บ้านี่เป็นคนร้ายจริง ก็เลยโดนหลอกไปอีก แล้วผมก็จะเอาข้อความใน LINE ให้ดูอีกอันหนึ่ง มันบอกว่า "คุณว่างแล้วติดต่อกลับมา ท่านมีเรื่องจะแจ้ง" "ถ้าหนูเห็นข้อความนี้แล้วกรุณาโทรกลับด่วน เนื่องจากฝ่ายตรงสอบแจ้งมาว่าเงินที่อยู่ในสบัญชีสละสองบัญชีนี้สามารถที่จะทำการเบิกถอนได้ ทางเจ้าหน้าที่จะชดเชยค่าดอกเบี้ยให้ตามจำนวนจริง การตรวจสอบครั้งนี้จึงทำให้ล่าช้า รบกวนนะ" "คุณสะดวกคุยไหมครับ" ก็คือว่าตื๊อจริงๆ เลยท่านผู้ชม มีอีก LINE ให้ดู จากเชียงใหม่ "สวัสดีช่วงเช้า หนูทำไมไม่รายงานตัวเลย ตอนนี้กำลังประสานงานอยู่นะครับ เพื่อต้องแจ้งให้ฝ่ายตรวจสอบรู้ว่าไม่หนีหายไปไหนครับ ถ้าหนูบริสุทธิ์จริงๆ หนูต้องให้ความร่วมมือทางด้านนี้นะครับ" เหยื่อ (คือท่าน) ก็ตอบว่า "ขอโทษทีค่ะ ไม่ว่างเลยค่ะ หนูทำงานยุ่งมากเลย แล้วอินเตอร์หนูก็ไม่เสถียร มีเบอร์ติดต่อโดยตรงไหมคะ อินเตอร์เน็ต*" - "ท่านประชุมอยู่ เดี๋ยวให้ท่านติดต่อกับนะครับ"


ติดต่อมันกลับไม่ได้หรอก เพราะมันใช้โทรศัพท์ระบบ VOIP (Voice Over Internet Protocol) มันไม่มีเบอร์ มันใช้อินเทอร์เน็ต แล้วแปลงอินเทอร์เน็ตเป็นเสียงโทรศัพท์ไป มันก็เลยบอกว่าเดี๋ยวมันจะติดต่อกลับมา ท่านผู้ชมครับ ถ้าท่านเจอประสบการณ์แบบนี้ ขอให้รู้ว่าท่านกำลังโดนโกงแล้ว


อีกอันหนึ่ง จะให้ดู "ถ้าหนูเห็นข้อความนี้กรุณาโทรกลับด่วน เนื่องจากฝ่ายตรงสอบแจ้งมาว่าเงินที่อยู่ในสบัญชีสละสองบัญชีนี้สามารถที่จะทำการเบิกถอนได้" คือมันจะเน้นมากในเรื่องบัญชี ผมเอาตัวอย่างให้ดู เงินที่เหยื่อหลวมตัวโอนไปให้ มีของธนาคารกรุงไทย ของ SCB ของ SCB นี่ของคุณธิภารัตน์ ปั้นพรหม คุณพรพิมล โอนไป 106,000 บาท ของกรุงไทย โอนไป 449,000 บาท


ท่านผู้ชมครับ คนที่รู้เรื่อง IT พอสมควร ยังโดนหลอกเลย มีคนหนึ่งที่ทีมข่าวผมรู้จัก โดนส่งของผิดกฎหมายผ่าน DHL หลอกโอนเงินไปจำนวน 86,000 บาท โอนจาก 3 บัญชี และที่สำคัญ ที่เจ็บปวด ตอนไปแจ้งความ สน.สุทธิสาร ตำรวจก็บอกว่า ที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก็มาแจ้งความคล้ายคลึงกัน โดยโอนไป 90,000 บาท แสดงว่าการฉ้อฉลแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก มีคนถูกหลอกลวงเยอะมาก

รูปแบบที่สอง พวกนี้มาแนวใหม่แล้ว ไม่ใช่ DHL แล้ว จะบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่าท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินค้ายาเสพติด ตกใจสิ พอรู้เรื่องนี้มา เฮ้ย! ฉันไปฟอกเงินค้ายาเสพติด ฟังต่อ เขาบอกต้องตรวจสอบที่มาเงินในบัญชีของท่าน เมื่อใดก็ตามที่มันพูดว่า ต้องตรวจสอบเงินในบัญชีของท่าน แสดงว่ามันต้องการรู้ว่าท่านมีเงินเท่าไร ท่านผู้ชมครับ รีบด่าโคตรพ่อโคตรแม่มันไปเลย ให้ของลับไปแล้วก็วางหูโครมไปเลย มันจะตกใจ ไม่กล้าโทรมาอีกแล้ว แต่ถ้าท่านยังไปงับเหยื่อมัน มันก็จะต่อเรื่องไปอีก


รูปแบบที่สาม มีอีกแบบหนึ่ง คนไต้หวันโดนหลอกไป 40 ล้านบาท ขนาดฉลาดยังโดนหลอก มันทำอย่างไรรู้ไหมท่านผู้ชม ? มันใช้คนจีนโทรศัพท์มาคนไต้หวันที่อยู่ในเมืองไทย มันบอกว่ามันเป็นพนักงานกองสลากฯ ที่มาเก๊า แจ้งให้คนไต้หวันว่า อาเฮีย! อาเฮียถูกล็อตเตอรีมูลค่า 200 ล้านบาท คนไต้หวันต้องโอนเงินให้มัน 40 ล้านบาท ก็โดนหลอกอีก


รูปแบบที่สี่ อ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นผู้กำกับการ รองผู้บังคับการ บอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ให้เหยื่อติดต่อแอปพลิเคชัน LINE ชื่อ "สภ.เมืองพิษณุโลก" พอท่านแอด LINE ไป มันก็ขึ้นเลยว่าเป็น "สภ.เมืองพิษณุโลก" ทำให้ท่านเชื่อ คนร้ายก็ส่งหมายเรียกผู้ต้องหาปลอม เป็นหมายเรียกปลอมนะท่านผู้ชม ให้กับท่าน แจ้งว่าต้องตรวจสอบที่มาของเงินในบัญชีธนาคารของเหยื่อ โดยการให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเจ้าหน้าที่ เอามาให้เจ้าหน้าที่ดูเพื่อตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้ว ถ้าไม่ใช่ ไม่ผิด ก็จะโอนเงินคืนให้


ทีนี้ ทั้งหมดนี้ ศูนย์กลางของมัน รู้ไหมว่าอยู่ที่ไหน ? อยู่ที่เขมร มีคนไทยทำงานกว่า 2,000 คน ท่านผู้การพันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ท่านติดตามเรื่องนี้มานานแล้ว ศูนย์กลางคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่เมืองกัมพูชา อยู่ในสองเมือง เมืองหนึ่งคือ สีหนุวิลล์ อีกเมืองหนึ่งคือ กรุงพนมเปญ

กรุงพนมเปญ นี่จัดการเรื่องการเงิน คือถ้าเหยื่อโอนเงินเข้ามาปั๊บ ทางกรุงพนมเปญจัดการถอนเงินออกมาเลย ส่วนคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์นั้น อยู่ที่สีหนุวิลล์ เหยื่อกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย ไม่ใช่คนกัมพูชา ก็เลยว่าจ้างคนไทยไปทำงานแก๊งนี้ หมุนเวียนกันมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุเลยว่า มีคนไทยข้ามไป-มาระบบนี้อยู่ประมาณ 2,000 คน หน้าซ้ำๆ กัน ทางไทยดำเนินการสืบสวนอยู่ลับๆ ฝ่ายกัมพูชาไม่สนใจ เพราะว่าคนเขาไม่ได้เสียหาย คนกัมพูชาไม่ได้เสียหาย เพราะว่าออฟฟิศอยู่ที่นั่น คนทำงานคือพวกคนไทยที่ข้ามไป แต่เหยื่ออยู่ที่เมืองไทยหมด ท่านผู้ชมครับ แล้วเขาได้ชื่อ-นามสกุล มาจากไหนล่ะ ? แก๊งบ้าพวกนี้ใช้โทรศัพท์โทรเข้าเครื่องเหยื่อ ได้ข้อมูลมาจากเครือข่าย ท่านซื้อของออนไลน์ ท่านมีนามสกุล ท่านมีเบอร์โทรศัพท์ มีชื่อ นี่คือระบบการค้าขายออนไลน์ มันสามารถจะแฮกได้ แล้วมันก็เอาชื่อ เบอร์บัญชี มา มันมีฐานข้อมูลเลยท่านผู้ชม เทคโนโลยีล่ะ ทำอย่างไร ที่ติดต่อแล้วจับไม่ได้ ? มันใช้การโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VOIP) ซึ่งแปลงเป็นตัวเลข พอท่านได้เห็นตัวเลขแล้ว ท่านโทรกลับไปเบอร์นั้น ตัวเลขจะหาต้นตอไม่ได้แล้ว เส้นทางการเงิน พวกนี้จะใช้บัญชีที่ภาษาไทยเขาเรียกว่า "บัญชีม้า" ถ่ายโอนกันเป็นทอดๆ จำนวน 4-5 ต่อ แล้วพอมันได้เงินปั๊บ มันแปลงเป็นคริปโทเคอร์เรนซี สกุล USDT เป็นหลัก


USDT คือเงินสกุลดิจิทัลแบบ Stable Coin อยู่บนบล็อกเชน มีชื่อเต็มว่า TETHER มีการอ้างอิงมูลค่าไว้กับสกุลของเงินดอลลาร์ สัดส่วน 1 ต่อ 1 (1 คริปโทฯ เท่ากับ 1 ดอลลาร์) ทุกครั้งที่มีออกเหรียญ USDT นั้น บริษัท TETHER จะมีการเก็บเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เอาไว้เป็นจำนวนเท่ากัน ถ้าออกเหรียญ 100 เหรียญ มันก็เก็บสกุลเงินดอลลาร์ไว้ 100 เหรียญ เช่นกัน USDT กำไรจากค่าบริการ ค่า fee ทำให้ USDT มีเสถียรภาพค่อนข้างสูง ไม่ผันผวน พวกอาชญากรจึงนิยมใช้ในการฟอกเงิน

ท่านผู้ชมครับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์มันเริ่มมาจากไต้หวัน ย้ายไป Location ที่จีน เข้าไปเกาหลีใต้ ล่าสุดมาที่กัมพูชาแล้ว เท่าที่สืบทราบ คนไทยที่ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สมัครใจไปทุกคน เงินเดือนเริ่มที่ 800 เหรียญสหรัฐ (สองหมื่นกว่าบาท) ไม่รวมค่าคอมมิชชันจากส่วนแบ่งที่หลอกได้สำเร็จ


เปอร์เซ็นต์แบ่งกันอย่างไร ? สายที่ 1 มีหน้าที่ไล่กวาดทุกเบอร์ตามฐานข้อมูลที่ได้มา จะได้ส่วนแบ่ง 1-2 เปอร์เซ็นต์ ของเงินที่หลอกมาได้ สายที่ 2 รับบทบาทเป็นพนักงานแบงก์ ได้ 1-5 เปอร์เซ็นต์ สายที่ 3 กดดัน โน้มน้าวให้โอน เล่นบทตำรวจ บทดีเอสไอ จะได้ส่วนแบ่งเยอะที่สุด แล้วคนไทยเหล่านี้ พวกนี้มาจากไหน ? ที่ทำงานอยู่ในกัมพูชา ส่วนใหญ่แล้วมาจากทางเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย พวกดอยแม่สะลอง พวกที่ราบสูง เพราะคนพวกนี้เป็นคนที่พูดจีนได้ เพราะว่าต้นตระกูลคือพวกกองพล 93 ที่หนีจากประเทศจีน แล้วมาตั้งรกรากอยู่ที่ดอยแม่สะลอง แล้วทางดอยสูง พวกนี้พูดจีนได้ จะทำพวกการเงิน บัญชี ส่วนพวกที่ทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ไทยเป็นคนที่สมัครงานเข้ามาทางออนไลน์ พวกนี้เคยทำงานเว็บพนัน เป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่จะมีตั้งแต่จบมัธยมฯ จนถึงปริญญาตรี พอพูดภาษาอังกฤษได้ อัตราค่าจ้างแล้วแต่ความสามารถ ตอนนี้เสียหายไปแล้วหลายร้อยล้านบาท ในเวลา 6 เดือน เหยื่อที่โดนหลอกมากที่สุด ก็คือคนไทย และไต้หวัน

ท่านผู้ชมครับ ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ คอลเซ็นเตอร์แบบนี้เกิดขึ้นเยอะมาก น่าจะเป็นเพราะว่าช่วงระบาดของโควิด-19 ทำให้มีความยากลำบากในการข้ามแดน คนไทยก็เลยก้าวเข้าไปทำงานคอลเซ็นเตอร์มากขึ้น


แล้วเราจะแก้ปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์อย่างไร ? เราต้องควบคุมต้นทาง จัดการเรื่องบัญชีม้า ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องออกมาตรการที่เข้มข้นกว่านี้ เรื่องการเปิดบัญชีแทนกัน เพราะเดี๋ยวนี้โทรศัพท์ที่ผูกกับ Mobile Banking ถ้าผูกไว้กับโทรศัพท์แล้ว ส่งไปขายที่พนมเปญ มูลค่าเป็นหลายหมื่นบาทเลยนะ มีคุณค่า ทราบมาว่าท่าน พล.ต.ต.พันธนะ เพิ่งมาหารือกับทีมงานของรัฐมนตรีดีอี สรุปว่าจะคุมกำเนิดบัญชีม้า โดยถ้าเอาบัญชีตัวเองให้คนอื่นใช้ จะมีโทษที่หนักขึ้น ตอนนี้ก็ยังมีปัญหาอีกปัญหาหนึ่ง ท่านผู้ชม อะไรรู้ไหม ? แอปฯ เงินกู้ไง เป็นปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว เพราะว่าถ้าเหยื่อหลงโหลดแอปฯ เงินกู้มา จะถูกดูด Contact ในโทรศัพท์ไปทั้งหมด ซึ่งแก๊งแอปฯ เงินกู้นี้จะโทรมาข่มขู่คนใน Contact อ้างว่าคนที่รู้จัก สมมุติว่าท่านชื่อ วิชิต แล้วบอกว่าเพื่อนทางคุณวิชิตกู้เงินไปแล้วไม่คืน คุณบี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีดีอี ก็เคยถูกขู่ทำร้ายร่างกาย เพราะอะไรรู้ไหมท่านผู้ชม ? เพราะคนรับใช้ในบ้านดันทะลึ่งโหลดแอปฯ เงินกู้มา แล้วถูกดูดเบอร์ไป

ท่านผู้ชมครับ แอปฯ พวกนี้น่ากลัว ที่ไม่น่ากลัวมีอยู่แอปฯ เดียว คือ Sondhi App ให้แต่ความรู้ ให้แต่ปัญญา ไม่เสียเงินเสียทอง แค่ 99 บาทต่อเดือน ในอนาคต เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม
.
ท่านผู้ชมครับ เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผมเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมเคยเล่าเรื่องผ่านรายการนี้ให้ท่านผู้ชมทราบเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในระดับโลกในภาพใหญ่ๆ การสัประยุทธ์กันระหว่างสองมหาอำนาจ สองซีกโลก คือ อเมริกา ซึ่งเป็นมหาอำนาจที่ครองความเป็นเจ้าอยู่เดิม กับจีน ที่กำลังจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในศตวรรษที่ 21


ถ้าท่านผู้ชมยังจำได้ ผมเคยเปรียบเทียบให้ดูว่าเกมการเมืองระดับโลกที่อเมริกาใช้กับจีนนั้น เหมือนกับเกมหมากรุกฝรั่ง ส่วนฝั่งจีนนั้นก็ใช้หมากล้อมเป็นการตอบโต้ ท่านผู้ชมกลับไปดูได้นะครับ ในตอนที่ 54 วันที่ 9 ตุลาคม 2563 แล้วก็ในวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม วันเดียวกัน หัวข้อ "อเมริกา-จีน หมากรุก VS หมากล้อม" ซึ่งข้อมูลต่างๆ พวกนี้ ในอนาคตถ้าท่านผู้ชมเข้าไปเป็นสมาชิกของ Sondhi App แล้ว สามารถจะเรียกข้อมูลเก่าพวกนี้ขึ้นมาดูได้ทันทีเลย มีหมดทุกตอน

ผมพูดเรื่องนี้ต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง และผมได้อัปเดตให้ท่านผู้ชมฟังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่สถานการณ์ม็อบเรียกร้องเอกราชให้กับเกาะฮ่องกงที่ยังร้อนแรง ตั้งแต่สมัยนายทรัมป์ ยังเป็นประธานาธิบดี ตั้งแต่ก่อนเกิดรัฐประหารพม่าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เสียด้วยซ้ำ

ทีนี้ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนถึงช่วงต้นปี เดือนนี้ 2565 มันมีเรื่องหลายเรื่องที่น่าสนใจมากที่ผมคิดว่าผมต้องเอามาบอกเล่า เพราะว่ารายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่จะกลายเป็น Sondhi App ในอนาคตนั้น เป็น Netflix ทางปัญญา ผมจะวิเคราะห์กันว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย และประชาชนเราจะได้รับผลกระทบอย่างไรจากการเปลี่ยนแปลง เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2564 เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องๆ นะครับ


ท่านผู้ชมครับ ประเด็นแรก รถไฟลาว-จีน กับวิกฤตผลไม้ไทยไปจีน ปี 2565 วันที่ 3 ธันวาคม เดือนที่แล้ว จีนและลาวเปิดให้บริการรถไฟลาว-จีน ระยะแรกเป็น เวียงจันทน์ ไปยัง บ่อเต็น คือจากเมืองหลวงของประเทศลาว ไปจนถึงบ่อเต็น ที่เป็นชายแดนระหว่างประเทศลาว กับ ประเทศจีน แต่ตอนนี้เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้เบื้องต้นรถไฟโดยสารจากสองประเทศจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปสิ้นสุดที่สถานีประจำชายแดนของแต่ละประเทศ ก่อนที่ในระยะต่อไปจะเป็นการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ

รถไฟเส้นของจีน จากคุนหมิง ถึง เวียงจันทน์ ปกตินั้นการขนส่งสินค้าต้องใช้เวลา 2 วัน แต่พอมีรถไฟลาว-จีน ช่วยลดระยะเวลาการขนส่งให้เหลือเพียง 15 ชั่วโมงเท่านั้น จาก 48 ชั่วโมง เหลือ 15 ชั่วโมง


และหลังจากนั้นแล้ว เราก็มีดรามาเกิดขึ้นด้วยการพูดจาอย่างที่ไม่ระมัดระวัง อาจจะไม่ได้ตั้งใจ ของพิธีกรของช่อง NBT ดูถูกชาวลาวเขาว่ามีปัญญาซื้อตั๋วรถไฟหรือไม่ จนกระทั่งเป็นเรื่องเป็นราว ท่านผู้อำนวยการ พล.ท.สรรเสริญ ต้องพาผู้ที่พูดจาโดยไม่ระวังตัวนั้น (ผมยังเชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจ) ไปขอโทษคนลาวผ่านเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย


ความขุ่นข้องหมองใจระหว่างไทย-ลาว เกี่ยวกับเรื่องรถไฟไทย-จีน นั้น ต้องถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ถ้าผมเอาเรื่องต่างๆ มาพูดให้ท่านผู้ชมฟังต่อไปนี้ ท่านผู้ชมต้องเข้าใจว่าผมเป็นคนช่างสังเกต ผมเคยเล่าเรื่องความขุ่นข้องหมองใจที่จีนมีกับไทยหลายๆ ประเด็นที่เราไปเบี้ยวเขา อะไรบ้างที่เราเบี้ยวเขา ? การที่เราเบี้ยวเขานี่หมายความว่า ตกลงกันแล้ว แล้วเราไม่ทำตามข้อตกลง คือถ้าคุณไม่ทำ คุณก็อย่าไปตกลงกับเขา แต่เราดันทะลึ่งไปตกลงกับเขา

เรื่อง ปฏิญญาแม่น้ำโขง ข้อแรก เราไปเกี่ยวกับจีนในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสนธิสัญญาซันย่าที่เกาะไหหลำ เซ็นกันแล้ว


แต่พอมาถึงขั้นปฏิบัติการที่จะต้องเซ็นสัญญากันอีกทีหนึ่ง ไทยไม่ร่วมด้วย เพราะว่าเราไปปล่อยให้อเมริกาเข้ามาแทรกแซงเรื่องราวในภูมิภาคแม่น้ำโขงอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียวของอเมริกา แล้วแม่น้ำโขงก็ไม่ใช่แม่น้ำมิสซิสซิปปี ผมเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ปฏิญญาซันย่าก็กลายเป็นมีแค่ จีน พม่า ลาว เขมร เวียดนาม ตัดไทยทิ้งไปเลย ไทยก็เลยขาดในส่วนที่เสริมทำให้การขนส่งทางน้ำและการเดินทางทางน้ำของเราประสบอุปสรรคมากมาย

เรื่องที่สอง คือ เราอนุญาตให้อเมริกาสร้างกงสุลยักษ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าเกือบหมื่นล้าน


และผมได้ชี้ให้เห็นว่าสถานกงสุลแห่งนี้น่าจะมีบทบาทอย่างสูงในการแทรกแซงกิจการในพม่า และเป็นหมากสำคัญของยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีน ทางตอนใต้ของจีนด้วย ที่สหรัฐฯ วางเกมเอาไว้ ท่านผู้ชมจำเรื่องนี้ได้ไหม ผมทวนความจำนิดหนึ่ง สมัยก่อนอเมริกามีกงสุลอยู่ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน มีมานานแล้ว และอเมริกาก็ใช้สถานกงสุลของอเมริกาที่เฉิงตู เป็นแหล่งสะสมข้อมูล สืบราชการลับเรื่องเกี่ยวกับทิเบต ซึ่งอยู่เหนือเฉิงตู เหนือเสฉวนขึ้นไป แล้วต่อด้วยมณฑลซินเจียงของชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ แต่นายทรัมป์ เกิดเดินหมากพลาด ไปสั่งปิดสถานกงสุลของจีนที่เมืองฮูสตัน


ด้วยความบ้าของนายทรัมป์ ก็เลยทำให้จีนซึ่งรอโอกาสมานาน แต่หาจังหวะไม่ได้ หาเหตุผลไม่ได้ ก็เลยต้องปิดสถานกงสุลอเมริกาที่เมืองเฉิงตูด้วยความปรีดี ดีใจมากๆ ในที่สุดแล้ว เท่ากับนายทรัมป์ ทำปืนลั่นใส่เท้าตัวเอง ก็เลยทำให้อเมริกาที่เคยมีตาดวงหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเสฉวน ของอเมริกา ตานั้นก็เลยบอดไป มองไม่เห็นแล้ว นั่นคือที่มาของการเพิ่มตา สร้างตาใหม่ขึ้นมา ที่เชียงใหม่

เรื่องที่สาม คือ ไทยเราชักเข้า ชักออก แสดงท่าทีชัดเจนในการทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ในยุทธศาสตร์โครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (1 แถบ 1 เส้นทาง) เป็นยุทธศาสตร์หลักของจีนในยุคประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยจีนนั้นต้องการขยายอิทธิพลบนเวทีโลก ผ่านการเชื่อมโยงการขนส่งคมนาคมกับนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทางบก หรือทางน้ำ


จากภาพกราฟฟิกด้านบน แสดงให้เห็นได้ชัดว่า จีนต้องการเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งกับประเทศในอาเซียน ซึ่งจีนกำหนดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางรถไฟ เชื่อมต่อไปถึงมาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่ไทยเราก็ยังชักเข้าชักออก ไม่ได้ไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่ข้อตกลงการสร้างรถไฟความเร็วสูงกับจีนนั้น เซ็นสัญญากันมา 4 ปีแล้ว ลาวทำเสร็จแล้ว ของไทยยังไม่ไปไหนจริงๆ


ข้อที่สี่ เหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว หลังจากการเปิดรถไฟลาว-จีน ธันวาคม 2564 เดือนที่แล้วนี่เอง ไทยไปออกข่าวว่า องค์การอาหารและยา (อย.) ลงพื้นที่ด่านพรมแดนหนองคาย ตรวจสอบการนำเข้าผักผลไม้ที่มาจากการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟจีน-ลาว หลังจากที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการ มีการขนเข้าประเทศมากขึ้น โดยที่ทาง อย. อ้างว่า เพื่อคุมเข้มมาตรการการตรวจสอบผลไม้ตามมาตรฐาน หากพบปนเปื้อนจะได้ไม่อนุญาตให้นำเข้า พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย


ท่านผู้ชมครับ เป็นเรื่องที่ตลกร้ายมาก ตามสถิติการนำเข้า-ส่งออกผักผลไม้จากจีนมาไทย ผ่านรถไฟไทย-ลาว-จีน นั้น มีน้อยมาก ผมคุยกับท่าน พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการเปิดใช้รถไฟระหว่างจีน-ลาว มีการใช้บริการขนส่งทางราง 34 ใบ ขน 147 ตู้ มูลค่าแค่ 45 ล้านบาท เปรียบเทียบกับการที่ประเทศไทยส่งสินค้าออกไปจีน ผลไม้ เป็นจำนวนเงิน 1.1 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกผลไม้ของไทยไปจีนมากถึง 150,964 ล้านบาท เกือบ 15 เปอร์เซ็นต์ ของสินค้าของไทยที่ส่งไปจีนทั้งหมด ผลไม้ไทยมูลค่า 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อแสดงทีท่าของไทยชักเข้าชักออกกับนโยบายวิสัยทัศน์ของสี จิ้นผิง ซึ่งกลายเป็นนโยบายระดับชาติ จีนตอนนี้เขาใช้ทุกองคาพยพของเขาในการขับเคลื่อน ตอบโต้เราหลายเรื่อง ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า เรื่องของทูตคนเก่า หลู่ เจี้ยน เขากลับไปสองปี กว่าจะส่งคนใหม่ คือท่าน หาน จื้อ เฉียง มาแทน


ไม่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหลักของประเทศไทย คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย เดินทางกลับมาประเทศไทยเสรีเหมือนแต่ก่อน เขาตั้งเป้าเลย Zero COVID ใครที่ออกจากประเทศเขาและกลับเข้าไปประเทศเขา ต้องถูกกักตัวอย่างเข้มงวดมาก

อีกข้อหนึ่งคือ ใช้นโยบายโควิดที่เข้มงวด ไม่เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาไทย กว่า 3 หมื่นคน ได้กลับไปศึกษาต่อยังประเทศจีน ล่าสุดได้มีการเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยกลับไปเป็นกลุ่มแรก ประมาณ 80 คน จาก 3 หมื่นคน อนุญาตแค่ 80 คน

ท่านผู้ชมครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมความฉิบหายของวงการผลไม้ไทยในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ คือปัญหาส่งออกผลไม้ไทยไปประเทศจีน ท่านผู้ชมครับ จีนเป็นตลาดส่งออกผลไม้อันดับ 1 ของไทย ตัวเลขในปี 2563 มีมูลค่ากว่า 79,000 ล้านบาท ผลไม้สำคัญที่ส่งออก คือ ลำไย ท่านผู้ชมครับ จากการที่ลำไยส่งออกไม่ได้ วันนี้ลำไยกิโลกรัมละ 5 บาทเอง ทุเรียน มังคุด มะม่วง มะพร้าว ในช่วง 10 เดือน ระหว่างมกราคม-ตุลาคม 2564 นี่เป็นข้อมูลกรมวิชาการเกษตรนะครับ พบว่าสถิติส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีน จากกรมวิชาการเกษตร มีปริมาณกว่า 2 ล้านตัน เป็นมูลค่า 148,000 ล้านบาท ปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด อันดับแรก แน่นอน คือ ทุเรียน ต่อด้วยลำไย และมะพร้าวอ่อน


ยิ่งดูสถิติย้อนหลังไป 15 ปี พบว่ามูลค่าผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีนนั้น เติบโตอย่างมหาศาล แต่ท่านผู้ชมครับ ในปลายปีที่ผ่านมานี้ เราเริ่มประสบปัญหา การขนส่งผลไม้ติดขัดตามด่านต่างๆ ของจีน ไม่ว่าจะเป็นลาว-จีน หรือเวียดนาม-จีน รถบรรทุกขนส่งสินค้า ซึ่งจำนวนมากเป็นสินค้าจากไทย รวมถึงผลไม้ไทย เข้าจีนไม่ได้ รถติดยาวนับสิบๆ กิโลเมตร


เมื่อการส่งออกไปจีนเกิดอุปสรรค ความซวยตกมาอยู่ที่ผลไม้ไทยซึ่งมีมูลค่าส่งออกประมาณปีละแสนล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวสวนที่อยู่ทางภาคตะวันออก เฉพาะระยอง จันทบุรี ตราด เอาตัวอย่างให้ดู ท่านผู้ชม ทุเรียน 2564 เราผลิตทุเรียนได้ 550,000 ตัน มูลค่าส่งออก 109,240 ล้านบาท ยอดส่งออกทุเรียน 25,000 ตู้ มังคุด 7,000 ตู้ คาดว่าปีนี้ (2565) จะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาด 720,000 ตัน มากกว่าปีที่แล้วร่วม 20-30 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณมังคุดที่ออกพร้อมกัน จะออกพร้อมกันรวม 1 ล้านตัน เฉลี่ยส่งออกทุเรียนวันละ 700 ตู้ มังคุด 300 ตู้ รวมวันละ 1,000 ตู้ 90 เปอร์เซ็นต์ ส่งไปจีน ถ้ามีปัญหาในการขนส่งทุเรียนไทยส่งออกไปจีน ขนส่งทุเรียนไทยมูลค่าแสนล้านบาท จะได้รับผลกระทบทันที

ลำไย - ลำไย 4 แสนตัน ตอนนี้ส่งออกได้เพียง 1 แสนตันเอง ราคาลำไยจากการส่งออก เคยได้กิโลกรัมละ 30-35 บาท อย่างที่ผมบอกว่าตอนนี้เหลือกิโลกรัมละ 5 บาท มูลค่าเราเคยได้ถึง 8,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือแค่ 2,000 ล้านบาท สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ปี 2564 จีนได้ยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบผลไม้นำเข้าอย่างเข้มงวด เมื่อต้นปีนี้เอง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ รายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย แก้ปัญหาอำนวยความสะดวกการขนส่งผลไม้ไทย และทูตเกษตรประสานงานกับทางการจีนตลอด เอาล่ะ ท่านผู้ชม ตามผมมา


แล้วบอกว่าตอนนี้ประเทศจีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง มณฑลกว่างสี แล้ว กำหนดให้นำเข้าผลไม้ไทยได้ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เพื่อคลี่คลายปัญหากรณีด่านตงชิง มณฑลกว่างสี ปิดด่าน ทำให้ผลทุเรียนและลำไยสดปริมาณมากติดค้างอยู่ที่ด่าน ทางจีนก็อ้างว่า อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการผลไม้ไทย เปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขภาพอนามัยพืชจากด่านตงชิง เป็นด่านผิงเสียง จะได้ส่งเข้าประเทศจีนได้ ท่านผู้ชมครับ จีนเขาพ่วงมานิดนะ ต้องระมัดระวังอย่าให้มีการปนเปื้อนโควิด-19 ทั้งคนขับรถและสินค้า เพราะถ้าพบ ทางการจีนจะปิดด่านทันที คุณเฉลิมชัย เลยบอกว่ารัฐบาลขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันเข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่ ท่านผู้ชมครับ ถ้าจีนจะเบี้ยวเรา เขาก็บอกว่าคนขับรถของเราติดโควิด หรือผลไม้เรามีเชื้อโควิด เขาปิดด่านทันที

ประเด็นมันอยู่ตรงไหน การเกิดเหตุส่งผลไม้ไทยไปจีน ไม่ว่าจะเป็นลำไย ทุเรียน มะพร้าว มังคุด มีมูลค่านับแสนล้านบาท ท่านผู้ชมรู้ไหม ต้องอ้อมไปทางด่านผิงเสียง ประเทศเวียดนาม เพียงจุดเดียว ซึ่งแต่ก่อนเราส่งได้ทุกจุด ตอนนี้จุดเริ่มต้น แต่โอกาสจะถูกลุกลามไปยังข้าว ยาง และมัน ท่านผู้ชมครับ ถามว่ากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นอกจากวัวหายล้อมคอกแล้ว ได้ทำอะไรไปบ้าง เหมือนกับเรื่องหมู เดี๋ยวผมจะพูดเรื่องหมูตอนจบ หรือพวกคุณ พรรคประชาธิปัตย์ ดีแต่สร้างภาพ จ้างโพลโน้นโพลนี้มาอวยว่าคุณมีผลงานดี หรืออวยว่าคุณจุรินทร์ เหมาะสมจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไป แล้วก็ทำงานแบบพรรคประชาธิปัตย์ คือพรรคข้าราชการ เหมือนกรณีหน้ากากอนามัยหาย ทุจริตถุงมือยาง รัฐเสียหายหลายพันล้าน ยื้อแบนสามสารพิษ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต กรณีล่าสุด ราคาหมูแพง เรื่องมาแดงช่วงปลายปี 2564 น่าจะลุกลามต่อไปจนถึงปี 2565

ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ผมดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าจีนกำลังใช้องคาพยพของจีนทุกจุดที่จะเอาคืนประเทศไทยแล้ว จากการที่เราเบี้ยวเขาหลายเรื่อง


ประเด็นที่สอง ตอนนี้จีนใช้เพื่อนบ้านล้อมไทยแล้ว นั่นคือหมากล้อมของจีน ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางเยือนพม่าเมื่อวันที่ 7 และ 8 มกราคม ไม่กี่วันมานี้เอง เพื่อหารือรัฐบาลทหาร โดยนับเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่มาเยือนตั้งแต่มีการยึดอำนาจ แล้วก็พร้อมจะเชิญผู้นำพม่าเข้ามาประชุมอาเซียน ซึ่งเขมร หรือกัมพูชา เป็นประธาน โดยนายกฯ ฮุน เซน เป็นประธาน หลังจากปีที่แล้วบรูไนเป็นประธาน แล้วถูกอำนาจอิทธิพลของอเมริกากดดัน ไม่ให้เชิญผู้นำพม่ามา ฮุน เซน ไม่ใช่คนที่อเมริกาจะกดดันได้ เพราะฮุน เซน ยืนข้างจีน

ท่านผู้ชมครับ ผู้นำกัมพูชาต้องการให้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนประจำปีนี้ ผลของการหารือก็เลยทำให้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้ประกาศขยายช่วงเวลาหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ คือพวกกะเหรี่ยง มอญ ไปจนถึงสิ้นปี 2565 แต่กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลมิน อ่อง หล่าย ซึ่งนำโดยอองซาน ซูจี และพรรคพวก ก็ยังรบอยู่ แต่มิน อ่อง หล่าย บอกว่ากับพวกชนกลุ่มน้อยหยุดยิง แปลว่าอะไร ? แปลว่าความสงบสุขตรงแม่น้ำเมย แถวแม่สอด หรือแถวแม่สาย ก็จะสงบลง จะไม่มีอาวุธปืนหรือขีปนาวุธตกมาอีก

ท่านผู้ชมครับ ผู้นำทั้งสอง คือ มิน อ่อง หล่าย และฮุน เซน พบปะหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่ว่าการเสนอการหยุดยิงนั้น ทหารคงไม่เล่นด้วย การหยุดยิงอ้างอย่างที่ผมบอกแล้วว่า เฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์เท่านั้น ไม่ใช่หน่วยกองโจรพลเรือนที่เป็นพวกอองซาน ซูจี ที่กำลังต่อสู้อยู่ขณะนี้

แต่ท่านผู้ชมครับ การเดินหมากของสมเด็จฮุน เซน นั้นถือว่าล้ำลึกมาก คือเขาดึงพม่ากลับเข้าสู่เวทีเจรจาเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในวงล้อมของชาติตะวันตก การดึงพม่ากลับเข้าสู่วงล้อมของจีนที่ไม่อยากให้สงครามปะทุที่ชายแดนหรือประเทศเพื่อนบ้านตัวเอง นอกจากนี้แล้ว ยังแทรกซึมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองประเทศรอบด้าน รอบไทยไปหมด ไม่ว่าจะเป็นลาว พม่า กัมพูชา ผมเอาแผนที่ให้ดู


จากแผนที่ด้านล่างนี้ จีนได้สร้างท่าเรือที่ใช้ได้ทั้งการพาณิชย์และการทหาร ขนาบประเทศไทยไว้สองด้าน คือ กัมพูชาสร้างไว้ที่ฐานทัพเรือเรียม ซึ่งอยู่ในจังหวัดสีหนุวิลล์ ซึ่งฐานทัพเรือเรียมนี้ เป็นฐานทัพที่อเมริกาลงทุนให้ แต่กัมพูชาไล่อเมริกาออกไปแล้วให้จีนเข้ามาแทน ส่วนพม่า จีนก็สร้างท่าเรือเจ้าผิวก์ ที่รัฐยะไข่ นอกจากนั้นแล้ว จีนกำลังจะขยายกำลังทหารเรือที่พม่าเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ครอบคลุมการปฏิบัติการในมหาสมุทรอินเดีย จีนกำลังสร้างอู่เรือแห้ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Dry dock ขนาดใหญ่ในพม่า


ท่านผู้ชมครับ อู่แห้ง (Dry dock) ขนาด 4 หมื่นตัน แห่งนี้ สร้างอยู่ทางภาคเหนือของอู่ต่อเรือติวาลา ริมแม่น้ำย่างกุ้ง ปัจจุบันกองทัพเรือพม่ามีเรือที่ใหญ่ที่สุด คือ UMS MOATTAMA แต่เรือลำนี้มีความยาว 125 เมตร 410 ฟุต กว้าง 22 เมตร 72 ฟุต เท่านั้น ด้วยขนาดของอู่และท่าเทียบเรือ อาจจะมองได้สองแบบ คือ พม่าอาจจะวางแผนต่อเรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคต อาจจะเป็นไปได้ว่าเรือรบจีนจะได้ใช้ประโยชน์จากอู่แห้งแห่งใหม่นี้ในอนาคตด้วย งานนี้เป็นงานโครงการระยะที่ 3 ในการขยายอู่ต่อเรือของเมียนมา


ในมุมมองของจีน โครงการนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทาง ในเมียนมา จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางดาวเทียม เห็นว่างานก่อสร้างเริ่มต้นแล้ว ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ประเด็นอยู่ที่ว่า เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปีนี้ เดือนหน้าประเทศไทยกำลังจะมีการฝึกซ้อมรบที่เรียกว่า Cobra Gold กับอเมริกาอีกแล้ว มีทำพิธีเปิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งหากสถานการณ์โควิด-19 เป็นใจ จากการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ "โอมิครอน" เบาบางลง อเมริกาจะใช้โอกาสนี้ขยายกำลังการฝึก แสดงแสนยานุภาพข่มขวัญจีน หลังจากช่วงที่ผ่านมาทะเลจีนใต้กลายเป็นที่จับตามองของความคุกรุ่นของความขัดแย้ง

ท่านผู้ชมครับ การฝึก Cobra Gold ในปี 2565 จะกลับมาสู่วงรอบ heavy year หลังจากปีที่แล้วเป็นวงรอบ Light Year ที่เน้นเรื่องการวางแผนการบรรเทาสาธารณภัย ส่วนใหญ่เป็นการฝึกออนไลน์เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ปี 2565 เป็นการฝึกการจำลองยุทธ์ที่มีการฝึกการปฏิบัติทั้งทางบก เรือ อากาศ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และฝึกด้วยกระสุนจริง


ท่านผู้ชมครับ กองทัพไทยและสหรัฐฯ มีข้อตกลงร่วมกัน ไม่ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นเช่นไร การฝึก Cobra Gold 2022 ครบ 41 ปี จะมีขึ้นแน่นอนตามกำหนดการดังกล่าว โดยมุ่งหวังจะจัดการฝึกเต็มรูปแบบ ชดเชยปีที่แล้วที่ Cobra Gold ครบรอบ 40 ปี แต่ถูกลดระดับ จึงกำหนดแผนไว้ 3 รูปแบบ รูปแบบที่หนึ่ง จะมีกำลังทหารจาก 29 ประเทศ มาร่วมซ้อมรบ แบ่งเป็น 7 ประเทศที่เข้าฝึกหลัก ไทย อเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลี มาเลเซีย ส่วนอีก 2 ประเทศ เข้ามาฝึกร่วมแต่เป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนด้านมนุษยธรรม คือ จีน และอินเดีย และประเทศโครงการเสนาธิการผสมจะเพิ่มออสเตรเลีย บังกลาเทศ แคนาดา และประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์อีก 10 ประเทศ เช่น ลาว เวียดนาม บรูไน เมียนมา


ท่านผู้ชมครับ ปีนี้จะมีกำลังที่เข้ามาฝึก โดยเฉพาะทหารอเมริกัน เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่หมื่นคนขึ้นไป ท่านผู้ชมหลับตาวาดภาพทหารต่างชาติ อเมริกา เข้ามาฝึก Cobra Gold กับเราจำนวนหมื่นคนขึ้นไป ผมไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องการฝึก Cobra Gold แต่ผมมีคำถามที่จะถามผู้กำหนดนโยบาย และคนที่มองอนาคตของประเทศไทยในระยะยาว การฝึกซ้อมรบ Cobra Gold นั้น คำถามมีอยู่ว่าฝึกซ้อมรบกับใคร ? แน่นอนที่สุด อเมริกาเป็นหัวหอก จีนเขาฝึกด้วย แต่กีดกันจีนไม่ให้ฝึกซ้อมรบ จีนไปฝึกในเรื่องการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม แต่ซ้อมรบจริงๆ มีแต่ประเทศที่เป็นศัตรูจีนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เข้ามาร่วม ท่านผู้ชม ใครเป็นศัตรูเรา ? เราจะรบกับใคร ?


สงครามเย็นจบไปแล้วสามสิบกว่าปี Cobra Gold มีความจำเป็นอีกไหม ? แล้วเรายังทำตัวเป็นเบี้ยเป็นหญ้าแพรกซึ่งอาจจะแหลกราญได้ทุกเมื่อ เมื่อช้างสารอย่างอเมริกา กับจีน ชนกันอย่างนี้ เราคิดไม่เป็นเหรอ ท่านผู้ชมครับ เราควรแสวงหาจุดยืนใหม่ได้หรือเปล่า ระหว่างอเมริกา กับจีน ในศตวรรษที่ 21 เราควรหรือไม่ที่น่าจะเป็นคนก่อตั้งกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เราไม่ฝักใฝ่ทั้งจีน ไม่ฝักใฝ่ทั้งอเมริกา


Cobra Gold การที่เราเข้าไปร่วมฝึกด้วย และใช้ประเทศไทยเป็นฐาน จะทำให้ฝ่ายความมั่นคงจีนมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าเราเป็นเครื่องมือของอเมริกาในการออกมาปิดล้อมจีน ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้คิดให้ลึกๆ ใครได้ประโยชน์ ? อเมริกาได้ประโยชน์ เหมือนกับอเมริกากำลังแสดงแสนยานุภาพแล้วบอกว่า เฮ้ย เราตั้ง 10-20 ประเทศ มาร่วมมือกัน คำถามคือ ศัตรูของคุณคือใคร ? เราจะไปรบกับใคร ? แน่นอนที่สุด ไม่มีใครอื่นไกลที่ไหน อเมริกาตั้งจีนเป็นศัตรู แล้วดึงพรรคพวกที่เข้ามาฝึกร่วม Cobra Gold ลงเรือลำเดียวกัน มาปิดล้อมจีน ท่านผู้ชมครับ น่ากลัวไหมเรื่องนี้


.ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่รับประทานเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหมู และแม่บ้านทั้งหลาย ตลอดจนผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องใช้เนื้อหมูประกอบ ไม่ว่าจะเป็นผัดกะเพราหมู ก๋วยเตี๋ยวหมู ลูกชิ้นหมู อะไรที่เกี่ยวกับหมู ถ้าท่านไม่เคยไปซื้อของที่ตลาด คือซื้อของรับประทานอย่างเดียว ต้องรู้ก่อนว่า พฤติกรรมการบริโภคหมูของคนไทยนั้น แตกต่างกันไปแต่ละส่วน ยกตัวอย่าง เนื้อแดง หมูสามชั้น ซี่โครงหมู ขาหมู สันนอก สะโพก ตับหมู ไส้หมู เนื้อบด ราคาเนื้อหมูที่พูดกันส่วนใหญ่จะอ้างอิงจากราคาหมูเนื้อแดง นอกจากนั้นแล้ว ราคาของหมูแต่ละส่วนก็ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไปตามจังหวัด พื้นที่ ภูมิภาค และช่วงเวลา ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ราคาหัวหมูในภาคอีสาน จะสูงกว่าภาคเหนือ หรือภาคกลาง เพราะว่าทางภาคอีสานนั้นนิยมเอาหัวหมูมาบวงสรวง แล้วคนอีสานจะบวงสรวงบ่อยมาก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยต่างๆ เช่น ตรุษจีนที่จะมาถึง ราคาหัวหมูจะขึ้น เพราะคนไทยเชื้อสายจีนใช้หัวหมูในการไหว้เจ้า


เรากลับมาที่ราคาหน้าเขียงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหมูขายสูงถึง 230-240 อาจจะถึง 250 ต่อกิโลกรัม เปรียบเทียบแล้ว ธันวาคม ราคาแค่ 175 บาท ราคาที่มันสูงขึ้น เพราะว่ามีคนคาดการณ์ว่าราคาเนื้อหมูจะขึ้นถึง 300 บาทต่อกิโลกรัม มันมาจากไหน ? มันมาจากโรคระบาดที่ทำให้จำนวนหมูลดน้อยลง ต้นทุนการเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้น อาหารหมูเพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ราคาหมูแพงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คงจะได้ยินได้ข่าวจากสื่อต่างๆ แล้ว ผมสรุปให้ท่านผู้ชมเข้าใจง่ายๆ ฟังที่นี่แล้วจะเข้าใจภาพรวมทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน


ประเด็นที่หนึ่ง ประชากรหมูในประเทศไทยในอดีต ก่อนปี 2560 มีจำนวนหมูแม่พันธุ์อยู่ 1.1 ล้านตัว โดยประมาณ หลังปี 2560 ก็มีการขยายแม่พันธุ์เพิ่มขึ้น จากฟาร์มยักษ์รายใหญ่เจ้าเดิมๆ โดยที่ไม่ได้ขยายจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก เพราะฉะนั้นการขยายตัวในช่วงนี้ ประเทศไทยจะมีแม่หมูอยู่เพิ่มจาก 1.1 ล้านตัว เป็นประมาณ 1.4-1.5 ล้านตัว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีโรคระบาดของหมูชนิดหนึ่งที่บริเวณเพื่อนบ้านเรา เรียกสั้นๆ ว่า ASF หรือ African Swine Fever เป็นเชื้อไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู มันเริ่มระบาดที่ประเทศจีนก่อน ลามมาสู่เวียดนาม ลาว เขมร มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ยกเว้นประเทศไทย ตามข้อมูลของกรมปศุสัตว์ ซึ่งโกหกตอแหลทั้งนั้น


ปัญหาของการแก้เรื่องหมูมันลุกลามมาจนกระทั่งถึงขั้นที่แก้ไม่ได้ก็เพราะกรมปศุสัตว์ ขณะที่เขาระบาดกันหมดเลย ทั่วเลย จีน เวียดนาม ลาว เขมร มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แต่ว่ากรมปศุสัตว์เมืองไทยบอกว่าไม่มี เดี๋ยวผมจะจับโกหกข้าราชการเฮงซวยพวกนี้ เพราะทำไมรู้ไหม ? เพราะจริงๆ แล้วประเทศไทยมีการระบาดโรคนี้มาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบ กรมปศุสัตว์ เพื่อที่จะเป็นเกียรติยศให้กับวงศ์ตระกูลหน่อยแล้วกัน อธิบดีคนปัจจุบัน ชื่อนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต เป็นอธิบดีตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2561 ท่านยังนิ่งเฉย และยืนยันว่าประเทศไทยปลอดโรค ASF ตามผมมานะท่านผู้ชม


โรคอหิวาต์หมูสายพันธุ์แอฟริกานี้ มันระบาดที่ชายแดนทางเหนือของไทย ก็ในเมื่อลาว เขมร พม่า มันมีอยู่แล้ว มันก็ต้องระบาดมาทางชายแดนทางเหนือสิ เพราะอะไรรู้ไหมท่านผู้ชม ? ซากหมูที่ป่วยตายลงในแม่น้ำที่กั้นระหว่างชายแดนไทยกับพม่า คือแม่น้ำรวก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลำน้ำแม่สาย เพราะว่ามีการฝังกลบ เพื่อเพิ่มต้นทุนในการทำลายซาก ทำให้โรคระบาดกับหมูที่เลี้ยงในไทยที่ติดชายแดนเหล่านี้ เป็นต้นตอของโรคที่เข้ามาในเมืองไทย


ประกอบกับการลักลอบเคลื่อนย้ายตัวหมูและเนื้อหมูที่ติดเชื้อในประเทศ ทำให้โรคแพร่ไปได้โดยเร็ว ขนาดนี้แล้ว กรมปศุสัตว์ยังไม่ยอมรับว่าเมืองไทยมีโรค ASF นี้แล้ว ทำให้ไม่มีการควบคุมหรือป้องกันโดยเจ้าหน้าที่ ตลกมากท่านผู้ชม

ที่ผ่านมา ภาคเอกชนโดยสมาคมเลี้ยงหมูแห่งชาติ ระดมเงินลงขันจากสมาชิกสมาคมฯ ทั้งประเทศ นำเงินไปชดเชยเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ แต่ทำได้จำกัด งบประมาณไม่พอ กิจกรรมก็เลยหยุดไป แล้วทุกคนก็หันมาป้องกันตัวเอง ตัวใครตัวมัน

ท่านผู้ชมครับ โรคระบาดโรคนี้ระบาดมาสองปีในเมืองไทย ทำลายแม่พันธุ์ในเมืองไทยไป 50-60 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุด ปี 2564 ปี 2565 ส่งผลให้ราคาหมูพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ตามที่ท่านผู้ชมได้รับทราบ

สรุป หมูที่แพงเพราะ หนึ่ง ตัวสุกร อุตสาหกรรมการเลี้ยง ตายจากโรคระบาดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ราคาวัตถุดิบและเวชภัณฑ์ที่แพงขึ้น มีผลถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เอาล่ะ แล้วใครบ้างล่ะเลี้ยงหมู ในประเทศไทย ? มีอยู่ 3 ประเภท ประเภทเลี้ยงรายใหญ่ครบวงจร (Integrated farm) อันประกอบด้วยบริษัทที่ส่งเสริมปลูกพืชอาหารสัตว์ บริษัทเวชภัณฑ์ยาสัตว์ บริษัทที่ค้าพันธุ์สัตว์ โรงงานอาหารสัตว์ โรงชำแหละและแปรรูป พวกนี้จะมี Outlet กระจายสินค้า ไม่ว่าจะเป็น Whole sale ไฮเปอร์มาร์ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ยังมีเกษตรกรพันธสัญญา ก็คือ Contract Farming คือสร้างฟาร์มมาเลี้ยงหมูแล้วเขามารับซื้อหน้าฟาร์มในราคาที่ต้นทุนบวกกำไรเท่าไร ว่ากันไป


ผู้ประกอบการรายใหญ่ในประเทศไทยมีแค่ 1-3 รายเท่านั้นเอง ในกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ ในสภาวะปกติ แปรผันตามจำนวนแม่หมู พวกนี้จะมีส่วนแบ่งในประเทศ 55 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีระบบการป้องกันและกำลังทุนที่ดี พอเกิดโรคระบาดในหมูฟาร์มใหญ่เช่นนี้ เขาจะได้รับความเสียหายประมาณแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ของฝูงแม่พันธุ์ นอกจากนี้แล้ว ความเสียหาย 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากฟาร์มแม่ แต่จะเกิดจากฟาร์มของเกษตรกรพันธสัญญา คือพวก Contract Farming ที่รับจ้างเลี้ยงหมูให้กับบริษัทใหญ่ๆ

ฟาร์มประเภทที่สอง คือเอกชนรายย่อย พวกนี้จะซื้อวัตถุดิบมาผสมเลี้ยงสุกรเอง ราชบุรี เป็นแหล่งของเอกชนรายย่อย มีกำลังทุนพอพึ่งพาตัวเองในการผลิตหมู อาหารสัตว์เพื่อใช้เองในองค์กร มีจำนวนแม่พันธุ์รวมแล้วประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ ตอนนี้ พวกที่สองนี้ ได้รับความเสียหาย 80 เปอร์เซ็นต์ ของฝูงแม่พันธุ์


เมื่อสู้สภาวะโรคไม่ได้ ฟาร์มพวกนี้จะเป็นฟาร์มที่แบกภาระหนี้มากที่สุด เพราะว่าพวกนี้จะกู้หนี้ยืมสินมาทำธุรกิจในช่วง 4-5 ปีที่ขยายฟาร์มมา

ประเภทที่สาม เป็นฟาร์มเกษตรกรรายย่อย ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบการเลี้ยงแบบสมาชิกสหกรณ์การเกษตร กู้ยืมเงินมาทำ มีที่ดินของตัวเอง แต่ฐานการเงินค่อนข้างต่ำ มีแม่พันธุ์ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ ฟาร์มขนาดเล็กเหล่านี้เมื่อเกิดความเสียหายจากโรคระบาดในหมู ก็จะเสียหายทีละ 100 เปอร์เซ็นต์ คือเจ๊งไปเลย

ท่านผู้ชมครับ สรุปอย่างนี้ว่า ความเสียหายของอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูในประเทศไทยเกิดขึ้นมาสองปีแล้ว กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รู้ปัญหานี้มานานแล้ว แต่ไม่มีมาตรการแก้ปัญหาใดๆ ปัดขยะใต้พรมให้พ้นตัว ตั้งแต่อธิบดีคนเดิมแล้ว นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ มาจนถึงคนปัจจุบัน นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต ไม่มีการเคลื่อนไหวเชิงการแก้ปัญหาใดๆ ในกรมปศุสัตว์ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พอพูดถึงโรคระบาด ก็จะปัดไปว่าเป็นโรค PRRS โรคเพิร์ส เป็นโรคที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจ ปัดขยะไปเลย มันเป็นโรคนี้ครับ ไม่ใช่ ASF (African Swine Fever) โรคอหิวาต์ เพราะถ้าประกาศออกมาปั๊บ มันจะมีผลกระเทือนหลายอย่าง การส่งออกจะหยุดส่งออก คนส่งออกหมูก็จะมาด่ากรมปศุสัตว์ ถ้าอย่างนั้นกลบปัญหาไว้เลยดีกว่า ทั้งๆ ที่โรคเพิร์ส (PRRS) มันมีวัคซีนป้องกันแล้วในไทย ระบาดจนเลิกเสียหาย กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว แต่กรมปศุสัตว์ยังอ้างโรคนี้ เพราะมันเป็นแพะตัวเดียวที่อ้างเรื่องโรคได้


เพิ่งจะวันที่ 11 นี่เอง 3-4 วันที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์เพิ่งอ้างว่าได้เจอโรค ASF ที่โรงฆ่าหมูใน จ.นครปฐม โธ่! มันระบาดมาตั้ง 2 ปีแล้ว ทางภาคเหนือ แล้วจะเพิ่งเจอได้อย่างไร เพราะว่าปิดไม่อยู่แล้วไง ก็เลยไปคำนวณดูว่าเอาวันไหนดีที่เจอ จะได้เจ็บตัวน้อยที่สุด

เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ แล้วที่สำคัญมีการส่งจดหมายไปเป็นทางการ เตือนว่า African Swine Fever เกิดขึ้นแล้วนะ ที่โน่นที่นี่นะ ท่านผู้ชมเชื่อไหม กรมปศุสัตว์บอกว่าไม่ได้รับ ท่านผู้ชม ขออนุญาตเถอะ ผมหงุดหงิดกับข้าราชการประเภทนี้ มันส้นตีนมาก แล้วนี่คือส่วนหนึ่งของปัญหาของโรค ปัญหาของบ้านเรา ที่เกิดจากข้าราชการประจำ เพราะฉะนั้นแล้วต้นปี 2565 ราคาเนื้อหมูแพงแบบก้าวกระโดด คนที่เดือดร้อนและถูกเปิดแผลคนแรกคือ กระทรวงพาณิชย์ เพราะชาวบ้านกินหมูราคาแพงก็โวยวายแล้วสิ ความเดือดร้อนของเกษตรกรไม่มีผล งานนี้ฟาร์มขนาดใหญ่นั่งเงียบเป็นตาอยู่ เพราะว่าการแก้ปัญหาปลายเหตุของแต่ละกระทรวง ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เกิดอาการพิกลพิการอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะพรรคบ้านี่ผมพูดกับท่านผู้ชมมาแล้ว มันเป็นตัวการปัญหาที่สุด เป็นตัวหิวแสง ปัญหาจริงๆ มันไม่กล้าเข้าไปพูด แต่อะไรที่มันทำได้เล็กน้อย มันโชว์ออฟฉิบหายวายป่วงหมดเลย ถึงแม้ว่าคนที่ดูแลกรมปศุสัตว์คือนักการเมือง รัฐมนตรีช่วยฯ ที่ชื่อ ประภัตร โพธสุธน ซึ่งเป็นคนของพรรคชาติไทยพัฒนา เงียบสนิท แบ๊ะๆๆ ไม่พูดอะไรเลย เพราะสนใจอยู่เรื่องวัว ควาย เรื่องหมูไม่สนใจ แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ประภัตร

นายประภัตร โพธสุธน
ประภัตร เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ตัวปัญหาใหญ่คือเจ้ากระทรวง ไม่ว่าจะเป็นเกษตรฯ หรือพาณิชย์ ซึ่งพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คุม เกษตรฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คุม ทุกวันนี้มีความพิกลพิการทางปากแล้ว เป็นใบ้ไปหมดเลย ไม่กล้าพูด หลบอยู่ใต้โต๊ะ เผลอๆ เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหลบไป อย่ามาถาม


ด้วยเหตุนี้ผมมีคำถามถึงวิธีการแก้ปัญหาของกระทรวงพาณิชย์ ตอนนี้ก็ยุยงส่งเสริมให้นำเข้าหมู แต่ท่านผู้ชมครับ มันจะมีปัญหาลูกโซ่ต่อเนื่อง คุณจะนำเข้าจากประเทศไหนล่ะ ถ้านำเข้าแล้วมีปัญหา สมมุติจากอเมริกา มีปัญหาเรื่อง Food Safety ในเมืองไทย เอาเข้ามาได้ไหม เพราะการใช้สารเร่งเนื้อแดงเป็นเรื่องถูกกฎหมายในอเมริกา แต่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ถ้านำเข้าจากแคนาดา บริษัทใหญ่ในประเทศไทยไปซื้อธุรกิจอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรครบวงจรเมื่อสองปีก่อน มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท สามารถนำเข้าได้ แต่ก็อีกล่ะ ก็จะถูกข้อครหานินทาว่าเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา

ถ้านำเข้าจากประเทศจีน หรือเวียดนาม เข้าได้ไหม ? เพราะจีน กับเวียดนาม เป็นแหล่งระบาด ASF (African Swine Fever) มาก่อน แล้วหนักกว่าประเทศไทย

การนำเข้าใช้เวลานานแค่ไหน ? เท่าทันต่อสถานการณ์หรือเปล่า ? ถ้าเปิดให้มีการนำเข้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็จะซ้ำเติมฟาร์มในประเทศที่เหลือ ที่ยังไม่ติดโรค เพราะต้นทุนสูงอยู่แล้ว มาเจอราคานำเข้าที่ถูกกว่า ท่านผู้ชมครับ ฟาร์มคนไทย ทั่วประเทศไทย ล้มละลายหมด ผมก็เลยอยากตั้งคำถาม ถามถึงการแก้ปัญหาของกระทรวงเกษตรฯ กรมปศุสัตว์ ถ้าคุณแก้ปัญหาโดยการปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรสำหรับมาเลี้ยงสุกรต่อ ไม่สามารถช่วยอะไรได้หรอก เพราะเชื้อ ASF ถ้าถูกฝังไว้ในดิน ที่เลี้ยงเดิม โรคนี้ยังคงอยู่ ตกค้างในฟาร์มต่อไป แล้วมีฟาร์มหลายฟาร์มที่เสียหายจากโรค ASF ได้ทำการพักมาเกือบครึ่งปีแล้ว เอาหมูที่ไม่มีโรคเข้ามาเลี้ยงก็ไม่สำเร็จ เพราะคุณฝังซากสุกรชุดเดิมไว้ในฟาร์ม ไม่สามารถแก้ปัญหาระยะยาวได้

ท่านผู้ชมครับ ทำได้กรณีเดียวเหมือนประเทศจีนเขาทำ คือรัฐบาลต้องหาที่เลี้ยงใหม่ เกษตรกรที่ต้องการเลี้ยงอยู่ นี่คือประเทศจีนทำ เขาหาที่เลี้ยงใหม่ให้เกษตรกรที่เลี้ยงอยู่ เป็นที่ที่ไม่มีการฝังซากสุกร พวกรายย่อยต่างๆ ที่ฝังอยู่ ถอยออกไป แล้วไปหาที่ใหม่ที่รัฐบาลช่วย รัฐบาลจีนทำอย่างนี้จนหมูจีนล้นตลาด แล้วจีนยังเข้ามาพยุงราคาหมู ส่วนที่เกินหลังการแก้ปัญหาแล้วเสร็จ เพราะนั่นคือความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นนโยบายของประเทศจีนด้วย

ท่านผู้ชมครับ เรื่องหมูแพง ผมมีอีกมิติหนึ่งที่จะฝากให้ท่านผู้ชมเอาไปคิดสักนิดหนึ่ง ท่านผู้ชมจำได้ไหมว่าในยุคที่โควิด-19 ระบาดหนัก แล้วมีการจัดการที่ล้มเหลวเพราะว่าท่านนายกรัฐมนตรีท่านรวบอำนาจ ดึงกฎหมายทุกอย่างมาอยู่ที่ ศบค. ที่ตัวเองนั่งเป็นประธาน แต่พอสถานการณ์ย่ำแย่ นี่พูดอย่างไม่เข้าข้างใครนะท่านผู้ชม กลับโยนขี้ทุกอย่างให้กับอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข น่าสนใจท่านผู้ชม แต่พอหมูแพง นายกรัฐมนตรีกลับแอ่นอกรับแทนจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


แปลกมาก หรือกังวลว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนตัวเอง ที่น่าสนใจมากที่สุด มิติเรื่องข้าราชการประจำ ที่ท่านนายกฯ ผลักดันให้ข้าราชการประจำเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นตัวอย่างอีกหนึ่งตัวอย่างจากหลายๆ ตัวอย่างในอดีต ว่าปัญหาบ้านเราที่เกิดขึ้นเพราะเกิดจากข้าราชการประจำ เพราะข้าราชการประจำไม่ต้องการจะเสี่ยงภัยตัวเอง เก็บตัวเองเอาไว้

เฉลิมชัย ศรีอ่อน ให้สัมภาษณ์มา ในการตั้งกรรมการสอบกรมปศุสัตว์ บอกว่าทำไมถึงไม่ได้รับหนังสือ ทำไมหนังสือไม่ถึงอธิบดี ท่านผู้ชมหลับตาวาดภาพ คิดตามผมมา กรมปศุสัตว์มันมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อยู่ทุกจังหวัด ถามว่าแม่หมูที่ตายไปเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จะไม่รู้บ้างเลยหรือว่าตายเพราะอะไร อ้างในเรื่องของโรคที่มันมีการรักษาได้เพื่อปัดขยะทิ้ง

ท่านผู้ชมครับ จำเป็นหรือเปล่า กรมปศุสัตว์ต้องเอานายสัตวแพทย์มาเป็นอธิบดี สำหรับผมแล้ว ไม่จำเป็นเลย เอาคนที่บริหารจัดการเป็น บริหารข้อมูลเป็น สามารถที่จะบริหารเครือข่ายเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เขต บอกเรื่องหมูตายมีรายงานข่าวมา คุณเช็กหรือยังว่าเป็นอะไร คุณเช็กแล้ว ผมส่งห้องแล็บ ส่วนกลางไปเช็กซ้ำอีกทีว่าเป็นเพราะอะไร แค่นี้ก็รู้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้เลยว่าเคยรักษาหมามา เคยรักษาวัวควายมา ต้องเป็นนายสัตวแพทย์ ก็เพราะว่าเราชอบใช้มิติในการตั้งคน ไม่เลือกคนที่บริหาร คนที่บริหารจัดการเป็นต้องเป็นคนที่มีข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย ที่รู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอาณาเขตที่ตัวเองดูแลรับผิดชอบ อย่างกรมปศุสัตว์นี่ต้องรู้หมด เป็นไปได้อย่างไรท่านผู้ชม ท่านนผู้ชมตามผมมา เป็นไปได้อย่างไรที่แม่หมูตายไปเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ทั่วประเทศไทย แต่ไม่รู้ หมดยุคแล้วที่เราจะตั้งหมอขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งสัตวแพทย์ขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์ ไม่จำเป็น เอาคนที่บริหารงานเป็น ฉับไว รู้วิธีแก้ปัญหา

ท่านผู้ชม ทุกวันนี้ท่านผู้ชมมีปัญหาในเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านผู้ชมใช้ใคร ? ก็ต้องใช้ทนายใช่ไหม ถูกไหม เรามีปัญหาในเรื่องการสร้างบ้าน เราต้องใช้วิศวะ เรามีปัญหาในเรื่องการออกแบบ เราก็ใช้สถาปนิก ท่านไม่จำเป็นต้องจบสถาปนิกถึงจะสร้างบ้านได้ ก็มีคนให้ใช้ไงล่ะ แต่เคล็ดลับอยู่ที่การบริหารจัดการ แล้วรัฐมนตรีเฮงซวยทั้งหลาย เหมือนประภัตร โพธสุธน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนามีผลงานอะไรบ้าง ตอบผมซิ เงียบสนิท ไม่พูดสักคำ

คุณวราวุธ ศิลปอาชา หรือนายท็อป แสดงความรับผิดชอบกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือเปล่า หรือว่าโดยอาวุโสแล้ว ประภัตร เป็นคนรุ่นเดียวกับพ่อ ก็เลยเกรงใจ คุณจะมาเกรงใจโดยเอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวเสี่ยงได้อย่างไร แล้วผมจะดูผลสอบ 7 วันนี้ จริงๆ เรื่องนี้มันต้องย้ายอธิบดีกรมปศุสัตว์ ออกมาจากตำแหน่งอธิบดีก่อน แล้วตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อความเป็นธรรม นี่ก็ยังลั้นลาอยู่ แล้วคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ท่านจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ แล้วนี่ไง พรรคการเมืองที่ชูจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แล้วก็โม้ตลอดเวลาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาอย่างผงาดอีกครั้งหนึ่ง คุณแก้เรื่องหมูก่อนดีไหม แล้วค่อยมาโม้ว่าจะกลับมาอย่างสง่างาม


ท่านผู้ชมครับ เรื่องหมู มันยังต้องต่อเรื่องเกี่ยวกับปี 2565 เป็นปีที่แพงทั้งแผ่นดิน น้ำมันปาล์มขึ้น เนื้อหมูขึ้น ไก่ตัวก็ขึ้นแล้ว ไข่ไก่ขึ้น ถูกรองฯ สุพัฒนพงษ์ เบรกเอาไว้ 2 เดือน แล้วหลังจาก 2 เดือนแล้วยังไง ? ก็ต้องขึ้นอีก ค่าทางด่วนขึ้น แต่ค่าทางด่วนขึ้นนี่ช่วยไม่ได้ เพราะเป็นไปตามสัญญา เมื่อถึงระยะหนึ่งแล้ว ต่อจากนี้ไปต้องขึ้นตามสัญญาที่มี แต่ผมกำลังบอกว่าทุกอย่างแพงไปหมด คนก็บอกว่าตอนนี้ต้องรีบ เนื่องจากของแพง อาหารแพง ต้องรีบออกโครงการคนละครึ่ง

โครงการคนละครึ่งมันมีปัญหาอยู่ 2 ปัญหา ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าเป็นปัญหาใคร ปัญหาแรก ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นจริง คือรัฐบาลไม่มีตังค์ ปัญหาที่สองก็คือว่า พอออกคนละครึ่งแล้ว ครึ่งในส่วนของประชาชน ประชาชนเหลือแต่ตูดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ถึงจะจ่ายครึ่งหนึ่ง ประชาชนก็ไม่มีปัญญาออกไปจ่าย ต้องหาข้าวกินที่บ้าน นี่คือราคาของแพง

มิหนำซ้ำยังไม่พอ ท่านผู้ชม ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอากันให้มันครบชุดไปเลย ท่านผู้ชมครับ ผมบอกแล้วว่าธนาคารโลกออกมาพูดชัดเจน

นายเดวิด มัลพาสส์
นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก บอกว่า แทนที่เศรษฐกิจในปี 2565 จะได้รับการฟื้นฟูจากปี 64 แต่ในภาพรวมแล้ว ประธานธนาคารโลก บอกว่า เศรษฐกิจโลกจะถดถอยลงอีก ยิ่งจะทำให้ความเหลื่อมล้ำมากขึ้นไปอีกจากปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ทุกอย่างแพงหมดแล้วท่านผู้ชม ผมบอกแล้วไง วันนี้มีเงิน 1 ล้าน ฝากธนาคาร ทุกๆ 100 บาท ได้ดอกเบี้ย 50 สตางค์ แต่เงินเฟ้อ 3.50 บาท เท่ากับว่าทุกๆ 100 บาทที่ฝาก ติดลบไป 3 บาท เพราะฉะนั้นแล้ว เงินเฟ้อตอนนี้ ราคาของมันแพง แพงทั้งแผ่นดินจริงๆ รายได้คนไม่ได้เพิ่ม ต้นทุนค่าใช้จ่ายเราก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่นิดเดียว

เพราะฉะนั้นแล้ว แนวโน้มธุรกิจของโลกเขาบอกมาชัดเจน ราคาสินค้า อาหาร และพลังงาน จะดึงให้เศรษฐกิจตก เงินเฟ้อสูงที่สุดมานับตั้งแต่ พ.ศ. 2551 เท่ากับเป็นเวลา 13-14 ปี ปัญหาเศรษฐกิจยังคาราคาซัง ธนาคารโลกบอกจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566 อัตราการเจริญเติบโตก็จะต่ำ

ท่านผู้ชมครับ ทุกประเทศ จีน อัตราการเจริญเติบโตจะลดจาก 8 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 5 เปอร์เซ็นต์ อเมริกา ลดจาก 5.6 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 3.7 เปอร์เซ็นต์ อียู ลดจาก 5.2 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 4.2 เปอร์เซ็นต์ ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน จาก 6.7 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 2.6 เปอร์เซ็นต์

ท่านผู้ชมครับ ผมกำลังบอกว่าหน่วยงานภาครัฐของไทย ไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒน์ ทำนายตั้งแต่ต้นปี 65 ว่าเศรษฐกิจไทยปี 65 ขยายตัว 3.5-4.5 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 1.2 เปอร์เซ็นต์ คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีฯ คลัง มองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกจะฟื้นตัวต่อเนื่อง ท่านผู้ชมครับ ผมฟังคนพวกนี้ ในหน่วยงานราชการไทยแล้วผมอดคิดไม่ได้ถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นไปได้ไหมว่าข้าราชการพวกนี้กลัวผู้นำประเทศ คือนายกรัฐมนตรี จะไม่พอใจ เลยต้องวาดภาพให้มันสวยหรู เพราะว่านายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นคนที่เชื่อข้าราชการประจำมากที่สุด ผมไม่อยากจะพูดลงลึกไปอีก เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมตามจิกตามกัด แล้วพวกติ่งนายกรัฐมนตรีก็จะมาตำหนิติเตียนผมว่า อะไรๆ ก็ประยุทธ์ ก็มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วท่านเป็นผู้นำประเทศ


ยกตัวอย่าง EEC ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก มันมีเว็บไซต์อันหนึ่ง ชื่อ thaiexaminer.com เป็นเว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษเกี่ยวกับประเทศไทย คนที่อ่านส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งที่มาทำงานในเมืองไทย นักธุรกิจ ระเบียงเศรษฐกิจตอนนี้ ดร.คณิต แสงสุพรรณ ซึ่งท่านเป็นเลขาฯ EEC และคณะทำงาน มีหน้าที่ขับเคลื่อน EEC ให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ เกิดการลงทุน เกิดการจ้างงานในพื้นที่ 3 จังหวัดทางภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

ดร.คณิต ให้สัมภาษณ์ล่าสุด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่าแทนที่ EEC จะกลายเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวพ้นจากประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลาง เป็นประเทศมีรายได้สูง ภายในปี 2572 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า แต่กลับปรากฏว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจใน 3 จังหวัด EEC ย่ำแย่กว่าอัตราการเจริญเติบโตของประเทศทั้งประเทศ

 ดร.คณิต แสงสุพรรณ
เอาล่ะ มาดูตัวเลขกัน 2562 EEC โต 0.2 เปอร์เซ็นต์ EEC ก็คือ 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เศรษฐกิจไทยโต 2.4 ปี 62 โตแค่ 0.2 ปี 63 ลบ 7.8 ผลกระทบของโควิด ขณะที่เศรษฐกิจไทยในภาพรวม ลบ 6.1 แต่ 3 จังหวัดนั้น ลบ 7.8 ปี 64 เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะโตถึง 1.2 เปอร์เซ็นต์ ปี 65 ผมว่าเจ๊งล่ะ

คุณคณิต พูดว่า นอกจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว สงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนใน EEC ในช่วงปี 61-64 มีการอนุมัติการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษไปแล้วกว่า 1.7 ล้านล้านบาท เงินลงทุน 80 เปอร์เซ็นต์ มาจากเอกชน ภาครัฐ 20 เปอร์เซ็นต์ ท่านผู้ชมครับ การอนุมัติเงินลงทุนไม่ได้แปลว่ามีเงินมาลงทุนแล้ว ก็คือแค่โครงการอนุมัติ เม็ดเงินยังไม่มา

จากสาเหตุเหล่านั้น EEC สูญเสีย GDP ของ EEC ไปแล้ว 1.7 แสนล้านบาท จุดต่ำที่สุดคือไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ภาพรวมประเทศไทยสูญเสียตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไปแล้ว 1.9 ล้านล้านบาท

ดร.คณิต พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ประเด็นสำคัญคือ (ท่านผู้ชมครับ เดี๋ยวผมจะตามมาเป็นเรื่องสุดท้าย) หนี้ครัวเรือนของไทยนั้นกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังใกล้แตะ 100 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP


ดร.ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ได้อ้างอิงว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนมีอยู่ 14.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89.3 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP ท่านผู้ชมครับ คนที่ต้องจมไปกับภาวะหนี้นั้น กระจายไปทั่วประเทศ หลากหลายสาขาอาชีพ ตำรวจ ครู ตัวเลขต้นปี 65 ตำรวจทั่วประเทศไทยเป็นหนี้ 245,535 ราย เรียกว่าเกือบจะทั้งกรมเลย ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วงเงินที่เป็นหนี้คือ 272,986 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วแต่ละคนมีหนี้คนละ 1.11 ล้านบาท ครูและข้าราชการครู เป็นหนี้จำนวนกว่า 9 แสนคน คิดเป็นมูลหนี้กว่า 1.4 ล้านล้านบาท เฉลี่ยแล้วมีภาระหนี้มากถึงรายละ 1.55 ล้านบาท


จากเรื่องหมู มาถึงพฤติกรรมของข้าราชการเฮงซวย และนักการเมืองที่โหลยโท่ย ไม่ได้ทำอะไรให้กับประเทศชาติเลย หมั่นที่จะหาแสง นักการเมืองหาแสง ข้าราชการประจำกวาดขยะเข้าสู่ใต้พรมเพื่อไม่ให้ดูว่าตัวเองด้อยความสามารถ แต่พอมีเรื่องขึ้นมา ทั้งข้าราชการประจำ และนักการเมือง เกิดพิกลพิการทางเสียง พูดไม่เป็น พูดไม่ออก ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น มาจนถึงของที่มันแพงทั้งแผ่นดิน มาจนถึงเศรษฐกิจโลกที่ชี้ให้เห็นว่ามันจะทำให้เรายิ่งลำบาก มาจนถึงหนี้ครัวเรือนที่มากมายมหาศาล

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ ผมพูดไปแล้วก็หาว่าผมให้ร้ายรัฐบาล แต่ท่านผู้ชมครับ ถ้าเรายอมรับความจริงว่ามันมีอย่างนี้ โดยที่ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานแล้วหาทางแก้ ข้าราชการประจำ ผมดูการประเมินการเจริญเติบโตของประเทศ จากข้าราชการประจำที่มีหน้าที่โดยตรงแล้ว ผมมาคำนวณทุกครั้ง ทุกๆ ครั้งที่เขาพูด ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่เขาพูด แม้กระทั่งกรมอุตุนิยมวิทยาที่ชอบทำนายว่า ปีนี้จะหนาวมาก จะหนาวนาน ผมก็ยังไม่รู้ว่าระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา ข้าราชการประจำ อธิบดีกรมปศุสัตว์ หมอดู และนักเศรษฐศาสตร์ ใครตอแหลเก่งกันแน่ แต่สรุปแล้ว ท่านผู้ชมครับ เราเป็นประชาชน เราต้องช่วยตัวเราเอง ประหยัด อย่าไปใช้จ่ายอะไรที่ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นอย่าใช้ รักษาตัวเองให้ดี

ท่านผู้ชมครับ ก่อนจะจบรายการนี้ ผมอยากจะฝากวาทะที่เฉียบคมมาก ผมเรียกว่าวาทะแห่งปี 2565 เลยก็ได้ จำคำพูดเอาไว้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านลั่นสัจจะวาจาให้กับนักข่าวทุกคนแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่ซื้อเสียง สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น