xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : เปิดหน้าชก "แก๊งด้อยค่ากัญชา"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 8 ก.ค.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่เล่าในวันนี้ ได้แก่

- เปิดหน้าชกแก๊งด้อยค่า “กัญชา” เบื้องหน้าเบื้องหลังมีใครบ้าง แล้วใครบ้างที่ทำตัวเป็นอีแอบ รวมจนถึงสื่อมวลชนบางคนที่รับงานเขามา
- รัฐบาล PR ไม่เก่ง แต่งบฯ กรมประชาสัมพันธ์ปีละ 2,400 ล้านสู้โทรศัพท์แค่ 3 เครื่องของ “ชัชชาติ" ไม่ได้
- เมื่อความจริงปรากฎ? แท้ที่จริงแล้วโรคระบาดถูกผลิตจากแล็บของประเทศ...?
- MiG29 ของพม่าบินล้ำน่านฟ้าไทย ใครหลายคนเกิดอาการรักชาติขึ้นมาทันที เบื้องลึกเรื่องนี้เป็นอย่างไร แล้วประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคืออะไร
- วิวาทะเรื่องราคาน้ำมันจากสองมุม ระหว่าง กรณ์ จาติกวณิช กับ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ 



คำต่อคำ SONDHI TALK EP.145 [8 ก.ค. 65] : เปิดหน้าชก "แก๊งด้อยค่ากัญชา"
ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK<
สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ท่านผู้ชมครับ ช่วงนี้สถานการณ์การแพร่กระจายของโรคระบาดระลอกใหม่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกแล้ว สาเหตุที่สถิติผู้ติดเชื้อจากการรายงานของ ศบค. ยังดูต่ำอยู่ เพราะว่ามีอยู่จำนวนมาก มากๆ เลย ที่ติดแล้วไม่ได้รายงานให้ทางการทราบ เพราะส่วนใหญ่มีอาการน้อย ตรวจ ATK แล้วมี 2 ขีด ก็รักษากันเองด้วยฟ้าทะลายโจร ไม่มีฟาวิพิราเวียร์ และสมุนไพรอื่นๆ จนมีการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจริงๆ มีมากกว่าที่ทางการแถลงถึงสิบเท่า ด้วยเหตุนี้ ผมก็เลยจะขอแนะนำให้ท่านผู้ชมหาฟ้าทะลายโจรติดบ้านเอาไว้ และฟ้าทะลายโจรที่ผมแนะนำนั้น ของอาจารย์ปานเทพ เพราะว่าคัดเฉพาะใบเอามาทำ สามารถจะสั่งซื้อได้ง่ายๆ ที่ Shopee พิมพ์คำว่า "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" ก็เจอฟ้าทะลายโจร ของอาจารย์ปานเทพ


ส่วนท่านที่ติดมาแล้ว และมีอาการไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัว เขาเรียกว่า ลองโควิด การรับประทาน "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ซึ่งเป็นสูตรยาไทย ยาอายุวัฒนะ ตามตำรา "แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์" ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คิดค้นโดย "ขรัวพ่อฉิม" (หลวงพ่อฉิม) แห่งวัดชัยชนะสงคราม ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการ "ลองโควิด" ได้เช่นกัน


"ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ถ้าสนใจ inbox มาในเฟซบุ๊ก SONDHI TALK ได้เหมือนเดิมครับ

นอกจากนี้แล้ว อีกเรื่องหนึ่งต้องเรียนให้ทราบว่า ท่านผู้ชมที่สนใจเรื่องรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถไฟฟ้า ช่วงนี้จะมีการจัดงานจำหน่ายรถใหม่ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้ว รับประกันคุณภาพ FAST AUTO SHOW THAILAND ครั้งที่ 10 วันที่ 6-10 กรกฎาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา เข้างานฟรี

รถใหม่ป้ายแดงของค่ายชั้นนำมีให้เลือกและลองขับหลายรุ่น รถยนต์มีการรับประกันซื้อคืน 100 เปอร์เซ็นต์ โซน EV จาก Ora และสินค้าจาก Dyson , GARMIN เบาะนั่งเด็กจาก คิดโด แปซิฟิค ซื้อรถทุกๆ 1 แสนบาท ได้รับคูปอง 1 ใบ เพื่อเอาไปลุ้นรับบัตรเติมน้ำมัน ปตท. 1 แสนบาท ท่านผู้ชมครับ ลิตรละ 50 บาท ลองเสี่ยงโชคดู จองรถทุกวัน ลุ้นบัตรน้ำมันวันละ 1 พันบาท วันละ 5 รางวัล


ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้มีเรื่องราวหลายๆ เรื่องราวที่ผมคิดว่าน่าสนใจมากๆ ประการแรก รัฐบาลลุงตู่ กับผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ (ดีอีเอส) ออกมาบ่นพึมพำว่า รัฐบาลได้ทำงานเอาสายไฟฟ้าลงดินมาเยอะแล้ว ผู้ว่าฯ กทม. คนเก่าก็ทำตลอดเวลา แต่การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลไม่ดี แล้วก็พีอาร์ไม่เก่ง ผมก็เลยเอาเรื่องนี้มาพูด หงายไพ่ให้ท่านผู้ชมดูว่า รัฐบาลมีงบฯ ประชาสัมพันธ์ 2 พัน 4 ร้อยล้านบาท 8 ปี ที่ใช้มา รวมทั้งปีหน้าด้วย เบ็ดเสร็จแล้วประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แล้วทำไมพีอาร์ไม่เก่ง ที่ไม่เก่งเพราะอะไร ทำไมผู้ว่าฯ ชัชชาติ ใช้อุปกรณ์แค่โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ก็สามารถทำให้คนติดตามรายการได้เยอะ

อีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องสั้นๆ ไม่ใช่เรื่องยาว วิวาทะกันเรื่องน้ำมันจากสองมุม ระหว่าง คุณกรณ์ จาติกวณิช กับ คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรองนายกรัฐมนตรี

เรื่องที่สาม เป็นเรื่องที่ผมตั้งใจจะพูด ความจริงก็ตั้งใจพูดทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้มันมีการต่อเนื่องจากอาทิตย์ที่แล้ว ผมจะเปิดหน้าชกพวกแก๊งด้อยค่ากัญชา ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังมีใครบ้าง แล้วใครบ้างที่ทำตัวเป็นอีแอบ รวมจนถึงสื่อมวลชนบางคนที่รับงานเขามา แล้วก็ปากสั่น มือสั่น ตอบโต้ผมทุกเม็ด

อีกข้อหนึ่ง ข้อที่สี่ ผมจะเอาความจริงว่านักวิชาการชาวอเมริกา โปรเฟสเซอร์ เจฟฟรีย์ แซคส์ (Prof. Jeffrey Sachs) จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากในวงการวิชาการ เขาแฉว่า โรคระบาดที่เราเจอทุกวันนี้ มันมาจากแล็บของอเมริกา ไม่ได้มาจากธรรมชาติ

เรื่องที่ห้า เป็นเรื่องที่ท่านผู้ชมคงอยากจะฟังมาก เพราะว่าเรามีดรามาเรื่อง เครื่องบิน MiG-29 ของพม่า ที่ข้ามเข้ามาในเขตแดนไทยประมาณ 4-5 กิโลเมตร เป็นเรื่องเป็นราว มีคนบอกว่าทำไมไม่ยิงมันให้ตก โน่นนี่นั่น เกิดอาการรักชาติกะทันหันขึ้นมาทันที ผมก็เลยจะเอาประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ไม่เคยมีใครพูดเลยในเรื่องนี้ เอามาเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง



ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม อาทิตย์ที่แล้ว ที่ผมออกรายการพูดเรื่องกัญชาไป ปรากฏว่าขบวนการเตะตัดขา ด้อยค่ากัญชา นั่งกันไม่ติด ไม่ว่าจะเป็นสื่อคนๆ หนึ่งที่รับงานมาเพื่อที่จะด้อยค่ากัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรับงานของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเพื่อมาเตะตัดขาพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่ง หรือชมรมแพทย์ชนบท บางคนที่กล่าวหาผม กับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รับงานภูมิใจไทยมาสู้ มาปกป้องเรื่องกัญชา ผมไม่อยากจะเรียกพวกท่านว่า พวกท่านนี่โง่ดักดาน โคตรโง่เลย โง่แล้วยังโชว์โง่ต่อ ถ้าพวกท่านหรือสื่อมวลชนที่ออกรายการตัวเองแล้วมาตอบโต้ผม ไปค้นหาหลักฐานย้อนหลังดูได้ ผม กับอาจารย์ปานเทพ สู้เรื่องกัญชา สมุนไพรไทย และกัญชา ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคการเมืองไหนๆ จะเข้ามาเล่นเรื่องนี้อีก พวกผมสู้มาเกือบยี่สิบปี เพราะว่าพวกผมเชื่อในภูมิปัญญาตะวันออก

ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว หลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่ผมก่อตั้ง ทุกวันจะพาดตรงหน้าแรกทุกวันเลยว่า "เพื่อภูมิปัญญาตะวันออก" เข้าใจตรงกันนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กล่าวหาผมว่าทำงานกับพรรคภูมิใจไทย ผมสู้เรื่องนี้ สมัยนั้นพรรคภูมิใจไทยยังไม่มีเลย แล้วเผอิญผมเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยได้ต่อสู้ในเรื่องนี้ หยิบประเด็นที่ไม่มีใครสนใจที่จะจับขึ้นมา และก็เป็นแนวทางที่ผมเห็นด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าผมสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่ใช่ คนบางคนรับเงินรับทองมาจากพรรคเพื่อไทย สื่อมวลชนบางคน อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมตอบว่ารับงานมาหรือเปล่า คนๆ นั้นควรจะอายบ้าง เพราะไม่ได้รับแค่เฉพาะเงินทองจากพรรคเพื่อไทย ยังกินเงินเดือนจากองค์กรธุรกิจใหญ่ๆ อีกประมาณเดือนละ 2 แสนบาท และอีกหลายที่ ผมขี้เกียจเอามาพูด


ท่านผู้ชมครับ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ผมต้องพูดถึงภรรยาสุดที่รักของผม อาจารย์จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล คู่ชีวิตซึ่งล่วงลับไปแล้ว อาจารย์จันทน์ทิพย์ หรือ ปุ๊ เคยเป็นอาจารย์ประจำสาขาาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มศว ประสานมิตร พอเธอเกษียณอายุแล้ว เธอก็มาช่วยผมทำโครงการ "ผู้จัดการสุขภาพ" เพื่อช่วยเหลือ ดูแลสุขภาพตามภูมิปัญญาของแพทย์แผนไทย แผนจีน และแผนตะวันออก โดยพยายามลดการพึ่งพาแพทย์แผนตะวันตก และยาตะวันตก ให้มากที่สุด

2559 อาจารย์จันทน์ทิพย์ ป่วยหนักจากโรคมะเร็ง ก็ได้กัญชานี่ล่ะที่คอยช่วยระงับและบรรเทาความปวด รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน อยู่กับครอบครัว ลูกหลาน คนที่รัก ไม่ต้องนอนทรมานเดียวดายอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นผมยังคิดเลยว่า ถ้าเป็นตอนนี้เราใช้กัญชารักษาอาการป่วยของอาจารย์จันทน์ทิพย์ ได้ ตอนนั้นช้าไปเสียแล้ว เพราะถ้ากัญชาไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย มีการวิจัย ทดลองในการรักษาโรคต่างๆ ได้กว้างขวางขึ้นเหมือนอย่างในต่างประเทศ และประชาชนสามารถใช้ได้อย่างแพร่หลายกว่านี้ อาจารย์ปุ๊ หรือ จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล ภรรยาผม ก็มีโอกาสจะหายจากมะเร็งได้ แทนที่จะไปพึ่งแพทย์แผนตะวันตก เสียเงินไปมากมายมหาศาล กลับได้แต่ความว่างเปล่า


ผมยังจำได้เลยตอนนั้น ผมจะหากัญชาได้ที่ไหน ก็เลยต้องหาพรรคพวกขนกัญชามา ต้นกัญชามา แล้วเอามาเคี่ยวในหม้อที่บ้าน ให้กลายเป็นน้ำมันกัญชา เด็กๆ ที่มาช่วยผมเคี่ยว เมากัญชา เดินโซซัดโซเซหมด เพราะว่ามันมีกลิ่นลอยขึ้นมา แล้วเอาไปรักษาอาจารย์จันทน์ทิพย์ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตอนนั้น ซึ่งเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนก็น่ารัก เพราะเขาไม่สามารถจะแก้ปัญหาอาการปวดได้ เขาบอก คุณสนธิ ทำไปเลย แต่ผมจะปิดตาข้างหนึ่งนะ ก็เอาน้ำมันกัญชารักษาอาการปวดของอาจารย์ปุ๊ ทำให้เธอไม่ต้องปวดแบบทรมานอีก

แต่เนื่องจากว่าโรคมะเร็งของเธอนั้นมันก้าวเข้าสู่ขั้นสุดท้ายแล้ว รักษาไม่ได้ ซึ่งถ้ารู้ตั้งแต่ต้น แล้วถูกกฎหมาย กัญชาไม่ผิดกฎหมาย หาได้ ผมเชื่อว่าภรรยาของผมยังคงมีชีวิตอยู่ในวันนี้ นี่คือประสบการณ์ของผม ของครอบครัวผม คนที่ผมรัก นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงประชาชนชาวบ้านทั่วไปที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงกัญชา ต้องวิ่งไปหาหมอ วิ่งไปหาโรงพยาบาล จะหาหมอทั้งทียากแสนยาก ลำบากแสนลำบาก เอาแค่ผู้ป่วยมะเร็งอย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องพูดถึงโรคอื่นที่กัญชามีศักยภาพในการรักษาได้อีกมากมาย


ท่านผู้ชมครับ รอคิวหมอ รอคิวฉายแง รอคิวทำคีโม รอติดเอ็กซเรย์ รอทำ MRI รอคิวสารพัด นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายและค่าเวลาของคนป่วยและญาติอีกสารพัด อาจารย์ปุ๊ ไปนอนโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โรงพยาบาลเอกชน เพื่อรักษา ค่ารักษาก็เกือบ 4 ล้านบาท ท่านผู้ชมครับ ทั้งๆ ที่ตรงหน้าเรา พืชสมุนไพรอย่างกัญชาที่ประเทศเราปลูกได้ เป็นพืชประจำถิ่น ถ้าใช้ได้ถูกทาง ถูกวิธี มีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ ก็จะมีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยได้จำนวนมากมายมหาศาล มีรักษาโรคหลากหลายชนิด ก่อประโยชน์ให้กับคนไทยอย่างมากมายหลายสิบล้านคน ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนคนยากไร้ ลดการนำเข้ายา อุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้หลายหมื่นล้านบาท ช่วยประหยัดงบประมาณ ลดการนำเข้ายาฝรั่ง เครื่องมือแพทย์ฝรั่ง อีกไม่รู้เท่าไร

แต่ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่า พวกสื่อบางคน หมอแก่ๆ แพทย์ชนบท หมอที่ไหว้ฝรั่งเป็นพ่อ มันไม่สนใจหรอก แถมมันยังดิสเครดิตกัญชา ทำให้กลับไปเป็นยาเสพติดให้ได้


ท่านผู้ชมครับ พวกผมไม่ยอมหรอก ไม่ยอมหรอก ผมจะสู้เรื่องนี้จนกระทั่งผมไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะสู้กับผม คุณคิดให้ดีๆ เพราะผมจะตามล้างตามเช็ดพวกคุณ พวกจอมโกหกทั้งหลาย บิดเบือน ผมท้าตรงนี้เลย เอาไหม ไม่ว่าหมอที่ไหน กล้าไหม เสนอมาเลย ชาตรี บานชื่น หรือใครก็ได้ หรือว่าแพทย์ชนบทคนไหนก็ได้ที่ปากเก่งนักในหน้าเฟซบุ๊กตัวเอง มาดีเบตเรื่องนี้กับคนของผม อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เวทีไหนก็ได้ นี่ผมท้านะ ผมท้าพวกคุณนะ หรือว่ คุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ คุณเป็นสื่อมวลชน ผมเป็นสื่อมวลชน หาเวทีกลางมาดีเบตกันไหม ตัวต่อตัว หมัดต่อหมัด น้ำหนักต่อน้ำหนัก ถ้าแน่จริงคุณรับคำท้าผมสิ ผมเชื่อว่ามีคนพร้อมจะจัดให้เยอะเลย หรือว่าจะเปิดห้องโถงหอประชุมธรรมศาสตร์ หรือที่ประชุมโรงแรมไหนแห่งหนึ่ง คุณกับผมมานั่งซดกัน ผมว่าคุณไม่กล้า คุณเชื่อไหม คุณดนัย คุณปอดแหก แล้วผมจะเตือนคุณอย่างหนึ่ง ผมเห็นใจคุณ ผมสงสารคุณ มือที่คุณสั่นๆ เวลาคุณขีดเขียนอะไรน่ะ ผมเข้าใจว่าคุณน่าจะเป็นพาร์กินสัน ผมจะบอกความรู้ให้คุณนะ กัญชา รักษาโรคพาร์กินสันได้ คุณดนัย เชื่อผมสิ ผมดูหน้าตา โหงวเฮ้งคุณแล้ว สุขภาพคุณไม่ค่อยดีเลย


เพราะฉะนั้นแล้ว ใครมาว่าผมรับงานภูมิใจไทย ก็รับรู้ไว้ด้วย รับรู้ไว้ด้วย ผม กับอาจารย์ปานเทพ สู้เรื่องน้ำมันมะพร้าวมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เขาไม่ยอมรับกัน จนกระทั่งวันนี้น้ำมันมะพร้าวมีที่เกิดในประเทศไทย และทุกคนยอมรับว่าน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์กว่าน้ำมันพืชทุกชนิด ตัวผมเองทานน้ำมันมะพร้าววันละ 4 ช้อนโต๊ะ เป็นเวลาเป็นสิบปีแล้ว ไข้หวัดใหญ่ผมไม่เคยเป็นเลย ก็เพราะน้ำมันมะพร้าว และผม กับอาจารย์ปานเทพ คุณรสนา สู้เรื่องฟ้าทะลายโจร สู้เรื่องกัญชา สู้เรื่องสมุนไพรนับสิบๆ ปีมาแล้ว โธ่! คนที่ว่าผม นอกจากโง่แล้ว ยังจะโชว์โง่อีก พวกคุณเบิกเนตร เปิดหูเปิดตา แล้วศึกษาบ้างว่าพวกผมทำกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำ แล้วผมจะบอกให้รู้ ทุกวันนี้ประชาชนบริจาคเงินมาเพื่อให้ผมซื้อฟ้าทะลายโจรแจกคนไทยในประเทศไทย บริจาคมา 80 กว่าล้านบาท ผมแจกฟ้าทะลายโจรไป คนที่รอดจากฟ้าทะลายโจรของผมมีเป็นแสนๆ คน จนวันนี้ยังมีคนติดต่อมาเพื่อขอฟ้าทะลายโจร ซึ่งตอนนี้ใกล้หมดแล้ว


จำเป็นต้องพูดถึงคุณดนัย คุณดนัย แก้ตัวว่า ที่รายงานข่าวแง่ลบของกัญชาเป็นรายวัน เพราะกลัวจะเปิดเสรีกัญชา จะส่งผลร้ายแรงกับเด็กและเยาวชน คุณดนัย จำไว้นะ เดี๋ยวผมจะเอาความจริง ข้อเท็จจริงอันหนึ่งมาตีหน้าคุณ ไม่ได้คัดค้านกัญชาทางการแพทย์ เอาล่ะ มาแล้ว "ไม่ได้คัดค้านกัญชาทางการแพทย์" คุณดนัย คุณต้องเบิกเนตรและเปิดกะโหลกของคุณ เดี๋ยวผมจะเอาข้อมูลมา ที่คุณบอกว่าไม่ได้คัดค้านกัญชาทางการแพทย์ แต่ต้องจ่ายผ่านโรงพยาบาล ผ่านคลินิก โดยแพทย์เป็นคนสั่งจ่าย คุณดนัย ครับ คุณนี่โง่จริงๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ เพราะที่ผ่านมาหลายๆ ปี คุณดนัย รู้ใช่ไหม หรือคุณไม่รู้ ถ้าคุณไม่รู้ ผมจะบอกคุณเอาบุญ

กัญชาเปิดให้ใช้ทางการแพทย์กัน ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ปัจจุบัน คุณดนัย รู้หรือเปล่าว่าหมอแพทย์แผนปัจจุบัน หมอแพทย์แผนตะวันตก มันไม่จ่ายกัญชาให้ผู้ป่วยไงเล่า ไม่จ่าย ทั้งๆ ที่เขาอนุญาตให้ใช้กัญชารักษา แต่มันไม่จ่าย เพราะมันเชื่อในยาฝรั่ง เชื่อในคีโม เชื่อในโน่นในนี่ ทั้งๆ ที่เขามีคู่มือ มีกัญชา มีสารสกัดกัญชาที่พร้อมจะให้แพทย์ใช้เหลือเฟือ


แต่แพทย์แผนปัจจุบันไม่จ่ายกัญชา จนกัญชากับสารสกัดที่กระทรวงสาธารณสุขผลิตออกมา กลายเป็นยาหมดอายุ เหลือทิ้งมหาศาล ที่ไม่จ่าย ไม่ใช่เพราะหมอเหล่านี้ไม่รู้ จริงๆ ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจจะทำความรู้ความเข้าใจ งานวิจัยก็ไม่อ่าน ผลการศึกษาต่างประเทศก็เน้นแต่เฉพาะที่เขาพูดถึงผลเสีย เพราะอะไร ? เพราะกัญชามันไม่ใช่ยาฝรั่ง มันไม่มีเหมือนกับฟ้าทะลายโจร ไม่ใช่ฟาวิพิราเวียร์ ยาฝรั่ง ไม่มีเซลส์บริษัทยาสาวๆ สวยๆ หน้าตาจิ้มลิ้มนั่งรอหน้าห้อง ไม่ได้มีเงินพาหมอและครอบครัวไปสัมมนา พาไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งทำกันเป็นประจำ จ่ายกัญชาหรือสารสกัดจากกัญชาแล้วมันไม่มีค่าคอมมิชชันเหมือนยาฝรั่งไง ท่านผู้ชม

ไม่ได้แตกต่างกว่ากรณีฟ้าทะลายโจรเลย ตอนที่โรคระบาดนี้ระบาดหนักๆ คนต้องนอนอยู่บ้านเพราะไม่มีเตียง หมอที่เข้าถึงฟ้าทะลายโจร แต่ไม่ยอมจ่าย จนทุกวันนี้ก็ยังจ่ายเฉพาะฟาวิพิราเวียร์ ฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาที่แม้กระทั่งประเทศผู้ผลิตอย่างญี่ปุ่น ยังไม่ใช้เลย งานวิจัยกี่ประเทศ แต่หมอไทยนี่ล่ะใช้ แถมมาดิสเครดิตฟ้าทะลายโจรอีก ส่งผลต่อตับ ผลโน่น ผลนี่ คุณดนัย คุณเคยรู้จักฟ้าทะลายโจรไหม เหมือนกับคุณเชื่อหมอฝรั่ง หรือแพทย์แผนปัจจุบัน ที่แอบป้อนข้อมูลผิดๆ ของกัญชามาให้คุณ เฮ้ย! คุณดนัย ผมสู้มาก่อนคุณนะ นานมาก ผมสู้มาเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยรับงานใคร คุณดนัย คุณจำเอาไว้ ส่วนคุณเคยรับงานใครบ้างหรือเปล่า ตัวคุณรู้ตัวคุณเอง ผมไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวพูดแล้วคุณจะโกรธ มือคุณจะสั่นมากขึ้น แล้วคุณจะระงับอารมณ์ไม่ได้ ผมกลัวคุณจะหัวใจวายตาย เพราะคุณเอาอารมณ์ใส่เข้าไปโดยที่คุณไม่เอาข้อเท็จจริงมา

เพราะอะไร ? เพราะฟ้าทะลายโจรมันไม่มีค่าคอมมิชชัน ไม่มีผลประโยชน์เหมือนยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ วัคซีน ATK อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไงล่ะ คุณคงเคยได้ยินมั้ง แพทย์ชนบทมีเรื่องเกี่ยวพันกับชุดตรวจ ATK ราคาชุดละ 120 บาท ผมขี้เกียจเอาเรื่องนี้มาพูด เดี๋ยว ผมกำลังสะสมข้อมูลในเรื่อง Home Isolation ที่แพทย์ชนบทส่งคนไข้ไปอยู่ที่สิชล แล้วก็ ATK ใจเย็นๆ ถ้ายังซ่าอยู่ เดี๋ยวผมจะขุดข้อมูลนี้มาฟาดกบาลพวกคุณ

ท่านผู้ชมครับ พอแพทย์แผนไทยกว่า 3 หมื่นคน มีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการณ์ จะใช้กัญชามารักษาคนไข้ คุณก็กีดกันเขา ไม่ให้เขาเข้าถึง คุณดนัย ยกงานวิจัยทางการแพทย์ เพจ "ใกล้มิตรชิดหมอ" ยกคำพูดของหมออัมพร หมอชนบท


หมออัมพร อดีตเป็นอธิบดีกรมการแพทย์แผนโบราณ ผมผิดหวังในตัวแกมาก ผมสู้กับแกในเรื่องของฟ้าทะลายโจร นี่แกไปอยู่กรมสุขภาพจิต ทะลึ่งมาด้อยค่ากัญชาอีก ยังไม่เข็ดอีกหรือหมออัมพร ผมรู้ว่าคุณใฝ่ฝันที่จะนั่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข คุณนั่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขเมื่อไร นั่นคืออนาคตที่มืดมัวของวงการสาธารณสุขเมืองไทย คุณไม่ควร คุณอยู่กับสมุนไพรไทยมาตั้งนาน เป็นอธิบดีแพทย์แผนไทย คุณน่าจะรู้จักกัญชาดี นี่คุณทะลึ่งมาด้อยค่าเขาอีก ทั้งๆ ที่คุณเคยนั่งอยู่ที่นั่น ผมรู้ว่าคุณเป็นคนโปรดของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ผมไม่สนหรอก ได้ข่าวว่าคุณอนุทิน วางตัวคุณเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผมเรียนคุณอนุทิน ณ วันนี้ ด้วยว่า คนที่คุณจะวางตัวเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข คือคนที่มาด้อยค่างานที่คุณอนุทิน กำลังทำอยู่ ยังสมควรจะส่งเสริมต่อไปอีกหรือเปล่า


ผมไม่อยากจะตอบโต้คุณ คุณดนัย ผมเข้าใจคุณ คุณลองใช้กัญชาดูก็แล้วกัน คุณดนัย แล้วอาการพาร์กินสัน มือสั่นของคุณก็จะหาย

เอาล่ะ เรามาดูตัวเลขกันชัดๆ หน่อย วันที่ 13-15 มิถุนายน ผลสำรวจของนิด้าโพล ผมเคยเรียนให้ท่านผู้ชมแล้วใช่ไหมว่าบรรดาโพลทั้งหมดที่ออกมา นิด้าโพล เชื่อถือได้มากที่สุด นิด้าโพล ทำผลสำรวจออกมาว่า ประชาชนเห็นด้วยอย่างมากกับการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด สูงถึง 34.81 เปอร์เซ็นต์ แล้วยังมีประชาชนค่อนข้างเห็นด้วยอีก 23.74 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าอะไร ? แสดงว่าประชาชน 58.55 เปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยว่ากัญชามีประโยชน์ ปลดล็อก ที่น่าสนใจ ใครก็ตามที่ด้อยค่ากัญชา ฟังตัวเลขนี้ไว้ดีๆ ของผมนี่มาพร้อมตัวเลข มาพร้อมแหล่งที่มาของการยืนยันว่าข้อมูลนี้มาอย่างไร ไม่ใช่มาเพียงเพราะหมอบางคนแอบกระซิบสื่อมวลชนบางคนว่ากัญชามันอย่างโน้นอย่างนี้นะ แล้วสื่อมวลชนนั่นก็เอาคำพูดของหมอมาออก


นิด้าโพล บอกว่า ประชาชนคนไทย 32.98 เปอร์เซ็นต์ เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกัญชามาแล้ว ซึ่งถ้าผลสำรวจนี้ถูกต้องแม่นยำ แปลว่าในจำนวนคนไทย 70 ล้านคน มีคนไทยที่เคยใช้กัญชามาแล้ว 18.8 ล้านคน ท่านผู้ชมครับ ผลสำรวจนี้แสดงว่ามีคนไทย 18.8 ล้านคน ใช้กัญชามาแล้ว ในจำนวน 18.8 ล้านคนนั้น 60.65 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 11.4 ล้านคน เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกัญชาในเรื่องการใช้กัญชาเพื่อประกอบอาหารและเครื่องดื่ม 30.56 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 6.69 ล้านคน ระบุว่า ใช้เพื่อสันทนาการ เสพ หรือสูบกัญชา 21.06 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 3.96 ล้านคน ระบุว่า เคยใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค นี่คือผลโพลของนิด้านะครับ 6.94 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1.3 ล้านคน ระบุว่า เคยปลูกกัญชา


พวกขบวนการเตะตัดขา พวกคุณอ้างว่าไม่ได้คัดค้านกัญชาทางการแพทย์ พวกคุณมาดูตัวเลขที่น่าสนใจของผู้ใช้กัญชาทางการแพทย์ ที่ตามนิด้าจะมี มีอยู่ 3.96 ล้านคน เกือบ 4 ล้านคน ใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อรักษาตัว

ตัวเลขบนดิน ที่เปิดเผย โครงการวิจัยสถานการณ์การใช้กัญชาทางการแพทย์ ระยะที่ 1 ปี 2562-2563 ระบุว่า มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ 442,775 คน แปลว่าอะไร ? แปลว่าผู้ใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรคส่วนใหญ่ นี่เขามีแค่ 4 แสนกว่าคนนะ แต่คนที่ใช้กัญชาทางการแพทย์มีตั้งเกือบๆ 5-6 ล้านคน แสดงว่าผู้ที่ใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ใช้กัญชาใต้ดิน เพราะซื้อหาบนดินไม่ได้ ก็เลยต้องมีใต้ดิน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ก็เพราะหมอแก่ๆ คอยขวาง


ท่านผู้ชมครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว 2562 แพทยสภาตั้งคนที่มีอคติต่อกัญชา อย่างนายแพทย์ชาตรี บานชื่น เป็นประธานอนุกรรมการกัญชา ส่วนรัฐมนตรีฯ สาธารณสุขในขณะนั้นที่หมอชาตรี ได้เป็นประธานอนุกรรมการกัญชา ชื่อ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร ปรากฏว่า พอหมอชาตรี บานชื่น มาเป็นประธานอนุกรรมการกัญชาปรากฏว่าหมอที่จ่ายกัญชาเพื่อรักษาคนไข้ ที่อนุญาตแล้ว ทยอยถูกร้องเรียนหมด เช่น หมอประเสริฐ มงคลศิริ จ่ายกัญชาที่โรงพยาบาลท่าฉาง แล้วเขาจ่ายตามนโยบายรัฐบาล แต่แพทยสภาตั้งกรรมการสอบ 13 ครั้ง ไม่พบมีความผิด ล่าสุดตั้งอีกครั้งหนึ่ง เป็นครั้งที่ 14 โดยนายแพทย์ชาตรี บานชื่น มาเป็นประธานสอบอีก เมื่อหมอประเสริฐ คัดค้าน ประธานอนุกรรมการสอบว่ามีอคติ แพทยสภาที่มีหมอแก่ๆ คุมอำนาจกลับนิ่งเฉย แล้วทำให้เป็นชนักติดหลังแพทย์แผนปัจจุบันที่จ่ายกัญชา


ท่านผู้ชมครับ ถึงแม้ว่าจะมีคลินิกและโรงพยาบาลจำนวนหลายพันแห่งได้รับอนุญาตให้จ่ายกัญชาได้ แต่รัฐผูกขาดกัญชาทั้งหมด ไม่ขายให้คลินิกเหล่านี้ ขณะที่โรงพยาบาลของรัฐ ภาครัฐจ่ายกัญชาไปน้อยมาก เพราะหมอแผนปัจจุบันกลัวโดนสอบเหมือนหมอประเสริฐ จ่ายตามนโยบาย โดนหมอชาตรี บานชื่น ที่แพทยสภาตั้่งขึ้นมาเป็นประธานอนุกรรมการกัญชา สอบ 13 ครั้ง ต่อด้วยครั้งที่ 14 คุณสอบอะไรกันมากมายนัก 13 ครั้ง ไม่ผิด แล้วคุณยังสอบครั้งที่ 14 คุณบอกว่า ที่ต้องสอบเพราะว่าคุณผิด ที่คุณไม่ผิด ก็เลยต้องสอบให้คุณผิด

โรงพยาบาลรัฐจ่ายกัญชาไปน้อย หมอแผนปัจจุบันกลัวโดนสอบ นอกจากนั้นแล้วหมอบางส่วนยังมีผลประโยชน์กับบริษัทยา จ่ายแต่ยาฝรั่ง ผู้ป่วยใช้กัญชาไม่สามารถเข้าถึง เขาก็เลยต้องลงหนีใต้ดิน ไปหากัญชาที่ใต้ดิน แต่ท่านผู้ชมครับ ตรงนี้ล่ะคือปัญหา กัญชาใต้ดินเกือบทั้งหมดปนเปื้อนด้วยสารพิษ ยาฆ่าแมลง และโลหะหนัก ผู้บริโภคไม่ได้รับการคุ้มครองในเรื่องคุณภาพ ราคา ใครโชคร้ายถูกตำรวจ เจ้าหน้าที่จับ รีดไถ ผมถามว่าคนกลุ่มนี้ นายแพทย์ปิยะสกล นายแพทย์ชาตรี และบรรดาหมอแก่ๆ รับผิดชอบกับชีวิตพวกเขาได้ไหม คุณทั้งสองคนอายุน้อยกว่าผม นายแพทย์ปิยะสกล อ่อนกว่าผม 1 ปี นายแพทย์ชาตรี อ่อนกว่าผม 3 ปี

เอาล่ะ เรามาดูของจริงบ้าง ผมมีทีเด็ดให้ท่านผู้ชม ให้คุณดนัย ด้วย และให้คนที่เตะตัดขาเรื่องกัญชา เตะตัดขาการที่เอากัญชาให้ถูกกฎหมาย

พวกหมอใหญ่หลายๆ คนห่วงสุขภาพประชาชน ห่วงเด็ก ดรามา พูดไปน้ำตาคลอไป เผอิญผมไปเปิดเอกสารรายงานประจำปีของบริษัท ไทยเบฟ ท่านผู้ชมครับ ไทยเบฟ คืออะไร ? ไทยเบฟ คือบริษัทที่ผลิตเหล้า เบียร์ช้าง เหล้ายี่ห้อต่างๆ อุบ๊ะ! พระเจ้าจอร์จ ผมเจอหมอที่เป็นห่วงประชาชน เจอหมอที่เป็นประธานอนุกรรมการเรื่องกัญชา ที่สอบหมอประเสริฐ 13 ครั้ง แล้วเจอหมอปิยะสกล พวกนี้นั่งเป็นกรรมการของบริษัท ไทยเบฟ


คุณห่วงเด็กเรื่องกัญชา แต่คุณเข้าไปนั่งเป็นกรรมการบริษัทที่ผลิตเหล้าและมอมเมาประชาชน ทำให้ประชาชนกินแล้วติด เอ๊ะ มันอะไรกันแน่! คุณตอบผมหน่อยได้ไหม คุณหมอชาตรี คุณหมอปิยะสกล คุณรู้ใช่ไหมว่า เหล้า บุหรี่ เบียร์ เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ต่อสุขภาพ ผมเคยเอารายงานให้คุณดูแล้วไง ว่าคนติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดมากกว่าคนติดกัญชา เหล้า บุหรี่ กัญชา กัญชาคนติดน้อยที่สุด แต่หมอชาตรี บานชื่น และหมอปิยะสกล คนที่เป็นห่วงเป็นใยสุขภาพประชาชนเหลือเกิ๊น ... เหลือเกิน ไปนั่งเป็นกรรมการบอร์ดของบริษัทที่ผลิตเหล้า ผลิตเบียร์


ท่านผู้ชมครับ คุณดนัย ครับ ช่วยตอบคำถามผมหน่อยได้ไหม มันเกิดอะไรขึ้น ? ผมไม่อยาก ผมไม่กล้าพูดว่าคนพวกนี้หน้าไหว้หลังหลอก อาจจะไม่ดี ไม่เหมาะ เอาเป็นว่าอย่างนี้ดีกว่า ก่อนจะพูดเรื่องอะไร ก่อนจะไปว่าคนโน้นคนนี้ เปิดตู้เสื้อผ้าตัวเองดูหน่อยได้ไหมว่ามีโครงกระดูกซ่อนไว้หรือเปล่า วันนี้ผมต้องด้อยค่าคุณหมอชาตรี บานชื่น และคุณหมอปิยะสกล ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณรุ่นน้องผม อายุน้อยกว่าผม ผมต้องด้อยค่าคุณจริงๆ เพราะการกระทำ การแสดงออกของคุณ กับสิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบัน มันพิสูจน์ว่าคุณหน้าไหว้หลังหลอก

ท่านผู้ชมครับ ผลนิด้าโพล 30.56 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวนประชาชน 6.69 ล้านคน ระบุว่า คน 6 ล้านกว่าคน เคยใช้เพื่อการเสพหรือสูบกัญชา ก็อาจใช้เพื่อสันทนาการ ที่ขบวนการเตะตัดขากัญชาเป็นห่วงมากที่สุด

เอาล่ะ ท่านผู้ชม เรามาลองดูตัวเลขการเข้าบำบัดของผู้เสพหรือเกี่ยวข้องกับกัญชา 2561 เข้าบำบัด 13,367 คน ปี 2562 เข้าบำบัด 16,808 คน ปี 2563 เข้าบำบัด 10,264 คน ปี 2564 เข้าบำบัด 7,084 คน ปี 2565 เข้าบำบัด 1,165 คน ตัวเลขผู้เข้าบำบัดเฉลี่ย 1 หมื่นกว่าคน จากคน 6 ล้านคน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แค่ 0.1 หรือ 0.2 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น และสาเหตุที่ยังไม่มี พ.ร.บ.กัญชา มาควบคุมกัญชา ซึ่งหลายคนที่ผมไม่ทราบว่าโง่จริงหรือแกล้งโง่ ว่ามีการดึงเซ็นล่าช้าเพราะหวังผลทางการเมือง


ท่านผู้ชมครับ พูดไปเดี๋ยวก็หาว่าพูดเข้าข้างพรรคภูมิใจไทยอีก แต่ความจริงเป็นอย่างนี้ ท่านผู้ชม ผมเคยบอกมานานแล้วว่าเวลาเราเอาความจริงมาพูด เราแก้ปัญหาไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ความจริงคือ พรรคภูมิใจไทย เขายื่นญัตตินี้เข้าสภาตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2565 เจ็ดเดือนที่แล้ว แต่ใครไม่เอาเข้าพิจารณารู้ไหม ? ทั้งๆ ที่ใช้เวลาพิจารณาเพียงครึ่งวัน หรือ 1 วัน คือท่านชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ไม่ยอมเอาเข้าพิจารณา จนสภาฯ ปิดจากโควิด พอเปิดประชุมใหม่ก็ไม่เอาเข้า สนใจแต่งบประมาณปี 2566 มาจนถึงวันนี้ ไม่มีกฎหมาย เพราะความล่าช้าของคุณชวน หลีกภัย คุณดนัย บรรดาหมอแก่ๆ ทั้งหลายที่คัดค้านกัญชา คุณอย่าไปตำหนิพรรคภูมิใจไทยเขา นี่ผมพูดอย่างเป็นกลาง เขายื่นตั้งแต่มกราคมแล้ว ถ้าคุณเอาเข้าสภาฯ จบกันเรียบร้อย ป่านนี้กฎหมายออกมาเรียบร้อยหมดแล้ว

แล้วท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่าคนที่ทำมาหากินกับกัญชา มีทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล แต่ทำตัวเป็นอีแอบอยู่ข้างหลัง ทำมาหากินกัน นักการเมืองในสภาฯ จำนวนมาก ก็ใช้กัญชาบำบัดรักษาตัวเอง หลายคนเอาไปปลูกเสียด้วยซ้ำ ทำไมวันนี้ไม่ออกมาสู้ปกป้องเรื่องกัญชาบ้าง หรือมัวแต่กังวลเรื่องเกมการเมือง ไม่เข้าใจเรื่องข้อเท็จจริงและความทุกข์ยากของประชาชน


ผมเอาให้ดู พิธา พูดเมื่อไม่นานมานี้ "พิธา เปิดนโยบายกัญชา ฝันไทย 1 ใน 5 ประเทศศูนย์กลาง" แล้วก็ไปเอาภาพเก่าๆ เมื่อสามปีที่แล้ว กล่าวหาว่าไปทำมาหากินกับเด็ก เอาเยาวชนเป็นพรีเซ็นเตอร์กัญชา ท่านผู้ชมครับ รูปนี้เป็นภาพเก่าเมื่อสามปีที่แล้ว ในปี 2562 เอามาเพื่อด้อยค่ากัญชา หาว่าเอากัญชาไปส่งเสริมให้เด็กสูบกัญชา ทุเรศทุรังมาก


หรือการที่ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย รายงานผู้ป่วยจากกัญชาออกมาเป็นระยะ มี 3 ราย (ดูภาพประกอบ) รายที่ 1 เด็กอายุ 6 ขวบ 7 เดือน อยู่ใน กทม. เป็นเด็กสมาธิสั้น ซื้อขนมโลตัสรูปน้องไก่ผสมใบกัญชามารับประทาน หลังจากนั้นมีพฤติกรรมซน สมาธิสั้น ไม่อยู่นิ่ง กระโดด ปีน คึกคักกว่าปกติ ไม่ฟัง ไม่ตอบคำถาม ช่วงนอนหลับนานกว่าปกติ 11 ชั่วโมง หมอให้คำแนะนำว่า ไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา สังเกตอาการ และติดตามรายการ


รายที่สอง เพศชาย อายุ 15 ปี 6 เดือน อยู่เชียงราย มีภาวะซึมเศร้า ใช้กัญชาบางครั้ง กลับจากโรงพยาบาล กำลังกลับบ้าน เด็กขอซื้อบุหรี่สูบ แต่พ่อไม่ทราบว่าเป็นบุหรี่ผสมกัญชา หลังสูบไป 2 มวน มีอาการหูแว่ว ถือมีดไล่แทงชาวบ้าน พ่อกับชาวบ้านช่วยกันจับส่งโรงพยาบาล ผลตรวจพบสารกัญชาในปัสสาวะ รับไว้ที่โรงพยาบาล

รายที่สาม เพศชาย อายุ 12 ปี 10 เดือน อยู่กาฬสินธุ์ เอาใบกัญชามาสูบเพื่อนันทนาการ ง่วงนอน ซึม มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

ท่านผู้ชมครับ ขอโทษนะครับ ที่ผมเล่าให้ฟังมานี้ ผู้ใช้มีอาการป่วยอื่นร่วมด้วยทั้งนั้น เป็นทั้งโรคจิต จิตเวช และโรคซึมเศร้า เคสที่สอง สูบกัญชาแล้วเอามีดไล่แทงคนอื่น แล้วโทษว่าเมากัญชา ไม่ถูกหรอกครับ คนที่เมากัญชามีแต่หลับ แรงจับมีดยังไม่มี ไล่แทงชาวบ้านมันไม่สมเหตุสมผล เคสที่สาม ง่วงนอน ก็ไม่แปลก เพราะมีฤทธิ์กัญชาอยู่แล้ว ประเด็นคือ คุณปล่อยให้เด็กอายุ 12 ขวบ สูบกัญชา ก็ต้องไปเอาผิดกับคนที่ปล่อยให้เด็กสูบ จะเป็นคนขาย หรือผู้ปกครอง ที่ปล่อยปละละเลย ถ้าโทษเสรีกัญชาอย่างเดียว แสดงว่าปล่อยเด็ก 12 กินเหล้า กินเบียร์ สูบบุหรี่ ไม่ผิดอย่างนั้นหรือ


อีกคนที่ผมไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ หมอเด็กผู้เชี่ยวชาญเรื่องนมแม่ ออกมาต้านกัญชากับเขาด้วย เพราะกลัวมอมเมาเด็ก คุณหมออธิบาย คือพูดง่ายๆ ว่าเห็นเด็กใส่กัญชาในกระติกน้ำพกมาโรงเรียน ตอนกลางวัน เด็กมัธยมปิดล็อกห้องเรียนเพื่อสูบกัญชา มีควันฟุ้งออกมา ครูจะเข้าไปห้ามปรามก็จะชกครู โรงเรียนเรียกผู้ปกครองมาพูดคุยทันที ยากที่จะควบคุม เพราะผู้ปกครองสนับสนุนเนื่องจากเป็นผู้ขาย คุณหมอสุธีรา บอกว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร คุณหมอครับ ถ้าผมถามคุณหมอจริงๆ ใช้วิจารณญาณคิดดูความเป็นไปได้ หลังจากเปิดเสรีกัญชาปุ๊บ เด็กเอากัญชาใส่กระติกมากินที่โรงเรียนเลย ส่วนเด็กโตก็เมากัญชา จะต่อยครู ผมถามจริงๆ ว่า ไม่ได้มโนใช่ไหม หรือถ้าจริง เอาหลักฐานมาให้ดูหน่อยว่าโรงเรียนไหน ครูชื่ออะไร จะได้เข้าไปแก้ไขให้ถูกต้อง

ประเด็นอยู่ที่ไหน ท่านผู้ชม ? ประเด็นคือว่า ผมอยากจะเตือนแพทย์ทั้งหลาย ในฐานะที่พวกคุณเป็นแพทย์ คุณจะพูดอะไรออกมา ระวังให้มากๆ เพราะความข่าวลือทางการแพทย์ก็คือมันถูกปล่อยออกมาจากแพทย์เองนั่นล่ะ ข่าวลือทั้งหมดตอนนี้ด้อยค่ากัญชาปล่อยออกมาจากทางการแพทย์ ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีวัน ว. เวลา น. ไม่มีชื่อคน ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้อง ได้ไปคุยกับโรงเรียนๆ หนึ่ง เขาเล่าให้ฟังค่ะ มันเป็นอย่างนี้ๆ นะคะ คุณหมอครับ พวกคุณมีสถานะทรงความรู้ พูดอะไรคนก็เชื่อ พวกผม คนธรรมดานี่ เวลาจะพูดในรายการนี้ ผมต้องศึกษา เอาข้อมูลเป็นปึก ผมกลัวคนจะไม่เชื่อถือ เพราะผมไม่เหมือนคุณ คุณมีศักดิ์ศรี คุณเป็นแพทย์ คุณต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ใช่สวมหัวโขนเป็นแพทย์แล้วปล่อยข่าวลือ สร้างความกลัวให้สังคม และคอยรับค่าคอมมิชชันของยาจากฝรั่ง


ดรามาจากกัญชา กลัวว่าการเกิดกัญชาเสรีจะมอมเมาเด็กและเยาวชน แสดงว่าพวกคุณไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาเลย กระทรวงสาธารณสุขเขาออกมาตรการ ห้ามเข้าถึงกัญชาในเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ปิดกั้นประโยชน์ทางการแพทย์ เขาอนุญาตเฉพาะการแพทย์ แต่เด็กต่ำกว่า 20 ไม่ได้ คุณหมอครับ คุณทราบหรือเปล่าว่าบริษัทต่างชาติได้มีการจดสิทธิบัตรกัญชาในต่างประเทศเอาไว้แล้วจำนวนมาก พยายามเข้ามาจดสิทธิบัตรในประเทศไทย เพื่อให้แพทย์แผนปัจจุบันได้จ่ายยาให้คนไข้ ในราคายาที่แพงมากๆ เป็นความถูกต้องที่เราทุกภาคส่วนต้องตอกย้ำว่าเด็กและเยาวชนไม่ควรใช้กัญชาเพื่อความมึนเมา หรือเพื่อนันทนาการ แล้วต้องลงโทษผู้จำหน่าย หรือให้กัญชากับเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี แต่ต้องไม่ลืมเสมอว่ากัญชายังมีประโยชน์มหาศาลในการรักษาโรคในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคลมชัก ลมบ้าหมู หรือ ออทิสติก


ท่านผู้ชมครับ โรคลมชัก ลมบ้าหมู ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ในต่างประเทศได้มีการจดสิทธิบัตรกัญชาในการรักษาโรคแล้วจำนวนมาก พยายามจดซ้ำในประเทศไทย เพื่อไม่ให้มีใครละเมิด รวมทั้งลมชักด้วย ด้วยเงื่อนไขในการจดสิทธิบัตรในการใช้กัญชาในส่วนของพืชเต็มส่วนเพื่อใช้รักษาโรคลมชักในประเทศไทยจึงไม่สามารถกระทำได้ เพราะประเทศไทยมีการใช้สมุนไพรกัญชาเต็มส่วน สามารถรักษาโรคลมชักได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสารสกัดตัวใดตัวหนึ่งออกไปจดสิทธิบัตรของบริษัทยาข้ามชาติด้วยการรักษาด้วยค่ายาที่แพงแต่ประการใด

ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมรู้หรือเปล่าว่าในต่างประเทศ ในครอบครัวที่มีเด็กเป็นโรคลมชัก ในหลายประเทศ เช่น แคนาดา อเมริกา หลายครอบครัวเขาเรียนรู้ที่จะปลูกกัญชาเอง รวมถึงการสกัดเบื้องต้นอย่างง่าย ในการรักษาเด็กโรคลมชักในครอบครัว เพื่อไม่ให้จ่ายเงินในราคาแพงกับยาที่มีสิทธิบัตร สรุปอย่างที่ผมบอกทุกครั้ง กัญชา เป็นสมุนไพรที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เหมือนกับทุกอย่างในโลกนี้ ใช้อย่างพอดี ใช้อย่างถูกต้อง ก็เป็นคุณอนันต์ ใช้มากเกินไป ใช้ไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษมหันต์

จากการต่อสู้มาหลายปี กัญชานั้นได้รับการพิสูจน์มาแล้ว จากผู้เชี่ยวชาญ จากทุกๆ ฝ่าย ว่ามีประโยชน์อเนกอนันต์และมีศักยภาพในการช่วยเหลือคนไทยอีกนับล้านๆ คนได้อีกมาก เราต้องช่วยกันปกป้อง อย่าเอาความเชื่อผิดๆ เอาอคติส่วนตัว เอาผลประโยชน์ส่วนบุคคล มาทำลายสิ่งที่มีคุณค่าให้ย่อยยับ ทางไหนที่จะทำให้ผิด ก็ออกมาเตือนกันด้วยความหวังดี ไม่ใช่จ้องแต่ดิสเครดิต ทำลายล้าง ผลักกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดอีก แล้วผมเตือนนะครับ ตัวแทนสื่อรับงานทั้งหลาย หมอทาสบริษัทยาฝรั่งทั้งหลาย ผมยังมีข้อมูลอีกเยอะ ว่างๆ อารมณ์ดีๆ ผมจะเอาข้อมูลออกมาทยอยเปิดเผยให้ทุกคนได้ดูว่าพวกคุณนั้นก็คือพวกหน้าไหว้หลังหลอก

หัวข้อนี้ที่ผมพูด ผมตั้งหัวข้อว่า งบประชาสัมพันธ์ 2 พัน 4 ร้อยล้าน กับข้ออ้างของรัฐบาลที่บอกว่า พีอาร์ไม่เก่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? มันสืบเนื่องมาจากโครงการทำกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ที่เขาเรียกว่า Smart City จัดท่อร้อยสายสื่อสารลงดิน งานนี้ต้องใช้เงินประมาณ 2 หมื่นล้าน กสทช. กำลังจะขออนุมัติบอร์ดให้ช่วย 1 หมื่นล้าน ที่เหลือก็ต้องแบ่งกันไป


เรื่องเอาสายไฟฟ้าลงดินนั้น มันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยอะมาก นอกจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็ยังมี กสทช. กรุงเทพมหานคร บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ บริษัท กรุงเทพธนาคม รวมทั้งการไฟฟ้าฯ ก็ต้องมีส่วนร่วม อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าต้องใช้งบเยอะ แต่เรื่องมันเกิดมีดรามาขึ้นมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2565 คุณชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของบิทคับ ของนายจิรายุส หรือ ท็อป ให้สัมภาษณ์ว่า การเอาสายไฟฟ้าลงดิน ทาง กทม. และรัฐบาล และผู้ว่าฯ กทม. คนก่อน ได้ทำมาตลอด แล้วก็พูดเหมือนกับเหน็บแนมไปว่า เพียงแต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์เท่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบัน ทีเรื่องอย่างนี้เหน็บแนมเขาเก่งนัก ทีเรื่องหนุนหลังนายท็อป จิรายุส ให้ได้รับเป็นบุคคลดีเด่นแห่งปี เชิญนายกฯ มามอบรางวัลให้ แล้วบิทคับก็กลายสถานภาพเป็นบ่อนการพนัน คุณชัยวุฒิ ไม่เคยพูดเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว ได้ข่าวว่าในทางลึกแล้วก็ยังแอบสนับสนุนนายท็อป จิรายุส อยู่เช่นกัน


หลังจากที่นายชัยวุฒิ พูดออกมา ก็เป็นประเด็นร้อนเลย แหม ไปว่าคุณชัชชาติ คนรักเขาเยอะเหลือเกิน ตอนนี้ว่าเขาไม่ได้หรอก แต่ว่าในข้อเท็จจริงแล้ว คุณชัยวุฒิ ก็พูดผิด ก็โชคดีที่ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นคนที่เล่นการเมืองเป็น แล้วรู้จักพูดจา ชัชชาติ ก็เลยบอกว่า รัฐบาลทำงาน ใช่ครับ ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปอย่างโน้นอย่างนี้กับเขาเลย ไม่ได้เป็นประเด็น รัฐบาลก็เอาสายลงดินอยู่แล้ว เราก็เห็น ทำงานคู่กันไปสิครับ เพราะฉะนั้นยิ่งทำงานเสริมกันยิ่งดี ก็จะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็คือไม่ได้ประชดประชันอะไรคุณชัยวุฒิ หรอก แต่ว่าเป็นคำตอบที่สยบดรามา เล่นเอาคุณชัยวุฒิ นักการเมืองที่หิวแสง ผลงานไม่ค่อยมีอะไรหรอก ต้องเงียบไปเลย


หลังจากนั้นอีกวันหนึ่ง วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม ก็เลยมีการประชุมร่วมกัน คุณชัยวุฒิ กับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชัยวุฒิ รู้ว่าตัวเองพลาดไปแล้ว ก็บอกว่า เป็นคำชมว่าประชาสัมพันธ์เก่ง เป็นการพูดด้วยจิตใจที่ดี ชัชชาติ ก็เหมือนเดิม คือไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จะทำงานอย่างเดียว ใครจะว่าอะไรมา ก็ไม่ว่า คุณชัชชาติ บอกว่า อ่านแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย และต้องขอบคุณรัฐมนตรีที่เชิญมาหารือ ชัยวุฒิ ต้องเชิญชัชชาติ มาหารือเพราะว่าตัวเองเสียคะแนนนิยมไปเยอะเลย


ท่านผู้ชม ประเด็นมันอยู่ตรงไหนในเรื่องนี้ ? ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า ชัชชาติ ถูกนายชัยวุฒิ กระแนะกระแหนว่าประชาสัมพันธ์เก่งกว่า ไม่ว่าด้วยเจตนาอะไร ก็แปลว่ารัฐบาลไทยนั้นประชาสัมพันธ์ไม่เก่งเลย ใช่หรือเปล่า ? น่าจะเป็นเช่นนั้น ท่านผู้ชมตามผมมา ดูข้อมูลกันนิดหนึ่ง

2566 กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีพันธกิจระบุชัดเจนว่า มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์นโยบายภาครัฐไปสู่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งในและต่างประเทศ และสะท้อนความคิดเห็นจากประชาชนสู่รัฐ ตั้งงบประมาณไว้ 2,492 ล้านบาท ปีที่แล้วตั้งเอาไว้ 2,422 ล้านบาท ปีนี้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 70 ล้านบาท


ถ้าเราพิจารณาจากงบประมาณของกรมประชาสัมพันธ์ อยู่ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ย้อนหลังห้าปี เราจะพบว่างบประชาสัมพันธ์ตั้งมาตั้งแต่ปี 2562 จำนวน 2,774,961,000 บาท ปี 2563 จำนวน 2,867,185,500 บาท ปี 2564 จำนวน 2,582,115,800 บาท ปี 2565 จำนวน 2,422,539,900 บาท และปี 2566 ที่ตั้งขึ้นมา 2,492,619,100 บาท


ท่านผู้ชมรู้ไหม ห้าปีที่ผ่านมา กรมประชาสัมพันธ์มีงบประมาณอยู่ 13,140 ล้าน นี่ยังไม่คำนวณถึงงบประมาณที่ตั้งคาดการณ์ไว้สามปีล่วงหน้า (2567-2569) อีก 6 พันกว่าล้านบาท รวม 8 ปี ตก 2 หมื่นล้านบาท

ท่านผู้ชมครับ นี่คือฝ่ายรัฐบาล มาดูอีกฝั่งหนึ่ง บางคนก็ลือกันว่าคุณชัชชาติ มีทีมพีอาร์ชุดใหญ่ จ้างมีเดียเอเยนซีคอยโพสต์นู่นโพสต์นี่้ ติดตามไลฟ์สด เสนอข่าวคราว ความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าว แต่สื่อโซเชียลก็ไปขุดมาว่า มือไลฟ์สดประจำตัวชัชชาติ ชื่อ แอ็ดหมู หรือ นายวิทยา ดอกกลาง ชัชชาติ ใช้งบประมาณในการประชาสัมพันธ์ตัวเองด้วยโทรศัพท์ 2 เครื่อง เครื่องหนึ่งเอาไว้ไลฟ์สด อีกเครื่องหนึ่งเอาไว้แชร์เน็ต และพาวเวอร์แบงก์


ที่สำคัญคือ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เลือกคอนเทนต์ในการไลฟ์ที่คิดว่าน่าสนใจ ก็เลยต้องกลับไปถามผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์อย่าง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีฯ ว่างบ 8 ปี 2 หมื่นกว่าล้าน ทำพีอาร์ประชาสัมพันธ์ให้เก่งกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร หรือ ถึงเวลาที่คุณจะยอมรับหรือยังที่ผมเคยบอกว่าเหมือนพ่อค้าแม่ขาย เมื่อสินค้าไม่ดี พีอาร์อย่างไร ประชาสัมพันธ์อย่างไร คนก็ไม่สนใจ คนก็ไม่อยากจะรับรู้ ยังตั้งข้อรังเกียจไว้เสียด้วยซ้ำ

ท่านผู้ชมครับ งบประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลถ้าจับตาดูเฉพาะกรมประชาสัมพันธ์อย่างเดียว ก็อาจจะไม่ถูกต้อง เพราะมันมีงบกลาง ไม่ว่างบที่จัดให้กับคุณเสรี วงษ์มณฑา งบที่จัดตั้งให้กับสื่อโทรทัศน์เคเบิลบางแห่ง งบที่จัดตั้งให้กับ IO ต่างๆ ของนายกรัฐมนตรี ที่ใครก็ตามไปแตะต้องนายกรัฐมนตรี แล้ว IO พวกนี้จะออกมารุมกระหน่ำคนพวกนี้ อันนี้ผมไม่เรียกว่างบประชาสัมพันธ์นะ พวกนี้ผมจะเรียกว่า "งบสู้รบ" ก็คือว่าไม่ได้ประชาสัมพันธ์อะไรหรอก ใครมาแตะนายกูไม่ได้ เพราะนายกูเป็นแหล่งขุมเงินขุมทองระดับใหญ่ มิน่า ถึงไม่มีแม้กระทั่งเศษสตางค์ตกมาอยู่ที่รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เลย เพราะว่าเราแตะต้องท่านนายกฯ มาตลอดเวลา แต่เราแตะในเรื่องที่มีหลักฐาน ที่เป็นหลักการ เราไม่ได้มีอะไรส่วนตัวกับท่านนายกฯ

ท่านผู้ชมจะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดในยุคนี้ มันเกิดมานานแล้ว ทุกยุคทุกสมัย พอมีรัฐบาลแล้ว พอมีปัญหาขึ้นมา รัฐบาลผิด พลาดพลั้งลงไป ก็มักจะมีคำพูดที่เป็นสัจจะวาจาออกมาว่า เรามันทำอะไรเยอะมาก แต่ประชาสัมพันธ์ไม่เป็น ไม่ใช่หรอกครับ มันไม่ใช่เรื่องที่คุณทำอะไรเยอะแล้วประชาสัมพันธ์ไม่เป็น หลักๆ คือคุณไม่ได้ทำอะไรเลยที่มีสาระให้ประชาชนเขาจดจำได้ คุณก็เที่ยวเทียวไล้เทียวขื่อ ไปเยี่ยมชาวบ้านตรงโน้น ไปเยี่ยมชาวบ้านตรงนี้ ไปอนุมัติงบประมาณให้กับจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ คุณก็บอกว่านี่ไง คุณทำแล้ว แต่งบประมาณที่คุณอนุมัตินั้นผลเป็นอย่างไร ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครติดตามเรื่องราวต่างๆ มาให้ดู เรื่องบางเรื่อง อย่างเช่น ผมเคยเรียนให้ทราบแล้วไม่ใช่หรือว่า รัฐบาลชุดนี้่เก่งในการตั้งกรรมการ เรื่องราคาน้ำมันแพง เรื่องจะทำอย่างไรให้ค่าโรงกลั่นมันลดลง อำนาจเรื่องนี้อยู่ที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว ท่านนายกฯ สามารถจะเคาะลงไปแล้วเรียกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มา บอก เฮ้ย! คุณต้องใช้มาตรา 25 และมาตรา 25 (2) นะ ในการควบคุมราคาสินค้า เอาค่าการกลั่นน้ำมันอยู่ในหัวข้อการควบคุมราคาสินค้า ไปเช็กว่าต้นทุนเขาเท่าไร ต้นทุนเมื่อเท่านี้แล้ว คุณก็บอกว่า ต้นทุนแบบนี้ กับราคาที่คุณคิดแบบนี้ มันมีส่วนต่างมากจนเกินไป ลดส่วนต่างหน่อย แค่นี้จบไหม ? จบ ใช่ไหมท่านผู้ชม แต่นายกฯ ไม่ทำ ลอยตัว หนีปัญหา แล้วท่านก็ทำในสิ่งที่ท่านถนัดที่สุดในชีวิตท่าน ก็คือ ตั้งกรรมการ นี่ท่านตั้งมา 2 ชุดแล้ว ชุดหนึ่งมีตัวท่านเป็นประธาน อีกชุดหนึ่งคือคุณอาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมีอาชีพเก่าก็คือ เป็นอดีตเลขาธิการสภาพัฒน์


เพราะฉะนั้นแล้ว การแก้ปัญหาของนายกฯ มัวแต่ตั้งกรรมการ กรรมการเรียกประชุมกัน ประชาชนก็ฉิบหายวายป่วงกันทุกวันนี้ บาดเจ็บล้มตายกันเป็นแถว จากราคาน้ำมัน ซึ่งสามารถจะลดได้หลายส่วน ตรงนี้ไงล่ะครับ ซึ่งผมก็เห็นใจกรมประชาสัมพันธ์ เพราะกรมประชาสัมพันธ์มีหน้าที่อย่างเดียว ก็คืออวยนายกฯ อะไรที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ไม่มีวันเกิดขึ้นจากกรมประชาสัมพันธ์หรอกครับ ก็เลยไม่น่าประหลาดใจว่า ระหว่างกรมประชาสัมพันธ์ กับ ไทยพีบีเอส นั้น จะดูว่าใครเหนือกว่าใคร บางครั้งต้องถ่ายรูปดูนะ เพราะว่าห่วยแตกพอๆ กันทั้งคู่

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ผมเห็นใจ เพราะอดีตเป็นทหาร ถูกนายกฯ ส่งมานั่งอยู่ที่นี่ ก็คงจะทำอะไรมากไม่ได้ เพราะว่าคุณมีนายกฯ เป็นคนแบบนี้ ที่ชอบอวยตัวเองและหลงตัวเอง คุณวิพากษ์วิจารณ์เขาไม่ได้ เพราะคุณรู้ว่าถ้าคุณวิพากษ์วิจารณ์แล้วคุณตายแน่นอน นายกฯ เอาคุณตายแน่นอนเลย ก็ขนาดในที่ประชุมถ้าใครไม่เห็นด้วยกับนายกฯ ก็เท่ากับว่าตายไปครึ่งตัวแล้ว แล้วนายกฯ จะคุมการประชุมทุกอย่าง เอาอย่างนี้ๆๆ นะ ไม่เอา เอาอย่างนี้ๆๆ ผมถึงเข้าใจและเห็นใจว่ามันไม่ไหวจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าผมเข้าใจนะ และผมก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรเรื่องนี้

ท่านผู้ชมครับ ถ้าเราดูการประชาสัมพันธ์ในโลกธุรกิจแล้ว ท่านผู้ชมจะสังเกตอย่างหนึ่ง หลักการง่ายๆ ผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร จะเป็นผู้ดูแลการประชาสัมพันธ์ เพราะประชาสัมพันธ์จะยิงตรงถึงผู้บริหารสูงสุด และบอกว่าเรื่องนี้ให้พูดอย่างนี้ๆ โอเคไหม เรื่องนี้ให้พูดอย่างนี้ๆๆ โอเคไหม เพราะฉะนั้นแล้ว ให้ผู้บริหารสูงสุดเป็นคนตัดสินใจ เพราะถ้าฝ่ายประชาสัมพันธ์คุยกับผู้จัดการประชาสัมพันธ์ว่าผมจะเอาอย่างนี้นะ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์ก็จะแบ๊ะๆๆ เพราะไม่รู้ว่านายข้างบนจะเอาอย่างไร ก็ต้องคุยต่อไปถึงรองกรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการก็จะบอก เฮ้ย! ผมต้องกลับไปถามกรรมการผู้จัดการเสียก่อน เพราะฉะนั้นแล้ว เม็ดเงินการประชาสัมพันธ์ วิธีการประชาสัมพันธ์ ประเด็นการประชาสัมพันธ์ มันมีอยู่แล้ว คนที่เรียนจบมาไม่ใช่คนโง่ อาจารย์เสรี วงษ์มณฑา ก็เป็นคนที่ฉลาดลึกซึ้ง ล้ำลึก ท่านก็รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน แต่ท่านก็จำเป็นต้องทำในงานที่ผมคิดว่ากล้ำกลืนฝืนทนทำ แต่ต้องทำเพราะว่าเขาจ้างมาแล้ว ให้ทำ ให้เงินให้ทองมาเป็นก้อน เหมือนกัน กรมประชาสัมพันธ์ก็ไม่กล้าที่จะออกมาทำงานให้ถูกต้อง ให้ถูกหลักวิชาการ เพราะว่าเราดันมีนายกฯ ซึ่งไม่ฟังใคร แล้วนายกฯ คนนี้ก็เหมือนผู้บริหารองค์กรระดับสูงในภาคเอกชน ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรภาคเอกชนนั้นจะมีลักษณะที่จะยอมรับความจริงว่าตอนนี้บริษัทเสียหายมาก เราแก้อย่างนี้ได้ไหมๆ ชุมชนที่อยู่รอบตัวเราเขาบ่นกันว่า บริษัทเรา มีโรงงานที่ปล่อยน้ำเสียลงไป เราจะแก้กันอย่างไรดี เพื่อไม่ให้เขาว่าเรา ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็สามารถจะไปทำได้ แต่กับรัฐบาลชุดนี้ คุณจะไปบอกให้นายกฯ แก้อย่างโน้นแก้อย่างนี้ นายกฯ เขาไม่แก้หรอก นายกฯ เป็นคนที่ไม่ฟังใครเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะมีอีกสิบกรมประชาสัมพันธ์ อีกร้อยเสรี วงษ์มณฑา คุณก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ตราบใดที่ผู้นำประเทศยังคงเป็นคนที่หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในประเทศไทย และว่าประเทศไทยนั้นจำเป็นต้องพึ่งตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วประเทศไทยจะไปไม่รอด และนี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดครับ คุณชัยวุฒิ คุณอย่าไปบอกว่า คุณชัชชาติ เก่งประชาสัมพันธ์ คุณชัชชาติ เป็นคนที่เปิดกว้าง ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อะไร ข้อเสนอแนะอะไรมา ที่อธิบายแล้วทำให้คุณชัชชาติ รู้ว่าเขาพลาด ผมเชื่อว่าเขายอมรับ ผมไม่ได้พูดเพื่อชมเชยคุณชัชชาติ นะ แต่ผมเห็นลักษณะวิธีการทำงานของคุณชัชชาติ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ผมรู้ว่ามันต่างกันราวฟ้ากับดิน ชัชชาติ ทำด้วยความเปิดเผย เป็นครั้งแรกที่ชัชชาติ จะเอาสัญญาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาเปิดให้ดู รัฐบาลไม่เคยทำอย่างนี้ เพราะรัฐบาลซ่อนเร้น ซ่อนเงื่อน หลบหลีก ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินในหลายๆ เรื่อง ไม่กล้าเปิด เพราะเปิดแล้วจะต้องมีคำถามถามต่อไปอีก แล้วรัฐบาลจะตอบไม่ได้ และนี่คือปัญหาใหญ่

รัฐบาลยิ่งไม่โปร่งใสมากเท่าไร ผู้นำยิ่งมีความรู้สึกเผด็จการในเรื่องของการเปิดเผยข้อมูลและยอมรับความผิด ยิ่งมากเท่าไร เพราะฉะนั้นแล้ว ประเทศชาติก็ยิ่งจะฉิบหายมากแค่นั้นไปเรื่อยๆ มาจนวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้ว เราไม่มีเสื้อผ้าใส่ ข้าวไม่มีกิน ไฟเปิดไม่ได้เพราะไม่มีเงินจ่าย ก็ให้รู้ว่าเป็นเพราะเรามีระบบสังคมที่ไม่กล้าพูดความจริงกัน และเป็นระบบสังคมที่ปฏิเสธความเห็นของประชาชน

ช่วงนี้ท่านผู้ชมหลายท่านคงจะพอทราบข่าว หรือหลายๆ ท่านก็มีคนใกล้ๆ ตัว รอบๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน หรือที่โรงเรียน บุตรหลานของท่าน เริ่มกลับมาติดเชื้อโรคระบาดอีกระลอกแล้ว ตอนนี้คนที่ติดเชื้อล็อตใหม่ปริมาณก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น ผมไม่รู้ว่าระลอกนี้เป็นระลอกที่เท่าไร แต่ในวงการแพทย์และสาธารณสุข ระบุว่า เป็นเชื้อกลายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ของสายพันธุ์โอมิครอน

ท่านผู้ชมครับ สายพันธุ์อะไรก็ตาม ลืมไม่ได้ ท่านผู้ชมมีหรือยัง ฟ้าทะลายโจรของอาจารย์ปานเทพ ท่านผู้ชมที่กักตัวอยู่ที่บ้าน Home Isolation อยากจะซื้อฟ้าทะลายโจร ก็ตามสบาย แต่ถ้าเป็นผม ผมจะซื้อของอาจารย์ปานเทพ เอามาเก็บเอาไว้ ท่านผู้ชมครับ แพงที่สุด สามร้อยกว่าบาทต่อกล่อง ขณะที่คนอื่นเขาขายกัน 100-110 ขายแพงกว่าสามเท่า เพราะว่ามันดีกว่าหลายเท่า ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ เข้าไปใน Shopee หัวข้อ "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" จะมีชื่อฟ้าทะลายโจรอยู่ สั่งซื้อได้เลย

ท่านผู้ชมครับ ประชาชนตอนนี้ที่ทราบข่าวว่าเชื้อกลายพันธุ์ของสายพันธุ์โอมิครอน กำลังระบาด ตั้งแต่วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ที่ผ่านมา วันที่ 1, 2 และ 3 กรกฎาคม ตอนนี้เลยแห่ไปฉีดวัคซีนที่ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อกันอย่างล้นหลาม ข่าวบางกระแสว่ากันว่า บางช่วงประชาชนแถวยาวกว่าครึ่งกิโลเมตร ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีแถวเลย นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ยังมีการพูดถึงการแพร่ระบาดสายพันธุ์ BA.2.75 เพิ่มเติมมาด้วย


อย่างที่ผมเกริ่นให้ฟังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า แม้แต่รัฐมนตรีหลายต่อหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ที่ฉีดวัคซีนไปหลายเข็มแล้ว บางคน 5 เข็ม 6 เข็ม ก็กลับมาติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นคุณอนุทิน ชาญวีรกูล คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้ใหญ่จำนวนมาก ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ที๋ฉีดวัคซีนทั้งหลาย รวมทั้งวัคซีนเทพ mRNA ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์ โมเดอร์นา ตอนนี้เริ่มมีการโปรโมตวัคซีนอีกยี่ห้อหนึ่งแล้ว คือ โนวาแวกซ์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบโปรตีนเบส มีการโปรโมตกันซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ฉีดวัคซีน 3-4 เข็ม ไม่พอ ต้องฉีดกระตุ้นทุกๆ 4 เดือน 


คือเขากำลังจะบอกว่า ท่านผู้ชม ปีหนึ่งมี 4 เดือน 3 ครั้ง ทุก 4 เดือน ฉีด 1 ครั้ง กระตุ้น ปีหนึ่งต้องฉีดตายตัวอีก 3 ครั้ง ต่อไปอีกกี่ปี ชั่วชีวิต หลายๆ คนก็เลยเริ่มสงสัย แล้วก็สงสัยอย่างมีเหตุผลนะ ผมก็เห็นด้วย ว่า วัคซีนจริงๆ แล้วเบื้องหลังมีเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ ตอนแรกบอกว่าฉีด 2 เข็มแล้วป้องกันการติดได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาพอฉีดแล้ว 2 เข็ม ติดโรคระบาด ก็แก้ตัวว่าที่ฉีด 2 เข็มนั้น ป้องกันการตาย ส่วนที่บอกว่าป้องกันการติดได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นเชื้อแบบเก่า แบบเชื้อไวรัสที่ยังไม่กลายพันธุ์เป็นเชื้อเดลตา


รอบที่สองก็บอกว่าต้องฉีด mRNA เท่านั้น วัคซีนเทพ เหมือนฉีดแบบเชื้อตาย เหมือนฉีดน้ำเปล่า ฉีดน้ำเกลือ เป็นการด้อยค่าวัคซีนจากผู้ผลิตจีนอีก ท่านผู้ชม ผมฉีดซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ผมไม่ได้ฉีดเข็ม 3 เข็ม 4 เลย เพียงแต่ผมระวังตัว เพราะผมรู้ว่าการฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นการป้องกัน แต่ลดความรุนแรงของเชื้อ และผมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวของผมเอง ผมเล่าให้ท่านผู้ชมฟังแล้วว่าผมทานน้ำขิงทุกเช้า เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน แล้วก็ผมทาน QUERCETIN C PLUS ZINC สารสกัดหอมแดง วิตามินซี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของผมเอง ก็เหมือนเดิมท่านผู้ชม นี่ไม่ได้โฆษณาขายของนะ เข้าไปใน "สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์" ใน Shopee แล้วก็ดู สั่งซื้อ ผมกินทุกวัน วันละ 2 เม็ด QUERCETIN C PLUS ZINC ท่านผู้ชมจำเอาไว้นะครับ


ท่านผู้ชมครับ รอบที่สองก็บอกว่าต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3 เพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ คือสายพันธุ์โอมิครอน ต่อมารอบที่สามก็เริ่มมีการขายยารักษาโควิด จากค่ายตะวันตกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟาวิพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด โมลนูพิราเวียร์ ไม่มีใครให้ความสำคัญกับสมุนไพรไทยเลย ตัวอย่างในประเทศไทย สมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจร ท่านผู้ชมครับ เหนื่อย ผลักดันแล้วผลักดันอีก ทั้งๆ ที่มีการศึกษาแล้วว่าได้ผล มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะหมอแก่หรือหมอชนบท หมอแก่ๆ ทั้งหลาย และหมอชนบทส่วนใหญ่ ด้อยค่าสมุนไพรไทยกันหมด ลือกันว่าเวลาพวกนี้ไปหากินกับงบ Home Isolation ทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องงบประมาณ ATK กันเละเทะเลย แต่สมุนไพรไทย ฟ้าทะลายโจร รักษาได้ และผมก็รู้ว่าคนไทยที่ทำ Home Isolation ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่รับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกัน

เอาล่ะ ท่านผู้ชม เข้ามารอบที่สี่ พอมีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข็ม 4 ก็ยังมีการแพร่ระบาดโควิดอีก ทีนี้มรูปแบบใหม่แล้ว เพราะเชื้อมันกลายพันธุ์ต่อ ให้ฉีดเข็มกระตุ้น เข็ม 5 เข็ม 6 ไม่จบไม่สิ้น จนในที่สุดก็เลยสรุปว่าต้องฉีดทุกๆ 4 เดือน


ท่านผู้ชมครับ ช่วงหลังจะเริ่มมีเสียงเตือนเรื่องผลเสียจากการระดมฉีดวัคซีนหลายๆ เข็ม นักวิชาการเองก็บอกว่า ฉีดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าจะดีนะ มีการเตือนว่าฉีดบูสเตอร์วัคซีน เข็มที่ 4 ถึง เข็มที่ 5 เสี่ยงมาก ร่างกายจะไม่รับวัคซีนตัวใหม่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. ได้เตือนประชาชน คิดให้หนักก่อนฉีดกระตุ้นเข็ม 4-5 เพราะหากมีวัคซีนใหม่เข้าในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีผลกระทบกับการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ยังจดจำวัคซีนตัวเก่า และจะไม่ตอบสนองต่อวัคซีนตัวใหม่ ท่านผู้ชมครับ ใครเป็นคนพูดเรื่องนี้ ? ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช.

ท่านบอกว่าไวรัสที่อยู่ในประเทศไทยแพร่กระจายไวกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในขณะที่สายพันธุ์โอมิครอน BA.4-BA.5 คาดว่าคนไทยจะติดเชื้อมากขึ้น เพราะมีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อด้วยตัวเองดีขึ้น รวมทั้งสามารถจะหนีภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดีกว่าเดิม ปรากฏว่า ดร.อนันต์ บอกว่า พบว่าการฉีดเข็มกระตุ้น 3-4 มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน


ท่านผู้ชมครับ นี่คำพูดของ ดร.อนันต์ นะครับ การฉีดวัคซีนที่เกินความจำเป็นจะทำให้ร่างกายจดจำวัคซีนตัวเก่า เมื่อฉีดตัวใหม่ ร่างกายเราต้องใช้เวลานานมากที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน บางคนอาจจะไม่มีภูมิคุ้มกันขึ้นเลย เพราะร่างกายไม่ตอบสนอง และนี่เป็นปัญหาระยะยาวในการใช้วัคซีนสูตรใหม่ในอนาคต

ท่านผู้ชมครับ ประเด็นคือ คนที่เชื่อในเรื่องวัคซีน และหวังพึ่งวัคซีน สูตร 2 สูตร 3 สูตร 10 สูตร 100 ที่บริษัทฝรั่งกำลังทำออกมาขาย ดูดเงินในกระเป๋า ได้เงินภาษีของเราไปเรื่อยๆ แต่มีในมุมของคนที่ตั้งคำถามลึกไปกว่านั้นเกี่ยวกับเรื่องวัคซีน มีคนตั้งคำถามถึงผลข้างเคียงความปลอดภัยการฉีดวัคซีน มีการกีดกัน ปิดกั้นทุกวิถีทางในเชิงสื่อสารมวลชน ข้อมูลข่าวสาร ล้างสมองกันไปหมด

พอมีคนตั้งคำถามว่า แล้วพวกคุณจะบังคับให้ฉีดกับประชาชนทั่วไป คนแก่ กับเด็ก และเยาวชน อย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรืออย่างไร

ท่านผู้ชมครับ คุณหมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ซึ่งต่อต้านในเรื่องนี้ ผมจะไม่เอาข้อความของคุณหมอออกมาพูดนะครับ เดี๋ยวจะโดนบล็อก แต่ถ้าท่านผู้ชมต้องการฟังข้อมูลอีกด้านหนึ่งของคุณหมออรรถพล ให้เข้าไปใน Sondhi App เพราะว่า Sondhi App จะไม่ถูกบล็อก หรือเข้าไปในเว็บไซต์ mgronline แล้วจะได้เห็นเรื่องราวต่างๆ


ท่านผู้ชมครับ ดูตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ แล้วกัน ผมจะเปรียบเทียบระหว่างประเทศชิลี กับ ประเทศอินเดีย ชิลี ฉีดเข็มบูสเตอร์ไปมากกว่า 120 เข็ม ต่อประชากร 100 คน ก็หมายความว่า ทั้งประเทศฉีดบูสเตอร์ไปมากกว่าประชากรถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อินเดีย ฉีดไม่ถึง 5 เข็ม ต่อประชากร 100 คน หมายความว่าอย่างไร ? ใน 100 คน ฉีดแค่ไม่ถึง 5 คน 5 เปอร์เซ็นต์เอง ผลคือ วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2565 จากสถิติ ชิลี มีเคสใหม่เพิ่มสูงขึ้นระเบิดเถิดเทิง มีเคสใหม่ติดอันดับ 10 ของโลก 1 หมื่น 1 พันกว่าราย อินเดียมีเคสติดเชื้อใหม่แค่ 13,910 ราย


อย่าลืมนะครับ ชิลี มีประชากรแค่ 19 ล้านคน อินเดีย 1,400 ล้านคน เพราะฉะนั้น อินเดียมีประชากรมากกว่าชิลีถึงเจ็ดสิบกว่าเท่า เพราะฉะนั้น 1,3910 คน ของอินเดีย เมื่อเทียบประชากรแล้ว เมื่อเทียบกับชิลีแล้ว อาจจะเกือบเท่า 0 เพราะว่าประชากรอินเดียนั้นมากกว่าชิลี เจ็ดสิบเท่า แล้วใครล่ะพร่ำว่า เข็มบูสเตอร์กันติด กันตายได้ อธิบายผมหน่อยสิว่าทำไมประเทศที่ระดมฉีดกันเยอะแยะ ถึงได้ติดกันเละเทะ แถมแนวโน้มอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น


เอาล่ะ ท่านผู้ชม เรามาฟัง ศ.ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ (Prof. Jeffrey Sachs) ซึ่งเป็นนักวิชาการชื่อดังมากในอเมริกา เขาให้เหตุผล เขายืนยันว่า โคโรนาไวรัสหลุดออกมาจากห้องแล็บสหรัฐฯ ท่านผู้ชมครับ แรกๆ ผมเป็นสื่อมวลชนคนไทยคนแรกที่เอาเรื่องนี้มาพูด ก็เลยถูกกล่าวหาว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด ผมไม่อยากจะพูด แต่ผมพูดไปแล้วเมื่อสองปีที่แล้ว ผมขี้เกียจไปทบทวนสิ่งที่ผมพูด แต่สรุปง่ายๆ ผมพูดบอกว่า มันมีโอกาสสูงมาก ว่าเชื้อโรคระบาดนี้ ต้นประเทศที่เป็นการเผยแพร่จริงๆ คือ อเมริกา ผมพูดไปเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563 สองปีกว่าแล้ว ท่านผู้ชมที่ยังไม่เคยรู้ ใครที่ยังไม่เคยฟัง ไปค้นเปิดฟังดูได้ ส่วนใครที่อยากอ่าน ก็มีถอดข้อความแบบคำต่อคำให้อ่านเรียบร้อย มีหลักฐาน วัน ว. เวลา น. เขียนไว้หมด


ท่านผู้ชมหลายท่านคงสงสัยว่าทำไมผมถึงหยิบเรื่องต้นตอของเชื้อไวรัสโรคระบาดมาพูดอีกครั้งในเวลานี้ หลังจากที่ผ่านไปสองปี คำตอบก็คือว่า เมื่อกลางเดือนมิถุนายน เดือนที่แล้วนี่เอง มีนักวิชาการ คือ ศ.ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ ไปเปิดเผยกลางเวทีสัมมนาที่ประเทศสเปน เขายอมรับว่า เชื้อโรคระบาดน่าจะมาจากห้องแล็บด้านชีวภาพของอเมริกา

ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ เป็นนักเเศรษฐศาสตร์ทางการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ถึงเขาไม่ใช่แพทย์ นักชีววิทยา หรือนักไวรัสวิทยา หรือนักวิทยาศาสตร์ด้านชีวเคมี แต่เขาเคยเป็นประธานกรรมการพิจารณาเรื่องโควิด-19 ของวารสารการแพทย์ชื่อดังที่สุดของโลก ชื่อ The Lancet เป็นเวลาถึง 2 ปี ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ พูดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน (เดือนที่แล้ว) ว่า ผมมีเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งอยากเล่าให้ฟัง เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณช็อก หรืออาจจะไม่ก็ได้ เพราะคุณอาจจะบอกว่าฉันรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว


ดร.แซคส์ บอกว่า ผมเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาบทความในวารสาร Lancet มาสองปี ผมค่อนข้างแน่ใจว่าไวรัสโรคระบาดนั้นถูกแพร่ออกมาจากห้องทดลองด้านชีววิทยาของอเมริกา ไม่ได้มาจากธรรมชาติ จากการทำงานอย่างหนักสองปี ในความเห็นของผม มันเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของการวิจัยทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ไม่ใช่การเกิดขึ้นจากธรรมชาติ มันมีหลักฐานเพียงพอที่ควรตรวจสอบ แต่ยังไม่ถูกตรวจสอบเพื่อค้นหาความจริง ไม่ใช่ในอเมริกาหรือที่ไหนทั้งสิ้น และผมคิดว่าเหตุผลที่แท้จริงเพราะเขาไม่ต้องการจะตรวจสอบและสืบค้น เขาซุกปัญหานี้เข้าใต้พรม


ท่านผู้ชมครับ ย้อนก่อนที่ ศ.ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ จะโพล่งออกมาในเรื่องนี้ ในการสัมมนาที่สเปน 19 พฤษภาคม หนึ่งเดือนก่อนที่ ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ จะพูดเดือนมิถุนายน ได้ร่วมเขียนบทความทางวิชาการลงตีพิมพ์ในวารสารของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของอเมริกา ร่วมกับ ศ.ดร.นีล แอล. แฮร์ริสัน (Neil L. Harrison) ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านวิสัญญีแพทย์ รวมทั้งอณูเภสัชวิทยาการรักษา ที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เช่นกัน หัวข้อระบุ ขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอิสระต่อต้นตอการกำเนิดของไวรัส (A call for an independent inquiry into the origin of the SARS-CoV-2 virus.)


รายละเอียดของสิ่งที่ท่านโปรเฟสเซอร์ เจฟฟรีย์ แซคส์ พูดบนเวทีกรุงมาดริด ประเทศสเปน ข้างต้นว่า ผมแน่ใจ ค่อนข้างแน่ใจว่าโรคระบาดนี้ถูกแพร่จากห้องทดลองด้านชีววิทยาของอเมริกา ไม่ได้มาจากธรรมชาติ

ท่านผู้ชมลองไปดาวน์โหลดอ่านดูที่ผมพูด สิ่งที่น่าสนใจ จากการเปิดเผยของ ศ.ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ กับ ศ.ดร.นีล แฮร์ริสัน จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเป็นนักวิชาการชื่อดัง แทบจะไม่มีสื่อตะวันตกเจ้าไหนไปเผยแพร่หรือเล่นข่าวต่อเลย ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, Reuters, CNBC, BBC ทั้งๆ ที่มีคนดังอย่าง ศ.ดร.เจฟฟรีย์ แซคส์ พูดมาตั้ง 2-3 สัปดาห์แล้ว คลิป สามารถหาชมได้ หาฟังได้บนยูทูบ มีเพียงสำนักข่าวรัสเซีย และปากีสถาน ที่หยิบยกเรื่องนี้มาเผยแพร่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้เอง ส่วนสำนักข่าวในประเทศไทยก็ไม่มีใครเล่นเรื่องนี้เช่นกัน ผมไม่ทราบว่าเพราะนักข่าวของไทยมัวแต่แปลข่าวของฝรั่งตะวันตกหรือเปล่า ผมก็เลยไม่รู้ ไม่เห็นเรื่องที่น่าจะเป็นข่าวใหญ่โตขนาดนั้น

ท่านผู้ชมครับ นี่คือบทสรุป ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ ตอนนี้โอมิครอนที่กลายพันธุ์ เริ่มระบาดในประเทศไทยอีกแล้ว ผมเรียนให้ท่านผู้ชมทราบ ถึงแม้รัฐบาลบอกว่าให้เปิดหน้ากากได้แล้ว ออกไปข้างนอก แต่ท่านผู้ชมออกไปข้างนอกยังคงใส่หน้ากากอยู่ ป้องกันตัวเองไว้ดีกว่า และสำหรับผมแล้ว ถึงประเทศอย่างไรก็จะหลีกเลี่ยงฝูงชน ไม่ไปอยู่ในที่ๆ คนมากๆ ไม่ไปงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ ไม่เอาทั้งสิ้น สั่งสอนลูกหลานของเราไว้ด้วย เรื่องแบบนี้ยังจะมีต่อไปอีกเยอะ ถ้าเราไม่เริ่มดูแลตัวเราเอง และท่านผู้ชมครับ หยุดคิดสักนิดหนึ่ง เรื่องเข็มที่ 4 เข็มที่ 5 เข็มที่ 6 แล้วคิดถึงภาวะการณ์ที่หลังจากฉีดไป 4-5-6 เข็มแล้ว จะต้องฉีดทุกๆ 4 เดือนอีก ปีละ 3 ครั้ง ต่อไปอีกกี่ปี ดูแล รักษา ช่วยตัวเอง นั่นเป็นธรรมขั้นสูงที่พระพุทธเจ้าให้มานานแล้ว "อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ" ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเอง และถ้าจำเป็นก็ใช้สมุนไพรธรรมชาติ ฟ้าทะลายโจร ดีกว่าตระกูลพิราเวียร์บ้าบอคอแตก ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อให้เยอะแยะ Home Isolation รับประทานฟ้าทะลายโจร 5 วัน ถ้าร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว 3-4 วัน ก็หาย ท่านผู้ชมครับ ดูแลตัวเองให้ดีๆ


ท่านผู้ชมครับ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว มันมีเรื่องราวที่เป็นดรามาอย่างมหาศาล แล้วแต่ละคนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กัน หลายคนไม่เคยสนใจในเรื่องการเมือง หลายคนไม่เคยสนใจในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็กระโดดเข้ามาขอร่วมด้วยช่วยกัน ขอรุมกระทืบประเทศไทย

เหตุที่เกิดขึ้นก็คือว่า เครื่องบิน Mig-29 ของพม่า บินล้ำแดนเข้ามาในเขตไทย เพราะว่ามีสถานการณ์สู้รบกันระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกองพลน้อยที่ 6 กองกำลังเคเอ็นดีโอ และกองกำลังพีดีเอฟ ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ของรัฐบาลอองซาน ซูจี ในอำเภอสุวารี จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง พม่า


ผมเคยเรียนให้ท่านผู้ชมทราบแล้วไม่ใช่หรือ เรื่องกะเหรี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกะเหรี่ยงเคเอ็นยูพวกนี้ เป็นชนกลุ่มน้อยที่เป็นชาวคริสต์ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณ และหลายๆ อย่าง จากทางตะวันตก เหตุเกิดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ประมาณ 11 โมงกว่า เครื่องบินรุกเข้ามา บ้านวาเลย์ใต้ และบ้านวาเลย์เหนือ ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ประมาณ 4-5 กิโลเมตร คือเขาตีกว้างอ้อมเพื่อมายิงจรวดใส่ที่มั่นฝ่ายต่อต้านฝั่งเมียนมาประมาณ 4 รอบ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพอากาศก็เลยสั่งให้เครื่องบิน F-16 สองลำ ขึ้นไปลาดตระเวนทางอากาศบนพื้นที่อำเภอพบพระ สั่งการให้ผู้ช่วยทหารอากาศประจำย่างกุ้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพม่า เพื่อแจ้งเตือน หาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก

ท่านผู้ชมครับ ผมเอาแผนที่ขึ้นให้ดูว่าของไทยนั้นติดกับรัฐกะเหรี่ยงทางฝั่งพม่า ตรงแถวๆ แม่สอด


เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในวงการโซเชียล หลายคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ก็เลยกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญไปทันทีเลย ข้ามคืน รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้เรื่องการบินข้ามพรมแดน หลายคนพูดวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศไทยนั้นรุกอธิปไตยไทย วิพากษ์วิจารณ์ว่ากองทัพอากาศไทยทำอะไรอยู่ บางคนลงลึกถึงขนาดบอกว่าแสนยานุภาพทหารของเราสู้พม่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แม้กระทั่งพี่เต้ของผม มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โฆษกและกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ก็ยังออกมาออกความเห็น ถึงขั้นบอกว่า อย่าหยามหน้ากันมาก บินข้ามเข้ามาในส่วนของเราเพื่อไปยิงศัตรูเขา ที่เกรงใจกัน ขึ้นบินก่อน ยิงก่อน แล้วค่อยรายงาน คือพี่เต้ จากนักเลงอยู่แถวพระราม 7 อดีตนักเรียนช่างกลเก่า กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทหารไปแล้ว


พี่เต้ ถึงกับบอกว่า ถ้าพี่เป็นนักบินรบ เรียบร้อยไปแล้ว ยิงก่อนแล้วค่อยคุยกัน มันก็มีปัญหาซึ่งผมคิดว่าขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ไม่ได้ให้พี่เต้มาเป็นนักบิน เป็นอย่างที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว ก็คือเจริญเติบโตมาจากการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ผู้กว้างขวางในมหาวิทยาลัย น่าจะเป็นพระจอมเกล้านะ แถวๆ นั้น ไปใหญ่แถวนั้นดีกว่า อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เลย เพราะไม่อย่างนั้นแล้วประเทศไทยฉิบหายแน่นอน


แม้กระทั่งคุณวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ก็ออกมาตำหนิติเตียนกองทัพอากาศ ยังไม่พอ คุณรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "ทูตนอกแถว" พูดตำหนิติเตียนว่า แบบนี้ไม่ใช่เพื่อนแล้ว คือพ่อครับ คือเห็นผู้บริหารรัฐบาลออกมาแถเรื่องเครื่องบินรบพม่าที่รุกล้ำดินแดนไทยอย่างโจ่งแจ้ง ว่าไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย เขาแค่มาตีวง ตั้งหลักเฉยๆ อย่าไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็อดไม่ได้ ต้องพูดเรื่องนี้ต่อ


ท่านทูตบอกว่า ก็ไม่รู้ว่าใครแนะนำให้พูดแบบนั้น เพราะคำพูดที่พูดออกมานั้นมันเท่ากับเป็นการยอมรับโดยปริยายว่าทางการไทยได้ยินยอม รู้เห็นเป็นใจ ให้ทหารพม่าใช้ดินแดนและอธิปไตยของไทยเพื่อเป็นฐานเข้าโจมตีชนกลุ่มน้อยในพม่านั่นเอง

ก็พูดไปเยอะครับ หลักๆ ก็คือว่า ไม่เห็นด้วย ประเทศไทยน่าจะมีอะไรที่ทำให้มันเด็ดขาดกว่านี้ ถึงกับบอกว่า ยังมีผู้บริหารรัฐบาลออกมาบอกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ท่านทูตบอกว่า คนแบบนี้ยังสมควรเป็นผู้บริหารอีกไหม

ทั้งหมดนี้เป็นดรามาชุดใหญ่ ส่วนท่านนายกฯ เองบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เผยพม่าขอโทษแล้ว บินล้ำน่านฟ้า สัมพันธ์ดี คุยกันได้ ท่านนายกฯ พูด

มีเสียงร่ำร้องจากฝั่งทหารว่า เพื่อยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศ ทันทีเลยนะครับ เสียบเข้ามาเลย ควรจะยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศ จำเป็นต้องซื้อเครื่องบิน F-35 จากอเมริกา มาทดแทนเครื่องบิน F-16 รุ่นเก่า พวกนี้นี่สุดยอด สุดยอดจริงๆ หาเรื่องทำมาหากินกันได้ตลอดเวลาจากวิกฤตทุกวิกฤต

เครื่องบิน F-35
เรามาดูท่านผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ แสดงว่าตั้งแต่เด็ก ท่านนามสกุล ธูปะเตมีย์ ซึ่งต้นตระกูลหรือพ่อของท่านน่าจะเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ คงตั้งใจให้ลูกเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศให้ได้เลย ถึงตั้งชื่อลูกตัวเองว่า นภาเดช มีเดช เดชะ อยู่บนท้องฟ้า สุดยอดครับ ท่านก็พูดออกมาว่า เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่มันเกิดขึ้น แล้วพม่าก็ขอโทษมาแล้ว ท่านก็พูดว่า ผมบอกตามตรงว่าผมก็เหมือนกับทุกท่าน ผมก็เดือดเหมือนกัน อาจจะเดือดกว่าพี่น้องประชาชนอีกด้วย เราทำงานไปแล้ว เราประสานติดต่อกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศเมียนมา ให้เขากำกับดูแล ให้การปฏิบัติอะไรก็แล้วแต่ในเขตแดนของท่าน อย่าล่วงล้ำเข้ามา ซึ่งเขาก็ขอโทษมาแล้ว จริง/เท็จอย่างไร ว่ากันไปก่อน เขาบอกว่าตอนนี้สภาพอากาศไม่ดี เป็นการเกิดขึ้นครั้งแรก เขาก็ระมัดระวัง บางทีอยู่บนเครื่องบิน มองภูมิประเทศมองแล้วไม่ชัด ตัดผ่านเข้ามาในบ้านซึ่งเป็นเขตแดนไทย ไม่ใช่สั้นๆ การข่าวของเราที่ดี เราก็รู้ล่วงหน้า แต่ไม่ว่าเราจะรู้ล่วงหน้าหรือรู้เฉพาะหน้าจากเรดาร์ เราก็ได้ส่งเครื่องบินขึ้นไปแล้ว


แต่ว่าความรู้สึกประชาชนมันเกินขีดเส้นของความพอเพียงไปแล้ว มีความรู้สึกเกิดรักชาติ รักบ้านเมืองกันฉิบหายทันทีเลย สมัยก่อนก็ไม่เคยรักชาติ รักบ้านรักเมืองขนาดนี้ สมัยที่ผมต่อสู้เรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร ก็เห็นนั่งเงียบกันสนิทเลย แต่ละคนที่เก่งๆ ทุกวันนี้ ก็เงียบเหมือนอมสากกะเบือ หรือผมต่อสู้ไม่ให้ประเทศไทยตกเป็นเครื่องมือของต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา ในการเข้าไปร่วมขบวนการอินโด-แปซิฟิก ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไร มีสนใจอยู่กลุ่มคุณนกเขา นิติธร ล้ำเหลือ หรือคุณจตุพร พรมพันธุ์ เกิดมาวันนี้แค่เครื่องบินพม่าบินเข้ามาในเมืองไทย อ้อมเมืองไทยเข้ามา วนเข้ามาแค่ 4-5 กิโลเมตร ในประเทศไทย โอ้โห เลือดรักชาติไหลแรงฉิบหายเลย พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าพวกคุณนี่มโนในชีวิตหลายๆ เรื่อง พอมาเรื่องที่ต้องใช้เหตุใช้ผลกัน ก็ไม่พูด

ผมมีความเห็นจากทุกเรื่องในนี้ ผมก็หัวเราะ ว่าจริงๆ แล้ว ท่านผู้ชมอย่าหลงประเด็นเรื่องนี้กันหมด ทุกคนไปมองปลายเหตุกันหมดเลย ทุกคนไปมองว่าเครื่องบิน MiG-29 ที่พม่าขับนั้น ถึงขนาดที่กะเหรี่ยงบางคนให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเลยว่า คนที่ขับคือ รัสเซีย โอ้โห สุดยอด ท่านผู้ชมครับ คุณอยู่บนพื้นดิน เครื่องบินอยู่ข้างบน คุณเห็นแม้กระทั่งว่าสีผิวคนขับเป็นสีทอง สีขาว ผมสีทอง ตาสีฟ้า ถึงบอกว่าเป็นรัสเซียได้ คือหยุดมโนกันได้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปลายเหตุ เราต้องมองต้นเหตุว่าเกิดขึ้นอย่างไร

ปลายเหตุก็คือ โอเค เครื่องบิน MiG-29 กำลังโจมตีกับกลุ่มกบฏ โดยที่มีชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาวกะเหรี่ยง และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี เขาร่วมมือกันรบกับทหารพม่า แล้วก็ทำให้เกิดการบินล้ำแดนไทยเข้ามา แต่เรามองต้นเหตุท่านผู้ชม จริงๆ แล้ว พูดกันตรงๆ เลยนะ กรณีเครื่องบินรบ MiG-29 ของพม่ารุกเข้ามาในน่านฟ้าไทย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมโหฬารหรอก มันแค่ 4-5 กิโลเมตร และเขาขอโทษมาเรียบร้อยแล้ว เขาขอแสดงความเสียใจและเขาบอกว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ผมคิดว่าแค่นี้น่าจะพอแล้วในลักษณะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน นี่ถึงขนาดจะต้องขึ้นไปยิงเครื่องบินเขาให้ตก ถ้าสมมุติขึ้นไปยิงเครื่องบินเขาให้ตกปั๊บ มันก็เข้าทางมหาอำนาจที่รอจังหวะนี้อยู่แล้ว ที่จะให้ประเทศไทยเป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศพม่า เพราะตะวันตก อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย พวกอินโด-แปซิฟิก อยากให้ไทยรบกับพม่าใจแทบขาด สมใจแล้วสิ ก็คือเราก็มีประชาชนที่ค่อนข้างจะเลือดร้อน หลายคน ทั้งมีชื่อเสียง และไม่มีชื่อเสียง ออกมาแสดงความคิดเห็น ต้องยิงมันให้ตก พวกคุณนี่เวลาที่บอกว่าต้องรบกับพม่า ต้องยิงพม่าให้ตก อ่านข่าวไม่ได้มองที่มาที่ไป ต้นสายปลายเหตุว่าทำไมพวกกะเหรี่ยงเคเอ็นยู หรือสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ถึงรบกับรัฐบาลพม่า พวกคุณหลงลืมไปแล้วว่ากะเหรี่ยงพวกนี้นับถือศาสนาคริสต์ตามพวกล่าอาณานิคม อย่างอังกฤษ อเมริกา มาเป็นเวลานับร้อยๆ ปีแล้วนะ

ชาวกะเหรี่ยง กับชาวพม่านั้น ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ กันมานานแล้ว โดยความขัดแย้งถึงขั้นแตกหักระหว่างกะเหรี่ยงกับพม่ามีสาเหตุจากยุคที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ชาวกะเหรี่ยงเต็มใจที่จะเป็นทาสของฝรั่ง ทาสของอังกฤษ สมัยนั้นมีพวกมิชชันนารีอังกฤษ อเมริกา ฝังตัวอยู่ในหมู่ชาวกะเหรี่ยง เปลี่ยนให้ชาวกะเหรี่ยงกลายมานับถือศาสนาคริสต์ พวกอังกฤษ อเมริกา ก็เข้าไปสอนภาษาอังกฤษได้ดี ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ แล้วเอาเด็กกะเหรี่ยงไปเรียนต่อ อย่างไรก็ดี ยังมีกะเหรี่ยงกลุ่มอื่นที่นับถือศาสนาพุทธ ถูกกีดกันออกไป เพราะความเชื่อด้านศาสนา


ปัจจุบันนี้มีกะเหรี่ยงชาวคริสต์ 20 เปอร์เซ็นต์ ถือคริสต์ อีก 75 เปอร์เซ็นต์ ถือพุทธ กะเหรี่ยงคริสต์นั้นเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลพม่า และชาวพม่า มาอย่างยาวนาน กะเหรี่ยงพุทธนั้นใกล้ชิดกับพม่า สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ กะเหรี่ยงเคเอ็นยู นั้น เป็นพวกกะเหรี่ยงคริสต์ พวกนี้ถูกฝรั่ง CIA อเมริกัน ยุยงปลุกปั่นแทรกซึมในรูปของมิชชันนารีที่เข้ามาสอนศาสนามาตลอด เป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นที่รับทราบและรู้กันแพร่หลายในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง และ NGO ที่ทำงานกับกะเหรี่ยงว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้เข้าไปมีบทบาทในการจัดตั้ง ฝึกอาวุธ สนับสนุนอาวุธให้ชาวกะเหรี่ยงผ่านชายแดนทางตะวันตกของประเทศไทย ผ่านประเทศไทย แล้วมาเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นภายหลังการรัฐประหารของกองทัพพม่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ของ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย


ผมเคยพูดเรื่องนี้มาตั้งหลายครั้ง ผมเอารูปขึ้นให้ดู ในรูปนี้จะเห็นฝรั่ง นั่งขวาคือ พลโท บอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง ผู้สูงอายุนั่งทางซ้าย เป็น ผบ. KNLA ที่ 5 นี่คือกองกำลังทหารรับจ้าง หรือกองกำลังส่วนหนึ่งของ CIA ที่ส่งเข้าไปฝึกอาวุธให้พวกกะเหรี่ยง 


ที่ชัดเจนที่สุด ท่านผู้ชมครับ ผมก็เคยพูดถึงแล้วเช่นกันว่า องค์กร Free Burma Rangers ของอดีตหน่วยรบพิเศษอเมริกา นายเดวิด ยูแบงค์ อ้างมาว่ามีบทบาทให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พม่าที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม


ดูภาพกิจกรรมก็คือ ส่งเข้ามาเพื่อที่จะมาฝึกกะเหรี่ยงให้เป็นทหารเพื่อรบกับพม่า นี่คือข้อเท็จจริงท่านผู้ชม แล้วท่านผู้ชมที่หัวร้อน จะรบกับพม่า ยิงเครื่องบินพม่าให้ตก ดูให้ดีๆ จะเป็นทูตหรือไม่เป็นทูต ไม่สนใจ คุณวีระ สมความคิด หรือใครก็ตาม พี่เต้ ดูให้ดีๆ นี่คือฝีมือตะวันตก


โครงการส่งอาสาสมัครเข้าใกล้ชิด เข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านในรัฐชาติพันธุ์ต่างๆ เขาจะเน้นที่กะเหรี่ยง รัฐกะเหรี่ยง และกะยา ก็คือกะเหรี่ยงแดง ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนตะวันตกของประเทศไทย ยาวเลย ตั้งแต่แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนไปถึงระนอง 


ซึ่งแท้ที่จริงแล้วภารกิจก็คือการฝึกชาวบ้านให้จับอาวุธสู้รบกับรัฐบาลพม่า เพราะฝรั่งเห็นแล้วว่า พื้นที่ชาวกะเหรี่ยงพวกนี้อยู่ติดพรมแดนไทย พอมีเรื่อง สู้ไม่ได้ก็ถอยเข้ามาในพรมแดนไทย พม่าก็ไม่กล้าเข้ามาในพรมแดนไทย

ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่ไม่รู้เรื่อง ฟังผมสักนิด ประเทศไทยในขณะนี้ไม่ได้มีการปะทะอะไรกับทางพวกพม่า กองทัพพม่า เพราะว่ากองทัพไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพบก โดยผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ ได้ส่งคนไปประสานงานกับกองทัพบกพม่า ว่า เวลาคุณจะปราบพวกคุณ เว้นระยะห่างให้หน่อยได้ไหม เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องยิงกระสุนปืนใหญ่ตกมาทางฝั่งไทย เพราะถ้าคุณยิงตกมา เราก็จำเป็นต้องตอบโต้ ตอบโต้กันไปตอบโต้กันมา จากชกกันด้วยหมัด เดี๋ยวจะกลายเป็นเอาปืนมาไล่ยิงกัน

ท่านผู้ชมครับ ด้วยเหตุนี้การปะทะกันระหว่างกองทัพไทย กับ กองทัพพม่า ไม่มีเลย มีอยู่อย่างเดียวคือ กะเหรี่ยง และ ฝั่งตะวันตก CIA ที่ใช้คนพวกนี้ แล้วก็ส่งอาวุธผ่านชายแดนไทย ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่าอ้ายอีตัวไหนเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้มีการส่งอาวุธไป เพราะนี่คือการทำลายชาติ ปัญหาของพม่าไม่ใช่ปัญหาของไทย คุณไปยุ่งอะไรกับเรื่องของ มิน อ่อง หล่าย เขาทะเลาะกับ อองซาน ซูจี และ อองซาน ซูจี ก็ไปจับมือกับกะเหรี่ยงพม่าที่เป็นชาวคริสต์ ส่วนชนกลุ่มน้อยอื่นๆ นั้นรัฐบาลพม่าของ มิน อ่อง หล่าย เขาจับมือทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ว่ามาร่วมกันเถอะ ฟื้นฟูประเทศ

ท่านผู้ชมที่หัวร้อน ท่านผู้ชมพอใจไหม ชอบใจไหม ถ้าวันหนึ่งข้างหน้ามีการเรียกร้องอิสรภาพแล้วแยกประเทศของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี แล้วจู่ๆ มีต่างชาติ ไม่ว่าจะชาติไหน หรือแม้กระทั่งชาติหมาก็ตาม เข้ามาแล้วมาแทรกแซง เราจะบอกชาวโลกอย่างไร ในที่สุดเราก็ต้องบอกชาวโลกว่า เฮ้ย! 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นดินแดนของประเทศไทย เป็นเรื่องภายในประเทศไทย ไม่มีใครมีสิทธิมายุ่งได้นอกจากประเทศไทยจะจัดการปัญหาของประเทศไทยเอง ใช่ไหมท่านผู้ชม ถ้าท่านผู้ชมบอกว่าใช่ ถ้าอย่างนั้น เรื่องความขัดแย้งกันของพม่าภายในประเทศของเขา ก็เป็นเรื่องของเขา ใช่ไหม ? ถ้าท่านตอบว่าใช่ ก็ต่อไปอีกเรื่องหนึ่งว่า เรื่องความขัดแย้งระหว่าง ไต้หวัน กับ จีนแผ่นดินใหญ่ ก็เป็นเรื่องของประเทศจีน ใช่ไหม เพราะว่าประเทศจีนบอกว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ชาติอื่นไม่ควรจะยุ่ง ท่านผู้ชมเห็นหรือยังว่านี่คือจุดอ่อนต่างๆ ที่ตะวันตกเอามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย เอามาใช้เพื่อปลุกระดมคนพวกนี้

ฝรั่งต้องการให้แต่ละประเทศที่ตัวเองคุมไม่ได้ ให้มีความวุ่นวาย ให้มันวุ่นวายฉิบหายเลย จะได้จับปลาตอนน้ำขุ่น เราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของมัน คำถามคือ กะเหรี่ยงพวกนี้สู้กับทหารพม่า เอาอาวุธมาจากไหนล่ะ ? ก็เอามาจากไทย เพราะฉะนั้น ในประเทศไทยใคร อ้ายอีคนไหนก็ไม่รู้ สนับสนุน พอสู้พม่าไม่ได้ก็ถอยเข้ามา ช่วงหลังก็กลายเป็นกะเหรี่ยงก็เริ่มมีขีปนาวุธแล้ว


นั่นคือที่มาว่าทำไมพม่าถึงตัดสินใจส่งเครื่องบิน MiG-29 มาโจมตี อย่าไปตกหลุมพรางกับดักของต่างประเทศ พอสู้ไม่ได้ก็ถอยเข้ามาในประเทศ แล้วท่านผู้ชมไม่คิดหรือว่ารัฐบาลพม่าเขาก็รู้เหมือนกันว่ามีคนในประเทศไทยบางคน บางกลุ่ม ที่เป็นคนที่สนับสนุนให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมา เพราะฉะนั้นแล้ว การที่พม่าปราบปราม สู้รบกับชนกลุ่มน้อย รัฐบาลชุด อองซาน ซูจี ... อองซาน ซูจี นี่เป็นเอเยนต์ของตะวันตกอย่างชัดเจน พื้นเพเรียนจบมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีสามีก็เป็นอดีตคนที่อยู่ที่อังกฤษ เรียนจบที่นั่นเหมือนกัน อองซาน ซูจี คิดแบบฝรั่ง ไม่ได้คิดแบบคนไทย หรือคนเอเชีย ไม่ได้คิดแบบคนพม่า เพราะฉะนั้นผมเข้าใจได้ว่าทำไมเขาต้องรบกัน


อองซาน ซูจี ที่ถูกปราบปรามและถูกจับ ก็เพราะ อองซาน ซูจี กำลังจะอนุญาตให้อเมริกามาใช้เกาะๆ หนึ่งนอกชายฝั่งพม่า เป็นที่ตั้งฐานทัพ ที่สำคัญที่สุด และผมก็ฝากเรื่องนี้ให้ท่านผู้บัญชาการทหารอากาศด้วย และฝากให้ทุกคนที่ต่อต้านในเรื่องของ MiG-29 ที่พม่าเข้ามา รวมทั้งท่านทูตรัศม์ ผมฝากว่า เรื่องใหญ่ที่สุด ไม่ใช่เรื่องพม่าขับเครื่องบิน MiG-29 เข้ามาในประเทศไทย 4-5 กิโลเมตร แล้ววนกลับไป


เรื่องใหญ่คือ เมื่อไรเราจะยกเลิกให้สิงคโปร์มาเช่าสนามบินฝึกซ้อมเครื่องบินรบในน่านฟ้าและประเทศไทยเสียที ท่านผู้ชม ถึงแม้กองทัพอากาศจะอ้างว่า อธิปไตยบนน่านฟ้าเป็นของเรา ก่อนที่เครื่องบินสิงคโปร์จะขึ้นก็ต้องขออนุญาตเราก่อน ท่านผู้บัญชาการทหารอากาศครับ ท่านทหารอากาศที่ใช้ตรรกะห่วยๆ แบบนี้มาพูด ผมถามคำหนึ่ง ตอนนี้ฝึก F-16 อีกไม่นานเขาจะส่ง F-35 มาฝึกแล้ว ฝึกบนดินแดนไทย โดยให้สิงคโปร์เช่าพื้นที่ มันเรื่องอะไรที่เราต้องให้เขาไปเช่าพื้นที่ เหตุผลที่เช่าพื้นที่ตอนแรกก็เพราะสิงคโปร์มันมาเช่าแล้วมันก็จะเอา F-16 รุ่นเก่าๆ ที่เป็นเหมือนซาเล้ง รถเก่าๆ เครื่องบินเก่าๆ เอามาแถมให้กับประเทศไทยและกองทัพอากาศไทย กองทัพอากาศไทยจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม ก็รับมาแล้วก็ให้มันเช่าไป


ถ้าผมจำไม่ผิด ไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่เขาให้เช่าสนามบินเพื่อให้ฝึกบินของอีกประเทศหนึ่ง ไม่มี มีประเทศไทยนี่ล่ะ นอกจากในภาวะสงคราม รัสเซียไปตั้งกองทัพอากาศอยู่ในซีเรีย เพื่อป้องกัน เพื่อไม่ให้อิสราเอลมาโจมตี หรือรัสเซียมาตั้งกองทัพอากาศอยู่ที่ลาว เหตุผลก็เพราะว่า เอามากั๊ก และป้องกันไม่ให้อเมริกาที่เข้ามาประเทศไทย แล้วใช้ฐานะในประเทศไทยเพื่อโจมตีจีนทางตอนใต้และโจมตีลาว นั่นคือการประชันกันระหว่างหมากรุก กับ หมากล้อม

ท่านผู้ชมครับ ถ้าท่านจะหัวร้อน ท่านเรียกร้องให้กองทัพอากาศยกเลิกให้สิงคโปร์เป็นคนเช่าสนามบินของเรามาฝึกบิน ท่านผู้บัญชาการทหารอากาศท่านอาจจะไม่รู้ก็ได้ แต่ท่านหัวร้อนทั้งหลาย รวมทั้งท่านทูต ก็ต้องรู้ ว่าสิงคโปร์นี้ก็คือลูกไล่ สุนัขรับใช้ของอเมริกา เป็นตัวแทนอเมริกาเต็มตัว ถ้าสมมุติมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างอเมริกา กับ จีน ถึงขั้นที่จะต้องปะทะกัน แล้วมันกำลังใช้เครื่องบิน F-35 ฝึกอยู่ในประเทศไทย ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าจู่ๆ คนที่บินเครื่องบิน F-35 ขึ้นไปข้างบนนั้นจะเป็นนักบินของสิงคโปร์ หรือเป็นนักบินของอเมริกา ก็เป็นไปได้ใช่ไหม โดยใช้ฐานไทย ใช้ F-35 ขึ้นไป ไปถล่มจีนทางตอนใต้ ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง ตรงนี้ต่างหากสำคัญ ทำไมพวกท่านไม่รวมตัวรวมใจกันล่ะ แล้วก็ไล่สิงคโปร์ให้ออกจากประเทศไทย ไม่ต้องมาฝึกบินในประเทศกู พื้นที่มึงมีก็ไปฝึกบินที่โน่นสิ ก็ประเทศสิงคโปร์ยังเล็กกว่าเขตพระนครอีก บินขึ้นไปก็บินออกไปฝึกในทะเลสิ ทำไมต้องมาฝึกในประเทศไทย ผมยังหาเหตุผลไม่ได้เลยว่าทำไมต้องมาฝึกในประเทศไทย นอกเสียจากว่าสิงคโปร์เป็นตัวแทนของตะวันตก เป็นตัวแทนของอเมริกา แล้วใช้ประเทศไทย ประเทศไทย คุณยังไม่เข็ดหลาบ ไม่จำอีกหรือ ในการที่ยอมให้อเมริกาใช้อู่ตะเภาเป็นที่ตั้งของเครื่องบิน B-52 บินไปถล่มเวียดนาม คุณยังไม่เข็ดอีกหรือ พวกคุณอ่านประวัติศาสตร์เป็นไหม นี่ คอยดู คุณให้เช่าแล้วคุณเปิดข้อมูลได้ไหมว่าคุณให้เช่าบนเงื่อนไขอะไร กองทัพอากาศ ถึงเวลาผมต้องเอาคืนกองทัพอากาศแล้ว ผมปกป้องในเรื่องการแก้ตัวของคุณ ฟังขึ้น แต่เรื่องนี้คุณแก้ตัวมาสิ คุณแก้ตัวมา ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง นี่คือประเด็นหลัก ไม่ใช่เรื่องบินเข้ามา 4-5 กิโลเมตร แล้วพี่เต้บอกต้องยิงมันให้ตก ท่านทูตบอก ไม่ได้ ต้องยิงก่อน ยิงก่อนพูดทีหลัง ไม่ใช่


ท่านผู้ชมครับ ก่อนจะจบรายการวันนี้ ผมจะขอพูดเรื่องการวิวาทะระหว่าง คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กับ คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในเรื่องของค่ากลั่น

ผมจะเอาข้อมูลวิวาทะกันระหว่าง คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ คือสรุปง่ายๆ ว่า คุณกรณ์ บอกว่า ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตอนที่คุณกรณ์ เป็นรัฐมนตรีฯ คลัง 11 ปีที่แล้ว เทียบกับราคาดีเซลปัจจุบัน ตอนนั้นราคาน้ำมันดิบ 110 เหรียญต่อบาร์เรล เท่ากับตอนนี้ แต่ราคาดีเซลหน้าปั๊มแค่ 29.99 บาทต่อลิตร ตอนนี้ขึ้นเป็น 34.99 บาทต่อลิตร ขึ้นประมาณ 5 บาท แพงกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ ในข้อเท็จจริงแล้ว คุณสุพัฒนพงษ์ ก็ออกมาชี้แจง ว่ามันมีปัจจัยค่าเงินบาท และดอลลาร์


ซึ่งคุณกรณ์ ไม่ได้เอาเข้ามาพิจารณา ถ้าเทียบราคาดีเซลเป็นเงินบาท ก็ต้องคิดว่าราคาน้ำมันดิบก็เป็นเงินบาทด้วย สิบปีก่อน เงินบาทแข็งค่ากว่าตอนนี้ 18 เปอร์เซ็นต์ มันเท่ากับราคาดีเซลที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทเดือนเมษายน 2554 ย้อนหลังไป 30 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ วันนี้ กรกฎาคม 2565 ค่าเงินบาท 35 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี นอกจากราคาน้ำมันตลาดที่สูงขึ้นเพราะสงครามยูเครน ก็เพราะว่าค่าเงินบาทอ่อนตัวลงด้วย ถ้าตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนข้อมูล จะต้องให้ราคาน้ำมันดิบในเดือนเมษายน เป็นเงินบาท เท่ากับบาร์เรลละ 3,300 บาท ปัจจุบันนี้ ในเงินบาทที่ถูกลง บาร์เรลกลายเป็น จาก 3,300 สมัยเมษายน 2554 ราคาบาร์เรล ณ วันนี้ 3,850 บาท แพงขึ้นกว่ากัน 550 บาท คุณสุพัฒนพงษ์ ก็เลยบอกว่า จะไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลยุคนี้แพงกว่ายุคนั้นได้อย่างไร

ก็เลยบอกว่า การเปรียบเทียบต้นทุนน้ำมันดิบต้องดูค่าเงินที่แตกต่างด้วย เพราะว่าหมายเหตุเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้ตอนท้าย ซึ่งคุณกรณ์ หมายเหตุเอาไว้แล้ว แต่ตัวเล็กจิ๋ว อ่านแทบไม่ออก ไม่มีใครอ่าน อีกประการหนึ่ง ปัจจัยคุณภาพน้ำมัน ทางกระทรวงพลังงานบอกว่า น้ำมันดีเซลตอนนี้ใช้มาตรฐาน ยูโร 5 มีกำมะถันต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น PM 2.5 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สมัยคุณกรณ์ อยู่นั้น ใช้ ยูโร 3

เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือข้อมูลที่ผมจะเอาทั้งสองฝ่ายมาเล่าให้ฟังว่ามันเป็นอย่างนี้ครับ

ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์หน้าเป็นรายการที่ผมไม่อยากให้ท่านผู้ชมพลาด ปูเสื่อรอฟังได้เลย มีเรื่องใหญ่ๆ 2-3 เรื่อง ที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน เรื่องแรก ท่านผู้ชมรู้จักไอเอ็มเอฟ ใช่ไหม ตอนนี้กลุ่ม BRICS ของรัสเซีย จีน อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ กำลังจะตั้งไอเอ็มเอฟ 2 ขึ้นมา เพื่อแข่งขันกับไอเอ็มเอฟ นี่คือการปลดแอกจากการเป็นทาสเศรษฐกิจและการเงิน และที่สำคัญคือ ประเทศไทยจะยืนอยู่ที่ไหน


ที่สำคัญมาก อาทิตย์หน้า ท่านผู้ชมจำ "ผู้กำกับโจ้" ได้ใช่ไหม คนที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต เพราะเอาถุงคลุมหัวผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า ผู้กำกับโจ้ รวยแค่ไหน อาทิตย์หน้าเราจะมาเปิดโผกัน ท่านผู้ชมเห็นตัวเลข เห็นข้อมูลจากผมแล้ว ท่านผู้ชมจะอึ้ง นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงจริงๆ เพราะฉะนั้นอาทิตย์หน้าอย่าพลาดนะครับ สวัสดีครับท่านผู้ชม
กำลังโหลดความคิดเห็น