xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : พลังประชารัฐ จับมือ เพื่อไทย จริงหรือ? -จับ "โทนี่ เตียว" สะเทือนนักการเมืองภาคใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 12 ส.ค.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ ได้แก่
 - เบื้องลึกการเมือง โจรห้าร้อย ดีลลับ ใช้กลไกสภาล้มสูตรหาร 500
 - พลังประชารัฐ จับมือ เพื่อไทย ดัน บิ๊กป้อม นายกฯ คนต่อไป 
 - ออร์เดิร์ฟ ZIPMEX เอี่ยวลูกหลานคนใหญ่คนโตเพียบ 
 - เพโลซี เอฟเฟกต์ อนาคตไต้หวันจะเป็นเหมือนยูเครนหรือไม่? 
 - สร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สงขลา พี่น้องมุสลิมควรเปิดกว้าง
 - จับ โทนี่ เตียว ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ สะเทือนนักการเมืองภาคใต้ 

ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.150



คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 150 [12 ส.ค. 65] : พลังประชารัฐ จับมือ เพื่อไทย จริงหรือ?

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 และวันนี้เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในรัชกาลที่ 9 ต้องถือว่าเป็นวันแม่แห่งชาติ ทุกคน หลายๆ คน คงจะกลับไปหาแม่กัน หลายๆ คนที่ไม่คิดถึงแม่ หรือเห็นแม่เป็นของตาย เปลี่ยนความคิดได้แล้ว เพราะเรามีแม่คนเดียว ส่วนแม่คุณนั้น ไม่เกี่ยว แม่คุณ นั่นภรรยา แม่ผู้ให้เราเกิดมีอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว แม่จะเป็นอย่างไรก็ตาม แม่คือคนที่รักเรา อาจจะแสดงความรักที่ไม่เหมือนกัน ต่างวิธี แต่ในที่สุดแล้วก็จบลงด้วยว่า "แม่รักลูก"

แม่ให้เราเกิด เลี้ยงดูเรามา กระทั่งเราเจริญเติบโตแล้ว ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยอยู่ ถึงแม้ท่านผู้ชมจะอายุมากขนาดไหน ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่ก็จะเป็นคนที่คอยกังวล คอยดูแล คอยปกป้อง เพราะฉะนั้นแล้ว วันที่แม่เสียชีวิต สิ้นไป จากเราไป นั่นคือวันที่เราจะไม่มีคนที่จะมาห่วงใยเราด้วยจิตที่บริสุทธิ์ แล้วแม่ไม่ได้หวังอะไรจากเราเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะแม่รักเรา ท่านผู้ชมครับ รักแม่ให้มากๆ ถ้ายังไม่ได้บอกว่า ผม/หนูรักแม่ ให้รีบบอกซะ ถ้ามีโอกาส ไม่ได้กอดแม่มานานแล้ว ก็กอดแม่ซะ แม่จะแต่งตัวสกปรกอย่างไร จะทำงานอะไร ไม่ต้องไปกังวล ขอให้กอดแม่ นั่นคือความรักที่บริสุทธิ์ที่แม่ให้กับเรา เผลอๆ แม่จะรักเรามากกว่าพ่อรักเราเสียด้วยซ้ำ เพราะผมสังเกตแล้ว ช่วงหลังๆ มีครอบครัวหย่าร้างกันมาก ปรากฏว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ แม่เป็นคนเลี้ยงลูกที่พ่อที่เลิกไป ทิ้งเอาไว้ให้แม่เลี้ยง กลายเป็นแม่คนเดียวตลอดเวลา

เวลาพวกเรามีความสุข แม่ก็ดีใจด้วย แต่แม่ไม่ได้มาแย่งผลประโยชน์อะไรจากเรา แม่ดีใจด้วย แต่เวลาเรามีทุกข์ คนที่แอ่นอกและเข้ามาชนให้กับเรา ก็คือแม่ ท่านผู้ชมครับ รักแม่ให้มากๆ คุณกอดแม่หรือยังวันนี้ คุณโทรศัพท์ไปบอกแม่หรือเปล่าว่า แม่ครับ/แม่ครับ วันนี้ผม/หนูติดธุระ มาไม่ได้ แต่หนูอยากจะบอกว่าหนูรักแม่มากนะ และขอให้แม่มีอายุยืนยาวอยู่กับหนู/ผมไปนานๆ

ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้โควิด-19 มีคนป่วยเยอะ จำนวนมาก เยอะมาก เขาบอกว่าถ้ามีคนตายวันละ 30 คน จากการประเมิน ต้องมีคนติดเชื้อเกือบๆ แสนคนต่อวัน เพราะทุกวันนี้เราตรวจกันเอง ATK คนจะมาหาผมก็ต้องเช็ก ATK ถ้าขึ้น 2 ขีด พบไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว ผมเช็ก ATK อาทิตย์ละ 2 วัน


ท่านผู้ชมครับ เราแจกฟ้าทะลายโจรไปเยอะมาก คนอายุ 104 ปี ที่ผมรู้ ติดโควิด เข้าโรงพยาบาล แล้วหมอไปหาโมลนูพิราเวียร์ให้ทาน 5 วันหายครับ แต่ว่านอนติดเตียง ลุกไม่ได้แล้ว มือเย็น เท้าเย็น อายุ 104 ปี เกิดนึกอะไรขึ้นมาไม่รู้ กลุ้มใจมาก ลูกๆ หลายคนไปเจอ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ของอาจารย์ปานเทพ ปรากฏว่าให้แม่ทาน อาการมือเย็นหาย ลุกขึ้นมาได้ ทุกอย่างดีหมด นี่คือผลข้างเคียงของยาฝรั่ง ส่วนฟ้าทะลายโจรนั้น ทานไปเลย ไม่เป็นไร มื้อละ 4 เม็ด หรือ 5 เม็ด ได้ทั้งนั้น วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น 5 วันหายเหมือนกัน หลายต่อหลายกรณี แค่ 3 วันก็หายแล้ว


ท่านผู้ชมครับ อย่าลืมว่าตอนนี้ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ของอาจารย์ปานเทพ ที่สอบถามกันมากทาง inbox ของได้เข้ามาแล้ว แต่จำนวนไม่มากนัก ใครที่ต้องการ ให้สอบถามทาง inbox ด่วน หรือแอดไลน์สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์ ที่ @baanphraathit_herb

ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้มีเรื่องอยู่ไม่มาก แต่ก็เป็นเรื่องที่สด อ่อนไหว และควรจะรู้ เรื่องแรกเป็นเรื่องการเมือง ไม่พูดไม่ได้ การเมืองเรื่องหาร 100 หาร 500 ของโจร 500 ทั้งหลาย

เรื่องที่สองก็คือ ผมรับปากว่าจะพูดเรื่อง ซิปเม็กซ์ (Zipmex) แต่เนื่องจากว่ามีเรื่องราวใหญ่ๆ โตๆ หลายเรื่อง ผมจะเอาเรื่องซิปเม็กซ์ไปพูดอาทิตย์หน้า แต่ว่าผมมีออร์เดิร์ฟเรื่องซิปเม็กซ์ ผมกำลังพูดถึงลูกหลานของคนใหญ่โต 3 คน หนึ่งคือ คุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ สอง คุณไชยา ยิ้มวิไล ที่มีอำนาจอยู่ในแวดวงการเมือง ใกล้ชิดสนิทสนมกับวิษณุ เครืองาม และสาม ลูกชายของท่านรองนายกรัฐมนตรีวิษณุ เครืองาม วันนี้ผมเอาเรื่องราวของคุณสถิตย์ ออกมาให้ฟังก่อน ท่านผู้ชมอาจจะนึกไม่ถึงว่าเป็นเรื่องราวอะไร แต่ลองฟังดูก็แล้วกัน วันนี้ผมเอาสปอตไลต์ไฟส่องหน้าคุณสถิตย์ ให้สว่างไปหมดเลย เพื่อให้สังคมทั้งสังคมรู้จักว่าคุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ คือใคร และมาอย่างไร และเป็นอย่างไรบ้าง

อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่สาม เผอิญมีข่าวเรื่องการจัดสร้างเจ้าแม่กวนอิม ที่ อ.เทพา จ.สงขลา แล้วโดนชุมชนชาวมุสลิมหลายพันคนต่อต้าน ผมคิดว่าเรื่องนี้ ผมมีความคิดของผม ไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนผม แต่ว่าอยากให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งใจฟังแล้วทำใจให้เป็นกลาง เปิดทัศนคติให้กว้าง เราต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

เรื่องที่สี่ ก็คือเรื่อง ยัยแนนซี เพโลซี โมเดลยูเครน มันจะมาเป็นโมเดลไต้หวันได้หรือเปล่า

เรื่องที่ห้า เรื่องสุดท้าย ท่านผู้ชมครับ เรื่องใหญ่มาก ท่านผู้ชมอาจจะไม่รู้จักคนชื่อ โทนี่ เตียว (เตียว วุย ฮวด) ชื่อเล่นชื่อ เสี่ยวจาง เพิ่งถูกตำรวจจับเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ไม่มีใครลงข่าว แต่นี่โยงขบวนการยาเสพติดยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ สะท้านการเมือง สะเทือนนักการเมืองทางภาคใต้ เพราะว่านักการเมืองทางภาคใต้หลายๆ คนสนิทสนมกับนายโทนี่ เตียว มาก รีดไถเงินนายโทนี่ เตียว ไปเล่นการเมือง แล้วก็ปกป้องนายโทนี่ เตียว จากเงื้อมมือกฎหมาย

เรื่องแรกวันนี้ที่ผมจะพูด จำเป็นต้องพูดเรื่องการเมืองนิดหน่อย แต่จะไม่ยาวนัก ท่านผู้ชมคงติดตามข่าวแล้วคงอาจจะสับสนบ้างว่า ตอนนี้แนวโน้มที่การเลือกตั้งโดยใช้สูตรปาร์ตี้ลิสต์ สรุปแล้วหาร 500 ถูกล้มไปแล้ว เลยต้องกลับไปใช้หาร 100

ท่านผู้ชมครับ คำว่า "หาร 100" กับ "หาร 500" มันคืออะไร ? คือเมื่อการเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ บัตรใบที่สองก็คือบัตรเลือกปาร์ตี้ลิสต์ ปาร์ตี้ลิสต์ ก็หมายความว่า ถ้าใช้วิธีหาร 100 เท่ากับว่าจะต้องมีคะแนนเสียง 350,000 คน ถึงจะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 1 ที่ ก็หมายความว่า อีกหน่อยสมมุติว่ามีคนลงคะแนนเสียงบัตรปาร์ตี้ลิสต์ให้กับพรรคใดก็ตาม ตีว่าลงสัก 3.5 ล้านคน ก็คือได้ปาร์ตี้ลิสต์ 10 ที่ นั่นคือ "หาร 100"

ซึ่ง "หาร 100" พรรคใหญ่ๆ อย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ต้องการ แต่ขณะเดียวกัน พรรคขนาดกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่จะกระทบมากที่สุด คือ พรรคก้าวไกล เพราะคราวที่แล้วพรรคก้าวไกล ส.ส.เขต ได้น้อย แต่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เยอะมาก ในขณะซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์เลยแม้แต่คนเดียว


ทีนี้ หากหารด้วย 100 ส.ส.ประเภทพรรคประชาธิปัตย์ พรรคกลาง ก็จะเดือดร้อน พรรคภูมิใจไทยก็อาจจะเดือดร้อน แต่พรรคภูมิใจไทยเขาเน้น ส.ส.เขต ทุ่มไปที่ ส.ส.เขต เพราะฉะนั้นแล้ว จะหารด้วยอะไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เดือดร้อนอะไรเรื่องพวกนี้ แต่สิ่งหนึ่งในการประชุมสภาฯ คราวนี้ ผมตั้งข้อสังเกต การล่มสภา ทำให้สภาล่มไปเลยเพื่อให้เรื่องที่จะต้องมาพิจารณาในเรื่องของ "หาร 500" ไม่สามารถจะทำต่อไปได้


เพราะหมดสมัยประชุมสภาฯ นั่นคือการที่ร่วมมือกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ประกอบดับ ส.ว. อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็น ส.ว. แต่งตั้ง สายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ต้องการเอาพรรคหารด้วย 100 มาแทน ก็เลยต้องล้ม "หาร 500" แล้ววิธีการก็คือ ไม่เข้าประชุมสภาฯ ทำให้สภาฯ ขาดองค์ประชุม แล้วท่านผู้ชมรู้ไหม ผมไปดูเหตุการณ์แล้ว มีอยู่พรรคเดียวที่เข้า คือ พรรคภูมิใจไทย


พรรคภูมิใจไทย จะเป็นอะไรก็ตาม ผมนับถือเขาตรงไหนรู้ไหม ? ผมนับถือเขาตรงที่ว่า เขารักษารัฐบาล และเขารักษารัฐสภา เขาไม่หายตัวไป เขาไม่ได้เล่นเกมการเมืองในรัฐสภาเลย เขาต้องการรักษาสถานภาพและศักดิ์ศรีของรัฐสภา เขาถึงเข้าประชุม แต่จำนวนคนที่เข้าประชุมก็ยังน้อยเกินไป สภาก็เลยต้องล่ม ก็เท่ากับว่าตอนนี้กลับไปที่ 100 แล้วทำไมต้อง "100" ?

ที่ต้อง 100 ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐ จับมือกับพรรคเพื่อไทย ถ้าท่านผู้ชมติดตามผมมาตลอด ท่านผู้ชมจะจำได้ว่าวันที่ 10 กันยายน 2564 ปีที่แล้ว เดือนกันยายน ผมเป็นคนพูดคนแรก ผมฟันธงลงไปเลยว่า พรรคพลังประชารัฐ กับ พรรคเพื่อไทย กำลังหาช่องทางจับมือกัน และคนที่เดินทางเพื่อไปเจอพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทยนั้น ก็คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประวิตร


พล.ต.อ.พัชรวาท คือคนที่เชื่อมต่อระหว่างทักษิณ กับ ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ทักษิณต้องการก็คือ ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลโต เลยต้องใช้สูตรของการหาร 100

ในขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐก็ค่อนข้างจะมั่นใจในตัวเอง เพราะกุมอำนาจรัฐอยู่ ก็คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างน้อยที่สุดมีอำนาจรัฐเสียอย่าง จำนวนคนเข้ามาก็คงจะไม่น้อย ค่อนข้างจะยืนยันได้แล้วว่า ถ้าเลือกตั้งจบเรียบร้อยแล้ว น่าจะเป็นพลังพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย จับมือกันเพื่อตั้งรัฐบาล และชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี นี่ไงล่ะครับท่านผู้ชม การเมืองเรื่อง "หาร 100" กับ "หาร 500" ของ "โจรห้าร้อย" ทั้งหลาย


ที่ผมเสียใจคืออะไรรู้ไหมท่านผู้ชม ? ที่ผมเสียใจคือบทบาทของ ส.ว. วันนี้พิสูจน์ชัดเจน ว่า ส.ว. ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าไป แล้วออกจากสภาเพื่อให้สภาล่ม เป็นคนที่มีคุณภาพโหลยโท่ยมากเลย ผมเสียใจจริงๆ แล้วแต่ละคนก็ไม่ใช่ธรรมดานะ นายพลทั้งนั้น ข้าราชการชั้นสูงทั้งนั้น แต่ไม่ได้ใช้สติปัญญาเลยว่าการทำเช่นนี้ การล่มสภาแบบนี้ นั่นคือการทำลายและขัดขวางการเมืองที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ประชาชนพึ่งอะไรไม่ได้เลย ยิ่งกลับไปตอกย้ำให้เห็นถึงความเลวทรามต่ำช้าของ ส.ว. แต่งตั้ง บางส่วนนะครับ อาจจะไม่ใช่ทุกส่วน เพราะหลายๆ คนก็มีคุณภาพที่ดี และนี่คือการเมืองเมืองไทยจริงๆ ท่านผู้ชม เพราะฉะนั้นแล้ว จะ 100 หรือจะ 500 ก็ตาม ไม่เข้าไปถกเถียงกันด้วยเหตุด้วยผล แต่กลับใช้การล่มของสภาเพื่อเป็นการล้มญัตติอย่างเช่นเรื่อง 100 หรือ 500 ออกไปเสีย แล้วให้มันหมดวาระสมัยการประชุมสภา ไม่สามารถจะประชุมได้อีกต่อไป

ทั้งหมดนี้ทำเพื่อที่จะขวางพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลได้อานิสงส์จากพรรคอะไหล่ที่แตกออกมาจากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งแรก ได้เสียงมาตรงนั้นก็เลยทำให้พรรคก้าวไกลมีเสียงปาร์ตี้ลิสต์เยอะมาก นี่คือการเมืองเมืองไทย ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังครับ "หาร 100" กับ "หาร 500" ถ้าหาร 500 ก็แปลว่า ใช้คนเพียงแค่ 70,000 คน ก็สามารถจะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน เพราะฉะนั้นพวกพรรคเล็กๆ หลายๆ คนก็คิดว่าตัวเองน่าที่จะได้ พรรคของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถ้าหาร 500 ก็จะมี ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ เข้ามาหลายคน ก็จะทำให้ปริมาณพรรค หรือพรรคเกิดใหม่หลายๆ พรรคที่เกิดมา ถ้าหาร 100 แล้วจะเหนื่อย เพราะปาร์ตี้ลิสต์จะไม่ค่อยได้ ก็เลยต้องกลับไปพึ่ง ส.ส.เขต

ท่านผู้ชมครับ การเมืองเมืองไทยในขณะนี้มันยังมีวาระซ่อนเร้นอีกวาระหนึ่ง อาทิตย์หน้าผมจะพูด คือเรื่องการอยู่ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลจะออกมาอย่างไร


ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า ผมเคยพูดทำนายทางการเมืองว่า ตอนนี้การเมืองมันดูวุ่นวาย แต่ว่าตัวแปรที่สำคัญที่สุด ให้เรารอปลายเดือนสิงหาคม เราก็จะได้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้อยู่ต่อหรือเปล่า จากการตัดสินของผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวแว่วมาว่า 5 ต่อ 3 ก็คือไม่ได้อยู่ต่อ 5 เสียง บอกว่าไม่ได้อยู่ต่อ อีก 3 เสียง บอก อยู่ต่อ แต่ประเด็นในขณะนี้ ทุกอย่างเขามองข้าม พล.อ.ประยุทธ์ ไปแล้ว เขามองว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นมารักษาการนายกฯ ได้ โดยที่ก้าวข้ามเงื่อนไขที่บอกว่า จะต้องเป็นคนที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 2562 ในการเลือกตั้ง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ไม่มีชื่ออยู่ในนั้น เขาก็จะใช้วิธีการหลายๆ อย่าง เพื่อให้ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามที่ตัวเองต้องการ ทีมงาน พล.อ.ประวิตร ก็คงจะเฮกัน เพราะใฝ่ฝันกันมานานแล้วที่จะให้ พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะสั้นๆ ระยะเวลาสั้นๆ จากนี้ไป จากสิงหาคมไป ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่แล้ว จนกระทั่งยุบสภา เลือกตั้งต้นปีหน้า เพราะ พล.อ.ประวิตร ต้องการจะมาคุมกระทรวงมหาดไทย ที่ พล.อ.อนุพงษ์ มีกาวลาเท็กซ์ติดไว้ที่ก้น นั่งทับอยู่เก้าอี้แล้วไม่ยอมลุก พล.อ.ประวิตร มองว่าการเลือกตั้งนั้นถ้ากระทรวงมหาดไทยไม่เดินหน้าเต็มสูบ พรรคพลังประชารัฐก็อาจจะไม่ได้ ส.ส. ตามจำนวนที่ต้องการ เพราะฉะนั้น พล.อ.ประวิตร จำเป็นที่จะต้องเข้ามาดูแลรับผิดชอบและมีอำนาจอยู่ในกระทรวงมหาดไทย ก็อาจจะเป็นทั้งรักษาการนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่ และ พล.อ.ประวิตร ไม่อยู่ ก็หมายความว่านั่นคือการล่มสลายของ "3 ป." แล้วจะเอาอย่างไรกันต่อไปในประเทศไทย ท่านผู้ชมครับ นี่เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก แต่ผมเล่าให้ท่านผู้ชมฟังก่อนว่า ตอนนี้ถ้าทิศทางเขาไม่เอา "หาร 500" แต่เอา "หาร 100" แล้วข่าวคราวที่ผมได้มา แล้วการทำนายทายทักของผมตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2564 นั้น ก็เป็นความจริง ก็คือว่า ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.ประวิตร ต่อสายคุยกันตลอดเวลาโดยผ่าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นคนนำสาร และคนส่งสาร เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ต้องไปประหลาดใจ เพราะถ้าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ทักษิณ ไม่ต้องการที่จะส่งใครมาเป็นนายกฯ แต่จะให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ แต่ตัวเองก็จะมีลูกน้องไปนั่งตามตำแหน่งต่างๆ ในรัฐบาล และนี่คือการเมืองเมืองไทยที่เปิดฉากต้องอธิบายรายการนี้ตอนต้นรายการ

ท่านผู้ชมครับ ผมเคยรับปากท่านผู้ชมเอาไว้ว่าผมจะเอาเรื่อง ซิปเม็กซ์ (Zipmex) เข้ามาพูด นั่นคือบริษัทที่ค้าคริปโตฯ เหมือน บิทคับ (bitkub) แล้วเผอิญอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่มีเรื่องราวเยอะมาก ก็เลยจำเป็นต้องเลื่อนไปเป็นอาทิตย์หน้า แต่ว่าผมมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซิปเม็กซ์ นี้ อยากให้ท่านผู้ชมได้รับทราบเอาไว้

 เอกลาภ ยิ้มวิไล
ลูกคนใหญ่คนโตที่อยู่ในบริษัทนี้ ก็มีคนใหญ่คนโตอยู่ 3 คน คนแรกก็คือ เอกลาภ ยิ้มวิไล เป็นลูกชายของนายไชยา ยิ้มวิไล ตอนนี้ก็ยังมีอำนาจหน้าที่ทางการเมือง เป็นกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (ดร.วิษณุ เครืองาม) เป็นที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิเยอะแยะไปหมดเลย เป็นอดีตโฆษกของรัฐบาลชุดสุรยุทธ์ สังกัดวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

คุณเอกลาภ ยิ้มวิไล ลูกชายของคุณไชยา ยิ้มวิไล ซึ่งมีความสนิทสนมกับวิษณุ เครืองาม และอยู่ในแวดวงผู้บริหารและการเมืองของรัฐบาล ถือหุ้นในซิปเม็กซ์ 232,220 หุ้น อีกสองคนต่อมา ผู้หญิง ชื่อ พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ และผู้ชาย ชื่อ ภาคย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นพี่น้องกัน พราวถือหุ้นอยู่ 162,811 หุ้น ส่วนภาคย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ถือหุ้นอยู่ 85,470 หุ้น รวมแล้วเบ็ดเสร็จทั้งสองคนมีอยู่ 240,000 หุ้น ซึ่งมากกว่าเอกลาภ แต่ข้อมูลระบุมาว่า สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ซึ่งเป็นบิดานั้น พยายามอธิบายให้คนอื่นฟังว่าไม่ได้ซื้อหุ้น เขาแจกหุ้นให้ ซึ่งก็น่าจะฟังไม่ค่อยขึ้น เพราะว่าถ้าแจกหุ้นให้ ทำไมสองคนรวมกันแล้วยังมากกว่านายเอกลาภ ยิ้มวิไล


ส่วนลูกชายของวิษณุ เครืองาม ไม่ได้ถือหุ้น ตำแหน่งเป็นแค่ที่ปรึกษา

ทำไมผมต้องเอาเรื่องนี้มาพูด ? ที่ผมต้องเอาเรื่องมาพูดก็เพราะว่า ผมต้องการที่จะเอาเรื่องราวของบริษัท ซิปเม็กซ์ และผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งอยู่เบื้องหลังของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกลาภ ยิ้มวิไล หรือไม่ว่าจะเป็น พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ หรือว่าจะเป็น ภาคย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นลูกชายของอดีตปลัดกระทรวงการคลัง สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์ แล้วปัจจุบันก็มีตำแหน่งเป็น ส.ว. อยู่ในรัฐบาลชุดนี้

ส่วนอีกคนชื่อ วิชญะ เครืองาม เป็นลูกชายของคุณวิษณุ เครืองาม ซึ่งมีตำแหน่งในบริษัท ซิปเม็กซ์ เป็นที่ปรึกษา


คุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ซึ่งเป็นพ่อของพราว และ ภาคย์ เป็นตัวอย่างที่ดีที่ผมจำเป็นต้องเอามาพูดในวันนี้ ความจริงแล้วผมก็รู้จักคุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ดี ที่มาที่ไปของคุณสถิตย์ เป็นอย่างไร ผมรู้ดีหมดทุกอย่าง ผมไม่พูดก็แล้วกัน เอาอะไรที่มันชัดๆ ชัดเจนเลย ตอนที่คุณสถิตย์ รับตำแหน่งเป็น ส.ว. แต่งตั้งโดย คสช. นั้น คุณสถิตย์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ ให้กับ ป.ป.ช. ว่า คุณสถิตย์ มีทรัพย์สินอยู่ 249,828,577.43 บาท (สองร้อยสี่สิบเก้าล้านแปดแสนสองหมื่นแปดพันห้าร้อยเจ็ดสิบเจ็ดบาทสี่สิบสามสตางค์) และไม่มีหนี้สิน

ท่านผู้ชมตามผมมา กันยายน 2564 ศาลฎีกาสั่งชดใช้เงินจำนวน 66,000 ล้านบาท ในคดี สุธรรม มลิลา แก้สัมปทานเอื้อบริษัท เอไอเอส


2544 นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็น 1 ใน 7 คณะกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ที่เข้าประชุมในคดีแก้ไขสัมปทานครั้งที่ 6 เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า (pre-paid) ให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส โดยมิชอบ นั่นคือปรับลดอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่ายสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบบัตรจ่ายเงินล่วงหน้า พร้อมให้กับ TAC จากอัตรา 200 บาทต่อหมายเลขต่อเดือน เป็นอัตรา 18 เปอร์เซ็นต์ ของราคาหมายเลขบัตร

ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า บอร์ดขององค์การโทรศัพท์ฯ ในตอนนั้นจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น เสียหายทั้งหมด 66,000 กว่าล้านบาท คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 แล้ว ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย ก็สู้คดีมาจนกระทั่งถึงปี 2564 ถึงขั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาก็พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คือให้ลงโทษจำคุกนายสุธรรม มลิลา อดีตผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ฯ 6 เดือน แล้วให้ชดใช้เงินจำนวน 46,855 ล้าน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

นอกจากนั้นแล้ว คำวินิจฉัยศาลฎีกาพบว่า มีระบุให้กรรมการ ทศท. อีก 7 คน ที่เข้าร่วมประชุม ต้องร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ต้องสูญเสียรายได้กรณีดังกล่าว เป็นจำนวน 66,000 ล้าน รายชื่อบอร์ด 7 ราย ในตอนนั้น เป็นสมัยที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2544 ก็เลยไม่ต้องประหลาดใจว่ากรรมการชุดนี้ทำไมเอื้อประโยชน์ให้เอไอเอส เพราะตอนนั้นเอไอเอสเป็นธุรกิจของตระกูลชินวัตร

กรรมการทั้งหมดมี 6-7 คน มีประธานกรรมการ เสียชีวิตไปแล้ว คือ คุณศุภชัย พิศิษฐวานิช สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการด้วย

กันยายน 2564 เมื่อปีที่แล้ว หลังศาลฎีกาพิพากษา เมื่อ ป.ป.ช. บอกว่าจะทำหนังสือแจ้งผลคำพิพากษาไปให้กระทรวงการคลัง ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (ชื่อใหม่ของบริษัท ทีโอที หรือในอดีตคือ ทศท. หลังจากที่ควบรวมกิจการกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด) ส่งไปให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ พิจารณาดำเนินการเรื่องนี้ว่าใครจะต้องมีส่วนรับผิดชอบความเสียหายบ้าง และแบ่งสัดส่วนวงเงินคนละเท่าไร

ท่านผู้ชมเชื่อหรือเปล่า ทุกวันนี้ เรื่องราวนี้ มันเงียบหายไปกับสายลม กลิ่นของมันตอนนั้นหายไปแล้ว กลิ่นตดที่ออกมาในเรื่องนี้หายเงียบไปเลย ไม่มีใครพูดถึงอีกเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่ศาลฎีกาพิพากษาแล้วว่า บอร์ดของ ทศท. องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย จะต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายนี้ เงียบสนิท จะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมไม่รู้ รู้แต่ว่าคุณสถิตย์ วิ่งล็อบบี้ผู้มีอำนาจสุดฤทธิ์สุดเดช จะถือว่าเป็นโชคหรืออะไรก็ตาม ขณะที่ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูล เป็นจังหวะที่ คสช. เข้ามายึดอำนาจ และสถิตย์ ได้รับแต่งตั้งเป็น สนช. และ ส.ว. ตามลำดับ นี่ก็เลยทำให้ จริงหรือเปล่า ที่ทำให้เรื่องต่างๆ ล่องลอยไปตามสายลม

สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์
ผมก็ต้องถามต่อไปยังท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา 3 ป. ว่าพวกท่านรู้เรื่องนี้ไหม หรือมีอะไรหล่นใส่ทับเท้าท่านที่เหยียบไว้สนิท เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่า ถ้าคุณสถิตย์ แจงทรัพย์สินตัวเองกับ ป.ป.ช. ว่ามีอยู่ 249,828,577.43 บาท นี่คือฐานทรัพย์สินที่ถูกยืนยันโดยคุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ กับ ป.ป.ช. เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาที่สามารถดำเนินการได้ อย่างน้อยที่สุดก็ยึดทรัพย์ก้อนนี้ไปก่อน เพราะนี่้คือหลักฐานที่แจ้งเอาไว้กับ ป.ป.ช. แล้วสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ก็คงจะโกหกไม่ได้ เพราะถ้าโกหกก็คือการให้การเท็จแล้ว จะเป็นจำนวนเงินสด จะเป็นหุ้น จะเป็นที่ดิน อย่างไร ในเมื่อศาลฎีกาพิพากษาว่า สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ต้องมีส่วนร่วมในการชดใช้ค่าเสียหายนี้ ทำไมมันเงียบไปล่ะ ไม่ควรจะเงียบนะท่านผู้ชม

แล้วคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาเมื่อปีที่แล้วว่าต้องร่วมกันชดใช้เงินตั้งหกหมื่นกว่าล้าน ตัวเองจะนิ่งเฉยก็ไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องเทกแอกชัน อัยการซึ่งเป็นโจทก์ของแผ่นดิน ก็ต้องเริ่มอายัดทรัพย์แล้วสิ บังคับคดีได้ หรือว่าบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ของการรวมตัวของ ทศท. กับ กสทฯ ยังไม่ตัดสินใจ คุณชัยวุฒิ ทำไมไม่ตัดสินใจเสียทีล่ะ ว่าคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษามาอย่างนี้ กรรมการ 7 คน หนึ่งคนเสียชีวิตไปแล้ว อีก 6 คน ก็ต้องรับผิดชอบกันแล้ว แต่ว่าไม่มีการทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

7 คน มีใครล่ะ ? มีศุภชัย ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ รองประธานกรรมการ สรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม กรรมการ วันชัย ศารทูลทัต เป็นกรรมการ พล.ต.อ.บุญฤทธิ์ รัตนะพร กรรมการ สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นกรรมการ สุรินทร์ ตุลย์วัฒนจิต เป็นกรรมการ

ท่านผู้ชมครับ นี่คือบิดาของ น.ส.พราว และ นายภาคย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สองผู้ถือหุ้นในซิปเม็กซ์ ที่กำลังมีเรื่องมีราวอยู่ในขณะนี้ เรื่องนี้ผมจะพูดต่อในอาทิตย์หน้า เบื้องหน้าเบื้องหลังมีอะไร แต่วันนี้เอาเฉพาะเปิดตัวพ่อของผู้ถือหุ้นในซิปเม็กซ์ ซึ่งใหญ่ฉิบหายเลย เป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง และอดีตเป็นประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ ถามว่ามีคอนเนกชันดีไหม กับวงการเงิน วงการธนาคาร และวงการตลาดทุน ? มี 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่อย่างนั้นจะเป็นประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อย่างไร

ท่านผู้ชมเข้าใจที่ผมพูดหรือยังว่า นี่ขนาดศาลฎีกาพิพากษาแล้ว ยังอยู่เฉยกันเลย แล้วคุณสถิตย์ แจงกับ ป.ป.ช. แล้วว่า มีทรัพย์สินอยู่เท่านี้ แต่ก็ไม่ไปยึดเขา จัดการ โอย เส้นมันใหญ่จริงๆ คุณสถิตย์ ต้องให้การ ให้สัมภาษณ์หน่อยสิว่าที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาอย่างนี้ แล้วคุณแจ้ง ป.ป.ช. ว่าคุณมีทรัพย์สินอย่างนี้ สองร้อยกว่าล้าน คุณคิดว่าคุณจะชดใช้หนี้แผ่นดินได้อย่างไร นี่คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินนะ คุณสถิตย์ คุณอย่าเอานิสัยส่วนตัวของคุณมา จริงๆ แล้วถ้าผมเป็นคุณ ผมลาออกไปแล้วจากตำแหน่ง ส.ว. ผมอาย ผมโคตรอายเลย ท่าน ส.ว. ทั้งหลายที่อยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ท่านฟังรายการผม ท่านเอาไปคิดนิดหนึ่ง แสดงว่าคำพิพากษาศาลฎีกา ไม่มีน้ำยาเลยหรืออย่างไร ท่านผู้ชมเห็นหรือยังว่าซิปเม็กซ์มันใหญ่ขนาดไหน เดี๋ยวผมจะฉีกออกมาทีละคนๆ วันนี้เอาแค่น้ำจิ้มก่อนแล้วกัน

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะพูดเรื่องความขัดแย้งระหว่างพี่น้องชาวมุสลิม และพี่น้องชาวพุทธ จากกรณีที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ กำลังประกาศว่ามีโครงการจะจัดสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่ 65 ไร่ ที่ ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ผมเอาภาพจำลองขึ้นให้ดู เป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมหันหน้าออกทะเล


คุณภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า อยากจะสร้างเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาไว้ เพราะว่าเจ้าแม่กวนอิมเป็นที่ศรัทธาของนานาประเทศ ประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ และอีกหลายๆ ประเทศ ในการสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมนอกจากเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้แล้ว จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จากทั่วโลก สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่พื้นที่ภาคใต้ ก็ถือว่าเป็นการนำความเจริญไปหยุดความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดความรุนแรงของพื้นที่


แต่ว่าก่อนหน้านั้น วันที่ 4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ชาวมุสลิมกว่า 4 พันคน นำโดยกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา รวมตัวกันละหมาดฮายัตที่มัสยิดตักญีดุลอาบิดีน ใน อ.จะนะ เพื่อคัดค้านไม่ให้มีการสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม


พี่น้องชาวมุสลิมที่คัดค้านเรื่องนี้ลืมไปว่า ประชากรมุสลิมส่วนใหญ่ที่นั่น ประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีชาวพุทธอีก 35 เปอร์เซ็นต์ การต่อต้านการสร้างเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมโดยเอกชนเป็นการจำกัดสิทธิของผู้ที่นับถือศาสนาอื่น พี่น้องชาวมุสลิมต้องเปิดใจกว้างนิดหนึ่ง ใน ต.สะกอม ยังมีเจดีย์ในพุทธศาสนาอยู่ สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ชาวไทย ชาวพุทธ และชาวมุสลิม อาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่มาช้านาน ไม่มีใครถือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง


การจัดสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมนั้น เป็นการสร้างโดยการซื้อที่ของเอกชน น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน และคงไม่ใช่เป็นกิจกรรมเผยแพร่ศาสนานอกอิสลามแต่อย่างใด

ท่านผู้ชมครับ พอเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ (mgronline) นำเสนอข่าวนี้บนเว็บไซต์ รวมทั้งสื่อโซเชียล ทั้งเพจ mgronline live เพจ mgronline ภาคใต้ มีคนแชร์นับร้อยแชร์ คอมเมนต์ส่วนใหญ่ต่างบอกว่าออกแบบได้สวยงาม สนับสนุนให้ก่อสร้าง ผมจะยกตัวอย่างความเห็นให้ฟัง "สนับสนุนให้สร้างเลยครับ สิ่งนี้ดี ไม่ทำให้ใครเสื่อมลงครับ อย่าพยายามปิดตาคนอื่น" "ในนามคนสงขลาขอสนับสนุนอย่างเต็มที่ สร้างเลยครับ" "สนับสนุน สร้างเลยครับ ผมอีกเสียงที่สนับสนุนครับ ที่นี่คือประเทศไทยครับ" "สวยงาม สนับสนุนให้สร้าง ประเทศที่มีพระพุทธศาสนามีคนไทยนับถือมาช้านานแล้ว" "สวยครับ ในฐานะคนสามจังหวัดฯ ขอสนับสนุนครับ" นี่เป็นส่วนหนึ่ง มีอีกเยอะแยะออกมา บางคนออกความเห็นแย้ง อ้างว่าเป็นคนพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นศาสนาอิสลาม แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา มีคนทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย


ผมคิดว่าถ้าชาวมุสลิมในเขต อ.จะนะ เทพา ไปควรค้านการก่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เพราะอะไรรู้ไหม ? แม้ตามที่หลักศาสนาอิสลามจะห้ามมิให้ชาวมุสลิมบูชารูปปั้นที่เป็นการบูชารูปเคารพ แต่อนุญาตให้มีรูปปั้นได้ตราบเท่าที่พวกเขาไม่เคารพสักการะ นี่เจ้าแม่กวนอิม เป็นรูปเคารพตามความเชื่อของศาสนาพุทธ ของชาวพุธ ก็น่าจะเป็นสิทธิของชาวพุทธที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นก็อาจมีเกิดข้อโต้แย้งหรือความขัดแย้งเหมือนกรณีที่กลุ่มตอลิบานทำลายพระพุทธรูปแห่งบามียาน ซึ่งเป็นมรดกโลกของอัฟกานิสถาน ในปี 2544 แล้วในอัฟกานิสถาน ในช่วงหลังนั้น ยอมรับแล้วว่าวัตถุโบราณในสมัยที่พระพุทธเจ้า หรือศาสนาพุทธ เจริญเติบโตอยู่ที่อัฟกานิสถานนั้น สามารถจะผุดขึ้นมาได้ และธำรงรักษาไว้ได้ เป็นการเคารพการเป็นอยู่ของศาสนาอื่น


ผมคิดว่าพวกเราชาวพุทธ ผมคนหนึ่งเคารพความดำรงอยู่ของศาสนาอิสลาม และผมก็ช่วยต่อสู้ ต่อต้านพวกไซออนิสต์ หรือพวกอิสราเอล หรือพวกที่ต่อต้านศาสนาอิสลาม ปกป้องศาสนาอิสลามมาตลอด แต่เรื่องนี้ชุมชนชาวจะนะ และเทพา ทำไม่ถูก แล้วถ้าจะถามว่าผมเป็นเพื่อนของชาวมุสลิมหรือเปล่า ? ผมเป็น คุณไปถามเขาได้ ผมสู้อะไรหลายๆ อย่างให้พวกคุณ แต่งานนี้พวกคุณชาวเทพา กับชาวจะนะ ทำไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้แล้ว มันยังมีเจดีย์เขาล้อน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 อายุนับร้อยปี ประวัติเล่าขานมาว่า เจดีย์แห่งนี้มีอาถรรพ์ สร้างไม่เสร็จ โดยทุกครั้งที่จะมีการสร้างยอดเจดีย์ จะถูกฟ้าผ่า ก็เลยปล่อยไว้แบบนี้เรื่อยมาจากอดีตถึงปัจจุบัน และว่ากันว่า ในฐานเจดีย์มีทองเก็บไว้ด้วย นี่เป็นความเชื่อของชาวบ้าน


ที่สำคัญ ชาวหาดใหญ่ ชาวสงขลา การก่อสร้างนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชุมชน ไม่ใช่กิจกรรมเผยแพร่ศาสนานอกอิสลามแต่อย่างใด ประชาชนทุกศาสนาควรจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ใช่หรือ พี่น้องชาวมุสลิม

จากข้อมูลพื้นฐานของ ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา พบว่ามีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน มีอาณาเขตติดกับชายทะเล มีชื่อปรากฏในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้นประชาชนมีการค้าขาย เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองมากทั้งทางบก ทางน้ำ มีประชาชนอพยพเข้ามาอยู่ รวมทั้งมีการตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ในอดีตจะมีท่านขุนเป็นผู้ปกครองชุมชนต่างๆ ใน อ.เทพา ตำบลสะกอม จะมีขุนสกล สะกอมไพร หรือเจ้าขุนสะกอมไพร ปกครองพื้นที่ และเป็นต้นตระกูลของตระกูลเจริญชล


จากข้อมูล การนับถือศาสนา ตำบลสะกอม ประชาชน 65 เปอร์เซ็นต์ นับถือศาสนาอิสลาม มีมัสยิด 6 แห่ง แต่ก็มีคนนับถือศาสนาพุทธ 35 เปอร์เซ็นต์ มีวัดอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ วัดคงคาสวัสดิ์ หมู่ที่ 5 บ้านท่าแมงลัก วัดเขาแก้ว หมู่ที่ 6 บ้านแซะ แสดงว่าตำบลสะกอม ไม่ได้มีแค่คนไทยมุสลิม ยังมีคนไทยพุทธอยู่ในพื้นที่ด้วย ส่วนหนึ่งก็อพยพมาตั้งรกรากกันในพื้นที่ แล้วคนไทยชาวพุทธกับมุสลิมก็อยู่ร่วมกันถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นพหุวัฒนธรรม หมายถึงการอยู่รวมกลุ่มของคนที่มีความหลากหลายทางด้านต่างๆ


การจัดสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผมเห็นว่าต้องแยกเป็นประเด็นๆ ไป ประเด็นแรก กลุ่มที่ออกมาคัดค้านคือชาวมุสลิมที่รวมตัวกันละหมาดฮายัต อ้างว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ความจริงแล้วเรื่องนี้ พื้นที่ตั้งกันคนละที่ เพราะโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ อยู่ห่างกับที่นี่ประมาณ 4-5 กิโลเมตร มีชุมชนและคลองสะกอมอยู่ตรงกลางชัดเจน การที่ NGO บางคนเขียนบทความโยงไปว่าเจ้าแม่กวนอิมจะหันไปทางที่ดินนิคมอุตสาหกรรมจะนะ อ้างว่าหวังเอาบารมีเจ้าแม่กวนอิมมาเป็นเครื่องมือผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ คุณไม่งมงายไร้สาระไปหน่อยหรือท่านบรรดา NGO ทั้งหลาย ? เพราะบัดนี้จะนะยังทำอะไรไม่ได้ เพราะยังติดขั้นตอนการทำ EHIA อยู่

ประเด็นที่สอง กลุ่มที่ออกมาคัดค้านอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวล้อมรอบด้วยชุมชนคนมุสลิม การสร้างรูปเคารพนั้นไม่มีในศาสนาอิสลาม ความจริงแล้วที่ดินผืนนี้ไม่ได้อยู่ในชุมชน อยู่ห่างไกลจากชุมชนไปอีก เมื่อผมซูมภาพนี้ดูผ่านภาพถ่ายดาวเทียม เห็นว่าบริเวณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรีสอร์ต สวนยางพารา สวนมะพร้าว แทบไม่มีชุมชนล้อมรอบเลย อีกอย่าง การออกแบบรูปเจ้าแม่กวนอิม หันออกไปทางทะเล ตรงนั้นใกล้กันกับพื้นที่ดินงอก หาดสะกอม-เทพา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปะช้าง-แหลมขาม ไม่ได้ล้อมรอบหรือเข้าหาบ้านเรือนชุมชนแต่อย่างใด ผมไม่อยากให้มีการปั่นกระแสแล้วก็โกหกพกลม สร้างความเข้าใจผิดกันอีก


ประเด็นที่สาม ผมเคยคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะไปแล้วในหลายๆ ประเด็น สำหรับการจัดสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ต้องแยกประเด็นให้ชัดเจน เขาสร้างบนที่ดินของเขาเอง เป็นที่ดินส่วนบุคคล แล้ววัตถุประสงค์ เขาต้องการช่วยคนสงขลา ช่วยคนหาดใหญ่ ให้เศรษฐกิจฟื้นฟูขึ้นมาด้วยการท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์ก ให้คนเข้ามาท่องเที่ยวสักการะเหมือนองค์เจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ ไม่ได้ก่อมลพิษเหมือนท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรม การจะขัดขวางไม่ให้เขาสร้าง อ้างว่ามีชุมชนมุสลิมอยู่นั้น เป็นการคัดค้านที่เกินเหตุเกินผลมากเกินไป

ที่ผ่านมา ในประเทศไทย ไม่ว่าจะศาสนาไหน ก็มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ บางคนมองว่าสวยก็มี บางคนมองว่าไม่เหมาะสมก็มี แล้วทำไมคนต่างศาสนากันถึงอยู่ร่วมกันได้ ในอดีตมีคนกลุ่มหนึ่ง ผมไม่ขอบอกว่าศาสนาอะไร ออกมาคัดค้านการก่อสร้างมัสยิดในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของไทย อ้างว่าจะกระทบต่อเอกราชทางศาสนาที่ตนนับถือในพื้นที่ ผมไม่นึกว่าในยุคนี้จะมีความคิดแบบนี้เกิดขึ้นอีก พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ตราบใดที่ยังอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะอยู่ศาสนาใด ควรอยู่ร่วมกันได้ พี่น้องชาวมุสลิมทั่วประเทศควรทำความเข้าใจเรื่องนี้ อย่าให้ศาสนาอิสลามและพี่น้องชาวมุสลิมถูกคนที่นับถือศาสนาอื่นไม่พอใจเพราะเรื่องนี้เลย

พี่น้องชาวมุสลิมต้องไม่ละเมิดอัลเลาะห์ ผู้เป็นเจ้า และโองการทั้งหลาย ตามคำยุยงของคนบางพวก เพื่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองของเราโดยเด็ดขาดครับ

เรามาติดตามควันหลงจากการที่นางแนนซี เพโลซี เข้าไปเยือนไต้หวันแล้วประเทศจีน รัฐบาลจีน กองทัพจีน ก็แสดงแสนยานุภาพล้อมเกาะไต้หวันอยู่ประมาณ 3-4 วัน แล้วหลังจากนั้นก็ไปซ้อมรบต่ออีก จนกระทั่งตอนนี้ข่าวล่าสุดมาแล้วว่า จีนสั่งหยุดซ้อมรบเรียบร้อยแล้ว

ควันหลงเป็นอย่างไรบ้าง ? ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนกำลังเตรียมจัดประชุมสมัชชาพรรค ครั้งที่ 20 ในปลายปี 2565 ซึ่งเป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็กำลังจะวางรากฐานเข้าสู่อำนาจสมัยที่ 3 สี จิ้นผิง มีวิสัยทัศน์และผลงานปฏิรูปจีนทันสมัย ที่ยึดหลักการพัฒนาตัวด้วยนวัตกรรม ทำให้ประเทศจีนติดอันดับ 12 ในดัชนีนวัตกรรมเมื่อปีที่แล้ว สูงกว่าญี่ปุ่น อิสราเอล และแคนาดา


สี จิ้นผิง ตั้งเป้าไว้ว่า ศตวรรษที่ 2 การสร้างประวัติศาสตร์บุกเบิกเส้นทางสายใหม่ในการสร้างประเทศสังคมนิยมยุคใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง สี จิ้นผิง ปฏิรูปกองทัพตลอดเวลา เขาย้ำว่า หลักการของเหมา เจ๋อตง ว่า พรรคคุมปืน นำการปฏิรูประบบผู้นำ คำสั่งของกองทัพทุกอย่าง อุดมการณ์ของ สี จิ้นผิง ได้ผ่านการทดสอบและนำไปสู่เส้นทางประวัติศาสตร์ของการฟื้นฟูชาติอย่างมีประสิทธิภาพและมีอิทธิพลทั่วโลก

มีคนๆ หนึ่งและอีกหลายคนที่ผมจะนำมาอ้างอิงและเล่าให้ฟัง ดร.มาร์ติน ฌาคส์ เป็นศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ สอนหนังสืออยู่ที่ LSC : London School of Economic เป็นคนเขียนหนังสือว่า WHEN CHINA RULES THE WORLD : The End of The Western World แปลเป็นไทย คือ เมื่อจีนปกครองโลก กับการผงาดของจีน และการล่มสลายของโลกตะวันตก


ดร.มาร์ติน ฌาคส์ เขามีข้อวิเคราะห์ที่ผมอยากจะแบ่งปันให้กับท่านผู้ชมได้ฟังบ้าง เขาบอกว่าการเติบโตของประเทศจีนไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัว ที่น่ากลัวคืออารยธรรมจีนเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 5 พันปี แม้จะผ่านความรุ่งโรจน์และเสื่อมถอยตามธรรมชาติ แต่ที่น่าสนใจก็คือว่า เมื่อล้มแล้วจีนก็ยังลุกขึ้นมาได้ เพราะอะไร ? มาร์ติน ฌาคส์ บอกว่า เพราะรากฐานอารยธรรมยังแข็งแกร่งอยู่

ท่านผู้ชมครับ แม้กระทั่งนายเฮนรี คิสซินเจอร์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในยุคประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แสดงความคิดเห็นต่อจีนสมัยใหม่ ว่า หลังจากจีนอ่อนแอมานานเกือบสองร้อยปี ซึ่งอาจจะเป็นอุบัติเหตุระยะเวลาสั้นๆ ในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แต่ถ้าจีนจะกลับสู่ตำแหน่งของตนเองในอนาคต มันก็ไม่น่าแปลกใจ

ท่านผู้ชมครับ ข้อเท็จจริงอันหนึ่งซึ่งเราไม่ค่อยเข้าใจ คือ จีนเป็นอารยธรรมมากกว่ารัฐชาติแบบตะวันตก คนจีน 90 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าตัวเองเป็นชนชาติเดียว คือเป็นชนชาติฮั่น มีอัตลักษณ์และวัฒนธรรมหลักต่างจากตะวันตกที่มากหลาย รัฐบาลจีนเป็นศูนย์รวมของอารยธรรมจีนที่นำประชาชนสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เช่น กำแพงเมืองจีน เขื่อนสามผา


ดูจากประวัติศาสตร์ของโลกแล้ว เราจะเห็นว่าชาติตะวันตกได้สร้างอาณาจักรและอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากมายทั่วโลก ที่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์ ตัวอย่างเช่น อาณาจักรโรมัน อาณาจักรของอเลกซานเดอร์มหาราช จักรวรรดิไบแซนไทน์ จักรวรรดิอาหรับ จักรวรรดิออตโตมันของตุรเคีย และจักรวรรดิอังกฤษ และอื่นๆ อีกมากมายที่ทรงพลังอำนาจมาก แต่หลังจากที่อาณาจักรอันทรงพลังเหล่านี้อ่อนแอลง ถูกทำลายลง ก็มียุคสั้นๆ เป็นการยากจากรุ่นต่อไปที่จะเจริญเติบโตอีกครั้ง คนรุ่นหลังไม่แข็งแกร่งอีกต่อไป ท่านผู้ชมมาดูเลย

โรมัน พออาณาจักรโรมันล่มสลายเลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว จบแล้ว อเลกซานเดอร์มหาราช เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว การที่บุกไปทั่วโลก ข้ามไปถึงอินเดีย ไปอัฟกานิสถาน ก็จบอีกเหมือนกัน ทิ้งแต่ร่องรอยประวัติศาสตร์ไว้ จักรวรรดิออตโตมันของตุรเคีย ก็หมดสิ้นไป ก็เหลือแต่ประเทศตุรเคีย เพราะฉะนั้นแล้ว จักรวรรดิอังกฤษ ที่คนเคยพูดถึงว่าไม่เคยมีพระอาทิตย์ตกดินในจักรวรรดิอังกฤษ เพราะมีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก พระอาทิตย์ตกฝั่งนี้ ก็ไปขึ้นทางฝั่งนั้น ก็ขึ้นอยู่ที่เมืองที่อังกฤษเข้าไปยึดครองเอาไว้ แต่อังกฤษวันนี้ก็ทรุดโทรม หมดเรี่ยวหมดแรงตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ไม่ได้เป็นจักรวรรดิอีกต่อไป

ท่านผู้ชมครับ เมื่อพูดถึงจีนแล้ว ต้องอธิบายให้ฟังนิดหนึ่ง ท่านผู้ชมจะได้เข้าใจ จีนจะมีเป็นราชวงศ์ แต่ทุกๆ ราชวงศ์ที่จีนมีขึ้นมานั้น ถูกค้ำด้วยอารยธรรมจีน อารยธรรมจีนคือกำแพง และเป็นฐานรากที่แข็งแกร่งที่ทำให้แต่ละราชวงศ์เกิดขึ้น และต่อยอด แล้วก็ล่มสลาย แล้วก็มีเกิดขึ้นตลอดเวลา

ท่านผู้ชมครับ เอาสมัย 2-3 พันปีที่แล้ว ตั้งแต่จิ๋นซีฮ่องเต้ มารวมประเทศจีนเข้ามาเป็นหนึ่ง สร้างอารยธรรมของจีนเป็นพื้นฐานให้กับทุกยุคทุกสมัย จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นฮ่องเต้อยู่ได้ 2-3 รุ่น ปรากฏว่าหลังจากจิ๋นซีฮ่องเต้ล่มสลายแล้ว ก็เกิดการแย่งชิงกันในประเทศจีน จิ๋นซีฮ่องเต้ก็ล่มสลายไปแล้ว แต่ทำไมมีอีกอาณาจักรเกิดขึ้นมา มีราชวงศ์ ก็คือราชวงศ์ฮั่น ที่ผู้ก่อตั้งคือ หลิว ปัง ถ้าท่านผู้ชมอ่านประวัติศาสตร์จีนจะรู้ว่า หลิว ปัง อดีตเป็นนายอำเภอจีน แล้วต่อสู้ขึ้นมาจนกระทั่งได้มาเป็นฮ่องเต้ของจีน เอาชัยชนะเซี่ยงอวี่ เซี่ยงอวี่ นี่อดีตสายสัมพันธ์คือเจ้าครองแคว้นรัฐฉู่ ตั้งแต่สมัยก่อนที่ในยุคของสามก๊ก

พอหมดอาณาจักรฮั่น ก็ต่อด้วยอีกหลายอาณาจักร สุย พอสุยล่มสลาย ก็มีถังขึ้นมาแทน เห็นไหมท่านผู้ชม ไม่ใช่ล่มสลายแล้วหายไปเลย เหมือนกับอังกฤษ เหมือนกับออตโตมัน เหมือนกับอาณาจักรโรมัน พอถังล่มสลาย ก็มาเป็นซ่ง ราชวงศ์ซ้อง พอซ้องล่มสลาย ก็มีมองโกล มองโกลอยู่เพียงสั้นๆ ขณะมองโกลมาก็ยังต้องพึ่งอารยธรรมจีน วัฒนธรรมจีน เพื่อที่จะปกครองจีนต่อไป

พอหมดราชวงศ์ซ้อง หมดราชวงศ์มองโกล ซึ่งเป็นราชวงศ์หยวน ก็กลายเป็นราชวงศ์หมิง ท่านผู้ชมจำได้ไหม ราชวงศ์หมิง ปฐมกษัตริย์ของหมิง คือ จูหยวนจาง อดีตเป็นพระ อดีตเป็นคนขอทาน จากคนต่ำต้อยเรี่ยดินแล้วสู้กับมองโกล ไล่มองโกลออก แล้วตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ แล้วคนที่ทำให้ราชวงศ์หมิงโด่งดังมากก็คือ จักรพรรดิองค์ที่ 2 คือ หย่งเล่อฮ่องเต้

หย่งเล่อฮ่องเต้ ก็คือคนที่ส่งแม่ทัพเรือเจิ้งเหอ ซึ่งเป็นขันที จากยูนนาน สร้างกองทัพเรือที่ใหญ่มโหฬาร ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว เรือของเจิ้งเหอ เมื่อเอาเรือคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส มาเทียบกันแล้ว เรือคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เหมือนกับฝากะลาอันหนึ่งที่ลอยอยู่ในน้ำ แต่เรือของเจิ้งเหอ ก็คือเรือจริงๆ

เจิ้งเหอ ราชวงศ์หมิง ออกไปสู่พื้นภูมิภาคเอเชีย ไปทั้งหมด ข้ามไปแอฟริกา ข้ามไปทางยุโรป พอหมดจากหมิงแล้ว ก็คือราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นคนที่อยู่นอกแผ่นดินใหญ่จีน แต่เข้ามามีอำนาจแล้วโค่นราชวงศ์หมิง เสร็จแล้วตั้งตัวเองเป็นราชวงศ์ชิง

ราชวงศ์ชิง ก็โด่งดังมาตลอด ฮ่องเต้ที่มีชื่อเสียง อย่างเช่น คังซีฮ่องเต้ หรือที่เรารู้จักในภาพยนตร์ คือ เฉียนหลงฮ่องเต้ แล้วมาจบราชวงศ์ในสมัยยุคพระนางซูสีไทเฮา แล้วก็ต่อด้วยระบบสาธารณรัฐ แล้วในที่สุดก็มีสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน กับ พรรคก๊กมินตั๋ง ทุกคนก็นึกว่าจีนจบแล้ว ไม่จบ ในที่สุดเหมา เจ๋อตง ชนะ เจียงไคเช็ก หนีไปอยู่ไต้หวัน ที่เกิดเรื่องเกิดราวมาทุกวันนี้กับประเทศจีน พอหมดจาก เหมา เจ๋อตง ก็กลายเป็น เติ้ง เสี่ยวผิง จากเติ้ง เสี่ยวผิง เป็น เจียง เจ๋อหมิน จาก เจียง เจ๋อหมิน กลายเป็น หู จิ่นเทา และจาก หู จิ่นเทา ก็กลายเป็น สี จิ้นผิง


ท่านผู้ชมเห็นไหม อารยธรรมของจีนอยู่ตลอดเวลา ถ้าอุปมาอุปไมยคนอย่าง เหมา เจ๋อตง, หู จิ่นเทา หรือ เติ้ง เสี่ยวผิง พวกนี้ก็คือจักรพรรดิ ฮ่องเต้ พอฮ่องเต้สิ้นก็เปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย ก็ขึ้นมา แต่ในที่สุดแล้วประเทศจีนก็ไม่ได้ล่มสลายไปตามกาลเวลาของประวัติศาสตร์ ไม่เหมือนอาณาจักรไบแซนไทน์ ไม่เหมือนอาณาจักรโรมัน ไม่เหมือนอาณาจักรอียิปต์ ไม่เหมือนอาณาจักรอังกฤษ ไม่เหมือนอาณาจักรออตโตมัน อาณาจักรจีนก็ยังอยู่เหมือนเดิม เพราะว่าอย่างที่นายมาร์ติน ฌาคส์ พูด สิ่งที่จีนมีแต่คนอื่นไม่มีก็คือ อารยธรรม 5 พันปี

แต่ไม่กี่ทศวรรษจากนี้ไป สังคมจีนจะพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในทุกมิติ จะสามารถแสดงลักษณะโดดเด่นประจำชาติ จีนจะแข็งแรงขึ้นกว่าเก่าเยอะ สุขภาพดีขึ้น เป็นสากลมากขึ้น มองโลกอาจจะมองแบบโลกาภิวัตน์ เข้าใจความรู้สึกของผู้คนประเทศอื่นๆ มาก มีความมั่นใจมากขึ้น มีการศึกษามากขึ้น เปิดใจมากขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ท่านผู้ชมครับ นี่คือเหตุผลและเหตุการณ์ที่จีนไม่ได้ไปไหนและยังอยู่เหมือนเดิม ปัจจุบันจีนเป็นผู้นำเอเชีย ซึ่งเอเชียเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางเศรษฐกิจโลก สมัยหนึ่งเมื่อปีใหม่ที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวต้อนรับปีใหม่ ว่า โลกกำลังจับจ้องมองจีน และจีนพร้อมแล้ว จีนกำลังก้าวขึ้นมารุ่งเรืองเป็นมหาอำนาจอย่างสันติ ทำให้มหาอำนาจอย่างเช่นอเมริกา หรือพวก Five Eyes (อเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) ชาติตะวันตกต้องมาสกัดการขยายอิทธิพลของจีนด้วยนโยบายความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา


วันนี้ปัญหาที่ท้าทาย ต้องรบ ของผู้นำจีน สี จิ้นผิง คือการรวมไต้หวันขึ้นเป็นหนึ่งในมณฑลจีน หากไต้หวันประกาศเอกราช หรือยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพ หลังจากที่อเมริกาได้จุดไฟสงครามในช่องแคบไต้หวันขึ้น จากการมาไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรส อายุ 82 ปี ระหว่างวันที่ 2-3 สิงหาคม ที่ผ่านมา ฝ่าฝืนหลักการจีนเดียว ใช้เนื้อหนังและเลือดของคนไต้หวันเพื่อแลกกับโอกาสที่อเมริกาจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเองเป็นอันดับแรก เพราะว่าอเมริกาต้องการทำให้ ไช่ อิงเหวิน หรือ นังกุยช่าย กลายเป็นเซเลนสกี คนที่สอง และทำให้ไต้หวันเป็นยูเครนที่สอง โดยที่อเมริกาเอาประชาชนไต้หวันเป็นแพะบูชายัญ


ยุทธวิธีของอเมริกา คือ จีนจะต้องถูกยั่วยุให้เป็นผู้ริเริ่มการยกระดับความขัดแย้ง ตอนที่แนนซี เพโลซี ไป อเมริกาใฝ่ฝันเหลือเกินที่จะให้จีนใช้กำลังรุนแรงกับเครื่องบินชุดของแนนซี เพโลซี จะได้เกิดความวุ่นวาย แล้วก็สร้างสถานการณ์ให้ปรากฏว่าจีนเป็นผู้รุกรานเสมอ แล้วก็จะมีการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ไม่ต้องจัดหามาตรการป้องกันทางอากาศให้กับเป้าหมายที่เป็นพลเรือน เพราะอเมริกาต้องการให้คนไต้หวันตาย เพราะการเสียชีวิตของคนทำให้ประชาชนไม่พอใจจีน ซึ่งอเมริกาต้องการใช้ตรงนี้ในการชนะสงคราม และจะทำให้สถานการณ์บานปลาย


ถ้าสมมุติว่ามีการยึดครองไต้หวันด้วยความรุนแรง การเสียชีวิตของคนไต้หวันก็เท่ากับเป็นการทำรัฐประหารทางด้านประชาสัมพันธ์สำหรับฝ่ายอเมริกา แล้วแนวทางที่จะดึงพันธมิตรอเมริกา เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย ที่อยู่ในกลุ่ม QUAD เข้ามาควบคุมจีน

ท่านผู้ชมครับ เส้นแดงทางยุทธศาสตร์ ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Strategic Red Line กรณีช่องแคบไต้หวัน ทำให้การซ้อมรบและการยิงขีปนาวุธของกองทัพจีนถูกตรวจสอบ ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม ขณะที่จีนซ้อมรบปฏิบัติการทางทหารเสมือนจริง ล้อมเกาะไต้หวันถึง 6 โซนอันตราย ซึ่งผมพูดไปแล้วอาทิตย์ที่แล้ว


บางพื้นที่กลาโหมไต้หวันอ้างว่าทับซ้อนกับน่านน้ำไต้หวัน ทำให้การเดินทางทางเรือและเครื่องบินยุติลงไป วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม กองทัพจีนก็ออกมาแถลงการณ์ จะซ้อมรบต่อไปอีก 1 เดือน แต่นี่ซ้อมรบไปยังไม่ถึงอาทิตย์ก็หยุดแล้ว แสดงว่าอะไร ? แสดงว่าจีนรู้ว่าเมื่อไรจะพอ จีนรู้ว่าตัวเองลงมือแบบนี้ สร้างแสนยานุภาพแบบนี้ แสดงแสนยานุภาพแบบนี้ เพื่อให้อเมริกาและโลกได้เห็นว่าจีนพร้อมเสมอสำหรับการยึดครองไต้หวันคืนไป และแสดงให้อเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพนตากอน รู้ว่าแสนยานุภาพของจีนนั้นไม่ใช่ของเด็กเล่น แล้วก็มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่าอเมริกาหลายๆ ประการ


จีนนอกจากการแสดงแสนยานุภาพแล้ว จีนยังสั่งสอนอเมริกาด้วยการยุติการเจรจาหลายด้าน การเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จีนไม่คุยด้วย การระงับความร่วมมือด้านการควบคุมปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ จีนก็ไม่คุยด้วย การส่งผู้อพยพผิดกฎหมายกลับประเทศ จีนก็ไม่คุยด้วย ที่ร้ายที่สุดคือด้านการทหาร ปักกิ่งประกาศระงับการประชุมระดับคณะทำงานระหว่างกระทรวงกลาโหมจีนและสหรัฐฯ ตัดความสัมพันธ์ทางการทหารกับวอชิงตัน อันนี้อันตรายมากนะท่านผู้ชม เพราะการประสานงานระหว่างทหารกับทหารทั้งสองประเทศ คือส่วนหนึ่งของการไม่ให้มีความเข้าใจผิดเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สมมุติว่ามีการยิงปืนขึ้นมา 1-2 นัด กระทบกระทั่งกัน การคุยกันทางโทรศัพท์ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งนั้นได้ แต่ตอนนี้จีนปฏิเสธ ไม่คุยแล้ว

ที่สำคัญ ท่านผู้ชมครับ ถ้าเราติดตามเรื่องนี้มา จะเห็นว่าจุดยืนของจีนไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยในเรื่องไต้หวัน

วันที่ 27 มิถุนายน ผมย้อนหลังไปสี่ปี (2561) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เจมส์ แมตทิส ไปเยือนจีน และไปขอเข้าพบ สี จิ้นผิง สี จิ้นผิง พูดอย่างไรรู้ไหมท่านผู้ชม ? เขาบอกว่า "จีนจะไม่ยอมเสียดินแดนที่บรรพชนทิ้งไว้ให้แม้เพียงนิ้วเดียว" สี จิ้นผิง บอกว่า "มหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่นั้นสามารถรองรับได้ทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศอื่นๆ เราไม่สามารถสูญเสียดินแดนที่บรรพบุรุษของเราทิ้งไว้ให้ได้แม้แต่เพียงหนึ่งนิ้ว อะไรที่เป็นของผู้อื่นเราไม่ต้องการทั้งสิ้น" แต่อะไรที่เป็นของเรา เราต้องเอาคืนมาให้เรา


ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พูดกับที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ว่า "น่านฟ้าและน่านน้ำของไต้หวันนั้น ไม่มีอยู่จริง สิ่งที่มีอยู่จริง มีเพียงน่านฟ้าและน่านน้ำของจีน เพราะไต้หวันนั้นเป็นมณฑลหนึ่งของแผ่นดินใหญ่จีน เช่นเดียวกับเกาะไหหลำ ที่เป็นมณฑลหนึ่งที่อยู่นอกแผ่นดินใหญ่

การเผยแพร่ข้อความนี้ ที่อ้าง สี จิ้นผิง ไม่ว่าจะออกมาจากฝ่ายใด จริงๆ แล้วนั่นคือความจริง และตอกย้ำว่ายุทธศาสตร์หมากล้อมของจีนกำลังรุกคืบหน้าไปที่จะสู่การผนวกของไต้หวันในท้ายที่สุด


ท่านผู้ชมครับ เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นว่าในขณะนี้ความตึงเครียดมีอยู่แล้ว เหตุการณ์จะไม่ Happy-Go-Lucky เหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป นางไช่ อิงเหวิน หรือนังกุยช่าย ตอนนี้ก็กำลังปวดหัว เพราะว่าจีนเริ่มบอยคอตไต้หวัน ไต้หวันกับจีนเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุด ค้าขายกันประมาณ 2 แสนกว่าล้านเหรียญสหรัฐ และไต้หวันได้กำไรจากการค้าขายกับจีนถึง 1.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หมายความว่าอย่างไร ? หมายความว่าจากนี้ไป กำไร 1.7 แสนล้าน ของไต้หวันนั้นจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว คนเริ่มไม่แน่ใจว่าจะมาลงทุนที่ไต้หวันหรือเปล่า เพราะกลัวว่าจีนจะบุกไต้หวันเมื่อไร จีนสั่งระงับส่งวัตถุดิบที่มีความสำคัญในการที่จะทำไมโครชิปของบริษัท TSMC : Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปใหญ่ที่สุดในโลก แล้วถ้าไม่มีวัตถุดิบที่ไต้หวันสั่งมาจากจีน 90 เปอร์เซ็นต์ ไต้หวันต้องพึ่งพาเพื่อใช้ในการสร้างชิป ก็แสดงว่า TSMC นั้นลำบาก แล้วเบื้องหลัง เคล็ดลับที่จีนไปค้นมา ก็คือว่า สามีของแนนซี เพโลซี เตรียมตัวที่จะลงทุนร่วมทำโรงงานชิป กับบริษัท TSMC ของไต้หวัน แนนซี เพโลซี เกาะติด TSMC ผมเอารูปๆ หนึ่งขึ้นมาให้ดู


นายมาร์คัส จาง (คนที่ 5 จากขวา) ผู้ก่อตั้ง TSMC และนายมาร์ค หลิว ประธาน TSMC ถ่ายรูปหมู่กับนางแนนซี เพโลซี นางแนนซี เพโลซี ก็คือต้องการทำมาค้าขาย เพราะฉะนั้นแล้ว เป็นไปได้มากว่า TSMC กำลังจะต้องคิดอย่างหนัก ทุกอย่าง อเมริกาต้องการเอา TSMC เป็นเครื่องมือที่จะทำลายจีน ในขณะเดียวกัน จีนก็ต้องการ TSMC มาอยู่ฝั่งจีน แล้วถ้าอยู่ไม่ได้ แล้วมีปัญหาเรื่องไต้หวัน เรื่องอเมริกามาบีบ จีนก็จะบีบให้ TSMC นั้นลำบากจากวัตถุดิบที่ตัวเองมี


สัญญาณการนับถอยหลังรวมไต้หวันเป็นของจีนก็เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นตอนไหน ? ซ้อมรบแบบยิงกระสุนจริง เริ่มวันที่ 5 สิงหาคม นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน แถลงตอบโต้นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา บอกว่า การกระทำของจีนที่มีต่อไต้หวันแสดงให้เห็นถึงการย้ายการจัดอันดับความสำคัญของการแก้ปัญหาอย่างสันติ ไปสู่การใช้กำลัง แต่ หวัง อี้ รู้ทันอเมริกา บอกว่า มีสัญญาณต่างๆ ที่อเมริกากำลังพยายามทำซ้ำอุบายเก่าๆ ของตนเอง วอชิงตันมีประวัติก่อปัญหาก่อน คือชอบก่อเรื่องก่อน แล้วจากนั้นก็ใช้ เพื่อทำให้แผนยุทธศาสตร์ของพวกเขาเองเป็นจริงในทุกแห่งในโลก ซึ่งมีปรากฏการณ์ให้เห็นหมด ลิเบีย ซีเรีย อิรัก หลายแห่ง หวัง อี้ เตือนวอชิงตันว่า ไต้หวันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา แต่เป็นดินแดนของจีน จากการให้แนนซี เพโลซี เดินทางเยือน อเมริกาผิดสัญญาเกี่ยวกับพันธสัญญาก่อนหน้านี้ที่มีต่อบูรณภาพของแผ่นดินจีน


หวัง อี้ พูดต่อ การตอบโต้อย่างแข็งกร้าวของจีนซึ่งประกอบด้วยสิ่งต่างๆ รวมถึงมาตรการคว่ำบาตร มีความชอบธรรม สมเหตุสมผล ถูกต้องตามกฎหมาย มีความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อป้องปรามความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะใช้ไต้หวันควบคุมจีน

ชัดเจนนะครับท่านผู้ชม ท่านผู้ชมลองหลับตาวาดภาพนึกดูแล้วกัน ถ้าอเมริกาไม่มีไต้หวันเป็นหมากในการที่จะมาหาเรื่องยั่วยุจีน อเมริกาไม่มีที่ยืนในเอเชียแล้ว อเมริกาต้องถอยร่นกลับไปอยู่ที่ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งก็จะถูกเกาหลีเหนือกั๊กเอาไว้ เพราะฉะนั้นไต้หวันคือหมากสุดท้ายทางเอเชียแปซิฟิกที่อเมริกาต้องยึดให้ได้ ยึดก็คือ ทำให้เกิดความขัดแย้งมากๆ ยั่วยุให้เกิดมีความขัดแย้ง แต่จีนรู้ทัน จีนก็เลยตอบโต้ในลักษณะที่พอสมควร เหมือนกับส่งสัญญาณให้ไต้หวันรู้ว่า อย่าซ่ามากกว่านี้่นะ ถ้าซ่ามากกว่านี้ นังกุยช่าย และคนที่ยุยงให้ไต้หวันเป็นเอกราช จะไม่มีแผ่นดินอยู่แล้ว จีนพร้อมจะเข้ามา เพราะตอนนี้จีนประกาศอธิปไตยเหนือเกาะไต้หวันหมด น่านน้ำ ทะเล น่านฟ้า จีนบอกว่า ไต้หวันไม่มี นั่นเป็นของจีน ก็เท่ากับว่าจีนได้ปักหมุดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าถ้าจีนจะทะเลาะกับอเมริกาในกรณีที่บุกรุกเข้ามาทางน่านฟ้า-น้ำ ซึ่งอเมริกาบอกว่าเป็นของไต้หวัน จีนจะบอกว่าไม่ใช่ เป็นของจีน ท่านผู้ชม เราต้องรอดูบทนี้ต่อไปในอนาคต รับรองว่าไม่สงบแน่นอน

ท่านผู้ชมครับ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีข่าวใหญ่ชิ้นหนึ่ง ก็อาจจะเป็นข่าวที่คนสนใจ แต่ว่าคนไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นเรื่องที่คนทางใต้พูดกันมากเลย เพราะว่าทางการไทยเพิ่งจะจับกุม นายโทนี่ เตียว หรือชื่อจีนคือ เตียว วุย ฮวด ชื่อเล่นชื่อ เสี่ยวจาง อายุ 52 เป็นเจ้าของอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป ธุรกิจด้านบันเทิง โรงแรม อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในพื้นที่บ้านด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา


การจับนายโทนี่ เตียว ในวงการสั่นสะเทือนมาก ก็หมายความว่าท่านผู้ชมที่อาจจะเป็นคนติดตามข่าว อาจจะไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่คนที่เกี่ยวข้องกับนายโทนี่ เตียว หนาวๆ ร้อนๆ กันไปหมด เพราะเมื่อสืบไปสืบมาแล้ว นายโทนี่ เตียว มีความเกี่ยวโยงกับ นายไซซะนะ ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของลาว และ เบนซ์ เรซซิ่ง และนายโทนี่ เตียว นั้นฉ้อโกงประชาชนที่ประเทศจีน มีหมายจับจากประเทศจีน และฉ้อโกงประชาชนที่มาเลเซีย มีหมายจับจากมาเลเซีย หลายพันล้าน ตอนนี้ประชาชนที่ถูกนายโทนี่ เตียว ฉ้อโกง ก็กดดันให้ทางการมาเลเซียดำเนินการ ทางการมาเลเซียก็รู้ว่านายโทนี่ เตียว อยู่ที่ประเทศไทย ทางใต้ แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะว่านายโทนี่ เตียว นั้น ท่านผู้ชมเชื่อไหมว่ารู้จักนักการเมืองแทบจะทุกคนในทางใต้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้กระทั่งบางคนซึ่งมียศร้อยเอกอยู่คนหนึ่ง ผมไม่เอ่ยชื่อแล้วกันนะครับว่าใคร


ปรากฏว่าในข้อเท็จจริงแล้ว จากการสืบเสาะ และจากการคุยกับคนที่อยู่ในวงการยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด ที่เกษียณอายุไปแล้ว 2-3 ปีที่ผ่านมา คุณสมหมาย บอกว่า นายโทนี่ เตียว คือขาใหญ่สุดในการค้ายาเสพติด เพราะฉะนั้นแล้ว นายโทนี่ เตียว ก็ใช้เงินจากการค้ายาเสพติดนั้นมาซื้ออิทธิพล โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาหว่านให้กับบรรดานักการเมืองทางใต้ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง


คือการจับนายโทนี่ เตียว มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นอุบัติเหตุ คนที่จับคือ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก นั่นเอง เรื่องของเรื่องก็คือว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เดินทางไปสงขลาเพื่อไปตรวจสอบเรือประมง เนื่องจากว่าจะถึงเวลาแล้วที่คณะกรรมการอียูจะมาตรวจสอบในเรื่องของการค้ามนุษย์ เพื่อที่จะจัดระดับชั้นของประเทศไทยขึ้นมา ก็เผอิญไปเจอเรือประมงที่อยู่ในสงขลาที่หมายตาเอาไว้ หายไป 2 ลำ มีข่าวหลุดออกมาว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะลงไปจัดการเรื่องนี้ ก็เลยขับเรือหนีเข้ามาเลเซีย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็เลยมีความรู้สึกว่าต้องไปเอาเรือนั้นกลับมาให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นจะขาดหลักฐานที่จะนำมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ทางอียู ก็เลยบินไปมาเลเซีย ไปเจอผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลที่มาเลเซียเพื่อไปขอเรือคืน

เขาก็บอกว่าเขาคืนเรือให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่เขาขอให้ช่วยเขาหน่อยได้ไหม ก็เลยถามไปว่าเรื่องอะไร ก็บอกว่า เนื่องจากว่ามีอาชญากรคนหนึ่งหนีหมายจับของมาเลเซียไป และหนีหมายจับของจีน แล้วไปกบดานอยู่ที่ประเทศไทย ได้รับการปกป้องจากกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยบางส่วน ได้รับการปกป้องจากอัยการ ปกป้องจากตำรวจ ปกป้องจากนักการเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็เลยรับปาก เพราะต้องการเอาเรือกลับมา ก็รู้ว่านายโทนี่ เตียว อยู่ที่สะเดา ก็เลยเดินทางไปและเอาตำรวจไปจับ


ก็อย่างนั้นล่ะท่านผู้ชม อุบัติเหตุจริงๆ เพราะว่าไม่เคยมีใครกล้าไปยุ่งกับนายโทนี่ เตียว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นั้นก็ถือว่าโดยอุบัติเหตุ ถึงจะถือว่าฟลุก ก็ฟลุก ไม่เป็นไร แต่พอจับตัวมาแล้วเก็บไว้ที่ ตม. ปรากฏว่านายโทนี่ เตียว มีหมายจับเยอะไปหมด และเมื่อเช็กประวัติแล้ว นายโทนี่ เตียว พูดได้เลยว่าเป็นขาใหญ่ที่สุดในขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งเชื่อมหลายต่อหลายประเทศ แล้วใช้เงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดนั้นมาทำนุบำรุงพรรคการเมืองบางพรรค หรือนักการเมืองบางคน เพื่อที่จะให้พวกนี้มาปกป้องนายโทนี่ เตียว

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลึกซึ้ง และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องเอามาพูด เพราะว่ามันสะท้อนให้เห็นถึงเนื้อแท้ที่แท้จริงของการเมืองเมืองไทย นายโทนี่ เตียว มีอะไรหลายอย่างที่กระทำมาแล้วก็มีการผูกโยงไปกับนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์บางคน และอดีตพรรคประชาธิปัตย์บางคน และอื่นๆ จนกระทั่งมันเป็นบริบทที่ทำให้เราเห็นได้ว่านักการเมืองที่แท้จริงแล้ว บางทีชื่อพรรคอาจจะเป็นชื่อพรรคที่สะอาด แต่คนในพรรคนั้นอาจจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไรเดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟัง ท่านผู้ชมตามผมมาก็แล้วกัน

ท่านผู้ชมครับ นายโทนี่้ เตียว หรือชื่อ เทดี้ เตียว เขาเป็นคนมาเลเซีย เชื้อสายจีน ชื่อทางการซึ่งออกภาษามาเลเซียแต่เขียนสำเนียงจีน ชื่อ เตียว วุย ฮวด ชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการ คือ เสี่ยวจาง (เสี่ยว คือ ตัวเล็ก, จาง คือชื่อ) แต่คนจำนวนหนึ่งทางใต้เรียกเขาว่า เสี่ยจาง ซึ่งก็แปลความหมาย ส่วนชื่อเรียกไปทางสากลนั้นก็คือ โทนี่ เตียว

โทนี่ เตียว (เตียว วุย ฮวด) อายุ 52 ปี เป็นคนที่เลยวัยกลางคนไปไม่มาก แต่ประสบการณ์การทำธุรกิจของเขายิ่งใหญ่และกระจายไปหลายประเทศ ประเทศที่กำลังโด่งดังนอกจากไทยและมาเลเซียแล้ว ยังมีจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วเชื่อว่ากำลังจะเป็นข่าวตามมาอีก คือ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน แม้กระทั่งที่อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ก็มีธุรกิจเข้าไปเกี่ยวพันด้วย


ในมาเลเซีย โทนี่ เตียว มีหมายจับเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน และนี่คือหมายจับที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้รับมาจากผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เพื่อมาจับโทนี่ เตียว แลกกับการที่จะได้เรือคืนไป

ในประเทศจีน โทนี่ เตียว ถูกออกหมายจับเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง และเป็นหมายแดง อินเตอร์โพล ขององค์การตำรวจสากล มีคนจีนที่เมืองเทียนจิน กับมาเก๊า กว่า 400-500 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการร่วมลงทุนในธุรกิจกับเขา คิดเป็นมูลค่าประมาณเกือบๆ พันล้านบาท ซึ่งว่าในไม่นานคนจีนในเมืองอื่นๆ และประเทศอื่นๆ ก็น่าจะลุกขึ้นแต่งทนายฟ้องเขาเพิ่มเติม

ผมจะเอาข่าวให้ดู หนังสือพิมพ์ซิงโจว สื่อดังของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว เกี่ยวกับการร้องเรียนฟ้องร้องของคนจีนกรณีถูกเอ็มบีไอกรุ๊ป และเทดี้ เตียว ฉ้อโกง


ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้ประเทศจีน กับประเทศมาเลเซีย กำลังแย่งกันที่จะเอานายโทนี่ เตียว กลับไปที่ประเทศจีน หรือมาเลเซีย เพื่อจะดำเนินคดี ในขณะนี้การตัดสินใจตกอยู่กับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ว่าจะส่งนายโทนี่ เตียว ไปที่ไหน ขณะนี้นายโทนี่ เตียว อยู่ในห้องขังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ประเทศจีนออกหมายจับนายโทนี่ เตียว ตั้งแต่ปี 2563 มีอายุความ 15 ปี กว่าจะหมดอายุความ ต้อง 2578 คือที่ออกหมายจับเพราะว่าบริษัท เอ็มบีไอ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง ของนายโทนี่ เตียว ได้ออกแพลตฟอร์มชื่อ NSC ชวนคนจีนมาลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ แบ่งสมาชิกออกเป็น 8 ระดับ ใช้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเป็นตัวล่อ นอกจากนั้นยังมีการจัดทัวร์พาผู้ร่วมลงทุนจากจีนไปท่องเที่ยวในอาณาจักรของเครือบริษัทในประเทศต่างๆ แต่ภาพหลังจากที่บริษัทแม่ในประเทศมาเลเซียถูกอายัดทรัพย์ ทำให้ไม่มีเงินที่จะเอาไปต่อเงิน จึงเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา แล้วนำมาสู่การออกหมายจับแดง


ท่านผู้ชมครับ ความจริงแล้วการทำธุรกิจในนามเอ็มบีไอ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง ในมาเลเซีย หรือจีน หรือบริษัท เอ็มบีไอกรุ๊ป ในประเทศไทย ล้วนตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน คือเน้นการเชื้่อชวนคนเข้ามาร่วมลงทุนกับการสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ใช้ที่ดินนับร้อยนับพันไร่ ภายใต้โครงการจะประกอบด้วยบ้านจัดสรร บ้านพักตากอากาศ โรงแรม รีสอร์ต สวนผลไม้นานาชนิด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สนามกีฬา ห้องประชุม ห้องสันทนาการ เพิ่มเติมด้วยการสร้างสิ่งดึงดูดใจให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือจุดเช็กอินมากมาย ตามแต่ว่าคนในประเทศที่โครงการตั้งอยู่ชื่นชอบสไตล์ไหน


สำหรับชายแดนไทยนั้น มาเลเซีย ที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา บริษัทของนายโทนี่ เตียว คือ เอ็มบีไอกรุ๊ป ได้ทุ่มลงทุนไปแล้วนับหมื่นล้านบาท กว้านซื้อที่ดินไว้หลายพันไร่ แต่ที่มีการลงทุนไปแล้วระดับหลายร้อยไร่ ภายในโครงการมีโรงแรม 6 แห่ง รีสอร์ต 2 แห่ง อพาร์ตเมนต์ 9 แห่ง นอกจากนี้ยังมีสถานบันเทิง สวนสนุก ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ หมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียน มีการจำลองวัดร่องขุ่น พระพิฆเนศ สวนไดโนเสาร์ เมืองคาวบอย ฟิวเจอร์ปาร์ค ฟาร์มม้า สวนแพนด้า ซึ่งแม้กระทั่งศาลไคฟง ก็ยังมี ทั้งหมดเป็นธุรกิจในลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่เช่นกัน


ท่านผู้ชมครับ นายโทนี่ เตียว เข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็ไม่ใช่ธรรมดา เขามาตั้งฐานธุรกิจขนาดใหญ่ไว้ที่ด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา สอดรับกับสถานการณ์ทั้งในประเทศและระดับพื้นที่ เช่นเดียวกับรายการนี้ ผมเคยให้ข้อมูลไว้ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เพิ่งพูดเมื่อไม่นานมานี้ กรณีหาดใหญ่ตายแล้ว หรือกรณีกลุ่มอิทธิพลการเมืองบุกรุกโบราณสถาน เมืองเก่าสงขลา

การเข้ามาลงทุนนับหมื่นล้านในไทยของโทนี่ เตียว สามารถจะปลุกปั้นอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ประดับพันล้าน ในชานเมือง ที่ อ.สะเดา อ.ด่านนอก ชายแดนด่านนอก เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังโงหัวจากวิกฤตต้มยำกุ้งในช่วง 2540 หรือประมาณยี่สิบห้าปีที่แล้ว ช่วงนั้นเมืองหาดใหญ่พ้นภาวะบูมสุดๆ ด้านการเป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ไปแล้ว ขณะที่กำลังคลายมนต์เสน่ห์ลงเรื่อยๆ เมืองเล็กๆ ชายแดนที่ อ.ด่านนอก จ.สงขลา ก็ก้าวขึ้นมาสวมรอยแทน

ท่านผู้ชมครับ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า แทนที่จะเป็นนักลงทุนภายในท้องถิ่น กลับกลายเป็นชาวมาเลเซียที่ข้ามชายแดนมาลงทุน ไม่นานเมืองเอ็นเตอร์เทนเมนต์แห่งใหม่ที่ด่านนอกก็ถูกสาดสีเทาทาบทับ เจ้าของธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม โดยเฉพาะที่ถือสัญชาติมาเลย์จำนวนมาก ถูกคำครหาว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือไม่ก็พัวพันเรื่องยาเสพติด จนเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งหลายคนก็พร้อมที่จะวางมือเพื่อไม่ให้ทางการไทยเพ่งเล็งไปมากกว่านั้น

ในช่วงเวลานั้น โทนี่ เตียว ก็ได้ตัดสินใจขยายอาณาจักรธุรกิจของเขา จากมาเลเซียสู่ไทย เขาทุ่มเงินประมาณ 2 พันล้านบาท ซื้อโรงแรม KPK ที่มีขนาดใหญ่ จากนักธุรกิจมาเลย์ด้วยกัน ที่ชื่อ กัง ซี เกียด แบบช่วงแรกเปลี่ยนแค่รายชื่อผู้ถือหุ้น แต่ไม่เปลี่ยนชื่อและอื่นๆ เพราะไม่ต้องการเสียภาษี จนถูกขยับขยายไปเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป จากการตรวจสอบของผมและทีมงาน เอ็มบีไอกรุ๊ป มีบริษัทในเครือ 19 แห่ง เลิกทำกิจการไปแล้ว 3 บริษัท ปัจจุบันเหลืออยู่ 16 แห่ง แบ่งเป็น ที่ อ.สะเดา อ.นาทวี สงขลา 15 บริษัท ทั้ง 19 บริษัทนั้นจดทะเบียนมูลค่าเกินกว่าพันล้าน นายเตียว วุย ฮวด เป็นกรรมการ น.ส.นันทภัค ภานุวัฒนากูล นายนพโรจน์ ศิริพัฒนธนภาค ร่วมถือหุ้นเกือบทุกบริษัท

นี่คือสิ่งที่นายโทนี่ เตียว ได้สร้างขึ้นมา ก่อนที่ผมจะโยงนายโทนี่ เตียว หรือนายเตียว วุย ฮวด กับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งครอบคลุมทั้งประเทศไทย ลาว พม่า ไต้หวัน จีน รวมทั้งมาเลเซียนั้น เราจำเป็นต้องอ้างอิงถึงเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกทลายลงไปเมื่อหลายปีก่อน จากฝีมือของ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข


ผมเชื่อว่าท่านผู้ชมบางท่าน บางส่วน น่าจะพอจำ หรืออย่างน้อยคุ้นเคยกับชื่อเสียงเรียงนามของพ่อค้ายาที่ชื่อ ไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายารายใหญ่ชาวลาว ซึ่งในช่วงต้นปี 2560 ถูกตำรวจไทยจับกุม เชื่อมโยงสู่ขบวนการในประเทศไทยได้ ตอนนั้นเป็นข่าวดัง เพราะว่านายไซซะนะ ไปถูกโยงกับ เบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ซึ่งในเวลานั้นเป็นสามีของดาราสาว แพท ณปภา ตันตระกูล จนนำไปสู่การจับกุม โดนยึดทรัพย์ในเวลาต่อมา


นายไซซะนะ ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต แต่ให้การรับสารภาพ ลงโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนเบนซ์ เรซซิ่ง ศาลต้นยกฟ้อง แต่ว่าศาลอุทธรณ์ล่าสุดเมื่อต้นปี 2564 พิจารณามีคำพิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษจำคุกฐานสมคบค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ลงโทษจำคุก 36 ปี 8 เดือน 


ความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างนายไซซะนะ กับพ่อค้ายาชาวลาว กับ เบนซ์ เรซซิ่ง ผมเอาภาพขึ้นให้ดู

และนี่คือชะตากรรมของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ขบวนการนี้เพียงส่วนเดียว โดยที่คนไทยในสังคมส่วนใหญ่นั้นไม่ได้รับทราบรายละเอียดทั้งหมดว่าจริงๆ แล้วเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดไม่ได้เกี่ยวพันกับสองประเทศแค่ไทยกับลาวเท่านั้น แต่เป็นขบวนการใหญ่ที่หยั่งรากลึกและครอบคลุมไปถึงกลุ่มคนในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคด้วย อย่างที่ผมได้พูดไปแล้ว มีไทย ลาว พม่า ไต้หวัน จีน และมาเลเซีย ผมเอาภาพให้ดูซึ่งเกี่ยวพันกับบริษัทในเครือเอ็มบีไอกรุ๊ป ของนายโทนี่ เตียว และพรรคพวก


ได้มีการปฏิบัติการทำลายเครือข่ายแก๊งยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งโยงเอ็มบีไอกรุ๊ป เมื่อประมาณหกปีที่แล้ว 28 มีนาคม เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ได้จับกุมชาวมาเลเซีย 2 คน พร้อมยาไอซ์ถึง 282 กิโลกรัม ที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา


ท่านผู้ชมสังเกตอย่างหนึ่งนะครับ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นที่ตั้งของบริษัทเกือบทั้งหมดเลยนะ ของบริษัทเอ็มบีไอกรุ๊ป ของนายโทนี่ เตียว ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 2 คนที่ถูกจับนั้น อายุ 60 ปีคนหนึ่ง ชื่อ นายชาง กิม ชุย อายุ 37 ปี ชาวมาเลเซีย ชื่อ นายลิม เยียน ฮุย ของกลางมียาไอซ์ 282 กิโลกรัม กระสอบปุ๋ย 11 กระสอบ รถยนต์เก๋งโปรตอนของมาเลเซีย สีขาว รถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน ทะเบียนไทย จับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา ต่อมามีการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา พบจดหมายจากธนาคารจ่าหน้าถึงบริษัทในเครือเอ็มบีไอ และจากการสอบสวนขยายผลพบว่าธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มเอ็มบีไอ ที่นายโทนี่ เตียว เป็นเจ้าของนั้น มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติด


พล.ต.ท.สมหมาย ในขณะนั้นจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้อง ในวันที่ 20 เมษายน 2560 ตรวจค้น ยึดทรัพย์เป้าหมายต่างๆ โดยเฉพาะใน จ.เชียงราย และสงขลา ต่อมาได้มีการประชุมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างตำรวจไทย มาเลเซีย และไต้หวัน ร่วมกันสืบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดนี้ พบว่า นายโทนี่ เตียว หรือนายเตียว วุย ฮวด และนายเตียว จี จ้าว ซึ่งเป็นบุตรชาย มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในมาเลเซียเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ก็เลยถูกขังอยู่ 1 วัน และถูกปรับทั้งสองคน เมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ตอนนั้น ในการตรวจสอบก็ได้ค้นพบเอกสารการเดินบัญชี ค้นบ้านพักของนายชาง กิม ซุย ผู้ต้องหาถูกจับ บริษัทนั้นมีนายโทนี่ เตียว เป็นกรรมการ ก็เลยตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม


ก่อนหน้านั้น ตอนปี 2559 วันที่ 27 มกราคม นายเตียว วุย ฮวด ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา ร่วมกันตรวจยึดเงินต้องสงสัย โดยพบว่าเงินเป็นธนบัตรสกุลเงินไทยและสกุลต่างประเทศ เช่น เงินริงกิตมาเลเซีย เงินดอลลาร์ไต้หวัน เงินหยวนของจีน คิดเป็นมูลค่าแล้ว 83,523,894 บาท ผมเอารูปการยึดเงินให้ดู


เงินจำนวนดังกล่าวถูกบรรจุไว้ในกระเป๋าเดินทาง อยู่ในโรงแรม The Wai อ.สะเดา สงขลา ซึ่งนายเตียว วุย ฮวด เป็นกรรมการ เป็นเจ้าของ

นายเตียว วุย ฮวด เอาลูกชาย และเอาญาติพี่น้อง เอาคนไทย เข้ามาเป็นกรรมการเต็มไปหมด ภาพเอาภาพที่เขาจับและตามค้นเงินได้มาให้ดู


นอกจากนั้นแล้ว ยังพบว่าบริษัทในเครือเอ็มบีไอกรุ๊ป บางบริษัท ซื้อกิจการต่อมาจากผู้ก่อตั้งรายอื่น บางบริษัทยังไม่มีผลประกอบการ คือเมื่อตรวจสอบการเสียภาษี พบว่ามีการแจ้งงบดุลต่อสรรพากรเขตพื้นที่ 9 ว่าประกอบการขาดทุน ไม่ต้องชำระภาษี เมื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัท พบว่ามีหลายบริษัทได้กู้ยืมเงินนายเตียว วุย ฮวด รวมเป็นจำนวนเงินถึง 4 ร้อยล้านบาท มีเงินหมุนเวียนเข้าออกหลายพันล้านบาท มีเงินเข้ารวม 1,524 ล้านบาท มีเงินออกรวม 1,545 ล้านบาท ก็เลยสอดคล้องกับข้อมูลจากการตรวจสอบโรงแรม KPK และ MCLUB ตามที่นายชาง กิม ซุย ให้การว่าได้เคยมีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติดก่อนนำข้ามแดนไปประเทศมาเลเซีย จำนวนถึง 5 ครั้ง พบว่าโรงแรมดังกล่าวก็จดทะเบียนในนามของบิลเลียนคอนโดฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีนายโทนี่ เตียว หรือ นายเตียว วุย ฮวด เป็นกรรมการ


สรุปแล้ว จริงๆ ข้อมูลและรายละเอียดความเชื่อมโยงของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ใหญ่โตมโหฬารและยังมีอีกเป็นปึกๆ เชื่อมโยงผ่านหลักฐานมากมาย ที่มีการรวบรวมไว้ ทั้งตำรวจไทย ตำรวจมาเลเซีย ตำรวจไต้หวัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหา พยานบุคคล หลักฐานธุรกรรมการเงินซื้อขายยาเสพติด หลักฐานการใช้โทรศัพท์ติดต่อ หลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศ สายการบิน ข้อมูลสถานที่ที่ส่งมอบยาเสพติด ทะเบียนรถที่ใช้ขนยาเสพติด ข้อมูลการถือหุ้น รายได้ รายจ่าย การเสียภาษี การแลกเปลี่ยนเงินตรา การโอนทรัพย์สิน ค่าจ้าง ยักย้ายจ่ายเงินจากยาเสพติด ซึ่งมีข้อมูลทั้งหมด

เมื่อเราสรุปแบบเข้าใจง่ายๆ จากแผนผังองค์กรอาชญากรรม ก็แบ่งแยกบุคลากรทำหน้าที่ในองค์กรอาชญากรรม เป็น 3 กลุ่มหลักด้วยกัน


กลุ่มแรกก็คือพวกส่งของ ทำหน้าที่ขนลำเลียงของไปยังผู้ซื้อ ซึ่งนายชาง กิม ซุย และ นายลิม เยียน ฮุย ชาวมาเลเซีย ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ กลุ่มที่สอง คือกลุ่มค้ายาเสพติด ทำหน้าที่จัดหายาเสพติด และกระจายยาเสพติด ในคดีนี้ตำรวจพบว่า คือนายตัน ฮัน เซียง


ทำหน้าที่นำโทรศัพท์มือถือและซิมการ์ด มาให้นายชาง กิม ซุย ใช้ติดต่อดำเนินการขนยาเสพติด จัดหารถยนต์ ทำเซฟลับ ให้นายชาง เอาไว้ใช้ขนยาเสพติด ลักลอบนำเงินสกุลริงกิตมาเลเซียเป็นค่ายาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย มอบรถยนต์ให้นายชาง เป็นค่าขนยาเสพติด ซื้อทรัพย์สิน เช่น ตึกแถว คอนโดฯ ด้วยเงินสด เป็นต้น

กลุ่มสุดท้าย คือพวกไหนล่ะ ? คือนายทุนที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหา สนับสนุนเรื่องเงินทุนในการซื้อยาเสพติด ซึ่งโทนี่ เตียว หรือ เทดี้ เตียว หรือ นายเตียว วุย ฮวด คือตัวการใหญ่ที่สุด อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาตินี้

ท่านผู้ชมครับ มาถึงตอนนี้แล้ว คำถามที่สำคัญที่สุดที่ผมอยากจะถามว่า กลุ่มแรกที่ผมเล่าให้ฟัง เป็นพวกปลาซิว ปลาสร้อย เป็นลูกน้อง เป็นมือทำงานให้นายทุนใหญ่ คือ โทนี่ เตียว ทยอยถูกจับกุมตั้งแต่ปี 2559 แล้ว กระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินการไปแล้ว ศาลก็ตัดสินไปแล้ว ผ่านมาหกปีกว่า ทำไมหัวหน้าใหญ่ ตัวการ ตัวพ่อ ถึงยังลอยนวลอยู่ได้ ท่านผู้ชมครับ ที่สำคัญคือ ลอยนวลอยู่อย่างเชิดชู มีหน้ามีตา มีเกียรติมีศักดิ์ศรีในสังคมไทย ออกงานสื่อ ถ่ายรูปคู่อย่างสนิทชิดเชื้อกับนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับจังหวัด ระดับประเทศ ระดับ ส.ส. ระดับรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี


โดยเฉพาะคนของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส. สงขลา เขต 5 รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ทางใต้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายเดชอิศม์ ก็พยายามจะออกมาปกป้องนายโทนี่ เตียว บอกว่าเป็นนักธุรกิจธรรมดา แค่คนรู้จักตัวเอง คือแค่รู้จักเฉยๆ แค่ช่วยอำนวยความสะดวก แต่ภาพมันฟ้อง ท่านผู้ชม เป็นเจ้าภาพงานบวชให้ ภรรยาของนายเดชอิศม์ ลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 สงขลา ท่านผู้ชมครับ คนใต้ครับ ใช้ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ใกล้เคียงกับอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป ของนายโทนี่ เตียว โทนี่ เตียว


จะจัดงานอะไร อย่างไร เดชอิศม์ ก็ไปร่วมงาน ไปแสดงความยินดี โดยตลอด

ผมเอารูปให้ดู นายเดชอิศม์ กับ โทนี่ เตียว ในพิธีเปิดงานมหกรรมหุ่นโคมไฟนานาชาติ จัดโดยเอ็มบีไอกรุ๊ป เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ที่สนามโรงแรมเอ็มบีไอรีสอร์ต ด่านนอก สะเดา สงขลา แล้วก็มีคุณถาวร เสนเนียม ตอนนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ คมนาคม เป็นประธาน


ท่านผู้ชมครับ พอเราเห็นหลักฐานต่างๆ ภาพชัดๆ อย่างนี้แล้ว ผมก็เลยตั้งข้อสงสัยกับคุณเดชอิศม์ ว่านายโทนี่ เตียว ได้เกี่ยวข้องทางการเมือง ทางธุรกิจอะไร กับผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ายาเสพติดหรือเปล่า มีคนบอกผมหลายครั้ง แต่ผมไม่เชื่อ และไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขาให้เหตุผลว่า สาเหตุในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้ลูกน้องและเครือข่ายยาเสพติดฟอกเงินจะถูกทลายลงไปเรื่อยๆ แต่ตัวการใหญ่ ตัวพ่อ อย่างนายโทนี่ เตียว ยังสามารถลอยนวลอยู่ในประเทศไทยได้ เป็นเพราะบารมีนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศคุ้มหัวอยู่ ซึ่งเอี่ยวตั้งแต่ระดับ ส.ส. ไปจนถึงระดับรัฐมนตรี ว่ากันว่าระดับรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งด้วยซ้ำ คอยใช้บารมีคุ้มหัวอยู่เพื่อแลกเปลี่ยนเงินทองที่จ่ายให้เป็นค่าคุ้มครอง ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ค่ากล้วย รวมทั้งค่าโน่นค่านี่

ทั้งหมดนี้ผมไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่เขาบอกหรอก แต่ผมจะจับตาอย่างใกล้ชิด โทนี่ เตียว ครั้งนี้จะมีใครกล้าเป่าคดีคนชั่วๆ อย่างนายโทนี่ เตียว ได้อีกไหม รู้แต่ว่าตอนนี้ทุกคนพากันกลุ้มอกกลุ้มใจ ถ้าสามารถจะลบรูปที่เคยถ่ายคู่กับายโทนี่ เตียว ได้ ก็คงจะพยายามลบให้หมด แต่คงลบได้ไม่หมด


ท่านผู้ชมครับ นี่คือคำถามที่ผมเชื่อว่าประชาชนสงสัยมาก จะแก้ตัวอย่างไรก็ตาม แต่หลักฐานมันพิสูจน์ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองสายพรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ซึ่งเมื่อคนสัมภาษณ์นายเดชอิศม์ กับนายโทนี่ เตียว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แบบปกป้องนายโทนี่ เตียว ว่าเป็นนักธุรกิจธรรมดา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ว่าสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันนั้น ไม่ใช่ธรรมดา ว่ากันว่า นายโทนี่ เตียว นั้น คนที่ทำบัญชีให้นายโทนี่ เตียว ก็คือภรรยาของอัยการคนหนึ่งซึ่งผมไม่บอกก็แล้วกันว่าเป็นอัยการที่จังหวัดไหน ฉะนั้น เส้นสายของนายโทนี่ เตียว ไม่ใช่ธรรมดาเลย

ท่านผู้ชมครับ ราวๆ สิบปีก่อน ในช่วงที่โทนี่ เตียว สยายปีก ข้ามแดนจากมาเลเซียเข้ามาลงหลักปักฐานการลงทุนในพื้นที่เวลานั้น ยังเป็นองค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) สำนักขาม นายโทนี่ เตียว เชื่อมสายสัมพันธ์ไปยังผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง มิต้องพูดถึงนักการเมืองหรอก ขนาดข้าราชการ สื่อมวลชน ก็ได้รับการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ชนิดเลี้ยงดูปูเสื่อกันอย่างเต็มที่ และถ้วนหน้า

หลังจากปี 2549 ได้ยกระดับเป็นเทศบาลตำบลสำนักขาม ทำให้เขามีโอกาสได้สนิทชิดเชื้อกับบังเล็ก หรือ นายเกชา เบ็ญจคาร แล้วเกื้อหนุนกันต่อมาจนกระทั่งบังเล็กได้ขึ้นมานั่งตำแหน่งนายกเทศมนตรี


แต่ต่อมา เดือนพฤษภาคม 2565 นายเกชา ถูก ป.ป.ช. สั่งดำเนินคดีตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีหมายเลขดำ อท 26/65 ศาลปราบปรามทุจริตภาค 9 ซึ่งจะมีการนัดสอบปากคำให้การของจำเลยในวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ซึ่งผ่านมาแล้ว มูลเหตุจากการให้เช่าพื้นที่ริมเขื่อนอ่างเก็บน้ำกงสีขาว ในพื้นที่หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.ด่านนอก ให้กับนักธุรกิจร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง จนมีการก่อสร้างร้านอาหารขนาดใหญ่โดยมิชอบ

บังเล็ก อดีตนายกเทศมนตรี ต.สำนักขาม จากนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ก็ขยับขยาย นายโทนี่ เตียว สู่นักการเมืองคนอื่นๆ รวมทั้งพรรคพวก เพื่อนพ้องน้องพี่ ที่กว้างขวางที่ใหญ่โตขึ้น โดยเฉพาะบังเล็กนั้น เป็นเพื่อนสนิทของนายกฯ ชาย หรือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส. สงขลา เขต 5 นายกฯ ชาย มีความผูกพันกับธุรกิจหลายๆ ประเภท ธุรกิจค้าชายแดนก็ผูกพันด้วย การเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างนายโทนี่ เตียว กับ นายกฯ ชาย แทบไม่มีอุปสรรค แถมเมื่อต่อกันได้แล้วก็มีแต่จะแน่นแฟ้นมากขึ้น เพราะช่วงหลังๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นขาขึ้นทางการเมืองของนายกฯ ชายมาอย่างต่อเนื่องตลอด

ผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปเมื่อต้นปี 2565 ตอนที่ 12 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ท่านผู้ชมครับ เรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยพูดเอาไว้ สามารถจะนำมาอ้างอิงได้ตลอด เพราะเป็นเรื่องที่ค้นคว้าข้อมูลมาอย่างแน่นอนแล้ว ท่านผู้ชมพยายามลองกลับไปดูย้อนหลัง ช่วงนั้นมีการเลือกตั้งซ่อมใน 2 เขตภาคใต้ คือ เขต 1 จ.ชุมพร และ เขต 6 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดยนายเดชอิศม์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูแลภาคใต้ สามารถพาลูกทีม คือนายอิสรพงษ์ มากอำไพ และภรรยา คือ น้องน้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล คว้าชัยชนะได้เหนือผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ


ผมเคยเล่าไปแล้วไม่ใช่หรือว่า เส้นทางชีวิตของนายกฯ ชาย หรือ นายเดชอิศม์ นั้น โลดโผนโจนทะยานไม่น้อย เขาเป็นคนที่ใจถึงพึ่งได้ ไม่มีพรรค แต่เขาเน้นที่พวก ตั้งแต่ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น หากใครมีโอกาสขึ้นนั่งบนรถไปไหนด้วย ก็คงจะรำคาญกับปืนผาหน้าไม้วางระเกะระกะไว้ตามเบาะ ตัวเขาเองเคยเป็นคนสนิทของนายจองชัย เที่ยงธรรม อดีต ส.ส. สุพรรณบุรี และรัฐมนตรีพรรคชาติไทย เจ้าของสโลแกน "คิดอะไรไม่ออก บอกจองชัย" ถึงนับญาติเป็นพ่อเป็นลูกกัน นายกฯ ชายเรียกคุณจองชัย ว่าป๊ะจองชัย


แถมข้ามจากฝั่งอ่าวไทยไปเชื่อมได้ถึงกำนันแดง หรือ นายดำรงค์ กิตติธรกุล ผู้กว้างขวางแห่ง จ.กระบี่ นอกจากนั้นแล้ว เขายังเคยเป็นหัวคะแนนให้กับนายถาวร เสนเนียม ส.ส. สงขลา อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และตรงนี้เองทำให้นายกฯ ชาย เป็นเจ้าของสนามชนวัวขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ มูลค่าหลายสิบล้านบาท สนามชนวัว ก็คือสนามพนันวัวชน

อีกทั้งนายกฯ ชาย เองถึงกับเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในท้องถิ่นครั้งหนึ่ง ว่า ภายหลังที่ได้รับการสนิทสนมกับนายทุนเจ้าของอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป มูลค่าหลายพันล้าน ที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เขาเองได้เชิญชวนให้โทนี่ เตียว ร่วมหุ้นในธุรกิจสนามชนวัวที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ด้วย โดยเขาออกสถานที่ ส่วนนายทุนมาเลเซีย นายโทนี่ เตียว ใส่เงินลงทุนลงไป


ท่านผู้ชมครับ สายสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองไทยและนายทุนมาเลเซียถูกกระชับให้แนบแน่นยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2560 พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้นำหมายศาลไปตามจับตัวโทนี่ เตียว ถึงถิ่น เพราะมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นกลุ่มทุนฟอกเงินให้กับเครือข่ายยาเสพติด เครือข่ายอะไรบ้างล่ะ ? เครือข่ายหนึ่ง คือ นายอุสมาน สะแลแมง สอง นายสีสุก ดาวเฮือง สาม นายไซซะนะ แก้วพิมพา รวมทั้งเครือข่ายยาเสพติดในไต้หวัน ประเทศมาเลเซีย อังกฤษ และอเมริกาด้วย โชคดีที่เจ้าตัวอยู่มาเลเซีย ก็รอดไปได้ ต่อมา ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง นายกฯ ชาย ได้พานายโทนี่ เตียว เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วหมายจับครั้งนั้นก็เงียบไปเลย ก็เลยไม่แปลกใจที่มีเสียงร่ำลือในแวดวงว่า ตอนที่นายกฯ ชาย พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ. สงขลา 2 สมัย มาปี 2548 อยากจะก้าวขึ้นเวทีการเมืองระดับชาติ แต่ต้องเคว้งคว้างเพราะหาพรรคลงไม่ได้ ตอนนั้นนายกฯ ชาย ถึงต้องลงไปใส่เสื้อพรรคไทยรักไทย แต่ก็ไม่สำเร็จ

พอช่วงหลังมาสนิทสนมกับโทนี่ เตียว ปรากฏว่าทำอะไรก็สำเร็จไปหมด เพราะได้น้ำเลี้ยงดี และกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ว่ากันว่าตอนได้สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ลง ส.ส. อีกครั้งเมื่อต้นปี 2562 ก็ผ่านฉลุย ปลายปี 2564 ลงชิงรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้สมใจ ต้นปี 2565 ส่งภรรยา น้องน้ำหอม ลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 ก็คว้าตำแหน่งมาได้แบบไม่ยากเย็น

จากนั้น วันที่ 31 กรกฎาคม นายกฯ ชาย ให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างเป็นประธานทอดผ้าป่าที่วัดม่วงหอม จ.สงขลา เมื่อนายโทนี่ เตียว ถูก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล จับไปตามหมายจับของตำรวจมาเลเซีย นายกฯ ชาย ปัดว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมืองที่ได้ท่อน้ำเลี้ยง


มิหนำซ้ำยังแก้ตัวให้กับกลุ่มเอ็มบีไอกรุ๊ป เข้ามาลงทุนในไทยถูกต้อง โดยนักธุรกิจเข้ามาถูกต้อง มีวีซ่า มีใบอนุญาตทำงาน รายงานตัวต่อ ตม. ทุก 3 เดือน หากเขามีคดี ทำไมถึงเข้าไทยได้ ขอให้ทุกคนวางใจเป็นกลาง โดยเฉพาะสื่อ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซีย ใช่ครับ สัมพันธ์เสียหายหมด เพราะผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียต้องการนายโทนี่ เตียว อย่างมากถึงมากที่สุด ขณะนี้ความผิดในไทยยังไม่พบแม้แต่เรื่องเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว นายเดชอิศม์ ก็บอกให้นึกถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีสิ่งที่ยืนยันความสัมพันธ์แนบสนิทของทั้งคู่ มีการบวชพระของนายโทนี่ เตียว พร้อมลูก 8 คน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ที่วัดนาทวี อ.นาทวี วันนั้นนายกฯ ชาย เป็นเจ้าภาพให้ ไม่สนิทกันหรอกครับ แต่เป็นเจ้าภาพงานบวชให้ ภาพพระที่ผมเอาลงให้ดู


แถวพระรูปกลาง คือ พระครูสุวัฒนาภรณ์ หรืออาจารย์สุภัทร อริโย เป็นเจ้าอาวาสวัดนาทวี ซ้าย คือ พระฐานวีโร หรือ โทนี่ เตียว แถวแรกยืนซ้ายสุด เสื้อขาว คือ นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีนาทวี คนที่ 3 เสื้อเหลือง นายเกชา เบ็ญจคาร นายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม คนที่ 4 เสื้อดำ ชื่อ นายอนุมัติ อาหมัด ส.ว. ที่ใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คนที่ 7 เสื้อขาว ยิ้ม ก็คือ นายกฯ ชาย นายเดชอิศม์ คนที่ 10 เสื้อเหลือง คือ นายสุธี สังข์ทอง นาหมอศรี อ.นาทวี และข้างหลังซ้าย แจ๊กเก็ตดำ ดร.วรรณชัย สุวรรณกาญจน์ ที่ปรึกษาของรองประธาน กสทช.เชียวนะท่านผู้ชม ทำเป็นเล่นไป


อีกภาพ ในงานเดียวกัน ยังเห็นพี่หลวงคร หรือที่เขาเรียกว่า พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีหาดใหญ่ คุณน้ำหอม น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ภรรยานายกฯ ชาย นอกจากนั้น ยังมีนายสุเมธ ศศิธร นายกเทศมนตรีเมืองสะเดา นายจรัญ จันทร์แก้ว นายกเทศมนตรีดอนประดู่ อ.ปากพะยูน นางนัยนา เรืองวรุณวัฒนา จากมูลนิธิพุทธอุทยานเขาเล่ อ.สะเดา และคนดังๆ อีกมากมาย

ผมยังมีภาพวันเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ เขต 6 สงขลา เพื่อรองรับการเลือกตั้งซ่อมที่คุณน้ำหอม ภรรยานายกฯ ชาย ลงรับสมัครเมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ท่านผู้ชมครับ ภาพปรากฏชัดเจนว่าสถานที่ตั้งพรรคประชาธิปัตย์ คืออาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป


และที่สำคัญ วันนั้น คุณนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย


เช่นเดียวกับภาพขณะเตรียมงานโคมไฟนานาชาติที่จัดขึ้น นายกฯ ชาย เดชอิศม์ พร้อมด้วยน้ำหอม ภรรยา นำกระเช้าไปแสดงความยินดีกับโทนี่ เตียว พร้อมเดินตรวจการเตรียมพร้อมในพื้นที่แบบมีคนแต่งชุดข้าราชการเดินตามมาเป็นกลุ่ม


ท่านผู้ชมครับ หลักฐานเหล่านี้ยืนยันถึงสายสัมพันธ์ระหว่างโทนี่ เตียว เวลานี้ตกเป็นผู้ต้องหา ถูกจับกุม กำลังถูกส่งตัวกลับไป ไม่ที่ประเทศจีน ก็มาเลเซีย กับนายกฯ ชาย รวมทั้งนักการเมืองอีกมากมายในพื้นที่ ว่าสนิทสนมกันจริงๆ

เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ โทนี่ เตียว เคยเป็นข่าวฉาว ส่วนใหญ่เป็นข่าวครึกโครมในประเทศไทยมาแล้วหลายระลอก น่าจะเรียงลำดับได้ หลังรัฐประหารปี 2557 ปรากฏว่าเขาเองถูกคำสั่ง คสช. เข้ารายงานตัว ในฐานะที่เป็นนักลงทุนชาวต่างชาติที่มากด้วยอิทธิพล

27 มกราคม 2559 หกปีที่แล้ว ถูกทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พาณิชย์จังหวัดสงขลา กรมพัฒนาธุรกิจการค้าสงขลา สนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบบริษัท เอ็มบีไอกรุ๊ป ยึดได้เงินมากกว่า 83 ล้านบาท อีกทั้งจ่อฟ้องกรณีเลี่้ยงภาษีซื้อโรงแรม ฟ้องผู้ถือหุ้นคนที่เป็นนอมินี แต่สุดท้ายก็ต้องคืนเงินและทำให้คนลืมไป เพราะมีผู้ทรงอิทธิพลวิ่งเคลียร์เรื่องนี้ให้


นอกจากนี้ ปี 2559 ปีเดียวกันนั้น มีการตรวจสอบพบว่าโรงแรม KPK ที่เขาซื้อมา ยังมีส่วนพัวพันคดีฆ่านักธุรกิจชาวมาเลเซีย หุ้นส่วนของโรงแรม คือ นายลี อา ฮาน ที่ถูกมือปืนประกบยิงเสียชีวิตในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558


นายโทนี่ เตียว ถูกนำหมายจับคดีฟอกเงิน พัวพันคดีหลายเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ โดย ป.ป.ส. ได้ติดตามค้นหาตัวถึงในอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป แต่โทนี่ เตียว สามารถออกไปต่างประเทศได้เสียก่อน ซึ่งตอนนั้นมาเลเซียก็มีคดีหมายจับในคดีฉ้อโกง เพราะฉะนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมที่รับเงินรับทองนายโทนี่ เตียว ก็ไม่ใช่น้อย ไม่อย่างนั้นแล้ว นายโทนี่ เตียว จะรู้ข่าวล่วงหน้าก่อนได้อย่างไร

ล่าสุด ถูกกล่าวหาว่าเป็นนายเภา (ชื่อแฝง) หรือเป็นเจ้ามือใหญ่ที่อยู่หัวสุดของเครือข่ายพนันออนไลน์ทั่วภาคใต้ โดยเฉพาะมีการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา แล้วจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเกี่ยวข้องกับเขาด้วย

แน่นอนครับ เป็นเรื่องที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า ทั้งนายกฯ ชาย หรือรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความสนิทสนมกันมากกับโทนี่ เตียว ถ้าไม่นับตั้งแต่ปี 2565 ถ้าเป็นสงขลา ก็จะเห็นว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฐ หักพาล ได้ลงไปเล่นงานกับบทบาทของนายกฯ ชาย ในหลายๆ เรื่อง จนกระทั่งมีคนตั้งข้อสงสัยว่ามีความขัดแย้งอะไรกันหรือเปล่า

ท่านผู้ชมครับ เรื่องที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือคดีจับกุมนักธุรกิจสีเทา สัญชาติมาเลเซีย นายกฯ ข่าวร่ำลือมาอย่างชัดเจนว่า สมัยที่นายกฯ ชาย ยังไม่มีตำแหน่งใหญ่โต เขาคือคนที่พานายโทนี่ เตียว ไปพบ พล.อ.ประวิตร แต่เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร พูดคุยกันเรื่องอะไร ผมไม่รู้ เป็นเรื่องที่สังคมยากจะรับรู้ได้

เพราะฉะนั้นแล้ว ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงหลังก็เลยทำให้นายโทนี่ เตียว ถูกอำนาจรัฐดำเนินการหลายๆ ประการ ซึ่งกรณีของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ไปจับนายโทนี่ เตียว นั้น เป็นเพราะอุบัติเหตุจริงๆ เพราะว่าตัวเองไปขอเรือประมง 2 ลำ คืนจากมาเลเซีย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลยินดีคืนให้ 1 ลำ แต่ขอให้ตอบแทนด้วยการเอาหมายจับมาเลเซีย ไปจับนายโทนี่ เตียว มา

ท่านผู้ชมครับ นี่คือข้อเท็จจริงของผู้มีอิทธิพล นายโทนี่ เตียว คนเดียว ถ้าพิจารณาจากเฉพาะหมายจับของประเทศมาเลเซียอย่างเดียวแล้ว ก็กลายเป็นว่านายโทนี่ เตียว ถูกกรณีข้อหาฟอกเงิน และถูกกรณีข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่มาเลเซียและประเทศจีน แต่ถ้ามาเจาะลึกกันลงไปแล้ว นายโทนี่ เตียว ก็คือหัวขบวนใหญ่ในเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ไทย มาเลเซีย ไต้หวัน และอีกหลายๆ ประเทศที่นายโทนี่ เตียว มีอิทธิพลอยู่ และนายโทนี่ เตียว ก็ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา แล้วก็หว่านเงินให้กับนักการเมืองแถวๆ นั้น


นักการเมืองเห็นนายโทนี่ เตียว มีเงินเยอะ แต่มีเงินด้วยธุรกิจอะไร ไม่สนใจ ตราบใดที่นายโทนี่ เตียว ยังจ่ายเงินให้นักการเมืองได้อยู่ นักการเมืองพวกนี้ก็เลยห้อมล้อม ปกป้องนายโทนี่ เตียว เพราะว่านายโทนี่ เตียว เป็นตู้ ATM ให้กับนักการเมืองทางภาคใต้ ท่านผู้ชมเอาไปคิดดูก็แล้วกัน ว่านักการเมืองภาคใต้นั้นมีพรรคอะไรบ้าง และมีใครบ้าง จะสนิทสนมกับนายโทนี่ เตียว แบบไหน จะเอาเงินทองของนายโทนี่ เตียว มามากน้อยเท่าไร ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่า นายโทนี่ เตียว คือตู้ ATM ของนักการเมืองทางภาคใต้ ที่สามารถที่จะไปกดและเอาเงินมาใช้ แล้วก็ช่วยเหลือนายโทนี่ เตียว ตอบแทนนายโทนี่ เตียว ในเรื่องคดีความ ในเรื่องหมายจับ ในเรื่องการเข้าออกประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ นี่คือยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ออกมา แต่ใต้น้ำลงไปคือภูเขาลูกมหึมา ที่เกี่ยวพันกับนักการเมือง ทั้งท้องถิ่น และนักการเมืองระดับชาติ และนี่คือ ภาคใต้ของประเทศไทย



ท่านผู้ชมครับ รายการวันนี้ก็มีอยู่เพียงแค่นี้ อาทิตย์หน้า สัญญาครับว่าจะเอาเรื่อซิปเม็กซ์มาพูดต่อ วันนี้ได้กินออร์เดิร์ฟไปสั้นๆ เรื่องเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวพันกับผู้ถือหุ้นซิปเม็กซ์ แล้วมีอำนาจวาสนา มีเครือข่ายกว้างใหญ่ คือ คุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อาทิตย์หน้าเราฟังกันเรื่องนี้

ก่อนจะจบรายการวันนี้ ผมขอเรียนให้ทราบนิดหนึ่งว่า ฟ้าทะลายโจรตอนนี้กลายเป็นยาช่วยชีวิตคนไทย ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมซื้อฟ้าทะลายโจรของอาจารย์ปานเทพ กล่องหนึ่ง 60 เม็ด แพงที่สุดเพราะทำด้วยใบ ราคาประมาณ 3 ร้อยกว่าบาท แต่ถ้าท่านผู้ชมซื้อฟ้าทะลายโจรทั่วๆ ไปในท้องตลาด ก็ประมาณ 60-90 บาท จะ 60-90 หรือ 3 ร้อยกว่าบาท อย่างไรมันก็ยังถูกกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งแพ็กเกจหนึ่งก็หลายพันบาท แล้วปรากฏว่าหายเหมือนกัน แต่ว่าถ้าคนอายุมากกินโมลนูพิราเวียร์แล้ว อาจจะหาย แต่ว่าต้องนอนติดเตียง อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง

ท่านผู้ชมครับ ฟ้าทะลายโจร ได้ทำคุณูปการ เป็นการทำบุญ ท่านผู้ชมที่เสียสละบริจาคเงินเพื่อให้ซื้อฟ้าทะลายโจร นี่คือบุญอันยิ่งใหญ่ ท่านผู้ชมไม่รู้หรอกว่า 5 สิบกว่าล้านเม็ด เกือบจะ 6 สิบล้านเม็ดแล้ว มันช่วยชีวิตคนขนาดไหน อนุโมทนาสาธุให้ท่านผู้ชมที่บริจาคเงินมา เพื่อให้เราจัดทำ แจกฟ้าทะลายโจร ซื้อฟ้าทะลายโจรมาแจก ขอให้จงได้รับอานิสงส์ของผลบุญนี้ ขอให้ชีวิตมีแต่ความสุข สว่าง แล้วก็ปราศจากอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น มีสุขภาพที่ดี มีความเจริญก้าวหน้าทั้งหลาย สวัสดีครับท่านผู้ชม
กำลังโหลดความคิดเห็น