xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : เบื้องลึก Forex-3D ความโลภเป็นเหตุแห่งหายนะ ภาค 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 2 ก.ย.65 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk หรือ Sondhitalk (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้เป็น

- เบื้องลึกเบื้องหลัง Forex 3D หายนะแชร์ลูกโซ่
- ถึงคราว ดีเจแมน-ใบเตย แรงกรรมคดี Forex-3D
- SCBX ล้มดีล Bitkub ใครปั่นหุ้น-ใครปั่นเหรียญ?
- ความจริงอนาคตของ Zipmex ทำไมถึงยังรอด?

ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.153



คำต่อคำ SONDHI TALK EP.153 [2 ก.ย. 65] : เบื้องลึก Forex-3D ความโลภเป็นเหตุแห่งหายนะ ภาค 2

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2565 เป็นศุกร์แรกของเดือนกันยายน อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เรื่องราวต่างๆ มันมีเยอะจนกระทั่งทำไม่ทัน ที่เรียงเอาไว้นี่เยอะแยะไปหมดเลย แต่ผมจะพูดเรื่องๆ หนึ่งให้ท่านผู้ชมฟังก่อน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผมได้ทำคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งขึ้นมาเพื่ออธิบายถึงการทำบุญใหญ่ของพวกเรา ท่านผู้ชมครับ ปีหนึ่งเราทำบุญใหญ่ครั้งหนึ่ง ปีที่แล้วเราไปทอดกฐินและเราไปสร้างวิหารที่จังหวัดบึงกาฬ วัดเวฬุวัน ซึ่งเป็นวัดในสมเด็จญาณสังวรฯ ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่แล้ว ผม อาจารย์ปานเทพ ทีมงาน และแฟนๆ ผู้รับชมรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" เราได้พูดเมื่อวันที่ 31 ที่ผ่านมานี้ในเรื่องของ เราจะทำ "เหรียญที่ระลึกยาลม ๓๐๐ จำพวก" งงไหมครับ ว่าเป็นเหรียญเพื่อยาลม ๓๐๐ จำพวก อย่างไร

ก็คือพูดง่ายๆ ว่า เหรียญนี้จะเป็นเหรียญบูชาครู รำลึกถึง "ขรัวฉิมเทวดา" ที่ได้มอบตำรับยาดีเป็นตำรับยาแผนไทยของชาติให้เป็นมรดกอันล้ำค่า ให้กับภูมิปัญญาของแพทย์แผนไทยและลูกหลาน เหรียญที่ระลึกนี้จะปล่อยเช่าให้บูชา นำรายได้ทั้งหมดไปบำรุงพระพุทธศาสนา โดยไม่คิดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำเหรียญเลย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการทำเหรียญ รวมทั้งค่าส่ง พวกผมจะออกให้หมด ร่วมทำบุญด้วย ฉะนั้นทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านผู้ชมสั่งจองเหรียญมา ผมจะเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ ไม่หักค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว เข้าไปสมทบทุนเพื่อทำบุญใหญ่ครั้งนี้


การทำเหรียญครั้งนี้ละเอียดมาก เหรียญด้านหนึ่งเป็นรูปของ "หลวงพ่อฉิมเทวดา" มีตัวอักษรบาลี ว่า "อโรคยา ปรมลาภา" แปลว่า ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" อีกด้านหนึ่งเป็นรูป "ท้าวเวสสุวรรณ" ปีนี้เป็นปีของท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเขียนซ่อนปริศนาธรรมเอาไว้ในยาลม ๓๐๐ จำพวก ว่า "ยาลม ๓๐๐ จำพวก ถ้ารับประทานได้ 8 เดือน ทุกวัน พระเวสสุวรรณจะลงมาสู่เราแล" จึงจารึกเหรียญด้วยข้อความภาษาบาลี เป็นคาถาด้วยหัวใจท้าวเวสสุวรรณ ว่า "เวสสะ พุสะ"

เหรียญนี้มีมวลสารอะไรบ้าง ? ท่านผู้ชมครับ มหัศจรรย์มาก วัตถุมงคลหลั่งไหลมาเป็นมวลสารเกินคาด ด้วยเพราะจิตที่ตั้งมั่้นในการทำบุญใหญ่ ผมเลยตั้งใจเอาวัตถุมงคลต่างๆ ที่มาอยู่กับผมจำนวนมากมาหลอมเป็นมวลสารในการทำเหรียญครั้งนี้ด้วย มีเหรียญหลวงพ่อเดิม สมเด็จบางขุนพรหม มีดหมอหลวงพ่อเดิมแกะเป็นยันต์ พระช่อท้าวเวสสุวรรณของหลวงพ่อเพย หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค สมเด็จนางพญาที่พิษณุโลก ซุ้มกอ เหรียญหลวงตามหาบัว ที่ผมเก็บเอาไว้ เอามาหล่อหลอมทำเหรียญ พระผงสุพรรณ วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี ของแท้หมดครับ พระรอดกรุมหาวัน จังหวัดลำพูน พระหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ของสมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร เป็นผู้สร้าง ราชสกุลยุคล


นอกจากนี้ อาจารย์ปานเทพก็ได้ไปตามหามวลสารมงคลมาเพิ่ม อาจารย์ปานเทพไปได้เกราะกระสุนในการยิงสลุตในฤกษ์พิธีมหามงคลต่างๆ ที่ลงอักขระแล้ว และพุทธาภิเษกปลอกกระสุนปืนใหญ่ และมวลสารจากดินในพื้นที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากประเทศเนปาล เป็นต้น


หลังจากนั้นแล้ว เราก็เอาแผ่นโลหะไปให้พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์จำนวนมาก ให้ช่วยลงอักขระและพุทธาภิเษก ครูบาอาจารย์ท่านก็มอบวัตถุมงคลส่งมาให้เพิ่มเติมจำนวนมาก เช่น ตะกรุดโทน ของหลวงพ่อสุดใจ ทันตมโน แผ่นทองคำของพระประธานในวัดป่าบ้านตาด ซึ่งเวลาคนขึ้นไปกราบพระประธานที่วัดป่าบ้านตาด ก็จะเอาทองไปปิด เขาก็ขูดเอาทองซึ่งอายุกว่า 63 ปี เอามาให้ร่วมเป็นมวลสารด้วย


ยังมีตะกรุดเงินของหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดถ้ำผาแดง ท่านอธิษฐานจิตถึง 3 ไตรมาส (9 เดือน) กำไลนักษัต 12 ราศี ของหลวงปู่ศรี มหาวีโร พระอรหันต์ที่สิ้นไปแล้ว ชนวนมวลสารเก่าของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน ที่ท่านประธานความเมตตามอบมาให้ ในบรรดาเรื่องที่ประทับใจหนึ่งในนั้นคือเรื่องราวของวัดอรุณราชวราราม เพราะนอกจากผมจะได้นำหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ของพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ราชสกุลยุคล มาเป็นมวลสารแล้ว เรายังได้รับความเมตตาจากพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งสืบสายสกุลมาจากตระกูลยุคล ความเมตตาของพระมงคลสุทธิวงศ์ ท่านคือ พระมหา ม.ร.ว.นันทวัฒน์ ชยวฑฺฒโน (สกุลยุคลเดิม) วัดบวรนิเวศฯ เห็นว่าเหรียญที่ระลึกนี้มีท้าวเวสสุวรรณ จึงควรที่จะมีวัตถุมงคลจากวัดอรุณราชวราราม ซึ่งวัดอรุณฯ เป็นที่ประดิษฐานของพญายักษ์วัดแจ้ง ท่านผู้ชมจำเพลงเก่าๆ ได้ไหม ยักษ์วัดแจ้ง กับ ยักษ์วัดโพธิ์ ทะเลาะกัน


ยักษ์วัดแจ้ง เป็นพญายักษ์ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นพญายักษ์ที่มีธรรมบาลคุ้มครอง คุ้มครองโลก คุ้มครองคนดี เป็นตัวแทนของเทวดามเหสักข์ แห่งวัดอรุณฯ เป็นเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลายต้องเกรงกลัว พระคุณชาย หรือ พระมงคลสุทธิวงศ์ จากวัดบวรฯ ได้พาอาจารย์ปานเทพ ไปรับมอบมวลสารจากท่านเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ ท่านพระพรหมวชิรเมธี ซึ่งได้เห็นความตั้งใจจริงของอาจารย์ปานเทพ ก็เลยประทานความเมตตา มอบ "ชนวนเอกมวลสาร" คือเวลาสร้างวัดแจ้งเขามีชนวน ชนวนที่เหลือจากการสร้างวัดแจ้ง เอามาให้พวกเราหมดเลย แล้วยังได้มีมวลสารที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีคุณค่ามาก แต่ไม่อาจจะเปิดเผยได้

อาจารย์ปานเทพ รับมวลสารจากวัดอรุณฯ ครั้งนี้ เดิมทีเตรียมร่มไปเพราะฝนจะตก แต่พอรับมวลสารเสร็จ เกิดอัศจรรย์ ฟ้าแจ้งจางปางทันที และอาจารย์ปานเทพ ก็เป็นตัวแทนพวกเราไปกราบพระวัดแจ้งด้วย


อาจารย์ปานเทพ เล่าให้ฟังว่า นอกจากการได้รับความเมตตาจากมวลสารชนวนเอกในการสร้างพญายักษ์วัดแจ้ง เพื่อสร้างเหรียญท้าวเวสสุวรรณแล้ว ความจริงแล้ว ขรัวพ่อฉิมเทวดา ยังมีฉายาอีกประการหนึ่งว่า "ขรัวฉิมสว่างโลก" และตำรับยาลม ๓๐๐ จำพวก ยังระบุเอาไว้ว่า รับประทานได้ 7 เดือน จักษุสว่างทั้งสองข้าง พ้องกับชื่อวัดแจ้งพอดี ความสว่างฟ้าแจ้งในวันรับมวลสารก็เลยเป็นสิริมงคลอย่างน่าอัศจรรย์

เหรียญนี้เราจะให้เช่า ท่านผู้ชมสั่งจองเข้ามา จะได้รับเหรียญหลังวันที่ 3 พฤศจิกายน เหรียญมีจำนวนจำกัด เราสั่งทำไม่มาก เป็นเหรียญท้าวเวสสุวรรณ และ ขรัวพ่อฉิมเทวดา หลอมมวลสารวัตถุมงคลทรงคุณค่าจำนวนมาก มีทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด หนังเหนียว ป้องกันภูตผีปีศาจ ให้ลาภ เราให้เช่าเหรียญละ 2,000 บาท จะได้รับจำนวนเหรียญ 1 เหรียญ ต่อ 2,000 บาท ท่านผู้ชมโอนเงินเข้าที่บัญชี มูลนิธิ ไชย้ง ลิ้มทองกุล ของคุณแม่ผม ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 008-2-78777-1 หรือไม่ก็ทำบุญ สั่งจอง หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ไลน์ @tambun หรือไม่ก็ inbox เข้ามาที่เฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"


ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้จะเป็นอาทิตย์พิเศษ เพราะว่าวันนี้เราจะพูดถึงเรื่องความโลภเป็นเหตุแห่งหายนะ พูดถึงเบื้องลึกของฟอเร็กซ์-3D (Forex-3D) ที่ผมพูดไปแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว และพูดถึงเรื่อง บิทคับ (Bitkub) ซึ่งล่าสุดก็มีเรื่องดรามาขึ้นมา และ ซิปเม็กซ์ (Zipmex) ตลอดจนผมจะมีอะไรที่เป็นข้อแนะนำหลายๆ อย่างสำหรับท่านผู้ชมที่โดนหลอก

แต่ก่อนอื่น ก่อนที่ผมจะเดินเรื่องต่อไป ขอเรียนให้ท่านผู้ชมทุกท่านรับทราบเอาไว้ว่า ผมเห็นหลายๆ เรื่องแล้วที่คนถูกฉ้อโกง ถูกหลอกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลักษณะที่บอกว่าชวนมาลงทุนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทรดหุ้นเอย ไม่ว่าจะเป็นลงทุนอันโน้นอันนี้เอย จะได้ผลตอบแทนสูง ท่านผู้ชมครับ ปรากฏว่าโดนปล้น โดนโกงกันเป็นแถว และไม่ใช่เฉพาะเรื่องราวใหญ่ๆ อย่างเช่น ฟอเร็กซ์-3D หรือ ประชาชนที่หลงเชื่อบิทคับ ลงไปแล้วมีการปั่้นหุ้นขึ้นมา ทำให้ต้องตกค้างอยู่ที่ราคาห้าร้อยกว่าบาท หรือ ซิปเม็กซ์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำอย่างหนึ่ง แต่ไปทำอีกอย่างหนึ่ง ทำให้คนที่เข้าไปลงทุนด้วยเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีอีกเยอะเลย รวมทั้งปัญหาของเด็กที่ชื่อ นัตตี้ ซึ่งผมจะเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังของเด็กที่ชื่อ นัตตี้ มาให้ฟังเร็วๆ นี้ หลังจากอาทิตย์นี้ไปแล้ว

ทั้งหมดที่ผมพูดนี้คือ เดี๋ยวนี้ขบวนการฉ้อโกงโดยผ่านออนไลน์ โดยผ่านโซเชียลมีเดีย มันเยอะเหลือเกิน เยอะจนกระทั่งมันเป็นเรื่องเบี้ยหัวแตก เอาอย่างนี้ดีกว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขอทำตัวเป็นศูนย์กลาง ใครก็ตามที่มีข้อสงสัยว่าจะโดนฉ้อโกง หรือใครก็ตามคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นการหลอกลวงประชาชน ให้ส่งเรื่องมาเลย เข้ามาใน inbox ผมจะมีทีมงานคอยจับตาดูและไปตรวจสอบ ถ้าอะไรไม่ชอบมาพากล ผมจะเอามาออกรายการนี้ หลังจากนั้นแล้วใครก็ตามที่คิดว่าเสียหาย ให้ติดต่อมาเพื่อร้องเรียน แล้วผมจะแพ็กเกจ แล้วจะแนะนำทนายความให้ เสร็จแล้วผมจะติดต่อไปยังหน่วยงานที่จะต้องไปแจ้ง หน่วยงานเดียว ไม่ต้องไปแจ้งกองปราบฯ ไม่ต้องไปแจ้งดีเอสไอ ไม่ต้องไปแจ้งที่โน่นที่นี่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจประชาชน แน่นอนที่สุด ท่านผู้ชมครับ คนที่โดนโกง คือคนโลภ แต่การที่คุณโลภก็ไม่ได้แปลว่าคนที่ตั้งใจจะโกง จะโลภหรือไม่โลภ ก็คือคุณทำผิดแล้ว เพราะคุณตั้งใจจะโกงเขา สิ่งที่คุณบอกเขาไปคือสิ่งที่คุณโกหก เพราะฉะนั้นเอาอย่างนี้ดีไหม ? ส่งมาเลยครับ ส่งมาทาง inbox ก็ได้ หรือว่าขอเบอร์โทรศัพท์มา หรือส่งข้อมูลเข้ามาทาง inbox แล้วผมจะแกะจาก inbox นั้น ให้เบอร์โทรศัพท์ผมไว้ด้วย ถ้าผมสงสัยอะไรผมจะให้ทีมงานโทรไปถาม


ท่านผู้ชมสังเกตอะไรไหม เรื่องนี้ สื่อมวลชนทั่วๆ ไป สื่อกระแสหลักไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก จากการที่ไม่สนใจ มันก็เลยทำให้ขบวนการฉ้อโกงพวกนี้เจริญเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ ท่านผู้ชม นายอภิรักษ์ โกฎธิ โกงไปน่าจะใกล้หมื่นล้าน อายุเพิ่งจะ 28 นัตตี้ อายุเพิ่งจะ 27 โกงเขาไป ขนเงินขนทองเขาไปสองพันกว่าล้านบาท หายตัวไป ออกไปอยู่นอกประเทศ ท่านผู้ชมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กหรือ ไม่ใช่นะท่านผู้ชม ถ้าเราไม่ดับไฟเสียตั้งแต่ต้น ไฟมันจะลุกลามไปเรื่อยๆ แล้วก็หลายๆ อย่างถ้าไม่มีการจี้ไปโดยทางสื่อมวลชน หรือทางผม ตำรวจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะใส่เกียร์ว่าง

เหมือนกรณีของคนที่โดนซิปเม็กซ์เล่นงานจนกระทั่งตัวเองเอาเงินคืนไม่ได้ ไปแจ้งดีเอสไอ วันนี้ดีเอสไอก็ยังนั่งเฉย ทำไมนั่งเฉยล่ะ ? ก็เพราะคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไง ที่ผมพูดให้ฟัง เป็นคนโทรศัพท์ไปนัดอธิบดีดีเอสไอ ให้นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ซึ่งเป็นพ่อของคุณพราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ ผู้บริหารซิปเม็กซ์ ให้ไปพบอธิบดี

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์
มันก็เลยกลายเป็นภาพที่ออกมาว่าเด็กพวกนี้มีเส้น ดีเอสไอก็กลัว เพราะแต่ละคนลูกคนใหญ่คนโตทั้งนั้น ก็เลยนั่งเงียบ รับเรื่องเอาไว้ แต่ไม่ขยับ ไม่มีการรายงานว่าได้ทำอะไรบ้าง ไม่มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาสอบสวน เงียบสนิท งานนี้ผมต้องโทษคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน

ท่านผู้ชมจำได้ไหม คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ตอนที่ดีเอสไอเรียกใบเตย อาร์สยาม กับ ดีเจแมน เข้าไปพบเพื่อสอบ ปรากฏว่าคุณสมศักดิ์ หิวแสง มาถ่ายรูปกับใบเตย กับ ดีเจแมน ก็เลยอาจจะทำให้ใบเตย และ ดีเจแมน ไม่ได้เข้าข่ายในรอบแรก จนกระทั่งวันนี้อัยการซึ่งรับเรื่องนี้ บอกให้สอบกลุ่มที่ 3 ซึ่งดีเอสไอไม่ได้สอบเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วในกลุ่มที่ 3 มีใครล่ะ ? ก็มี ใบเตย กับ ดีเจแมน ส่วนจะผิดหรือไม่ผิด ผมไม่รู้ แต่ประเด็นผมต้องการชี้ให้เห็นว่า ด้วยการแสดงออกของคุณสมศักดิ์ แบบนี้ ทำให้อธิบดีเขาไม่กล้า เพราะเขากลัวว่านี่คือพวกคนที่มีเส้นสาย มีอิทธิพล ผมไม่รู้ว่าใครสนิทกับคุณสมศักดิ์ ไปบอกเขาด้วยว่าผมพูดอย่างนี้ ท่านเลขาฯ รัฐมนตรี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต ช่วยไปบอกด้วยว่า คุณสมศักดิ์ ทำตัวไม่เหมาะสมเลยแม้แต่นิดเดียว


คำครหานินทาว่าคุณสมศักดิ์ มีนอกมีในกันหรือเปล่า ซึ่งผมไม่เชื่อว่าเขามี แต่พฤติกรรมที่เขาแสดงออก ตั้งแต่ใบเตย กับ ดีเจแมน แล้วมาถึงเรื่องที่เขาจะโทรศัพท์ไปนัดอธิบดีดีเอสไอ ให้คุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ไปพบ มันไม่ใช่หน้าที่ที่คุณสมศักดิ์ ต้องไปจัดการ เพราะคุณสถิตย์ ไม่ใช่จำเลย ท่านผู้ชมจำเอาไว้นะครับ ชื่อ สมศักดิ์ เทพสุทิน อย่าลืมชื่อคนๆ นี้เป็นอันขาด

ท่านผู้ชมครับ สัปดาห์ที่แล้ว วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 152 ผมได้เกริ่นให้ท่านผู้ชมฟังแล้วถึงกรณีแชร์ลูกโซ่ ฟอเร็กซ์-3D ที่กลับมาอยู่ในความสนใจของประชาชน หลังจากที่ 18 สิงหาคม ดาราสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช อายุ 36 ร่วมกับมารดา คือ นางสรินยา ไชยเดช อายุ 63 ปี พี่ชาย นายกิตติเชษฐ์ หรือ นายสรายุทธ ไชยเดช ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำคดีที่พนักงานฝ่ายคดีพิเศษ 4 ส่งฟ้องพิ้งกี้ สาวิกา กับพวก รวม 19 คน เป็นจำเลยฐานกระทำความผิดโดยทุจริต โดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ มีผู้เสียหายเกือบหมื่นคน ความเสียหายรวมสองพันกว่าล้านบาท ซึ่งศาลเห็นว่าโทษนั้นสูง และมูลค่าความเสียหายสูง ก็เลยไม่ให้ประกันตัว


พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช กับแม่ สรินยา ไชยเดช และพี่ชาย ข่าววงในบอกว่าจริงๆ แล้วพิ้งกี้ ไม่รู้เรื่อง แต่ว่ากลายเป็นแม่กับพี่ชายกลายเป็นหัวหน้าสายที่แท้จริง เดินหลอกลวงประชาชน หลอกลวงให้คนมาลงทุน พิ้งกี้ ความที่เป็นลูกสาว ก็เลยเหมือนกับนั่งอยู่ในเรือ แล้วโดนผลักเรือตามน้ำ ลอยไปตามกระแสน้ำ ก็เลยต้องโดนด้วย ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ศาลจะวิเคราะห์อย่างไร ผมไม่รู้ แต่ผมคิดว่าอนาคตคงจะไม่ค่อยสดสวยนักสำหรับคุณพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช เพราะคดีฉ้อโกงนั้น เวลาศาลพิพากษา ศาลพิพากษาเป็นกรรม ทำไปกี่กรรม อาจจะโดนโทษถึงสองร้อยปี แต่ว่าโดนจำคุกได้ไม่เกินยี่สิบปี ก็อาจจะโดนยี่สิบปี แล้วยี่สิบปีในคดีฉ้อโกง จากนี้ไปไม่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษง่ายๆ แล้วนะ เพราะกติกาใหม่ของกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงออกมาชัดเจนว่าใครที่โดนคดีพวกนี้จะต้องจำเอาไว้แปดปีก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ยื่นเรื่องเพื่อขอลดโทษ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คุณพิ้งกี้ คุณสรินยา ตลอดจนพี่ชายของคุณพิ้งกี้ น่าจะอยู่ในเรือนจำอย่างน้อยแปดปี ถ้าศาลพิพากษาว่าผิด

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนย้อนกลับมาดูรายการของผม ฟอเร็กซ์-3D หลายคน แทบจะไม่เชื่อว่าข้อมูลเก่าที่ผมพูดไว้เกือบสามปีมาแล้ว แม่นยำมาก คนที่เล่นโซเชียลตัดคลิปที่ผมพูดเอาไว้ลงต่อทางยูทูบ เฟซบุ๊ก ไลน์ TikTok มีผู้ชมหลายล้านคน 4-5 ล้านคน


ท่านผู้ชมครับ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ผมยังมีข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังอีกมากพอสมควร เพราะจริงๆ แล้วนายอภิรักษ์ กับพวก ไม่ได้ฉ้อโกงเงินแค่สองพันห้าร้อยล้านบาท หรอก น่าจะจำนวนถึงหมื่นล้าน เพราะผู้เสียหายอีกจำนวนมากไม่กล้าออกมาร้องเรียน อาจจะเป็นเพราะว่า หนึ่ง เป็นคนในวงการบันเทิง ที่ผมรู้แน่ๆ คนในวงการบันเทิงเสียเงินกับฟอเร็กซ์-3D เยอะมาก แต่อาย ปิดหน้าปิดตา มีน้องจ๊ะ นงผณี ที่ออกมาโวยวาย โวยวายหนักหนาสาหัสจนกระทั่งอภิรักษ์ และทีมงาน ตัดสินใจเอาเงินคืนให้น้องจ๊ะ ยี่สิบล้าน เพื่อปิดปากน้องจ๊ะ แต่คนอื่นไม่มีความกล้าหาญหรือกล้าชนเหมือนน้องจ๊ะ ก็เลยต้องทนหวานอมขมกลืนเข้าไป ว่าโดนหลอกไปแล้วเท่าไร


วันนี้ผมมีข้อมูลใหม่ๆ ที่น่าจะช่วยไขข้อข้องใจของคนหลายๆ คน และอาจจะช่วยไขกุญแจปริศนาที่จะนำไปสู่ช่องทางในการสืบค้นเส้นทางทางการเงินที่นายอภิรักษ์ และพวกฉ้อโกง เพิ่มเติมได้

ผมจะเล่าเรื่องแบ็กกราวนด์ของ ฟอเร็กซ์-3D ให้ท่านผู้ชมจำนวนหนึ่งที่ยังไม่รับทราบเรื่องราวได้รับรู้แบบสั้นๆ เสียก่อน

บริษัทฟอเร็กซ์-3D ก่อตั้งขึ้น ตั้งอยู่ที่ตึก AIA ชั้น 20 ถนนรัชดาฯ 3 เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร อ้างว่าให้คำปรึกษาด้านการลงทุนต่างประเทศ มีนายอภิรักษ์ โกฎธิ เป็นเจ้าของ วิธีหาเงินของเขาคือ ชักชวนคนให้เป็นสมาชิกร่วมลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่เรียกว่า เทรดฟอเร็กซ์ เขาอ้างเลยว่าบริษัทเขามีปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ที่มีการคำนวณที่แม่นยำ สามารถทำกำไรได้ง่ายๆ จากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน


ตรงนี้ก็เลยทำให้คนฮือฮา บอกว่าเอาเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง มีอะไรคล้ายๆ บิทคับ กับ ซิปเม็กซ์ ยุคนี้ บิทคับ กับ ซิปเม็กซ์ ก็คือเอาบล็อกเชนเทคโนโลยีมาอ้าง

นายอภิรักษ์ ฉลาด ใช้คนมีชื่อเสียง ท่านผู้ชมสังเกตไหม ผู้ที่เป็นหัวหน้าพวกนี้มักจะมีชื่อเสียงอยู่ในวงการ พบคนใหญ่คนโต เหมือนอย่างนายท็อป จิรายุส ไปช่วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทย เข้าไปมีส่วนร่วม


ไปร่วมกับนายวินิต เพื่อเอาแดงเดือดมา ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอามาเพื่อมาเล่น แล้วล่าสุดก็ไปร่วมกับคุณเยาวณี นิรันดร ซึ่งผมจะมีเรื่อง คุณเยาวณี นิรันดร อีกครั้งหนึ่ง ไหนๆ ก็ ... ผมลืมไปแล้วนะ เผอิญเห็นข่าวว่า คุณท็อป จิรายุส ไปร่วมกับ คุณเยาวณี นิรันดร


อาทิตย์หน้าผมจะเอาเรื่องราวของตระกูลนิรันดร มาว่าที่ดินเก้าสิบกว่าแปลงนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วโกงเจ้ามาทั้งหมดกี่แปลง แล้วผมจะเอาภาพให้ดูด้วยว่า ที่ๆ โกงเจ้าไปนั้น ตอนนี้สร้างเป็นอสังหาริมทรัพย์ ขายราคาสูง ทั้งๆ ที่เป็นสมบัติเก่าของเจ้า ไม่เป็นไรครับ มีเวลา ใจเย็นๆ ใครรู้จัก คุณเยาวณี บอกแกด้วยว่าของจริงของแท้กำลังจะมาอีกไม่กี่อาทิตย์นี้

อภิรักษ์ ก็เลยใช้ชื่อเสียงของคน ดาราเอย คนโน้นคนนี้เอย ชักชวนคนมาลงทุน สร้างภาพว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ อายุยังน้อย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งๆ ที่นายอภิรักษ์ เป็นเด็กดอย ผมเล่าให้ฟังแล้วไง แล้วก็ใช้ผลตอบแทนเพื่อตอบสนองความโลภของคน เมื่อแรกๆ ก็คือเงินใหม่เข้ามาแทนเงินเก่า ก็มีการจ่ายดอกเบี้ยให้ตามที่ต้องการผลตอบแทน ก็เลยมีคนลงทุนเยอะ ผลตอบแทนที่สูงเวอร์ ภาพลักษณ์ดูน่าเชื่อถือ ที่สำคัญ มีคนในวงการบันเทิงลงทุนเยอะมาก


สี่ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะโป๊ะแตก ฟอเร็กซ์ มีคนลงทุน สมาชิกถึงแปดหมื่นคน ทุกคนมาลงทุน หอบเงินมา จะนอนฟันกำไรจากเงินปันผลกว่าสี่หมื่นล้านบาท ทีเดียว แต่ปลายปี 2561 เป็นต้นมา บริษัทเริ่มมีปัญหาจากเงินปันผลที่ช้าและหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็คือพวกที่โกงประชาชนด้วยลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม คือ เอาเงินใหม่หลอกเงินใหม่ เอามายัดให้กับคนเก่าอยู่ เพื่อไม่ให้ล่มสลาย คนเก่าก็ได้ไป และที่น่าสนใจคือคนที่มาลงทุนกับพวกแชร์ลูกโซ่พวกนี้ หรือโครงการพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทรดหุ้น พวกนี้รู้ว่านี่คือของปลอม แต่พวกนี้อยากจะมาลงตอนต้น เพราะว่าผลตอบแทนมันดี และพวกนี้ก็จับตาดูว่าถึงเวลาแล้วจะต้องถอนออกหรือเปล่า ก็คือรู้ว่าโครงการนี้มันโกง แต่ว่าในช่วงแรกของการโกงนั้น มันจะไม่ยอมให้ลูกค้าเก่าสูญเสียรายได้ เพราะฐานลูกค้าเก่า เมื่อได้รายได้มากขึ้นก็จะไปบอกเพื่อนฝูง เฮ้ย ฉันเล่นมาปีหนึ่งแล้ว ได้เงินตลอด ทุกเดือน ไม่มีขาด แกมาสิ รับรอง จะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งซึ่งเข้ามาทั้งๆ ที่รู้ว่าโกง แต่ก็จะจับตาดูว่าถึงเวลาออกหรือยัง ก็ปรากฏว่าออกได้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือยังติดแง่กอยู่ เพราะอะไร ? เพราะโลภไงท่านผู้ชม

มันจะมีคำพูดที่สวยหรูว่า เฮ้ย อีกสักนิดน่าๆ อีกสักนิดน่า ได้อีกสักนิดก็จะออกแล้ว ปรากฏว่าเจ๊งก่อน ขอประทานโทษท่านผู้ชม ผมก็มีส่วนสำคัญมากในการที่ทำให้มันเจ๊ง เพราะผมเปิดโปงกลเม็ดทุกอย่างให้ เพราะฉะนั้นแล้ว พวกสมาชิกทั้งหลายพอเสียหาย ก็รวมตัวกันฟ้อง ฟอเร็กซ์-3D

มีนาคม 2562 นายอภิรักษ์ หนีไปสิงคโปร์ แล้วแอบกลับมาประเทศไทยผ่านทางกัมพูชา ปลายตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสว่านายอภิรักษ์ กลับมาเมืองไทยแล้ว อยู่ที่คอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร


เข้าไปเจอของกลางเยอะเลย ลัมโบร์กีนี ฮูราคาน เดิมเป็นสีส้ม ผู้ต้องหาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า มูลค่า 24.8 ล้านบาท สมุดบัญชีเงินฝาก โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาหรู เครื่องประดับ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น

ท่านผู้ชมครับ ลักษณะมันคล้ายๆ ผู้กำกับโจ้ มีรถยนต์เต็มไปหมดเลย มีทรัพย์สิน และมีเงินฝากในบัญชี แต่ผู้กำกับโจ้ทำเรื่องผิดกฎหมาย แล้วไปรีดไถขบวนการยาเสพติด และขบวนการซื้อขายรถเถื่อน ก็ถือว่าเป็นความผิด เพราะทรยศต่อหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่นายอภิรักษ์ คือโกงประชาชน หลอกประชาชนเป็นหมื่้นคนมาลง ตอนนี้ก็เลยพยายามที่จะยึดอายัดทรัพย์สิน ดีเอสไอ สรุปว่าเสียหายประมาณสองพันห้าร้อยล้าน มีผู้เสียหาย 9,824 คน ซึ่งไม่นับรวมผู้เสียหายจากนอกสำนวนอีกเป็นหมื่นคน เจ้าหน้าที่ได้ไล่ยึดทรัพย์คนเกี่ยวข้อง บ้าน รถยนต์ ของใช้แบรนด์เนม สนามแข่งรถ

ย้อนกลับไป คดีแชร์ลูกโซ่คดีนี้ได้มีคนบันเทิงเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่โดนเรียกสอบ ทั้งในฐานะผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทำผิดด้วยกันหลายคน อย่างที่ผมเรียนให้ทราบ หนึ่งในนั้นก็คือ คุณจ๊ะ คันหู นงผณี มหาดไทย ซึ่งเขาอ้างว่าเสียเงินไปยี่สิบล้านบาท

ล่าสุด กรณีฟอเร็กซ์-3D อัยการคดีพิเศษ 4 ได้แทงเรื่องกลับมาที่ดีเอสไอ ให้สอบกลุ่มที่สาม คือกลุ่มสุดท้าย เพิ่มเติม โดยที่เป้าหมายพุ่งตรงไปที่ ดีเจแมน และ ใบเตย อาร์สยาม ผลเป็นอย่างไร ผมไม่สามารถที่จะบอกได้ตอนนี้ เพราะว่าเรื่องยังอยู่ในมือดีเอสไอ


สรุปแล้ว ผู้ต้องหาชุดแรก ตั้งแต่ต้นปี 2564 ได้ดำเนินการจับกุม อภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก รวม 4 คน ตอนนี้อยู่ในเรือนจำ ชุดที่สอง มีนายสุภิญโญ มีสมปราชญ์ ผู้ร่วมก่อตั้งฟอเร็กซ์-3D ก็ถูกควบคุมในเรือนจำ ชุดที่สาม พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช แม่ พี่ชาย น้องชายนายอภิรักษ์ ดารานายแบบชาย 2 คน รวม 19 คน ก็อยู่ในเรือนจำ มาถึงตอนนี้สรุปแล้วอัยการยื่นฟ้องไปแล้ว 3 สำนวน จำเลยทั้งหมด 24 คน


การจับพิ้งกี้ สาวิกา และการไม่ให้ประกันตัวนั้น สร้างความสั่นสะเทือนต่อวงการบันเทิงและสังคมไทยไม่น้อย เพราะดาราอย่างเช่น ใบเตย สุธีวัน กับ ดีเจแมน พัฒนพล เป็นดาราที่มีชื่อเสียงมากพอสมควร ทำให้ทั้่งคู่ออกมาไลฟ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการต้มตุ๋นแชร์ 3D และเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน


อย่างไรก็ตาม ก็มีคนไม่เชื่ออยู่เยอะพอสมควร เพราะภาพที่ปรากฏออกมานั้น ปรากฏว่า ดีเจแมน มีชื่อพัวพันและมีภาพใกล้ชิดกับนายอภิรักษ์ มาก จนถึงขั้น ดีเจแมน เรียก อภิรักษ์ ว่า "น้องชายในอดีตชาติ"


ผมเคยกล่าวไว้ในรายการนี้เมื่อ 2 ปี 9 เดือนที่แล้ว ว่า งานแต่งดีเจแมน กับ ใบเตย ที่ใช้เงินสิบล้านบาท ผมบอกว่า อภิรักษ์ เป็นคนออกให้ สินสอด 45 ล้าน คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นของอภิรักษ์ ซึ่งอาจจะให้ยืมมาโชว์โอ้อวดก็ได้ ตอนนั้นกำลังฟู่ฟ่า หัวเราะร่าบนทุกข์ยากของคนที่นายอภิรักษ์ หลอกลวงเอาเงินเขามา แล้วเอาเงินเอาทองมาหว่านเพื่อสร้างชื่อสร้างเสียง


ท่านผู้ชมครับ มีคนถามผมมามากว่า คุณสนธิ ในฐานะผู้มาก่อนกาล ที่พูดเรื่องนี้เอาไว้เกือบสามปี ที่เชื่อมโยงพิ้งกี้ พี่ชาย และแม่ ถามผมว่า ดีเจแมน กับ ใบเตย จะโดนด้วยหรือเปล่า ? ตอนนี้ผมพูดไม่ได้ เรื่องนี้ยังอยู่ในมืออัยการ บางกระแสร่ำลือว่ากลุ่มผู้ต้องหาชุดที่สี่มีความพยายามวิ่งเต้นดีเอสไอด้วยเงินถึงห้าสิบล้านบาท ผมไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่ท่าทีอัยการที่มีคำสั่งให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มในฐานะผู้ต้องหา แสดงว่าน่าจะมีหลักฐานการกระทำผิดอยู่บ้างพอสมควร

โฆษกดีเอสไอ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ เปิดเผยว่า ได้แยกคดีเป็นคดีพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งคดีโดยเฉพาะ จากข้อมูลที่วงในได้มา หลักฐานการทำผิด ไม่น่าจะถึงใบเตย สุธีวัน ส่วนดีเจแมน เราต้องรอดูต่อไป

ท่านผู้ชมครับ ฟอเร็กซ์-3D กับอุทาหรณ์ถึงสื่อมวลชน ประเด็นเรื่องแชร์ลูกโซ่ 3D นั้น มีประเด็นหนึ่งซึ่งผมไม่พูดก็ไม่ได้ และเป็นเรื่องที่ผมพูดมานานหลายสิบปีแล้ว ตอนผมมีโอกาสไปสอนหนังสือตามมหาวิทยาลัย ออกรายการก็พูด ให้สัมภาษณ์ที่ไหนก็พูด พูดแล้วพูดอีก อย่างกรณี ฟอเร็กซ์-3D มีคนเอาคลิปที่ผมพูดเมื่อสามปี ไปแชร์ ไปตัดทำข่าวกันมากมาย คนเข้ามาคอมเมนต์กัน บางคนไม่เชื่อว่าผมอธิบายและชำแหละเรื่องนี้อย่างละเอียดไว้เมื่อสามปีก่อน และบางคนก็ยอมรับว่าพูดออกมาเป๊ะๆ สุดยอดมาก หลายคนก็บอกว่าแม่นเหมือนตาเห็น ขนลุกเลย บางคนตั้งฉายาผมว่าเป็นพ่อหมอ หยั่งรู้อนาคต แต่ผมจะบอกให้ท่านผู้ชมทราบว่า ผมคือนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นคนธรรมดา เป็นสื่อมวลชนธรรมดาที่ไม่ได้มีญาณวิเศษอะไร แต่ผมเป็นคนที่มุ่งมั่น และผมไม่กลัวอำนาจมืด และไม่มีใครซื้อผมได้

เพียงแต่ว่าห้าสิบปีที่ผมประกอบอาชีพสื่อสารมวลชนมา ผมไม่ใช่สื่อมวลชนแบบนกแก้วนกขุนทอง หรือสื่อมวลชนที่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ผมเรียกว่า เรียลไทม์ เห็นเรื่องอะไรก็รายงานไปตามนั้น ใครพูดอะไรก็พูดไปตามนั้น โดยไม่ตั้งคำถาม ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาข้อเท็จจริง ผมรับข้อมูลหลากหลาย อ่านหนังสือเยอะ พูดคุยกับคนเยอะ แหล่งข่าวผมมีมากมาย แนะนกันต่อๆ ไป จริงจังกับข้อมูลที่ได้รับ อันไหนยังไม่ใช่ก็ทุ่มเทแสวงหาต่อไป แยกแยะข้อมูล หาคำตอบมาให้ได้ เพราะว่าชีวิตนี้ผมตั้งปณิธานไว้แล้วว่า ผมไม่อยากจะตายลงไปจากโลกนี้แบบคนไร้ค่าและโง่งม เหมือนกับตอนนี้ผมกำลังทำเรื่องของ นัตตี้ ผมขุดลงลึกเลย ลงลึกจริงๆ ท่านผู้ชมใจเย็นๆ แล้วก็จะเป็นผมอีกนี่ล่ะที่เอาเรื่อง นัตตี้ เด็กเวรคนนี้ อายุแค่ 27 ปี แต่โกงเงินชาวบ้าน เชิดเงินไปสองพันล้านบาท แล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วผมจะเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ฟัง ใจเย็นๆ รอดู


สิ่งที่ผมทำนั้น ตรงกันข้ามกับบทบาทสื่อมวลชนส่วนใหญ่ สื่อมวลชนกระแสหลักในสมัยนี้ผมต้องบอกว่า น่าผิดหวังมาก นอกจากทำหน้าที่เป็นนกแก้วนกขุนทองแล้ว ยังมีวาระซ่อนเร้น เน้นแต่เรตติ้ง ขาดความกล้าหาญ ไม่กล้าพูดความจริง ไม่พยายามทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่ขบวนการแชร์ลูกโซ่ที่อ้างว่าทำกำไรจากเงินตราต่างประเทศอย่างกรณี ฟอเร็กซ์-3D หรือการเทรดหุ้นอย่าง นัตตี้ หรือกรณีล่าสุด ผมเกริ่นไปแล้วที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ คือกรณี พีไมเนอร์ (P Miner) เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่ว่าเราจะให้ความสนใจหรือเปล่าในฐานะสื่อมวลชน เราพร้อมจะเอาความจริงมาเปิดหรือเปล่า


พีไมเนอร์ วันที่ 30 สิงหาคม ตำรวจสนธิกำลัง ปปง. บุกค้นบ้าน เป้ กิติกร อินต๊ะ เจ้าของเหมืองทิพย์ พีไมเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่กรุ๊ป ยึดรถหรู 6 คัน ยี่ห้อ Porche ลัมบอร์กีนี BMW เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ บิ๊กไบก์ นาฬิกาหรู บ้าน ที่ดิน อายัดบัญชีกว่าสิบบัญชี มูลค่ากว่าร้อยล้านบาท เพราะว่าไปตุ๋นนักลงทุนเสียหายกว่าหนึ่งพันเจ็ดร้อยล้านบาท ตั้งแต่ปี 2563 โดยอ้างกับนักลงทุนว่าจะได้เงินปันผลสูงถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์


(รูปภาพ) นายเป้ เท่มาก ถ่ายรูปกับรถซูเปอร์คาร์ ซึ่งก็โกงเงินคนที่มาร่วมลงทุนด้วย ท่าทางหน้าตาก็เหมือนกับคนไฮโซ หน้าตาดี ดูบ้านเขาสิ นี่มันเงินประชาชนทั้งนั้น

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ผมจะเอาเบื้องหน้าเบื้องหลังของนายอภิรักษ์ ที่ผมไม่เคยเปิดเผย มาให้ทราบนิดหนึ่ง มีคนอยู่สองคนที่เป็นสายของผม และผมก็สัมภาษณ์เขา และผมก็รับปากเขาว่าจะไม่เอาเรื่องของเขามาพูด จนกระทั่งล่าสุด ผมคุยกับเขาอีกที เขาบอกว่าเขาไม่ขัดข้องแล้ว เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง


คนแรก สั้นๆ ชื่อ จอย จอย เป็นกะเทย สวย จอยคือคนที่เป็นแฟนอภิรักษ์ โกฎธิ จอย เป็นคนที่คบกับอภิรักษ์ อภิรักษ์ มาคบจอย แล้วจอยดูแลอภิรักษ์ เหมือนกับกะเทยเป็นคนเลี้ยงดู อภิรักษ์ ทำตัวเป็นแมงดา เพราะอภิรักษ์ ไปโม่หน้ามา ดูหน้าตาหล่อเหลา จอย ก็เลยหลงใหล มีเงินมีทองเท่าไรก็เลยยัดให้อภิรักษ์ หมด ซึ่งจอย โชคดี เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะในช่วงเวลาที่คยกับอภิรักษ์ ตอนนั้นยังไม่ได้ทำ ฟอเร็กซ์-3D พูดง่ายๆ จอย คือคนที่ทำมาหากิน จะทำอะไรผมไม่รู้ แต่ว่ามีเงินมีทองไปป้อนอภิรักษ์ แล้วจอย ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแนะนำพวกกะเทยต่างๆ เช่น กะเทยช่างแต่งหน้า กะเทยที่คบกับผู้หญิง แล้วพวกกะเทยช่างแต่งหน้าก็เลยนำพาไปสู่ดาราต่างๆ ซึ่งกะเทยพวกนี้เป็นช่างแต่งหน้า เธอ ทำไมรวยจัง มีเงินซื้อกระเป๋า ฉันเอาเงินไปลงทุนที่ ฟอเร็กซ์-3D ปันผลมาตั้งปีหนึ่งแล้ว ดูสิ ฉันได้มา ฉันซื้อบ้านมาหลังหนึ่ง ดาราที่ไปทำผม ทำเล็บ ก็ตาโตเลยทันที ช่วยเอาเงินไปลงให้หน่อยได้ไหม ... นี่คือที่มาของมัน

ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งนั้น จะเรียกว่าเป็นคนสนิทที่สุดของอภิรักษ์ ก็ได้ อยู่ติดตัวอภิรักษ์ มาตลอดเวลา แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีส่วนในการเป็นแม่ข่าย เป็นเพียงแต่ว่ารู้หมดว่าอภิรักษ์ ทำอะไรบ้าง ผู้หญิงคนนี้ ชื่อ ฟาราห์ (เอารูปขึ้นให้ดู)


สวย สูง สูงยาวเข่าดี มีหน้าอกหน้าใจ แต่ฟาราห์ บอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับอภิรักษ์ ในเรื่องของการลงทุน เพราะว่าอภิรักษ์ เอาชื่อฟาราห์ ใส่เป็นผู้ถือหุ้น และไม่ได้เป็นกรรมการ ถ้าเป็นกรรมการเธอโดนเล่นงานไปแล้ว เธอเป็นผู้ถือหุ้นเฉยๆ แล้วเธอเพิ่งมารู้ตอนหลัง เพราะว่าเธอถือหุ้นหลังจากข่าวออกมาแล้ว

เธอบอกว่าหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ของฟาราห์ เป็นการที่อภิรักษ์ นำเอกสารต่างๆ ไปจัดการเอง ปลอมลายเซ็น บริษัทก่อตั้งปี 2558 เราไม่รู้จริงๆ เราก็เดือดร้อน ถ้าฟาราห์ รู้ว่าตัวเองมีหุ้นตอนนั้นบริษัทจะไม่มีปัญหา ฟาราห์ คงจะฟ้องขอส่วนแบ่งไปแล้ว เช็กเส้นทางการเงินได้


อภิรักษ์ ก่อนจะทำ ฟอเร็กซ์-3D ฟาราห์ รู้จักกับอภิรักษ์ ในงานวันเกิดรุ่นพี่คนหนึ่ง อภิรักษ์ ตอนนั้นเพิ่งออกจากคุก โดนข้อหาเรื่องคอมพิวเตอร์ ผิดเรื่องเว็บโป๊ ผมยังเกรียนอยู่ อายุแค่ 18-19 ฟาราห์ บอกว่า เป็นคนฉลาดมาก ก็เลยประทับใจที่ความฉลาด ต่อมาก็เลยมีความสนิทสนมกัน แต่สนิทสนมกันแค่ไหน ผมไม่อาจจะก้าวล่วงเข้าไปได้ แต่ก็ไม่ประหลาดใจถ้าจะมีความสนิทสนมมากกว่าการเป็นเพื่อนสนิท ก็เป็นปกติธรรมดา

ฟาราห์ เล่าให้ฟังว่า เธอมีแผนเปิดคลินิกความงามที่คอนโดฯ ย่านพระราม 9 ก็เลยให้อภิรักษ์ กับ พิ้งกี้ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะฟาราห์ กับ พิ้งกี้ รู้จักกันมาก่อน


ทั้งฟาราห์ และ พิ้งกี้ มีเชื้อสายแขก แขกปาทาน แขกขาว ก็เลยทำให้อภิรักษ์ เริ่มรู้จักกับ พิ้งกี้ และครอบครัวพิ้งกี้ ในตอนนั้น ซึ่งเงินในการลงทุนคลินิกนี้ก็เป็นของฟาราห์ แต่คนเดียว เรียกว่าในช่วงนั้นฟาราห์ ต้องเลี้ยงดูอภิรักษ์ ทั้งครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง เพราะว่าพ่อแม่ของอภิรักษ์อาศัยอยู่ดอยปุย เชียงใหม่ ซึ่งถ้าย้อนไปสิบสี่ปีที่แล้ว สมัยที่อภิรักษ์ ยังเป็นเด็กน้อยอายุ 14-15 ปี ปัจจุบันอภิรักษ์ อายุแค่ 28 ปีเอง ท่านผู้ชม อภิรักษ์ เคยโดนจับในคดีทำเว็บไซต์โป๊ ให้คนดูจ่ายเงินเพื่อดู โดยเป็นโปรแกรมเมอร์ทำคนเดียว ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเป็นเว็บใต้ดินที่ติดอันดับหนึ่งของประเทศ พอตำรวจบุกเข้าไปจับ เปิดประตูเข้าไป อ้าว เป็นเด็กตัวเล็กๆ ทำคนเดียว ตำรวจก็ฉลาด เห็นว่าเก่งคอมพิวเตอร์ ก็เลยยื่นข้อเสนอว่าให้มาเป็นสายตำรวจ ช่วยแฮกพวกเว็บพนันออนไลน์

ฟาราห์ บอกว่าอภิรักษ์ เป็นเด็กอัจฉริยะมาก เรียนน้อยแต่เก่งเรื่องอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีต่างๆ เรื่องภาษาอังกฤษก็เก่ง เอกสารก็เก่ง ทุกอย่าง ตอนนั้นฟาราห์ ได้ทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ก็ไหว้วานให้อภิรักษ์ ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับที่ดินให้ เขาใช้เวลาทำทั้งคืน แค่วันเดียวเสร็จ เนื่องจากฟาราห์ เลี้ยงดู ดูแลเขา เขาก็เลยทำงานให้ฟาราห์ทุกอย่าง

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ทั้งอภิรักษ์ และ ฟาราห์ เดินทางไปเกาหลีเพื่อคุยเรื่องคลินิกเสริมความงาม อภิรักษ์ โดนจับตัวที่สุวรรณภูมิ เพราะมีคดีค้างอยู่ เป็นเรื่องนำเข้าข้อมูลผิดกฎหมายในอินเทอร์เน็ต

ในช่วงที่ทำงานกับฟาราห์ อภิรักษ์ มาตีสนิทกับจอย ทางอินสตาแกรม เพราะภาพของจอย ดูรวย รู้จักกับดาราเยอะ โดยในช่วงนี้อภิรักษ์ หลอกเอาเงินทั้งฟาราห์ และ จอย ไปเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท ช่วงที่กำลังดิ้นรน อภิรักษ์ เคยเอารถเถื่อนมาขายให้ฟาราห์ ฟาราห์ ซื้อมาหกแสน แต่งอีกหนึ่งล้าน ตอนหลังตำรวจจับอยู่ที่ สน. ถึงตีสี่ แล้วรู้หรือเปล่าท่านผู้ชม คนที่ช่วยออกจากโรงพักคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

2557 เวลาล่วงมา คลินิกเสริมความงามไม่ได้เปิด เพราะเจอปัญหาต่างๆ ปัญหาการชุมนุม ปัญหาฟาราห์ หมุนเงินไม่ทันเพราะโดนญาติโกงร้านอาหารที่มาเลเซียไปกว่าห้าล้านบาท เพราะฟาราห์ พ่อเป็นคนมาเลเซีย


หลังเรื่องคลินิก อภิรักษ์ เริ่มเรียนรู้การหาเงินด้วยการใช้เทรด ฟอเร็กซ์ แรกๆ เขาคุยว่าหนึ่งเดือนเทรดได้เดือนละสองแสน ตอนนั้นฟาราห์ ให้เขาไปเทรดห้าหมื่น เงินฟาราห์เอง เริ่มจากลูกค้าเจ้าเล็กๆ ก่อน จากนั้น อภิรักษ์ ก็ไปสนิทกับสรายุทธ ไชยเดช พี่ชายของพิ้งกี้ เพราะไม่มีเส้นสายที่ไหน หลังจากนั้นก็พูดคุยกันทุกวันเลย วางแผน ก็เลยเปิด ฟอเร็กซ์-3D

พิ้งกี้ ตอนนั้นก็ไปแต่งงานกับคนรวยคนหนึ่งที่พัทยา ชื่อ อิทธิ ชวลิตธำรง หรือ ไฮโซเพชร ในตอนนั้นไฮโซเพชร ไม่ยอมให้พิ้งกี้ ทำธุรกิจใดๆ แต่ตอนหลังทั้งคู่ก็เลิกราไป


ส่วนนักร้องสาว จ๊ะ คันหู นงผณี มหาดไทย ที่สูญเงินกว่ายี่สิบล้านบาท โดน แก้มบุ๋ม ก็คือ สุพัตรา ไชยวงค์ญาติ อดีตเจ้าของบริษัทเอเยนซีศัลยกรรมเกาหลี ชื่อ BSK ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส. ธัญญนันช์ ณัฐนนท์ชญนัท อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นจำเลยคนที่ 18 อยู่ในก๊วนเดียวกับนายอภิรักษ์ ไปชักชวนคนมาลงทุน ถูกจำคุกไปแล้ว


ความสัมพันธ์ระหว่าง ดีเจแมน กับ อภิรักษ์ : ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน ตอนแรกไม่ค่อยมีสตางค์ เข้ามาสนิทกับอภิรักษ์ เพราะตอนนั้นอภิรักษ์ เป็นคนมีเงิน รวยแล้ว ยังเป็นคนที่บ้าดารามาก อยากเป็นพระเอก อยากเป็นดารา ช่วงที่อภิรักษ์ มีเงิน ดาราเข้าหาเพราะได้เงิน ได้โรเล็กซ์ ได้เงิน นิสัยสปอร์ต อภิรักษ์ฉลาด แต่มีนิสัยเป็นเด็กน้อย ก็เลยโดนโกงไปเยอะ ไม่ใช่โดนโกงล่ะ โดนคนลักเล็กขโมยน้อย เงินที่เขามีอยู่ ซึ่งเป็นเงินของประชาชนนั่นเอง อ่อนประสบการณ์ อาจจะเสียเงินถึงหลักร้อยล้าน

คนที่เป็นแม่ข่ายให้อภิรักษ์ ถ้าอภิรักษ์ favor ก็จะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เยอะ ยกตัวอย่าง แม่พิ้งกี้ ได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ จากการชักชวนคนมาลงทุน

ดีเจแมน กับ อภิรักษ์ นับถือกันเป็นแบบพี่น้องในอดีตชาติ ตามที่ดีเจแมน พูด ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเงาตามตัว ดังนั้น ที่ดีเจแมน ออกมาพูดในระหว่างไลฟ์สด โดยอ้างว่าวันไหนถ่ายรูปกับใครต้องระวังตัว เพราะในแวดวงคนรู้จักต้องถือว่าเป็นเรื่องโกหกตอแหล


ดีเจแมน บอกว่า "ไม่ได้ท้อว่าจะต้องติดคุกหรืออะไรนะ แต่ท้อว่ามาอีกแล้ว มันเป็นคดีใหญ่จริงๆ กลับมาทำให้เรารู้สึกแย่อีกแล้ว 2 ปีที่ผ่านมา ใบเตยบอกกับผมเลยว่าเลิกดูได้แล้ว แต่ผมดูทุกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกว่าการที่จะไปยืนถ่ายรูปกับใครเราต้องคิดหนักมากๆ"

ดีเจแมน ครับ รูปที่ออกมาไม่ใช่มายืนถ่ายรูปกันเฉยๆ แต่มีการร่วมสังฆกรรมกันเยอะแยะไปหมด รวมทั้งคุณไปนั่งประชุมกรรมการของบริษัท ฟอเร็กซ์-3D ด้วย ก็เลยถามว่า ดีเจแมน กับ อภิรักษ์ เกี่ยวข้องกันไหม ? ไม่รู้ ต้องดูที่ดีเอสไอสรุปสำนวนมา รู้แต่ว่าอภิรักษ์ ทุ่มเงินให้ ดีเจแมน มีคนเห็นว่าเวลาดีเจแมน มาหา หิ้วเงินสดออกไปเป็นกระเป๋าๆ ไม่ทราบว่าให้ด้วยความเสน่หา หรือเป็นค่าตอบแทนการทำงาน แต่ได้ข่าวว่าคนที่วิ่งเคลียร์เรื่องให้ดีเจแมน คือ ทนายเจมส์ นายนิติธร แก้วโต

นอกจากนี้ กลุ่มแม่ข่าย ยังมีอีกคนหนึ่งคือ เอปอน เป็นกะเทยแม่ข่าย ดึงนักลงทุนสายหมอมาลงทุน ฟอเร็กซ์-3D ตอนนี้ เอปอน ไปใกล้ชิดกับดิว อริสรา แล้ว สมัยตอนที่มีคดีความแรกๆ มีตำรวจไปไถเงินนายอภิรักษ์ ที่คอนโดฯ บ่อยมาก ต้องเตรียมเงินเป็นกระเป๋าๆ เอาไว้จ่าย ตอนหลังต้องหนีออกนอกประเทศ ที่ตัดสินใจกลับมางวดนี้ก็เพราะมีผู้ใหญ่หลอกว่า ที่เคยให้เงินไป เยอะเลย กลับมาแล้วจะช่วย แต่พอกลับมาจริงๆ ผู้ใหญ่ไถเงินอภิรักษ์ สองร้อยล้านบาท อภิรักษ์ ไม่ยอมให้ ก็เลยโดนรวบ ผมก็เลยถามว่า เงินที่อภิรักษ์ โกง ถูกยักย้ายถ่ายเทไปอยู่ที่ไหนบ้าง จากข้อสันนิษฐานของคนที่ใกล้ชิดนายอภิรักษ์ อย่างเช่นจอย ซึ่งเป็นภรรยาเก่าคนแรก และ ฟาราห์ ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากคนต่อมา คาดว่ามีความเป็นไปได้ว่าเงินส่วนที่เหลืออยู่นอกประเทศ น่าจะอยู่ที่ดูไบ ฮ่องกง สิงคโปร์ ทั้งเงินทั้งทอง เพราะว่าอภิรักษ์ ชอบเช่าไพรเวตเจ๊ต เครื่องบินส่วนตัวไปบ่อย ผมเอารูปให้ดูนะครับ เจ พสิษฐ์ คนนี้เป็นเลขาฯ CEO ที่ถือเงินสดสิบล้านไปในงานแต่งดีเจแมน และ ใบเตย


มีช่วงที่อภิรักษ์ บินไปดูไบบ่อยมาก กับคนสนิท คือ เจ พสิษฐ์ ศุภศักดิ์ธนินท์ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ตอนนี้ติดคุกอยู่เช่นกัน

หลังจากมีข่าวเรื่อง ฟอเร็กซ์-3D อภิรักษ์ ก็หย่ากับภรรยาที่ชื่อ จิ๊กกี๋ หรือ ชนกวนันท์ สีลุน หรือ ภคมน สีลุน เป็นจำเลยที่ 16 โดยฝ่ายหญิงหันไปคบกับนักแสดงชื่อ ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ปัจจุบันจิ๊กกี๋ ถูกจับเข้าคุกไปแล้ว เงินส่วนแบ่งที่ได้มาต้องสืบต่อ ติดตามเส้นทางการเงินและทรัพย์สินว่าไปตกอยู่ที่ไหนบ้าง




ระหว่างปี 2564 ภายหลังจากที่นายอภิรักษ์ โกฎธิ โดนจับเข้าคุกไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2564 บริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ มีการเปลี่ยนกรรมการจากนายอภิรักษ์ โกฎธิ และ นายสรายุทธ ไชยเดช ไปเป็น นายลถากรณ์ จันทรมณี ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ เข้ามาเป็นกรรมการแทน แต่นายอภิรักษ์ ยังคงถือหุ้นอยู่ 9 พันหุ้น หรือ 9 เปอร์เซ็นต์


ท่านผู้ชมครับ ผมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้ไหมว่าบริษัทนี้น่าจะมีการทำธุรกรรมต่อ ผมไม่ทราบ

พิ้่งกี้ ตอนนี้อยู่ในคุก สภาพจิตใจแย่มาก บอกว่าอยากออกแล้ว ไม่ไหวแล้ว แม่ก็ไม่ไหว แต่จากการพูดคุยของฟาราห์ และ จอย บอกว่า พิ้งกี้ เป็นคนซื่อบื้อ เป็นคนโง่ที่โดนแม่และพี่ชายบงการตลอด ไฮโซเพชร สามีเก่า พูดกับฟาราห์ ว่า จะให้ช่วยพิ้งกี้ ก็อยากช่วย แต่ถ้าจะช่วยขอช่วยพิ้งกี้แค่คนเดียว ปล่อยให้แม่ติดคุกต่อไปได้หรือเปล่า

ท่านผู้ชมเคยคิดบ้างไหม ผมมาคิดแล้วผมก็อึ้งนะ ตลกดี มันมีความสัมพันธ์ระหว่างแชร์ลูกโซ่ คริปโทเคอร์เรนซี กับ ซูเปอร์คาร์ สัมพันธ์กันอย่างไร ?


ท่านผู้ชมสังเกตหรือเปล่าว่าอาชญากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้ายาเสพติด ไซซะนะ พ่อค้ามนุษย์ ตำรวจคอร์รัปชันอย่างผู้กำกับโจ้ถุงดำ มาถึงอาชญากรรุ่นใหม่อย่าง อภิรักษ์ โกฎธิ แชร์ลูกโซ่ ฟอเร็กซ์-3D นัตตี้ นัทธมณ เป้ พีไมเนอร์ ต้องมีการเกี่ยวพันกับรถยนต์ราคาแพง รถยนต์หรูราคาหลายล้านบาท หลายสิบล้านบาท ทุกกรณีไป เรียกได้ว่ากรณีไหนกรณีนั้น

ผมให้ทีมงานไปสำรวจตลาดรถหรู รถซูเปอร์คาร์ ก็พบแนวโน้มดังนี้ ตลาดซูเปอร์คาร์ในช่วงปีที่ผ่านมา หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย อยู่ในช่วงขาขึ้น มียอดขายรถใหม่เติบโตทุกยี่ห้อแบบก้าวกระโดด รวมทั้งการซื้อขายซูเปอร์คาร์มือสอง ก็ได้รับผลบวกเช่นกัน เมื่อของใหม่ รถใหม่ขาดตลาด ทำให้ราคาซูเปอร์คาร์มือสองขยับขึ้นไป และรถที่มีจำหน่ายก็มีจำนวนน้อยลง ทั้งนี้ เราต้องยอมรับว่าปัจจัยส่วนหนึ่งที่ดันยอดขายซูเปอร์คาร์ ทั้งมือหนึ่ง และมือสอง มีจำนวนมากขึ้น เป็นผลมาจากเศรษฐีหน้าใหม่ ผมเคยพูดแล้วใช่ไหมท่านผู้ชม คนหนุ่มคนสาว คนไหนที่จู่ๆ มีรถซูเปอร์คาร์ ราคาสิบล้าน ยี่สิบล้าน มาอวดรวย ต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าเงินทองที่พวกเขาหามาได้นั้น เป็นเงินทองที่ไม่สะอาด

ช่วงหลังมีเศรษฐีหน้าใหม่ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้เงิน ได้กำไรจากการเทรดเงินสกุลดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี ซูเปอร์คาร์ ต้องถือว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่เหล่าผู้ประสบความสำเร็จในการเทรด ใช้ในการโปรโมตตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดคริปโตฯ เกิดวิกฤตด้านราคา ทำให้เงินสกุลดิจิทัลมีมูลค่าลดลงอย่างหนัก ไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เหรียญบางสกุลแทบไร้มูลค่า เพราะราคาหายไปกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดของราคา ทำให้เหล่าเศรษฐีบางส่วนจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ออกมา แล้วสินทรัพย์ระดับต้นๆ ที่ขายออกมา คือ ซูเปอร์คาร์

ผมพยายามติดต่อหาข้อมูลเรื่องตลาดรถซูเปอร์คาร์มือสองของไทย ปัจจุบันพบว่า จำนวนซูเปอร์คาร์แบรนด์ต่างๆ มีปริมาณการตั้งขายเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ เกือบเท่าตัว จาก 300-400 คัน กลายเป็น 700-800 คัน ราคาจำหน่ายลดลง 10-30 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่ความนิยม

มีข้อสังเกตสำหรับคนขายรถซูเปอร์คาร์ บอกว่า ช่วงตลาดคริปโตฯ มีมูลค่าสูง ราคารถซูเปอร์คาร์ในตลาดมือสองสูงเกือบเท่ากับรถซูเปอร์คาร์ใหม่ป้ายแดง


ในช่วงปีที่แล้ว Renazzo Motor ผู้จำหน่ายรถลัมบอร์กีนีอย่างเป็นทางการผู้เดียวในประเทศไทย ได้เคยประกาศร่วมมือกับ ซิปเม็กซ์ รับชำระราคารถยนต์ด้วยสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็ได้มีการยกเลิกการรับชำระดังกล่าวในเวลาต่อมา หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการออกประกาศห้ามรับชำระราคาสินค้าด้วยเงินสกุลดิจิทัลในประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ แม้ช่วงเวลานี้จะมีรถซูเปอร์คาร์ออกมาจำหน่ายในตลาดมือสองมากขึ้นกว่าปีก่อน แต่ก็ยังมีบางแบรนด์ เช่น Porche เฟอร์รารี ที่ราคาจำหน่ายแทบไม่ตกลงเลยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากยังคงมีความต้องการในระดับสูงของลูกค้าชาวไทย ประกอบกับโควตาการจำหน่ายที่จำกัด น้อยมาก ของรถใหม่ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน ทำให้ราคาอยู่ในระดับสูงได้

ท่านผู้ชมครับ ซูเปอร์คาร์ แบรนด์หรู กับการฟอกเงิน มันเป็นอย่างไร ? ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับคริปโตฯ ร่วงมาจากตลาดมืด และธุรกิจสีเทาเริ่มสะดุด ทำให้จำเป็นต้องปล่อยซูเปอร์คาร์ออกมาอย่างรวดเร็วผิดปกติ โดยการฟอกเงินนั้น ปกติจะใช้การซื้อขายรถมือสอง กับการเทรดคริปโตฯ และการใช้ขนเงินออกนอกประเทศด้วย ทองคำ เพชรพลอย หรือนาฬิกาหรู

ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง คนๆ หนึ่งที่ทำธุรกิจมืด ได้เงินสดจากธุรกิจมืด นำไปเปิดบัญชีคริปโตฯ คนพวกนี้จะเทรดเอง โบรกเกอร์เป็นต่างประเทศ ไม่ใช่เทรดหรือฝากแชร์ลูกโซ่ ถอนเงินออกมาได้ เงินที่ได้เป็นเงินสกุลดอลาร์ นำเงินไปซื้อรถซูเปอร์คาร์มือสอง ของแบรนด์เนมต่างๆ รวมทั้งนาฬิกาหรูมือสอง เพื่อพักเงิน ก่อนจะขายต่อไป หมุนเงินเป็นรูปแบบนี้หลายรอบ จนหาที่มาลำบาก ไม่รู้ว่าเงินมาจากไหน จำเป็นต้องซื้อขายรถมือสอง เพราะตามหาเจ้าของไม่ได้ เพราะถ้าซื้อมือหนึ่งจะมีหลักฐานยืนยันชัดเจน

สำหรับการนำเงินออกนอกประเทศ จะใช้การหิ้วนาฬิกาหรูออกไป เอาไปขายในเมืองนอก จะได้เอาเงินสดไปทำธุรกรรมในต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย ไร้การตรวจสอบ

หลังจากมีปรากฏการณ์การโกงครั้งมโหฬารของกรณี ฟอเร็กซ์-3D ของนายอภิรักษ์ โกฎธิ การโกงแบบอื่นๆ ที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ยุบยับไปหมด เกิดขึ้นถี่ยิบ โกงกันทีเป็นพันล้าน ยังมีอีกเยอะที่ผมเจาะข้อมูลอยู่ และมีประเด็นที่ผมและสื่อในเครือผู้จัดการ NEWS1 เปิดโปงมาตลอด นั่นคือการปั้นเงินจากอากาศ เรื่อง คริปโทเคอร์เรนซี และตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของคนบางกลุ่ม อย่างเช่น บิทคับ และ ซิปเม็กซ์

ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้ผมจะพูดเรื่อง กลลวง ปั้นอากาศให้เป็นเงิน ฟอเร็กซ์-3D ถึง บิทคับ และ ซิปเม็กซ์

ช่วงปี 2565 ที่ผ่านมานี้ ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ผมพูดถึงเรื่องกลลวงคริปโทเคอร์เรนซีมาหลายต่อหลายตอนแล้ว จากตอนแรกที่มีคนหลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองฉลาดล้ำเลิศกว่าใครได้ฟัง เข้ามาคอมเมนต์ดูถูก เหยียดหยามคนแก่ๆ อย่างผม ว่าคุณสนธิ ไม่รู้เรื่องการเทรดเงิน เทรดฟอเร็กซ์ ไม่รู้เรื่องคริปโทเคอร์เรนซี ไม่เข้าใจเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชน อย่ามาพูดดีกว่า

คล้อยหลังจากที่ผมพูดเรื่อ บิทคับ ตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา หรือ ท็อป บิทคับ ที่มีคนเข้ามาเทรดกว่าสามล้านคน ผมพูดไว้ในตอนที่ 135 วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565 และตอนที่ 139 วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2565


ในรายการทั้งสอง ผมไม่เพียงตั้งคำถามถึงเอกชนอย่างบริษัท บิทคับ หรือธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีข่าวมาตลอดตั้งแต่ปลายปี 2564 ว่าจะเข้าไปซื้อกิจการบิทคับ ด้วยเงินเกือบหมื่นแปดพันล้านบาท ตอนนั้นผมพูดไปแล้วว่า บิทคับ ทำผิดกฎ ก.ล.ต. โดนคาดโทษไปแล้ว 9 ครั้ง แต่รอดตัวไปได้ทั้งหมด ผมอยากจะตั้งคำถามไปถึงหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้วยว่า คุณปล่อยกันอย่างนี้จริงๆ หรือ ตอนนั้นผมพูดว่าอย่างไร ? ผมจะทบทวนให้ฟัง

ธนาคารแห่งประเทศไทย ครับ ก.ล.ต. ครับ ลักษณะการทำบิทคับของนายจิรายุส คือการสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของบ้านเราอย่างแท้จริง ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ประเด็นคือ บิทคับจัดเต็ม ไล่ล่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งไลฟ์โค้ช CEO รุ่นใหม่หมื่นล้าน ดึงดูดใจให้เป็นสาวกล่าคริปโตฯ ไปด้วยกัน แผนอำมหิตแบบบิทคับนี้ล้างสมองเด็กให้ล่าคริปโตฯ ทั้งๆ ที่ประสบการณ์อ่อนด้อย แต่บิทคับของท็อป จิรายุส กลับร่ำรวยขึ้น โดยเจริญเติบโตปีละพันเปอร์เซ็นต์ จากอะไร ? จากการเก็บค่าต๋ง ค่าบริการ กอบโกยรายได้จากตลาดซื้อขาย แต่ความเสี่ยงจากการเทรดคริปโตฯ และการเก็งกำไร เป็นเรื่องที่ลูกค้าเด็กๆ ต้องไปแบกรับกันเอง ความเสียหาย ความหายนะที่เกิดขึ้นจากความเสี่ยงของนักลงทุนเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ไม่รับรู้ ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ


ท่านผู้ชมครับ หลังจากที่ผมพูดไปไม่กี่สัปดาห์ ก็เกิดความพินาศฉิบหายของเหรียญคริปโตฯ ที่ชื่อ ลูน่า (LUNA) ผมเล่าให้ฟังแล้วว่ามีวัยรุ่น นักลงทุนรุ่นใหม่ที่เห่อกระแสคริปโตฯ ไปลงทุนกันมากมาย แล้วก็เจ๊งกันฉิบหายยับเยิน

ในประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุน ประเมินว่าความล่มสลายของเหรียญลูน่าได้ดูดความมั่งคั่งของคนไทยไปหลายหมื่นล้านบาท และล่าสุด คือกรณีความล่มสลายและความไม่ชอบมาพากลของตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าใหญ่อันดับสองของประเทศไทย อย่างเช่น ซิปเม็กซ์ ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ที่มีมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท โดยมีลูกหลานคนใหญ่คนโตเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ขณะที่คนปัจจุบัน และอดีตคนของ ก.ล.ต. น่าจะมีส่วนเข้าไปรู้เห็นและเกี่ยวข้องด้วยในกรณีของบิทคับ และ ซิปเม็กซ์

ท่านผู้ชมครับ คราวนี้เรามาพูดถึงเรื่องบริษัทที่ทำการค้าบิทคอยน์ (bitcoin) ซึ่งอาจจะเข้าข่ายในการหลอกลวงประชาชน คือลักษณะของคนที่โกงประชาชน อย่างเช่น ฟอเร็กซ์-3D หรือเรื่องราวต่างๆ ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว มีอีกหลายเจ้า ตอนนี้ที่มีปัญหาคือบริษัทพวกค้าขายคริปโทเคอร์เรนซี และผมเคยพูดไว้แล้ว 2 บริษัท บริษัทหนึ่งก็คือ บิทคับ ของคุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเคยพูดไปแล้ว ก็คือ บริษัท ซิปเม็กซ์ วันนี้ผมจะเพิ่มเติมขยายความเพื่อให้ท่านผู้ชมได้เห็นว่าจริงๆ แล้วระหว่าง อภิรักษ์ โกฎธิ กับ ฟอเร็กซ์-3D กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบรรดาบริษัทที่ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และมีเรื่องมีราวอยู่ที่ ก.ล.ต. ตอนนี้ รูปแบบไม่เหมือนกัน แต่วิธีการ เนื้อหา เหมือนกัน ก็คือตัวเองไม่มีอะไรเลย แล้วก็หลอกคนเข้ามา เสร็จเรียบร้อยแล้ว บางเจ้าอย่างเช่น บิทคับ ก็ปั่นหุ้น โดน ก.ล.ต. ลงโทษไปแล้วจากการที่ปั่นราคาเหรียญจาก 30 บาท ขึ้นไปเป็น 580 อะไรทำนองนี้ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง


บริษัท ซิปเม็กซ์ เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพื่อซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล คือตั้งขึ้นมาเหมือนบิทคับนี่ล่ะ แต่ซื้อขายดิจิทัล อุปโลกน์เหรียญขึ้นมาเหรียญหนึ่ง หรือ 2-3 เหรียญ แล้วให้คนซื้อปั่นเหรียญนี้ต่อไป แต่จู่ๆ ก็เอาเงินลูกค้าซึ่งเข้ามาเล่นเหรียญ เอาไปฝากกินดอกเบี้ยอีกต่อหนึ่งในต่างประเทศ ซึ่งใบอนุญาตไม่ได้อนุญาตให้ทำเช่นนั้น จนกระทั่งเกิดเรื่องมาแดงเมื่อฟองสบู่คริปโตฯ มันแตก และธนาคารคริปโตฯ ในต่างประเทศมันเจ๊งหมด ทำให้ซิปเม็กซ์ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนลูกค้าฝาก-ถอนจาก exchange ตัวนี้ไม่ได้ เกิดความเสียหายหลักพันล้าน ผมเล่าเรื่องนี้ให้ฟังไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 วันนี้ผมมีข้อเท็จจริงบางอย่างมาบอกเล่าให้ท่านผู้ชมฟังเพื่อทราบเพิ่มเติม

คือผมได้ไปเอางบการเงินเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ของกลุ่มบริษัทในเครือซิปเม็กซ์ ผมค้นพบข้อเท็จจริงได้อย่างนี้ บริษัท ซิปเม็กซ์ ซึ่งมีคุณเอกลาภ ยิ้มวิไล บุตรชายคุณไชยา ลิ้มวิไล ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดและเป็นหน้าห้อง หรือเป็นคนที่สนิทสนมและทำงานให้กับท่านรองฯ วิษณุ เครืองาม คุณไชยา นั้น และลูกชายคุณวิษณุ เครืองาม คือ คุณวิชญะ เครืองาม เคยเป็นกรรมการอยู่ในบริษัท ซิปเม็กซ์ คุณไชยา นั้นลาออกปี 65 แต่คุณวิชญะ ลาออกในช่วงปี 64


(ผมเอาข้อมูลการเป็นกรรมการให้ดู) ข้อมูลทั้งหมดนี้ผมได้มาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัท ซิปเม็กซ์ มีอายุเพียงสามปีกว่าๆ เอง ที่จดทะเบียนมาเกือบสี่ปี ดำเนินธุรกิจการบริการ เป็นตลาดกลางการซื้อขายสินค้าและบริการ วิธีใช้ คือ ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ได้ขออนุญาต ก.ล.ต. เพื่อเป็นตลาดกลาง ก.ล.ต. ให้เป็นตลาดกลาง แต่ดันทำตัวเป็นธนาคาร ก็คือเอาเงินลูกค้าไปฝากไว้ที่คริปโตแบงก์ที่ต่างประเทศ แล้วคริปโตแบงก์มันเจ๊ง เมื่อเจ๊งแล้ว เงินลูกค้าที่ตัวเองผ่องถ่ายไปฝากโดยพลการ ผิดกฎกติกา ก.ล.ต. ก็สูญหายไปหมด


ซิปเม็กซ์ จดทะเบียน 112 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2564-2564 มีสามปีแรก (2561-2563) ขาดทุนตลอด ขาดทุนตั้งแต่แสนกว่าบาท ในปีแรก เป็นขาดทุนสิบสี่ล้านบาท ในปีที่สอง (2562) แล้วขาดทุนลดลงมาเหลือ 5 ล้านกว่าบาท ในปี 2563 ปี 2564 (ปีที่แล้ว) มีกำไร 9,579,404 บาท

ท่านผู้ชมครับ ในภาพรวมแล้วกลุ่มบริษัท ซิปเม็กซ์ มีรายได้ต่อเดือนราวๆ 64.4 ล้านบาท รายได้มาจากไหน ? รายได้มาจาก หนึ่ง ดอกเบี้ยที่เอาสินทรัพย์ดิจิทัลไปฝากส่วนต่างของราคาเหรียญและการลงทุน คิดเป็น 83 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด สอง รายได้จากธุรกิจ Exchange ก็คือ เทรดดิ้ง ซื้อมา ขายไป ในสี่ประเทศ เพราะเขามีสาขาอยู่ทั้งหมด 4 ประเทศ รวมแค่ 11 ล้านบาท คือ 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่า หลักการธุรกิจที่เขาขออนุญาตมาเพื่อที่จะเป็นตลาดการซื้อขายนั้น เขาใช้หลักการตลาดกลางน้อยมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วเอาเงินไปฝาก ซึ่งผิดกฎระเบียบหมด


ผมก็เลยมาดูค่าใช้จ่ายของซิปเม็กซ์ ต่อเดือนบริษัทกลุ่มซิปเม็กซ์ มีค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 264 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งที่เกิดจากบุคลากร คุณเอกลาภ ยิ้มวิไล CEO เคยเผยว่า ในวันที่ 22 มีนาคม 2565 เขาบอกว่ามีพนักงานภูมิภาค 450 คน ในประเทศไทยอย่างเดียวสามร้อยกว่าคน ทำให้ปัจจุบัน ทุกเดือนในการดำเนินกิจการกลุ่มบริษัท ซิปเม็กซ์ ต้องติดลบราวๆ สองร้อยบาทต่อเดือน

ท่านผู้ชมครับ ตัวเลขติดลบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ แม้จะยังไม่มีผลกระทบต่อการล้มละลายของคริปโตแบงก์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว อย่างเช่น บาเบล (Babel) หรือ เซลเซียส (Celsius) ซึ่งตัวเองเอาเงินไปฝากสองเจ้านี้ คือขาดทุนอยู่แล้ว ทุกเดือนต้องใช้เงินอย่างนี้ กลุ่มบริษัท ซิปเม็กซ์ มีสินทรัพย์ทั้งหมด 6,902 ล้านบาท มีหนี้สิน 6,378 ล้านบาท จากตัวเลขดังกล่าว ถ้าท่านผู้ชมเอาสินทรัพย์ 6,900 ล้านบาท ลบหนี้สิน 6,378 ล้านบาท จะเหลือสินทรัพย์สุทธิประมาณ 524 ล้านบาท ถ้าท่านผู้ชมเอาตัวเลขขาดทุนเดือนละ 200 ล้านบาท มา จะทำให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อได้แค่สามเดือนเท่านั้นเอง

ท่านผู้ชมครับ ผมดูงบการเงินของซิปเม็กซ์แล้ว มันบอกอะไรเราได้บ้าง ? บอกเราได้ว่า หนึ่ง ซิปเม็กซ์ขอใบอนุญาต Exchange ใน 4 ประเทศ ได้ใบอนุญาตแล้ว 3 ประเทศ รอแค่สิงคโปร์ แต่ธุรกิจหลักที่ซิปเม็กซ์ทำ กลับไม่ใช่เป็นตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ดันทะลึ่งทำตัวเป็นธนาคารคริปโต เหตุผลเพราะว่ารายได้หลักของตัวเองคือดอกเบี้ย รายได้ 83 เปอร์เซ็นต์ คือจากการนำสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไปหากำไรจากดอกเบี้ย คล้ายๆ แชร์ลูกโซ่ เพราะว่าดอกเบี้ยต่างประเทศให้สูงกว่า ก็เลยเอาเงินจากในประเทศไทยไปฝาก เพื่อกินกำไรจากดอกเบี้ย

ผู้บริหารซิปเม็กซ์ไม่เคย หรือแทบจะไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจธนาคาร ไม่รู้จักการบริหารความเสี่ยง ซึ่งภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า RM : Risk Management ทำให้หนี้เสียเพียงสองรายเท่านั้นเอง ที่เอาเงินไปฝากที่บาเบล กับ เซลเซียส ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องจนต้องพักชำระหนี้ ยื่นเรื่องพักชำระหนี้ นอกจากนี้แล้ว บริษัทที่นำสินทรัพย์ดิจิทัลของประชาชนไปหาประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นที่สิงคโปร์ ชื่อบริษัท ซิปเม็กซ์ เอเชีย จดทะเบียนในสิงคโปร์ ซิปเม็กซ์ อินเวสต์เมนต์ จำกัด จดทะเบียนที่ BVI หรือเกาะฟอกเงิน ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตใดๆ และกำลังรอพิจารณาอนุมัติใบอนุญาต โดยมีหลักฐานจากหนังสือทวงถามที่ซิปเม็กซ์ ให้ตัวแทนกฎหมายส่งถึงบาเบล ในเอกสารที่ส่งไป หน้า 59-64


นอกจากนี้ ที่ร้ายที่สุด ท่านผู้ชมครับ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นว่าบริษัทที่ตัวเองเอาเงินไปฝากที่สิงคโปร์นั้น ชื่อ เซลเซียส และ บาเบล ซึ่งค้าขายคริปโตฯ นั้น มีการยื่นขอพักชำระหนี้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม แต่ซิปเม็กซ์ประเทศไทยไม่ได้แจ้งสาระสำคัญนี้ให้กับ ก.ล.ต. แล้วท่านผู้ชมรู้ไหมว่าใครตรวจพบ ? พวกผม ผู้จัดการออนไลน์ตรวจพบ นำเสนอข่าววันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 14.57 น. เลขาฯ ก.ล.ต. ท่านพูดผ่าน Zoom ว่า ทราบข่าวจากสื่อราวๆ 15.30 น. คือสามนาทีให้หลังจากที่พวกเราลงข่าวไป ท่านเลขาฯ ก.ล.ต. คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล ควรจะทราบดีว่าอะไรเกิดกับสิทธิของเจ้าหนี้ หากศาลสิงคโปร์อนุมัติการขอพักชำระหนี้ของกลุ่มบริษัทซิปเม็กซ์ อะไรจะเกิดขึ้น ? ก็คือว่าเงินแช่แข็งไปเลย หรืออาจจะไม่มีสิทธิ์ได้เงินคืน

ก.ล.ต. แถลงชัดเจนว่า รับทราบเกี่ยวกับบริการซิปเม็กซ์ ซึ่งเป็นกิจการทางการตลาด แต่ไม่ได้รับทราบเกี่ยวกับการที่เอาเงินไปฝากข้างนอก ดร.เอกลาภ ท่านก็สวนท่านเลขาฯ มาว่า ก.ล.ต. รับทราบทั้งวาจาและลายลักษณ์อักษรนั้น จากนั้นเกิดอะไรขึ้น ? ก.ล.ต. ก็เงียบสนิท วันนี้ผมหมดความเชื่อถือ ก.ล.ต. เลย ท่านเลขาฯ ก.ล.ต. โปรดรับทราบไว้ด้วย พวกคุณสมรู้ร่วมคิดกับคนที่กระทำผิดกฎ ก.ล.ต. เหมือนกับว่ามีใครที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่มาข่มขู่คุณ ถ้าอย่างนั้นคุณไม่ควรเป็นเลขาฯ ก.ล.ต. ก.ล.ต. ไม่มีความภาคภูมิใจเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นผู้ควบคุมกฎ

ท่านผู้ชมครับ มีคนไทยจำนวนไม่น้อย 54 ราย คัดค้านการพักชำระหนี้ ไปยังตัวแทนกฎหมายซิปเม็กซ์ แต่ว่าเงียบสนิท ไม่มีใครทำ ไม่มีใครจัดการให้ ผู้เสียหายร้องเรียนผ่านผมมาเรื่องซิปเม็กซ์ แต่ผมจะปิดชื่อเขาเอาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัว


เขาบอกว่า "พอดีไปแจ้งความ ตำรวจพูดเชิงว่าให้ไปแจ้งดีเอสไอ เพราะผู้ใหญ่ดูแลเคสนี้ เขาก็เลยไปแจ้งไปเป็นเดือนแล้วก็เงียบค่ะ เลยอยากให้คุณสนธิวิเคราะห์เหตุการณ์ กลโกง หลอกกดปุ่มยอมรับเงื่อนไข หรือบังคับทางอ้อม ไม่งั้นเข้าแอปไม่ได้ เรามีสินทรัพย์ในนั้นก็ต้องยอมกดรับเงื่อนไข สรุปว่าเราโอนทรัพย์สินออกไปต่างประเทศเอง ไม่รู้จะดิ้นรนอย่างไรให้ได้สินทรัพย์คืนมา บางส่วนก็ยังดี" ผมตอบง่ายๆ แบบไม่ต้องวิเคราะห์ว่า เรื่องนี้คุณโดนซิปเม็กซ์ฉ้อโกงครับ

ผมต้องฝากคำพูดนี้ไปถึงคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้เสียหายพูดชัดเจนว่า "ตำรวจบอกให้ไปแจ้งดีเอสไอ เพราะผู้ใหญ่ดูแลเคสนี้" คุณสมศักดิ์ ครับ "ผู้ใหญ่" เกี่ยวข้องอะไรกับคุณหรือเปล่า เพราะว่าคุณเป็นคนโทรศัพท์ไปบอกอธิบดีดีเอสไอว่าคุณสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ พ่อของผู้บริหารซิปเม็กซ์ และผู้ถือหุ้นซิปเม็กซ์ ได้เข้าไปคุยกับอธิบดีดีเอสไอ เรื่องที่อยู่ที่ดีเอสไอก็เลยเงียบไปหมดเลย คุณสมศักดิ์ ท่านผู้ชมจำชื่อคนนี้ไว้ สมศักดิ์ เทพสุทิน แล้วผมไม่ได้พูดเองด้วย เพราะว่าผู้เสียหายเป็นคนแจ้งให้ทราบว่าเขาไปแจ้งความตำรวจ ตำรวจบอกให้ไปแจ้งดีเอสไอ เพราะผู้ใหญ่ดูแลเคสนี้ ผู้ใหญ่คนนี้มันเป็นใครกันแน่นะ ? ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง นี่คือ "ทลายแลนด์" ประเทศไทยแลนด์ แต่ผมเรียกว่า ทลายแลนด์ เลวทุกจุด

คำถามต่อไปคือ คนไทยเสียหายมาก-น้อยแค่ไหน ทำไมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ หรือ ก.ล.ต. ถึงเงียบฉี่ เงียบฉี่เลย ทั้งที่มีการแจ้งความผ่านมาประมาณเดือนหนึ่งแล้ว ดีเอสไอนั่งเฉย แล้วเราจะเชื่อใจได้ไหมว่าดีเอสไอเป็นองค์กรที่ยุติธรรม ใครทำผิดก็ต้องดำเนินคดีไปโดยไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม อ๋อ มันมีลูกของผู้ยิ่งใหญ่นี่ ลูกคุณไชยา ยิ้มวิไล ลูกสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ลูกของวิษณุ เครืองาม ก.ล.ต. ก็เลยได้แต่แบ๊ะๆๆ เขาถึงบอกว่าประเทศไทยคนรวยไม่ติดคุกหรอก ผ่องต่อมาถึงลูกคนรวย ก็ไม่โดนคดีหรอก

จากข้อมูลที่เปิดเผย ผมค้นพบว่าซิปเม็กซ์มีลูกค้าคนไทยเกือบหกหมื่นคน แต่จากการดูยอดรายชื่อเจ้าหนี้ 20 อันดับของทุกประเทศ ปรากฏว่าใครเสียหายมากที่สุด รู้ไหม ? คนไทยเสียหายมากที่สุด สรุปสถานการณ์สิงคโปร์ ศาลสิงคโปร์ได้อนุมัติให้กลุ่มซิปเม็กซ์พักชำระหนี้ได้จนถึงวันที่ 2 ธันวาคม อีกสามเดือนเศษๆ

ที่ผมเสียใจ ก.ล.ต.ไทย น่าจะทำหน้าที่ปกป้องคนไทยได้ดีกว่านี้ ถ้าจดหมายคัดค้านที่คนไทย 54 คน ที่มีสินทรัพย์อยู่ในซิปเม็กซ์ ต้องให้ผู้เสียหายตัดสินใจเองว่าจะคัดค้าน หรืองดออกเสียง เมื่อเวลายื่นเรื่องต่อศาล มูลค่าที่เสียหายน่าจะมากกว่านี้เยอะ

แล้วอนาคตของซิปเม็กซ์จะเป็นอย่างไร ? ประมาณหนึ่งเดือนต่อมาผู้บริหารซิปเม็กซ์พยายามออกแถลงการณ์มาเป็นระยะ ว่า แก้ไขสถานการณ์อยู่ ตัวเองโคตรหน้าด้านเลย ไม่ยอมรับความผิดเลยว่าตัวเองเอาสินทรัพย์ดิจิทัลไปค้ากำไร กินดอกเบี้ยอยู่ในคริปโตแบงก์ต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือสองพันกว่าล้านบาท แบ่งเป็น เซลเซียส 5 ล้านดอลลาร์ บาเบล ไฟแนนซ์ 48 ล้านดอลลาร์ แล้วไม่สามารถนำสินทรัพย์ดังกล่าวกลับคืนมาสู่ลูกค้าได้ เพราะว่ามันเจ๊งไปแล้ว แล้วตัวเองทำผิดกฎ ก.ล.ต. เพราะ ก.ล.ต. ให้บริษัทตัวเองเป็นที่เทรด ซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญ ไม่อนุญาตให้คุณเอาเงินประชาชนไปฝากแบงก์ แล้วสองเจ้า เซลเซียส กับ บาเบล ไฟแนนซ์ ก็เจ๊งไปแล้ว คุณยังจะเอาเงินอะไรมาคืนชาวบ้านเขา นี่ฉ้อโกงหรือเปล่า แล้ว ก.ล.ต. พวกคุณสบายดีอยู่ใช่ไหม

แล้วยังมีการขายฝันต่อ พยายามขายฝันว่าจะรอระดมทุนจากนักลงทุน 2-3 ราย เพื่อแก้สถานการณ์ เมื่อแก้สถานการณ์ได้จะเข้าพบ ก.ล.ต. เพื่อเสนอฟื้นฟูกิจการ คุณแก้ไขสถานการณ์อะไร ? คุณจะไปเสนออะไร ก.ล.ต. ? ก.ล.ต. จะไปรับอะไร ? ก.ล.ต. ต้องชี้ความผิด ไม่ใช่แค่ปรับ ต้องยื่นเรื่องให้กองปราบฯ แล้วบอก นี่ผิดกฎ ก.ล.ต. มันต้องมีอยู่แล้ว มันไม่ใช่คดีแพ่งอย่างเดียว มันต้องคดีอาญาด้วย

แล้วผมกล่าวถึงพวกซิปเม็กซ์ พวกลูกคนใหญ่คนโตทั้งหลาย มาถึงจุดนี้แล้วคุณยังจะคิดขายฝันเหรอ คุณจะขายอะไร คุณขายฝันว่ากำลังพัฒนานวัตกรรมการเงินยุคใหม่ เทคโนโลยี Metaverse เว็บ 3.0 (เว็บ 3.0 ที่นายท็อป จิรายุส โม้นักโม้หนาว่าอีกหน่อยเว็บ 2.0 ก็จะหมดแล้ว)


นี่ไง สิ่งที่คุณขายฝันอยู่ เศรษฐกิจดิจิทัลอะไรเรื่อยไป แค่คุณเอาเงินมาคืนลูกค้าที่เขาใช้แพลตฟอร์มของคุณในการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล คุณยังไม่มีปัญญาหามาคืนเขาได้ แล้วคุณมีนวัตกรรมใหม่เชื่อมต่ออนาคต (ขอประทานโทษนะท่านผู้ชม อนาคตพ่อง...? ต้องพูดแรงหน่อย) ผมถามจริงๆ ว่า ปัญหาหนี้สินเป็นพันๆ ล้านที่คุณกำลังจมอยู่ แล้วจะมีนัลงทุนคนไหนมาซื้อกิจการคุณ ผมได้ข่าวว่าคุณกำลังพยายามจะขายให้กับคุณกึ้ง ลูกชายคุณประยุทธ์ มหากิจศิริ ถ้าคุณกึ้งซื้อไป ก็แสดงว่าคุณโง่ฉิบหายเลย เพราะว่าถ้าคุณไปเปิดดูงบการเงิน ซึ่งเป็นเหมือนเส้นเลือดในการหล่อเลี้ยงบริษัทแล้ว จะชี้ให้เห็นชัดว่าขาดทุนเดือนละสองร้อยล้านบาท

ที่สำคัญ คุณไม่มีรายได้เข้ามาเลยนะ ซึ่งแต่ก่อนรายได้คุณ 80 เปอร์เซ็นต์ จากคนที่แหกกฎ ก.ล.ต. เอาเงินไปฝากข้างนอก เพราะฉะนั้น พิจารณาตอนนี้ ถ้าคุณมีเงินเหลืออยู่ห้าร้อยล้านบาท คุณอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน นอกจากคุณจะให้พนักงานออกแล้วคุณจ่ายเงินค่าชดเชยไป


สำหรับประโยคที่ว่าพวกคุณระดมทุนหาเงินมาคืนลูกค้า ผมได้ฟังเรื่องนี้มามากแล้ว ตั้งแต่แชร์แม่ชม้อย นาย ฟอเร็กซ์-3D อภิรักษ์ โกฎธิ น้องนัตตี้ นัทธมณ เน็ตไอดอลที่โกงชาวบ้านไปสองพันล้าน เฮ้ย! เขาพูดคำเดียวกับคุณเลย จะพยายามหาเงินมาคืนประชาชน แต่คุณต่างกว่า ฟอเร็กซ์-3D อภิรักษ์ โกฎธิ แชร์แม่ชม้อย และเน็ตไอดอล นัตตี้ นัทธมณ ที่ต่างกันเพราะคุณมันเส้นใหญ่ คุณนามสกุลลิ่มพงศ์พันธุ์ ยิ้มวิไล เครืองาม ทำให้คุณยังอยู่รอด เพราะ ก.ล.ต. รวมทั้งดีเอสไอ ยังใส่เกียร์ว่างอยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องไปขายฝัน เพราะนี่คือความจริง

ท่านผู้ชมครับ เรามีคนอย่างเช่น บอส อยู่วิทยา มาหลายรูปหลายแบบ บอส อยู่วิทยา ก็เป็นรูปแบบหนึ่ง ลูกคนใหญ่คนโต 3 คน ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งตอนนี้ ก.ล.ต. ครับ คุณยังอยู่สบายดีหรือตอนนี้ คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาฯ ก.ล.ต. ผมว่าคุณลาออกไปดีกว่า เพราะสิ่งที่คุณทำนั้น ผมรับไม่ได้จริงๆ ถ้าเป็นรายเล็กรายย่อย คุณกระทืบเขาตายห่าไปแล้ว

ท่านผู้ชมครับ จบซิปเม็กซ์ไปแล้ว เรามาพูดเรื่อง บิทคับ ของคุณจิรายุส เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ท่านผู้ชมคงจำได้ว่ามีข่าวใหญ่เลย ที่กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ชื่อ SCBX ประกาศตกลงไม่ซื้อบิทคับแล้ว โดยเดิมทีจะซื้อบิทคับออนไลน์ 51 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 17,800 ล้านบาท ก็เลยแจ้ง ก.ล.ต. แล้วว่า มติของ SCBX ยกเลิกธุรกรรมการซื้อหุ้น 17,850 ล้านบาท เกิดอะไรขึ้น ?

ท่านผู้ชมครับ อย่างไรก็ดี ถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ผิดปกติเป็นนัยสำคัญ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจากบิทคับของคุณจิรายุส ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำ และการสั่งงานของ ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว คือ ก.ล.ต. (กูลืมตรวจ) เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา เพราะว่าบิทคับนั้นมีที่ปรึกษาเป็นอดีตรองเลขาธิการ ก.ล.ต. เพราะฉะนั้นแล้ว ก็คงจะได้ยาดี ก็เลยมั่นใจว เพราะว่าเรื่องไปถึง ก.ล.ต. แล้ว กว่าจะเข็นหรือรื้อออกมา โอ้โห ยิ่งกว่าการเดินทางของทาก ก.ล.ต. อ้างเลยว่า เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ทำให้ดีลนี้ล้ม แต่เขาพยายามที่จะแก้ไขปัญหาบิทคับ ผิดเยอะแยะเลย ผมขี้เกียจอธิบายว่ามีอะไรบ้าง แล้วบอร์ด ก.ล.ต. ก็ยังมีมติให้โอกาสผู้บริหารบิทคับในการขยายเวลาให้ดำเนินการการแก้ไขที่บกพร่องที่ ก.ล.ต. บอก ภายในวันที่ 4 สิงหาคม


ท่านผู้ชมครับ น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SCB ในวันที่ 25 สิงหาคม ในช่วงเช้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงหลังจากที่ SCB ได้ประกาศยกเลิกการซื้อหุ้นบิทคับ ทำจุดสูงสุดของวันที่ 111 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นประมาณ 6 บาท หรือ 5.74 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาเหรียญบิทคับร่วงทันที พอประกาศเลิกที่จะไปเทกโอเวอร์บิทคับ หุ้นไทยพาณิชย์ขึ้น เหรียญบิทคับ/บิทคอยน์ร่วง ร่วงจาก 71.81 บาท เวลาบ่ายโมง ลงมาต่ำสุดที่ 57.48 บาท เวลาบ่ายโมงสี่สิบห้า แล้วค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการระดมทุนในพรรคพวกตัวเองที่ผู้ถือหุ้นในบิทคับไปไล่ซื้อ แต่ก็ซื้อขึ้นได้แค่ 60 บาท ก็ยังติดลบอยู่ 11.48 บาท แต่ก็ยังปรับตัวลดอย่างต่อเนื่อง แปลว่าอะไร ? ท่านผู้ชมที่เล่นบิทคับ แปลว่าราคาเหรียญ KUB เหลืออยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ของราคา KUB Coin ท่านผู้ชมรู้ใช่ไหม ที่ไม่ได้เล่นผมจะรู้ให้ เหรียญบ้านี้ถูกปั่นขึ้นไป จาก 30 บาท ขึ้นไปเป็น 580 บาท การปั่นเหรียญนี้ไม่ได้ต่างกว่าการปั่นหุ้นเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากที่ SCB ประกาศว่าจะซื้อหุ้นบิทคับ มีคนไล่ซื้อเหรียญกันเยอะแยะไปหมดเลย ซื้อหุ้นบิทคับ ซื้อเหรียญ

ท่านผู้ชมครับ เมื่อสิ้นปี 2564 ท่านผู้ชมอาจจะโง่ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ลงทุนซื้อเหรียญ KUB ไปหมื่นบาท วันนี้ท่านผู้ชมเหลือเงินไม่ถึงหนึ่งพันบาท

ทีนี้ คุณท็อป พูดเก่งเหลือเกิน ชอบอ้างอิงต่างๆ อ้างอิงประโยคเด็ด ประโยคทีเด็ด เมื่อมีเกิดปัญหา คุณท็อป บอกว่า ทุกวิกฤตคือโอกาส


แต่มีคนถามผมว่า หลังจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะทุกคนที่เกี่ยวข้องทำตัวชิลๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมชี้ให้เห็นว่าอาชญากรรมเกิดขึ้นแล้ว ความผิดสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะกรณีผู้เสียหาย และโดยเฉพาะประชาชนที่หลงไปซื้อเหรียญ KUB ที่มีคนจงใจปั่นจาก 30 บาท เป็น 580 กว่าบาท ปั่นขึ้นไป 19-20 เท่า แล้วผมจะชี้ให้ดูว่ากระบวนการปั่นเหรียญ ทำกันอย่างไร

ซึ่งในกรณีนี้ ถ้า ก.ล.ต. หรือผู้มีส่วนรับผิดชอบ ไม่ทำอะไรสักอย่าง ผมว่าน่าจะได้เห็นคนติดคุกติดตารางกันบ้าง ผมจะยุให้คนไปร้อง ป.ป.ช. เล่นงานเลขาฯ ก.ล.ต. และคณะกรรมการ ก.ล.ต. มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คุณรื่นวดี ใจเย็นๆ ครับ บอร์ด ก.ล.ต. ใจเย็นๆ ครับ ผมกำลังจัดทีมอยู่เพื่อไปร้อง ป.ป.ช. ให้เล่นงานพวกคุณด้วยมาตรา 157 ในกรณีที่มีการปั่นหุ้น ปั่นเหรียญ แล้วคุณไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คุณแค่จับคนๆ หนึ่งมาแล้วปรับเขา จบ แค่นั้นเอง ซึ่้งมันมีมากกว่านั้น

ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ จะกำหนด วัน ว. เวลา น. ไทม์ไลน์ ขบวนการปั่น KUB Coin จาก 30 บาท ขึ้นเป็น 580 บาท


พฤษภาคม 2564 ปีที่แล้ว ท็อป จิรายุส ปั่นกระแสเหรียญ KUB ด้วยการแจกเหรียญให้ผู้ใช้ฟรีมากกว่าสิบล้านเหรียญ หลังจากนั้น 20 พฤษภาคม 2564 บิทคับ นำเหรียญ KUB ที่แจกออกไปสิบล้านเหรียญ เข้าเทรดในกระดานบิทคับ เปิดการซื้อขายที่ 30 บาท เป้าหมายแรกเริ่มเดิมทีในข้อมูล บิทคับประกาศว่าจะเสกเหรียญขึ้นมา 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งเท่ากับว่าจู่ๆ ท็อป บิทคับ พยายามเอาเศษสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้นมาในอากาศ 1 พันล้านชิ้น เห็นหรือยังท่านผู้ชม ที่ผมบอกว่าพวกนี้ปั่นอากาศให้เป็นเงิน โดยระบุว่าเหรียญ KUB ของตัวเองมีมูลค่าเริ่มต้นชิ้นละ 30 บาท และอยากจะเสกเงินให้ได้ 3 หมื่้นล้านบาท แต่ไม่มีอะไรรองรับ นี่ก็คือจอมเพ้อฝันแล้ว เข้าข่ายกรณีจงใจฉ้อโกงประชาชนนะ จริงๆ งานนี้


ท็อป จิรายุส จะไปต่างอะไรกับ นัตตี้ หรือต่างอะไรกับ อภิรักษ์ โกฎธิ ต่างอยู่อย่างเดียว คือเรียนสูงกว่าเขา เรียนมหาวิทยาลัยชั้นดีของโลก คนก็เลยไปเชื่อถือ

อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกราคาเหรียญ KUB ซึ่งไม่มีโปรเจกต์หรือกิจกรรมอะไรรองรับเป็นรูปธรรม 30 บาท ราคาตกไปมูลค่าเหลือสิบกว่าบาทเอง หลังจากนั้นอีกสามเดือน 31 กรกฎาคม บิทคับ จะดำเนินการเผาเหรียญ 89 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดจำนวนเหรียญ KUB ของตัวเองจาก 1 พันล้านเหรียญ ลงให้เหลือ 110 ล้านเหรียญ เพราะว่าหลังจากที่พยายามออกเหรียญนี้มาเยอะๆ แล้วมันไม่เวิร์ก ถ้ามันเวิร์กจริงป่านนี้คงมีเงิน 3 หมื่นล้านอยู่ในนั้นแล้ว การทำเช่นนี้เพื่อสร้างกระแสเชิงจิตวิทยาว่าในอนาคตเหรียญ KUB จะหายากมากขึ้น หลังจากนั้นเหรียญ KUB ก็จะปรับตัวจาก 10 บาท เป็น 24 บาท เป็นครั้งแรกในระยะเวลานานกว่าสองเดือน

ต่อมาอีก 2-3 เดือน สิงหาคม-ตุลาคม บิทคับ โดยท็อป จิรายุส เดินเกมเดินสายอย่างหนักเพื่อโปรโมตบริษัทตัวเอง ปั่นกระแส โฆษณาประชาสัมพันธ์ทั่วบ้านทั่วเมือง เดินสายหาสื่อมวลชน สื่อมวลชนเยอะเลยที่รับเงินรับทองบิทคับไป เรื่องราวบิทคับ สื่อมวลชนต่างๆ กระแสหลักไม่เคยมีใครรายงานก็เพราะรับเงินจนกระทั่งจุก

ช่วงหลังนี้ ท็อป จิรายุส ก็เดินสายหาลูกค้าใหม่ เยาวชน ที่ผมเล่าให้ฟังไง มีสิบบาทก็เทรดได้ 26 ตุลาคม (ปีที่แล้ว) ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ซีอีโอ) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมตัวจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ และเข้าตลาดแนสแด็กในอเมริกา เนื่องจากคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ระดมทุนของตลาดหุ้นทั้งสองแห่ง จ้างบริษัทที่ปรึกษาการเงินเข้ามาเพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน พอ 2 พฤศจิกายน เท่านั้นเอง ห่างจากเดือนตุลาคมแค่ไม่ถึงเดือน ที่นายท็อป บอกว่าบริษัทจะแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เครือธนาคารไทยพาณิชย์ นำโดยนายอาทิตย์ นันทวิทยา อดีต CEO เอสซีบี ซึ่งผมเรียกว่าอดีต เพราะตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ถูกเลื่อนออกไป ขึ้นไปเป็นอยู่โฮลดิ้ง ประกาศซื้อกิจการถือหุ้นในบริษัท บิทคับ 51 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 17,850 ล้านบาท ทำให้ราคาเหรียญ KUB ซึ่งเป็นเหรียญของทาง บิทคับ ราคาขึ้นราวๆ 30 บาท ระหว่างวัน ราคาพุ่งขึ้นไปเป็น 80 บาท และตกลงมาเหลือ 70 บาท


การก้าวเท้าออกมาประกาศซื้อกิจการของนายอาทิตย์ ซึ่งเป็นตัวแทน SCB ทำให้นักลงทุนกระแสหลักต่างมองในเชิงบวกว่าบิทคับ และเหรียญ KUB เก็งกำไรได้ แม้กระทั่งคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. จากการเปิดเผยทรัพย์สินและหนี้สินของ ป.ป.ช. เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ก็ระบุว่ามีทรัพย์สินดิจิทัลเป็นเหรียญ KUB Coin มูลค่า 48,687 บาท

26 พฤศจิกายน หลังจากนั้นต่อไปอีกเดือนหนึ่ง หลังจากที่มีการเปิดตัวโดยทาง SCB โดยผ่านทางคุณอาทิตย์ CEO ของเอสซีบี อดีตซีอีโอของ SCB ตอนนั้นเป็น CEO อยู่ ก็มีการประกาศเปิดตัวบิทคับ NFT หรือแพลตฟอร์มตลาดซื้อขาย NFT ที่ใช้เหรียญ KUB ในการซื้อขาย เหรียญ KUB ก็เลยขึ้นจาก 70 บาท เป็น 123 บาท และขยับขึ้นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

พอต่อมาอีกเดือนหนึ่ง ธันวาคม เหรียญ KUB บอกว่าเข้าลิสต์ในตลาดเทรดต่างประเทศ กระดาน jade.io, Coin-X, MEXC Global ทำให้เหรียญขึ้นไปเรื่อยๆ ตลอดไปจนถึง 580 บาท ที่สำคัญ ในช่วงเวลานั้น ในแวดวงนักเทรดคริปโตฯ มีการปั่นกระแส โหมกระพือข่าว ให้เหล่านักลงทุน แมงเม่าบินเข้ากองไฟ เข้าสู่หายนะ ด้วยการระบุว่าถ้าดีลระหว่างบิทคับ กับ SCB สมบูรณ์ อาจจะมีผลทำให้ราคาเหรียญ KUB พุ่งขึ้นทะลุฟ้า มูลค่าสูงกว่า 2,200 บาท หรือเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ จากราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท

ท่านผู้ชมครับ ข้อมูลมีหมด ก.ล.ต. ครับ นี่คือการปั่นหุ้นหรือเปล่า ก.ล.ต. สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และสิ่งที่คาดคะเน แค่ประกาศเฉยๆ ผมเอาอินโฟกราฟิกขึ้นให้ดู ดีลหลอกแมงเม่า สรุปไทม์ไลน์ SCB เท บิทคับ


ท่านผู้ชมครับ SCB ล้มดีลบิทคับ จากฝันกลางวัน เป็นฝันสลาย คำถาม หลังจากที่ SCB ประกาศไม่ซื้อแล้ว งานนี้ท่านผู้ชมรู้ไหมคนที่ยินดีปรีดากับการยกเลิกดีล ตลกมาก กลายเป็นพนักงาน ผู้บริหาร SCB เยอะเลย เพราะเรื่องราวคาราคาซังมาสิบเดือน มีความชัดเจน จบลงเสียที พวกเขาถอนหายใจอย่างโล่งอก คุณท็อป จิรายุส รู้หรือเปล่า คุณอาจจะตกลงอะไรกับคุณอาทิตย์ เป็นการส่วนตัว แต่ประชาชนหรือคนทำงาน SCB เขาโล่งอกมากเลย ที่ไม่ต้องควักเงินซื้อบริษัทสตาร์ทอัพ ใช้เงินประชาชนเพียงเพราะคำโฆษณาทำตลาดอย่างบ้าคลั่ง ภาพสะท้อนอารมณ์ออกมาว่ามีกระแสตอบรับดีใจแค่ไหน ก็ดูหุ้น SCB สิ มันขึ้นทันที มันจบแล้วนาย คุณอาทิตย์

ฝั่งบิทคับ เมื่ออารมณ์คนละขั้ว เมื่อวิมานพัง นักลงทุนก็แห่เทขายเหรียญ KUB ออกมาอย่างหนัก ทำให้ราคาดิ่งเหวหัวทิ่ม ลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ 40 กว่าบาท นี่เป็นกระแสตอบสนองที่ผมไม่คิดว่าผมคาดผิดหรอก ผมคิดอย่างนั้นอยู่แล้ว

คุณท็อป จิรายุส ผู้ก่อตั้ง CEO บิทคับ ออกตัวแรงกับดีลของ SCBX มาตลอด ใช้ต่อยอดสร้างภาพ ทั้งส่วนตัว การทำตลาดให้กระดานเทรดคริปโตฯ ของตัวเอง ได้ประโยชน์จากกระแส KUB Coin ถูกปั่นจาก 30 บาท ไปสู่จุดพีก 580 บาท สร้างอภินิหาร เพราะข่าวดีลยักษ์นี้

ท่านผู้ชมครับ พอวิมานที่วาดหวังไว้จะเป็นยูนิคอร์นบินสูง พังครืนลงมา ปิดฉากว่าที่มหาดีล นอกจากเงินที่คิดว่าจะเข้ามาถึง 4 หมื่นกว่าล้านบาท จะหายวับ รวมไปถึงสื่อนอกที่บอกว่าดีล SCBX ยังไปต่อ พิสูจน์แล้วว่าเป็นฝันที่เป็นจริง ทำให้เหรียญ KUB ซึ่งเป็นหัวใจธุรกิจบิทคับ โดนเทอย่างเห็นๆ กลับไปสู่ไม่มีอะไร

แม้ว่านายท็อป จิรายุส จะแข็งใจ ให้ฝ่ายสื่อสารองค์กร หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ ส่งข้อความปลอบ ทุกวิกฤตคือโอกาส การถอนดีล SCBX ไม่ส่งผลกระทบกลุ่มบิทคับ แต่ลึกๆ ผมเชื่อว่ายังขาสั่น

เพราะว่าไทยพาณิชย์ระบุเหตุผลที่ล้มดีลว่า ได้ปรึกษา ก.ล.ต. แล้ว เห็นว่าบิทคับมีประเด็นคงค้างที่ต้องสะสางตามคำแนะนำ เอาแค่นี้ดีกว่า แปลไทยเป็นไทยคือ บิทคับมีประเด็นกับ ก.ล.ต. ในหลายเรื่อง ที่ก่อนนี้มีลักษณะดื้อแพ่งแข็งเมือง เย้ยหยันท้าทายอำนาจคนคุมกฎอย่าง ก.ล.ต. เมื่อ SCB จะต้องทำธุรกิจนี้ ใครอยากจะค้าความกับ ก.ล.ต. ล่ะ ผมก็เลยเล่าให้ฟัง ตั้งแต่การออกรายการเมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม ผมบอกว่า นายท็อป จิรายุส และ บิทคับ มีฤทธิ์มีอภินิหาร ก็เพราะว่าได้ที่ปรึกษา ชื่อ นางทิพยสุดา ถาวรามร อดีตรองเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. มาเป็นที่ปรึกษาบริษัท คนที่เชี่ยวชาญใน ก.ล.ต. อยู่มานานแล้ว มาเป็นที่ปรึกษา ก็บอก ก็มีลูกน้องอยู่หลายคนใน ก.ล.ต. ที่คอยรับคำสั่ง หรือตอบสนองคำขอร้องมา ก็เลยทำให้ ก.ล.ต. เป็นเสือกระดาษ


ถามว่าบิทคับ กับนายท็อป บอกว่าตัวเองเก่งอย่างโน้น เก่งอย่างนี้ มีคนรุ่นใหม่สร้างธุรกิจพันล้านหมื่นล้านด้วยน้ำมือตัวเอง แต่เบื้องหลังคุณก็ลักไก่ เอาเปรียบคนอื่นๆ คุณจ้างอดีตผู้บริหารระดับสูงของ ก.ล.ต. มาดูแลธุรกิจตัวเอง คุณท็อป ครับ แถวบ้านผมเขาเรียกว่าฉลาดแกมโกง วิธีการนี้ คุณไปเสกเงินจากอากาศ ได้มูลค่าหลายพัน หลายหมื่นล้านบาท พอ ก.ล.ต. สั่งให้คุณแก้คุณสมบัติ แต่คุณถือว่าคุณมีมือดีของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นอดีตรองเลขาธิการ เป็นกุนซือ คุณแข็งเมือง คุณบอกว่า เหรียญของคุณสุดยอด ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง แค่คุณสมบัติของ KUB Coin ก.ล.ต. ก็จะปวดหัวตายแล้ว

ในพฤติกรรมเทรดเหรียญที่ย้อนดูไทม์ไลน์ตั้งแต่มีข่าวดีล จนกระทั่งล้มดีล ก.ล.ต. เองก็มีแรงแกดดัน ที่ต้องลุยตรวจสอบ เพราะการปั่นแล้วทุบ ทุบแล้วปั่น หลายต่อหลายรอบ ในรอบสิบเดือนที่ผ่านมา ไหนจะกรณีอีกบริษัทหนึ่ง คือ โปรเอ็น พันธมิตรบิทคับ ที่มาอ้างว่าขอเลิกสัญญาถือ KUB แบบได้สิทธิพิเศษ เอาเปรียบรายย่อย เหมือนเล่นกันอยู่ในบิทคับ ก็เป็นประเด็นที่ ก.ล.ต. ถูกมองว่าจะลับดาบเพื่อฟาดเรื่องเหล่านี้หรือเปล่า


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมต้องไม่ลืมว่า KUB Coin หรือท่านผู้ชมที่เล่นอยู่บิทคับ KUB Coin เป็นเหรียญที่บิทคับเสกขึ้นมากับมือ มีคุณสมบัติไม่ดีพอ ก.ล.ต. ก็บอกอยู่แล้ว แต่ดันมาจดทะเบียนในตลาดตัวเอง เทรดเอง ได้ค่าธรรมเนียมเอง เก็งกำไรเอง ท่านผู้ชมครับ มันเสกเหรียญนี้ขึ้นมา เอามาจดทะเบียนในตลาดตัวเอง เอามาเทรดเอง ได้ทั้งค่าธรรมเนียมเอง เก็งกำไรเอง ท่านผู้ชมได้เหรียญนี้ไป พอทานผู้ชมเทรดปั๊บ ท่านผู้ชมโดนหัก 0.5 เปอร์เซ็นต์ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ขาย ซื้อกลับมาก็ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ก็คือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ นั่งกินฟรีค่าธรรมเนียมสบายๆ มันเหมือนเจ้ามือบ่อน แจกไพ่ตัวเอง เห็นไพ่ทุกคนในบ่อน เห็นไพ่ทุกคนในบ่อน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

เหรียญ KUB ถูกเทขายมาก่อนหน้าข่าวจะล้มดีล ราคาวิ่งอยู่ที่ 90 กว่าบาท ร่วงมา 70 บาท สิงหาคม 2565 ราคาร่วงลึกไปถึง 40 กว่าบาท คำถามที่ผมจะถามในช่วงก่อนประกาศล้มดีล ว่า หนึ่ง มีใครใช้ข้อมูลภายใน ที่เขาเรียกว่า Insider เทขายหรือเปล่า ? ท็อป จิรายุส รู้ไหม ? ผู้บริหาร SCB อย่างอาทิตย์ นันทวิทยา รู้หรือเปล่า ? ผมว่าคำถามเหล่านี้ ก.ล.ต. ควรจะต้องรู้และต้องตรวจสอบรายการนี้เร่งด่วน และรายการอื่นย้อนหลังด้วย ปล่อยให้แมงเม่า ประชาชน ตายเกลื่อน แต่อย่าปล่อยให้ไอ้โม่งลอยนวล

ดีล SCB จบแล้ว ถึงเวลาหรือยังที่ ก.ล.ต. ต้องเริ่มสอบบิทคับอย่างจริงใจหรือยัง ไหนว่าจะสร้างไทย/ปั่นไทยให้เป็นดิจิทัลฮับ ดิจิทัลฮับ ในลักษณะที่ ก.ล.ต. ไม่แก้ปัญหาของบิทคับ ก็คือดิจิทัลฮับ ที่อยู่ในมือของคนฉลาดแกมโกง แล้วเมืองไทยจะป็นดิจิทัลฮับได้อย่างไร

ผมอยากจะถามต่อว่า แพลตฟอร์มบิทคับ กับ เหรียญ KUB ที่คุณท็อป จิรายุส อ้างว่าใช้เชื่อมต่อสู่โลกอนาคต ทำไมราคาในอนาคตคุณโคตรผันผวนเลย เวลา 8-9 เดือน จากราคาที่ซื้อขายกัน 580 บาท ทำไมราคาร่วงลง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 40 กว่าบาท เท่านั้น เหรียญ KUB ของคุณมันมีพื้นฐาน มันมีสินทรัพย์ มันมีธุรกิจ มันมีเทคโนโลยี งานวิจัยอะไรที่ล้ำยุคล้ำหน้ากว่าคนอื่น เข้ามาสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง หรือจริงๆ แล้ว คุณท็อป ราคาเหรียญ KUB ของคุณมันเป็นอากาศที่คุณรวมตัวกันปั่นขึ้นมา และพวกบริษัทในตลาดหุ้นพันธมิตรของคุณ อย่างเช่นบริษัทโปรเอ็น และ SCB ที่ประกาศถอนตัวออกไป คนก็ถามว่าที่ทำกันอยู่ ประกาศจะซื้อเหรียญ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ซื้อ โปรเอ็น กับ SCB ต้องการปั่นราคาหุ้น ส่วนบิทคับต้องการปั่นราคาเหรียญ KUB Coin ใช่หรือเปล่า

ท่านผู้ชมครับ คนโบราณพูดไม่ผิดหรอก ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาพบกัน มันเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้วสื่อรุ่นเก่า รุ่นใหม่ทั้งหลาย สมาคมนักข่าวฯ สมาคมโน้น สมาคมนี้ โรงเรียนนี้ มหาวิทยาลัยโน้น ราชการนั้น ที่เชิญนายท็อป จิรายุส ยังคงเชิญปล่อยให้นายท็อปพล่ามเรื่องราวล้างสมองมโนไปเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนที่เสพสื่อเขาสับสนว่ามันจริงหรือหลอกกันแน่


ท่านผู้ชมครับ ในที่สุดแล้วสิ่งที่ผมพูด ก็ไม่ผิด เพราะวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินคดี มีมาตรการลงโทษทางแพ่งกับการที่คนใช้อินไซเดอร์เข้ามาปั่นหุ้น คนที่โดนคือ นายสำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี หรือ CTO บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง เขาเป็นคนวงใน เขารู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาก็เลยมีการซื้อหุ้น แล้วโดน ก.ล.ต. สั่งปรับ 8 ล้าน 5 แสนบาท ความจริงคดีนี้ ก.ล.ต. ผมไม่อยากให้ดำเนินคดีเฉพาะคดีแพ่ง ต้องต่อด้วยคดีอาญา เพราะการปั่นหุ้นมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา

ท่านผู้ชมครับ ถึงดีล SCBX กับ บิทคับ จะยกเลิกไปแล้ว แต่งานเช็กบิลตามหลังของ ก.ล.ต. ยังมีอีกมากที่ต้องเก็บกวาด ต้องไล่หวดพวกฉกฉวยผลประโยชน์จากกระแสดีลดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซื้อเหรียญ KUB ซื้อขาย KUB เหรียญของบบิทคับที่ออกเอง เข้ามาบริษัทเอง ลิสต์เอง ซื้อขายกันเอง เสกคุณสมบัติทิพย์กันขึ้นมา โปรโมต ปั่นว่าเป็นอภินิหารเหรียญทองคำ จากราคา 30 บาท ทะลุเป็น 580 บาท ท่ามกลางการได้เสียของการเก็งกำไร มีคนภายในที่ต้องสงสัยว่าจะใช้อินไซด์โกยเหรียญเข้ากระเป๋าเพื่อหวังเทขายในตอนหลัง หลอกแมงเม่าว่ามีแรงซื้อจนแห่ตามกัน ตอนหลังพวกแมงเม่าก็ตายกันเกลื่อน

คนที่เล่นเหรียญบิทคับ คุณรู้หรือเปล่า ผมไม่อยากพูดว่าคุณน่ะโง่ฉิบหายเลย แต่ผมว่าคุณรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกหน้าเนื้อใจเสือ ท่านผู้ชมครับ คนที่มันดูมีการศึกษาดีๆ พูดเก่งๆ นี่นะ อย่าไปไว้ใจ

เพราะฉะนั้นนี่คือหลักฐานชัดเจนว่า CTO คนสนิทของท็อป บิทคับ ก็หวังรวยจากการใช้อินไซด์เข้าไปซื้อเหรียญ KUB เก็งกำไร ท่านผู้ชม นี่คือใบเสร็จที่แสดงให้เห็นว่า KUB เหรียญของบิทคับ ตลาดซื้อขายคริปโต ที่เคลมว่าเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย เต็มไปด้วยการซื้อขายที่ไม่มีความเป็นธรรม แล้วที่ผมพูดไว้ตั้งแต่ต้น ท่านผู้ชมจำได้ไหม บิทคับ มันคือบ่อนพนันท้ายซอย เจ้าของบ่อนเอาเปรียบนักพนัน ซึ่งเป็นเรื่องจริง วันนี้พิสูจน์ชัดเจน ถ้าจำได้คราวก่อน ก.ล.ต. เพิ่งจะลงโทษ ก.ล.ต. สั่งปรับเงินบิทคับ นายสกลกรย์ สระกวี ผู้ทำผิดรวม 3 ราย รวมเป็นเงิน 24 ล้านบาท คนของบิทคับ นายสกลกรณ์ สระกวี เป็นลูกชายนายสมพงษ์ สระกวี ซึ่งผมรู้จักดี ข้อหา โทษฐานสร้างวอลุ่มเทียมในศูนย์ซื้อขายบิทคับ ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง คนในบิทคับด้วยกันนี่ล่ะ บริษัทของนายท็อป จิรายุส นี่ล่ะ ปั่นหุ้นกันเอง เพราะว่ามันมีตัวเลขหมด มันเห็นหมดทุกคน มันคือเจ้าของบ่อนการพนัน มันเห็นไพ่ที่ถืออยู่ในมือของคนที่เข้ามาเล่นกันทุกคน แล้วมันรู้ว่ามันจะตีไพ่ใบไหนออก เพื่อจะได้กำไร

การที่เล่นงานคนสนิทของท็อป น่าจะเป็นหนังตัวอย่าง ตัวการใหญ่ยังไม่ออกฉาก ติดตามกันต่อไปว่าจะมีเซอร์ไพรส์หรือเปล่า


แล้ววันเดียวกับที่ ก.ล.ต. ประกาศลงโทษคนสนิทท็อป กับกลุ่มบิทคับ แล้วบอกไม่ให้เป็นกรรมการ 1 ปี ท่านผู้ชมรู้ไหมมันไม่ยอมรับการตัดสินของ ก.ล.ต. ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า ทีมงานของตนรู้ข้อกฎหมายอินไซเดอร์ เทรดดิ้ง จะขอต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม จากกรณีดังกล่าว บริษัทขอยืนยันว่าบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนการพัฒนาเครือข่ายบิทคับเชน ไม่ได้รับผลกระทบ

อย่างที่ผมเล่าให้ฟังว่าบิทคับที่ได้ข่าวว่าเส้นใหญ่มาก มีที่ปรึกษาเป็นอดีตรองเลขาฯ ก.ล.ต. ชื่อ ทิพยสุดา ถาวรามร ก็ถ้ามันจะโอหังมมังการ บอกว่ามันรู้เรื่องดี อินไซเดอร์เทรดดิ้ง มันไม่เข้าข่าย ก็แสดงว่าต้องมีกุนซืออะไรแนะนำไป เรื่องดื้อแพ่งสวน ก.ล.ต. นี่ต้องยอมรับว่ายืนหนึ่งมาตลอด ก.ล.ต. สั่งอะไรก็แข็งเมือง สั่งให้ปรับคุณสมบัติ KUB ก็ยังยืนยันว่าเหรียญตัวเองสุดยอด ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรแล้ว ก็เหรียญมันเอามาจากอากาศ จะสุดยอดได้อย่างไร

เรื่องอินไซเดอร์เทรดดิ้งบิทคับ ผมอยากจะบอกทั้งคุณสำเร็จ คุณท็อป จิรายุส รวมถึงคุณทิพยสุดา ว่า ถ้าคุณเก่ง ก็เก่งให้สุดทาง เพราะนอกจากโทษทางแพ่ง การปกครองแล้ว ก.ล.ต. ต้องดำเนินคดีอาญา ประสานงานกับตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพราะการปั่นหุ้น ปั่นเหรียญ ปั่นราคาทรัพย์สิน โดยผิดมาตรฐานกฎระเบียบจริยธรรมเช่นนี้ ถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรง คุณอย่าคิดว่าคุณรวย คุณใหญ่ และคุณมีที่ปรึกษาดีๆ จะทำอะไรได้ ผมยังไม่ตาย ผมจะตามกัดตามจิกเรื่องนี้อย่างไม่หยุด จนกว่าพวกคุณจะได้ขึ้นศาลในคดีอาญา ก.ล.ต. ครับ พวกคุณเอาจริงเสียทีได้ไหม คุณโดนพวกนี้ตบหน้าไม่รู้กี่ครั้งแล้ว แสดงว่าคำสั่งคุณไม่มีความหมายเลยใช่ไหม

ท่านผู้ชมครับ นี่ทั้งหมดจาก ฟอเร็กซ์-3D มาเรื่อยๆ มาจนกระทั่งจบลงด้วยเรื่องนี้ เป็นเรื่องเดียวที่พูดในรายการวันนี้ อาทิตย์นี้ ท่านผู้ชมครับ หวังว่าคงจะได้ข้อมูลหรือข้อคิดอะไรบางอย่างจากผม

ท่านผู้ชมครับ วันศุกร์หน้าเป็นอีกศุกร์หนึ่งที่ท่านผู้ชมไม่ควรพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งก็ไม่ควรพลาดทุกศุกร์นะครับ ของเรานี่เป็น Exclusive หลายๆ เรื่อง ผมเตรียมเรื่องราวที่เจาะลึกไว้หลายเรื่อง ผมเชื่อว่าท่านผู้ชมอยากรู้และอยากรับทราบ ผมยกตัวอย่างเป็นน้ำจิ้มไว้ก่อน คือ ท่านผู้ชมคงได้ยินชื่อ นัตตี้ ลีอาห์ โกงแชร์ลูกโซ่


โดยอ้างว่าไปเทรดหุ้น มูลค่าเสียหายสองพันล้านบาท หนีไปแล้ว อยู่ต่างประเทศ ไลฟ์มาจากต่างประเทศ บอกว่าตัวเองจะหาทำอะไรเพื่อเอาเงินมาคืน เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไร ไม่เคยมีใครรู้เลยแม้แต่นิดเดียวว่ายัยนี่มาจากไหน พื้นฐานเป็นคนอย่างไร ทำอะไรมาบ้าง เราขุดคุ้ยขุดค้นอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่เคยมีใครทำมาก่อน คล้ายๆ เรื่องของอภิรักษ์ โกฎธิ ฟอเร็กซ์-3D ท่านผู้ชมฟังแล้วจะไม่ผิดหวัง

อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่เป็นข่าวฮือฮามากในสังคม คือเรื่องของ ส.ต.ท. (หญิง) กรศศิร์ บัวแย้ม ซึ่งมีการค้นพบว่าวุฒิสมาชิก ธานี อ่อนละเอียด ก็ยอมรับแล้วว่าเป็นคนใกล้ชิดมากๆ เจ๊นุชคนนี้ยิ่งใหญ่มาก เข้าตำรวจโดยที่วุฒิไม่ถึงก็เข้าได้ นอกจากนั้นยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าเป็นทหารเพื่อเอามาเป็นคนรับใช้ของตัวเอง มิตินี้ผมจะมีความคิดมิติหลายอย่างให้ข้อคิดในเรื่องนี้ แล้วมาเกี่ยวโยงกับทุกๆ เรื่องในประเทศไทยแล้วมันสะท้อนให้เห็นถึงว่าสังคมไทยที่แท้จริงนั้น มันเป็นอย่างนี้ล่ะ เพราะฉะนั้นแล้วเราอย่าไปหลงเชื่อกับภาพวาดที่สวยหรูที่พูดว่าสังคมไทยอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่จริง ไทยแลนด์ หรือที่ผมเรียกว่า ทลายแลนด์ ตอนนี้มันเป็นของมันอย่างนี้ล่ะท่านผู้ชม เราเจอกันอาทิตย์หน้านะครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น