xs
xsm
sm
md
lg

[คำต่อคำ] SONDHI TALK : ทำไม “ช่อง 3” ถึงด้อยค่า TOP NEWS? - เมื่อประเทศไทยกำลังกลายเป็นที่ฝึกงาน - อเมริกาเชิดก้าวไกลใช้ไทยแทรกเพื่อนบ้าน - พิธา ก้าวไกล = เซเลนสกี ยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันที่ 2 มิ.ย.2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ช่องยูทูป Sondhitalk หรือ Sondhitalk (ช่องสำรอง) และแอปพลิเคชัน Sondhi App โดยมีประเด็นที่ได้เล่าในวันนี้ได้แก่
- บีบีซี สื่อเสี้ยมถามชง "พิธา" ตอบปม ม.112
- ทำไม “ช่อง 3” ถึงด้อยค่า TOP NEWS?
- ฟื้นความจำว่าที่นายกฯ พิธา คนขี้ลืม
- เมื่อประเทศไทยกำลังกลายเป็นที่ฝึกงาน
- อเมริกาเชิดก้าวไกล ใช้ไทยแทรกเพื่อนบ้าน
- พิธา ก้าวไกล = เซเลนสกี ยูเครน

ติดตามได้ใน SONDHI TALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep.191



คำต่อคำ SONDHI TALK EP. 192 [6 พ.ค. 2566]

ช่องทางการรับชมรับฟัง "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ SONDHI TALK
แอปพลิเคชัน : SONDHI APP
ระบบ iOS ดาวโหลดได้ที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647.
ระบบ Android ดาวโหลดได้ที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
YouTube : Sondhitalk
เว็บไซต์: www.sondhitalk.com
Podcast หรือ podbean : SONDHI TALK

สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566 ขึ้นเดือนมิถุนายนแล้วนะครับ จะครึ่งปีแล้ว ขอสวัสดีท่านผู้ชมที่เข้าชมรายการ "คุยทุกเรื่้องกับสนธิ" สดทาง Sondhi App, Facebook, YouTube และ TikTok ช่วงนี้ TikTok ช่อง Sondhi Talk มีผู้คนติดตามประมาณ 5-6 แสนคนแล้ว ยอดไลก์ประมาณ 5 ล้านกว่าไลก์ ผมให้ทีมงานตัดเป็นคลิปสั้นๆ ดึงเอาเฉพาะไฮไลต์ขึ้นมา ใครชอบดูอะไรสั้นๆ แบบเด็กๆ ยุคนี้ สามารถเข้าไปรับชมได้ แชร์ไปถึงลูกถึงหลาน พ่อแม่ดูได้เลย


ท่านผู้ชมครับ วันนี้จะขออัปเดตยอดบริจาคเงิน คือไม่ได้มีอะไรใหม่ เพียงแต่เราจะเอาตัวเลขข้อมูลต่างๆ มาให้ดูว่าเราไม่เคยลืม ถึงแม้ว่าจะผ่านไปแล้ว เราก็ชี้ให้ดูว่าเราได้รับเงินมาทั้งหมดเท่าไร ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร โดยที่ผมจะบอกตัวเลขกลมๆ ให้ก่อนวันนี้ แต่เราจะมีรายละเอียดว่าเราใช้เงินไปอย่างไรบ้าง โดยที่จะโพสต์ลงในหน้า "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ไม่น่าจะเกินวันนี้ช่วงบ่ายๆ จะโพสต์ให้ครับ

เราได้ยอดเงินทำบุญในการทำนุบำรุงพุทธศาสนา โดยการที่เราเปิดรับบริจาคจองท้าวเวสสุวรรณ ทั้งหมด 45,553,685 บาท รายละเอียดจะมีให้ท่านผู้ชมดู ตอนนี้เอาตัวเลขกลมๆ ก่อน ส่วนยอดการบริจาคที่เราได้เพื่อมาซื้อฟ้าทะลายโจรแจกไปทั่วประเทศไทยนั้น ยอดรวมบริจาคอยู่ที่ 79,912,069 บาท เอาตัวเลขรายละเอียดทั้งหมดส่งมาให้ท่านผู้ชมดูที่รายการของเราในบ่ายวันนี้

ที่ผมสรุปมาให้นี้ ก็จะได้สบายใจได้ว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ทุกท่านบริจาคเข้ามานั้น ได้นำไปใช้เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งทำบุญและทำทาน


ทีนี้มีเรื่องที่น่ายินดีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง ท่านผู้ชมจำเรื่อง "น้องพลอยเพชร" ได้ไหม น้องพลอยเพชร ที่เรารับเข้ามาอุปการะในการดูแลของมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล แล้วตอนหลังก็มีการรับน้องนะโมเข้ามาอีกท่านหนึ่ง

ด.ญ.พลอยเพชร ด้วงเขียว และ น้องนะโม หรือ ด.ช.ธรรมะ โคศิริ ทั้งสองคนเป็นเด็กที่มีความสามารถมาก เล่นเทนนิสเก่งมาก เป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาดเลยที่รับเด็กสองคนนี้เข้ามาอยู่ในมูลนิธิฯ ดูแลให้หมดทุกอย่าง การศึกษา ออกค่าใช้จ่ายให้ ผมคิดว่าผมดูคนไม่ผิด เพราะว่าทางสมาคมลอนเทนนิสฯ บอกเลยว่า เด็กสองคนนี้มีพรสวรรค์ เป็นเพชรเม็ดงามในวงการเทนนิส ล่าสุด ทั้งสองคนได้กลายเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ติดทีมชาติ วันที่ 10-17 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ น้องพลอยเพชร กับน้องนะโม จะเดินทางไปในฐานะเป็นตัวแทนทีมชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประเภททีม แข่งกันที่ประเทศบรูไน


ขณะนี้ท่านผู้ชมคงจำคุณดนัย อุดมโชค ซึ่งเราให้มาเป็นโค้ชและผู้ดูแลน้องพลอยเพชรในเรื่องเทนนิส ช่วยดูแลเป็นที่ปรึกษาให้น้องพลอยเพชรอยู่ตลอด จนกระทั่งได้มาแข่งระดับทีมชาติในวันนี้ และยังดูแลต่อไปอีก มีอีกท่านหนึ่งคือคุณหมออมร ซึ่งเป็นผู้ดูแลทางกายภาพให้น้องพลอยเพชร และทางครอบครัวบอกว่าคุณหมอเป็น FC ผมด้วย ขอขอบพระคุณเป็นอย่างมากครับ

ช่วงนี้น้อยพลอยเพชรยังใช้เงินมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล อยู่ แต่ว่าสำหรับท่านผู้ชมที่อยากจะบริจาคเพื่อช่วยเหลือน้องพลอยเพชร หรือน้องนะโม ก็ให้บริจาคผ่านมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล มา เดี๋ยวผมจะขึ้นชื่อบัญชีให้ ถ้าท่านอยากจะสนับสนุนเด็กพวกนี้ แล้วขอมีส่วนร่วมในการทำบุญให้กับเด็กๆ พวกนี้ก็บอกมาแล้วกัน เดี๋ยวผมจะส่งขึ้นเลขบัญชีให้ บริจาคเงินเข้ามาที่ มูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล แล้วผมจะเอาเงินที่บริจาคมา มาตั้งเป็นกองทุนของน้องพลอยเพชร และน้องนะโม โดยเฉพาะ ช่วงนี้เด็กกำลังโต มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และมูลนิธิฯ ก็ดูแลรับผิดชอบตลอด แต่ถ้าท่านผู้ชมอยากจะร่วมทำบุญด้วย ก็เชิญนะครับ


ท่านผู้ชมครับ ก่อนจะเข้ารายการ อย่าลืม ผมพูดมาหลายครั้งแล้ว ท่านผู้ชมต้องมี 3 สิ่งนี้เก็บเอาไว้ ท่านผู้ชมจำได้ไหม สเปรย์สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์ ซึ่งผมบอกแล้วว่าให้ติดไว้กับตัว ไปไหนมาไหน คุณสุภาพสตรีที่มีกระเป๋าก็ใส่ไว้ในกระเป๋า ไปที่ไหน เข้าไปที่ไหน ก็ฉีดเข้าคอ เพราะว่ามีส่วนผสมของแอนโดรกราโฟไลด์ และมีสารสกัดของมังคุด แอนโดรกราโฟไลด์ ก็คือสารสกัดที่อยู่ในฟ้าทะลายโจร ก็คือสามารถที่จะระงับการอักเสบได้ หยุดยั้งไวรัสได้ระดับหนึ่ง

อันที่สอง ผมบอกแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรของอาจารย์ปานเทพ ท่านผู้ชมอย่าไปรอให้ไม่สบายแล้วถึงซื้อ ซื้อมาเก็บเอาไว้ที่บ้าน อย่างน้อยก็ต้องมีไว้ 2-3 กล่อง ทิ้งไว้เลย พอมีปัญหาเรื่องคออักเสบ ตัวร้อน มีความรู้สึกว่าเป็นไข้ เป็นหวัด ทานได้ก่อนเลย แล้วถ้าสมมุติว่าติดจริง เช็ก ATK แล้วมีสองขีด ก็ทานไปมื้อละ 4 เม็ด วันละ 4 มื้อ 5 วัน 16 เม็ด หายแน่นอน ท่านผู้ชม ผมเคยเรียนให้ทราบแล้ว เวลาท่านไปที่ไหนมา สมมุติว่าท่านไปงานศพ งานแต่งงาน ไปที่คนหมู่มาก ท่านกลับมาปั๊บ ไม่ต้องคิดมากเลย เอาใส่คอ ทานไปเลย 4 เม็ด วันรุ่งขึ้นถ้าไม่มีอาการอะไร ท่านก็ไม่ต้องทาน และอีกอย่าง ท่านผู้ปกครองเคยถามมาว่าเด็กเล็กทานได้ไหม ? ทานได้ครับ ไม่เกิน 2 เม็ดต่อวัน ทานได้ทุกวัน วันละเม็ด มันจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน

สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย ที่ต้องซื้อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก คือ "ยมลม ๓๐๐ จำพวก" เป็นยาอายุวัฒนะ ได้บัญชี อย. เรียบร้อยแล้ว สามารถสั่งซื้อได้ที่ Shopee, Lazada หรือทางไลน์ (LINE) ของเราก็ได้


"ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ซื้อให้พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าผมทานมาร่วมสามปีแล้ว วันละซอง ชงกับน้ำร้อนจนละลายแล้วก็ทานเข้าไป ไม่ใช่ทานง่าย ขมปี๋เลย แต่ว่าขมเป็นยา และจะรักษาร่างกายเราได้ดี สร้างความสมดุลในธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในร่างกายเรา ขับลม ระบายท้อง และจะทำให้การขับถ่ายกลับไปเป็นปกติ

อย่าลืมนะครับ "ยาลม ๓๐๐ จำพวก" ให้กับพ่อแม่เรา ผู้หลักผู้ใหญ่ ฟ้าทะลายโจร ซื้อติดบ้านเอาไว้ 3 กล่อง เซฟๆ เลย แล้วก็ยาฉีดสมุนไพรบ้านพระอาทิตย์ ที๋ฉีดเข้าคอ และยานี้ไม่เหมือนกับยาอื่นในท้องตลาด เพราะว่าของเราเป็นที่ฉีดคอสมุนไพร มีสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์อยู่ด้วย

ท่านผู้ชมครับ อาทิตย์นี้มีอะไรบ้าง ? เรื่องแรกที่ผมจะพูดคือเรื่องที่คุณพิธาไปให้สัมภาษณ์นายโจนาธาน เฮด มือวางอันดับหนึ่งในการป่วนประเทศไทย จากวิทยุบีบีซี โดยที่หน่วยงานบีบีซีไทย ทำตัวเป็นสะพานเชื่อม คือเรื่องอะไรที่ชั่วๆ และทำให้ประเทศไทยจะต้องเกิดความวุ่นวาย บีบีซีไทย กับบีบีซีที่อังกฤษ มีความถนัดมาก และนายโจนาธาน เฮด เป็นมือวางอันดับหนึ่ของพวกเขาเลย ทั้งโกหกตอแหล ปั้นเรื่องหลอกลวง เดี๋ยวผมจะเอาข้อความที่นายโจนาธาน เฮด สัมภาษณ์ จากบีบีซี มารายงานรายละเอียดให้ฟัง

เรื่องที่สอง ผมอยากจะรื้อฟื้นความทรงจำเรื่องกัญชาให้ว่าที่ท่านนายกฯ (ว่าที่นะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นหรือเปล่า แต่ว่าท่านตั้งข้อสมมติฐานว่าท่านได้เป็นแล้ว) ว่าท่านขี้ลืมเรื่องอะไรบ้าง ท่านขี้ลืมแม้กระทั่งคนที่เคยใกล้ชิดกับท่าน และเป็นคนที่อยู่ในพรรคก้าวไกลด้วยกัน ชื่อ คุณประสิทธิชัย หนูนวล วันนี้ออกมาเตือนสติคุณพิธา ว่าคุณพิธาได้พูดอะไรไว้บ้าง และทำอะไรไว้บ้าง ทำไมถึงกลับมาเป็นคนตอหลดตอแหลได้ทันทีที่หวังที่้จะเอาคะแนนเสียงของคน โดยที่บอกว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นสนับสนุนอย่างเต็มที่ อย่าลืม!

เรื่องที่สาม ช่วงหลังนี้ คนในรายการทอล์กโชว์ และนักข่าวของช่อง 3 เกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ มาด้อยค่าชาวบ้านเขา ด้อยค่า TOP NEWS หลายๆ อย่าง ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าช่อง 3 นั้น ไม่ยอมปัดกวาดขยะที่อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่เที่ยวไปชี้ว่าหน้าบ้านคนนั้นมีขยะ บ้านคนนี้มีขยะ แล้วผมจะฉีกหน้ากากช่อง 3 ทิ้ง และผมก็อยากจะฝากความคิด ระลึกถึงคุณสุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลช่อง 3 อยู่ตอนนี้ และฝากถึงตระกูลมาลีนนท์ทั้งหมดว่า พวกคุณไม่มีอะไรทำแล้วใช่ไหม เที่ยวไประรานชาวบ้านเขา ไหนบอกว่าคุณเป็นช่องที่ไม่ยุ่งการเมือง และเป็นช่องที่เน้นเรื่องการบันเทิง เรตติ้งของคุณที่มาได้ดีก็เพราะว่าบันเทิง ละครต่างๆ แต่เผอิญคุณทะลึ่งเข้ามาเล่นกับทางการเมืองได้ วันหลังการเมืองจะกลับไปเล่นกับช่อง 3 และตระกูลมาลีนนท์บ้าง หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ

เรื่องที่สี่ เมื่อประเทศไทยกำลังกลายเป็นที่ฝึกงานของว่าที่รัฐมนตรีฯ คลัง จากพรรคก้าวไกล เดี๋ยวฟังเหตุผลและข้อมูลต่างๆ

เรื่องที่ห้า เป็นการย้อนคำพูดที่คุณศิริกัญญา ว่าที่รัฐมนตรีฯ คลัง ที่คุณธนาธรเชียร์เหลือเกิน รวมทั้งคอนด้อมส้มทั้งหลายที่บอกว่าเขายังไม่ได้ทำงานเลย ให้โอกาสเขาหน่อยสิ แต่ว่าคุณศิริกัญญาเป็นคนปากไว และมีความเชื่อมั่นในตัวเองเยอะ ก็เลยอาละวาดออกมาด้วยคำพูดที่บอกว่า ประเทศไทยผูกติดกับจีน ค้าขายกับจีนมากจนเกินไป ผมก็เลยจะถามว่า ไม่ผูกกับจีน แล้วผูกกับใคร ? ผมขอย้อนคำพูดของคุณศิริกัญญา คุณศิริกัญญา บอกว่า เศรษฐกิจไทยโตช้าเพราะยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป แล้วผมจะอธิบายให้ฟังว่าตลาดอียูที่คุณศิริกัญญา และตลาดอเมริกา ที่คุณศิริกัญญามุ่งมั่นมากที่จะเอามาบาลานซ์ตลาดจีน หรือลดความจำเป็นของตลาดจีนลงมานั้น กำลังอยู่ในภาวะถดถอย ขาลงทั้งสิ้น มีแต่ตลาดจีน ตลาดรัสเซีย และตลาด BRICS ที่กำลังเป็นขาขึ้น

เรื่องที่หก ท่านผู้ชมจำได้ใช่ไหม อาทิตย์ที่แล้วผมพูดถึงเรื่องอเมริกา เรื่องสถานทูตอเมริกาแก้ตัวเป็นพัลวันหลังถูกแฉแผนใช้ไทยเป็นฐานต้านจีน กับความจริงเรื่องคุกลับที่ CIA เป็นเจ้าของ อยู่ที่อุดรธานี ก็คือว่าสถานทูตอเมริกาอยากจะพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการพูด อีกประการหนึ่ง เรื่องแบบนี้ผู้สื่อข่าวฝ่ายข่าวต่างประเทศ PPTV ก็ได้ทำหน้าที่เกินตัวเองไป ก็คือพูดง่ายๆ ว่า เอาไมค์ไปจ่อปากว่าที่คุณสนธิเขาพูดอย่างนี้ๆๆ คุณมีความเห็นว่าอย่างไร ? ก็แน่นอน จะมีความเห็นว่าอย่างไร มันก็ต้องปฏิเสธสิ แต่ PPTV ก็ไม่ยอมทำการบ้าน ถ้ารู้ PPTV ทำไมไม่ถามสถานทูตอเมริกาว่าทำไมถึงสร้างสถานกงสุลมูลค่าตั้งหมื่นล้าน ซ่อนอะไรไว้หรือเปล่า แล้วทำไม PPTV ถึงไม่ถามให้ตรงตัวนิดหนึ่งว่าคุกลับ CIA ที่มีอยู่นั้น ฝีมืออเมริกันใช่ไหม ท่านผู้ชมลองเช็กเข้าไปใน Google แล้วพิมพ์ว่า "คุกลับ CIA" สิ ข่าวขึ้นมาตะพึดตะพือเต็มไปหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้ว พิสูจน์ได้ชัดว่าฝ่ายข่าวต่างประเทศของ PPTV เป็นคนที่เชียร์ตะวันตกแบบหูหนวกตาบอดอย่างเต็มที่ แล้วก็ด้อยค่าทางรัสเซีย ด้อยค่าทางจีนอย่างเต็มตัว เหมือนกับรับงานเขามา

ที่ผมอยากจะบอกฝากไปถึงพี่เสริฐ หมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ผมรู้จักดี ไปจนถึงน้องสาวพี่เสริฐ พี่แบงค์ หรือหลานชายพี่เสริฐ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ที่ชื่อ "หิน" ว่า พี่เสริฐ อายุก็มากแล้ว พี่เสริฐเป็นคนที่รักสถาบันกษัตริย์อย่างมาก เวลาสมเด็จพระพี่นางฯ ในอดีต ยังทรงมีชีวิตอยู่ เวลาพระองค์ท่านจะเสด็จไปไหน พี่เสริฐจะจัดเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ส บริการให้เต็มที่ และพี่เสริฐเป็นคนที่เรียกว่าเลือดสีน้ำเงินเต็มตัว พี่เสริฐครับ พี่เสริฐทิ้งเงินเป็นพันๆ ล้านลงในช่อง แล้วพวกนี้มายำข่าวต่างๆ ทำระยำกับข้อมูลต่างๆ โกหกหลอกลวงชาวบ้านเขา เชียร์อเมริกาซึ่งกำลังจะมาทำลายประเทศไทย พี่เสริฐครับ พี่เสริฐอย่าอยู่เฉย ผมต้องตำหนิคนที่พี่เสริฐส่งเข้าไปเป็นหัวหน้า PPTV นี่สุดๆ เลย ก็คือว่า ชูวิทย์พูดอะไร เอามาออกหมด ผมมองว่า พี่เสริฐครับ พี่เสริฐทำงานมาตั้งนาน สำหรับผมแล้ว ผมขอด้อยค่า PPTV เลยว่า พี่เสริฐทำไมถึงทำอย่างนี้ได้ พี่เสริฐครับ พี่เสริฐเคยจงรักภักดีต่อเจ้าอย่างมาก และพี่เสริฐรักในสถาบันกษัตริย์ ทำไมปล่อยให้ช่องโทรทัศน์ของพี่เสริฐ ภายใต้สำนักงานข่าวต่างประเทศของเขา บก.ต่างประเทศ นักข่าวต่างประเทศ ทำระยำกันแบบนี้ พี่เสริฐครับ ผมฝากพี่เสริฐคิดหน่อย ฝากพี่แบงก์ น้องสาวพี่เสริฐ พูดกับพี่ชายหน่อยว่าทำไมถึงปล่อยให้ช่องของพี่เสริฐเป็นอย่างนี้ไปได้

สุดท้าย ท่านผู้ชมครับ ผมกำลังเปิดเรื่องใหญ่มาก คือผมเปิดหลักฐานชัดๆ ว่าอเมริกากำลังเชิดก้าวไกล ใช้ไทยแทรกแซงเพื่อนบ้าน ผมอดคิดไม่ได้ เมื่อผมดูเหตุการณ์ในยูเครนแล้ว ผมเห็นหน้านายเซเลนสกี ผมอดคิดไม่ได้ว่าเมืองไทยกำลังจะมีเซเลนสกี 2 คือคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

BBC สื่อเสี้ยม

เมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2566 คุณธัญญารัตน์ ดอกสน นักข่าวจากสำนักข่าวบีบีซี ได้ทวีตลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว บอกว่า ช่วงเช้าวันนี้ช่องทรูวิชั่นส์ตัดสัญญาณภาพรายการของสำนักข่าวบีบีซี ช่วงที่มีการสัมภาษณ์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยช่องนี้ขึ้นข้อความว่า "Program will resume shortly." รายการจะกลับมาฉายในไม่ช้า


ท่านผู้ชมครับ เนื้อหาที่ปรากฏในการสัมภาษณ์ระหว่างนายโจนาธาน เฮด นักข่าวบีบีซี และนายพิธา เป็นเรื่องหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมทั้งคำถามที่เกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เป็นข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ถูกกระแสต่อต้านและ ส.ว. ก็แสดงท่าทีขัดขวาง เหตุใดพรรคจึงไม่ยุติการผลักดันเรื่องนี้ ? นายพิธา ตอบคำถามนี้กับนายโจนาธาน เฮด ว่า เป็นนโยบายที่พรรคให้สัญญาไว้กับประชาชน และจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนยังลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนถึง 14 ล้านเสียงอีกด้วย

ผมเอาคำต่อคำที่สำคัญที่นายโจนาธาน เฮด ถาม ผมเอาเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุด เขาบอกว่า นโยบายหนึ่งที่พรรคของคุณประกาศไว้ คือการแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กฎหมายนี้ทำให้สมาชิกวุฒิสภาหลายคนระบุว่าทำให้พวกเขาสนับสนุนคุณไม่ได้ และอาจจะยับยั้งไม่ให้คุณจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำไมคุณไม่ชะลอประเด็นนี้ไปก่อน ? พิธา ตอบว่า เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่เราสัญญากับประชาชนเอาไว้ เรามีฉันทามติมากพอ เราได้รับคะแนนเสียงจากประชาชน 14 ล้านคน พวกเขาเข้าใจมันชัดเจน โปร่งใส ว่านี่เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เราต้องการผลักดัน


ท่านผู้ชมครับ พักตรงนี้สักนิด ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง พรรคร่วมรัฐบาลครับ ที่คุณบอกว่า MOU ไม่มีการผลักดันในเรื่องของมาตรา 112 และนี่เป็นคำตอบใช่ไหมครับว่าทำไมพรรคก้าวไกลต้องการเป็นประธานสภาฯ เพราะต้องการให้ประธานสภาฯ บรรจุวาระของการแก้มาตรา 112 เข้าไป เพราะฉะนั้นแล้วท่านผู้ชมจะเห็นได้ชัดว่านี่คือเกม พรรคร่วมรัฐบาลครับ พวกคุณอยากจะเป็นรัฐมนตรีกันจนตัวสั่นงันงก พวกคุณลืมไปแล้วหรือ คุณพิธาพูดชัดเจน นี่คือหนึ่งในเป้าหมายที่เราต้องการผลักดัน เห็นหรือยัง คุณพิธาคือพรรคก้าวไกล คุณพิธาจะอ้างไม่ได้ว่าถ้าพรรคเสนอเข้ามาในสภาฯ ก็ว่ากันในสภาฯ ไม่ใช่ ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้ ก็ในเมื่อคุณพิธาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล แล้วมีข้อตกลงว่าจะไม่เอาเรื่อง 112 เข้ามา คุณพิธาก็ต้อง make sure ว่าพรรคก้าวไกลจะไม่เสนอการแก้กฎหมาย 112 เข้าไปในสภาฯ ถูกไหมท่านผู้ชม นี่้เราพูดกันด้วยเหตุด้วยผล แต่คุณพิธาก็โกหกหลอกลวงอีกครั้งหนึ่ง เพียงเพื่อให้ตัวเองได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

เอาล่ะ ต่อไป จากนั้นนายโจนาธาน เฮด พยายามตั้งคำถามเสี้่ยมและกระทบชิ่งถึงสถาบันสูงต่อไป ตรงนี้ล่ะที่ทำให้ทรูวิชั่นส์ตัดสินใจตัดสัญญาณช่วงนี้ออก


โจนาธาน เฮด พูดว่า คุณพยายามเปลี่ยนระบบที่ฝังรากลึกของสถาบันที่ทรงพลังและไม่สามารถตรวจสอบได้ สถาบันนี้ยุติอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอดีต (โกหกตอแหลอีกแล้ว) สั่งแบนนายกรัฐมนตรีหลายคน (โกหกตอแหลเช่นกัน) คุณไม่คิดว่าสถาบันแห่งนี้จะทำแบบเดียวกันถ้าคุณก้าวขึ้นครองอำนาจหรือ ? คุณพิธาก็ตอบเฉไฉไป แล้วก็ตบท้ายลงด้วย "ผมคิดว่าเรามีความเป็นผู้ใหญ่กันมากขึ้น มีความอดทน อดกลั้นที่จะพูดถึงสถาบันกษัตริย์ แม้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็เข้าใจว่าบทบาทของสถาบันกษัตริย์ควรจะเป็นอย่างไรในศตวรรษที่ 21

ประเด็นอยู่ที่ไหน ? ผมเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว ผมนี่เป็นคนแรกเลย เตือนว่าบีบีซีไทย เป็นส่วนหนึ่งของ บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส มันเป็นเครื่องมือของตะวันตก ของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ในการเข้าแทรกแซงการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ในประเทศต่างๆ เดิมทีก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1932 เป็นบีบีซีจากจักรวรรดิอังกฤษ BBC Empire Service โดยไม่ได้แทรกแซงเฉพาะไทย แต่แทรกแซงทุกประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในขณะนี้ก็เข้าไปแทรกแซงในอินเดียด้วย ปัจจุบัน มากล่าวหานายโมดี ในเรื่องในอดีต ซึ่งนายโมดียืนยันว่าตัวเองไม่ผิด แต่เอามาขุดคุ้ยขึ้นมา เหตุผลเพราะว่านายโมดีได้มีนโยบายที่ขัดต่อผลประโยชน์ของอังกฤษและทางตะวันตก ก็เลยใช้บีบีซี


กรณีล่าสุด อย่างที่ผมเล่าให้ฟังว่า อินเดีย พิสูจน์ชัด อดีตเคยแทรกแซงชาวบ้านเขาในสมัยที่ตัวเองยังเป็นจักรวรรดินิยมอยู่ ปัจจุบันก็ยังแทรกแซงอยู่ ที่สำคัญก็คือ มันใช้บีบีซีไทยเป็นเครื่องมือปั่นหัว ทำเฟกนิวส์ บิดเบือนข่าวหลายๆ ข่าว กระแซะข่าวเพื่อให้เข้าไปในทิศทางที่มันต้องการ ท่านผู้ชมจำให้ดีนะครับ บีบีซีไทยมันคือคนที่ขายชาติ ไม่มีความรักชาติ ไม่มีความเป็นชาตินิยมเลย

นอกจากนี้ ผมยังเคยฉีกหน้ากากให้เห็นว่าสื่อมวลชนไทยที่ทำงานให้บีบีซีนั้น มีแนวคิด พวกคนไทยที่ทำงานบีบีซีมีแนวคิด พฤติกรรมในการล้มสถาบันกษัตริย์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงม็อบสามนิ้ว เมื่อ 2-3 ปีก่อน บีบีซีไทยเข้ามาสนับสนุนม็อบสามนิ้วอย่างเต็มตัว


เอาล่ะ เรามาพูดถึงในส่วนของนายโจนาธาน เฮด ต่อ มันมีตำแหน่งผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำภูมิภาค ที่สัมภาษณ์นายพิธานั้น คนๆ นี้ โจนาธาน เฮด มีประวัติฉาวโฉ่มาอย่างยาวนาน โจนาธาน เฮด เป็นแขนขาในการรายงานข่าวเกี่ยวกับประเทศไทย มีส่วนในการสนับสนุนฝ่ายกบฏในพม่า ก่อนหน้านั้น นายโจนาธาน เฮด ถูกจับตามองโดยตลอดว่าเป็นแนวทางการเสนอข่าวในการแซะ บ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์ของไทยมาตลอด โจนาธาน เฮด ยังเคยถูกดำเนินคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงของไทยมาแล้ว


นี่ล่ะครับท่านผู้ชม ที่ต้องเล่าให้ฟัง นี่คือความจริงที่มีหนึ่งเดียว พิสูจน์ได้ชัดเจน และผมต้องขอขอบคุณช่องข่าว TNN ที่ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะบล็อก TNN ครับ เชื่อผมสิ อย่าไปรับมันเลย สำนักข่าวบีบีซี ไม่มีประโยชน์ ไม่มีประโยชน์จริงๆ เก็บเงินเก็บทองเอาไว้ดีกว่า เอาไปช่วยสุนัขขี้เรื้อนที่ไร้บ้าน ไร้ที่อยู่ ยังได้บุญได้กุศลมากกว่าจ่ายเงินให้กับช่องบีบีซี เสียเงินเพื่อให้มันด่าพวกเราต่อไป

ทำไมช่อง 3 ด้อยค่า TOP NEWS

ท่านผู้ชมครับ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ไม่กี่วันมานี้เอง สุภาพสตรีท่านหนึ่ง คือ น.ส.ปิยณี เทียมอัมพร หนึ่งในผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนัก จากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เธอได้โพสต์ภาพแคปชันข้อความที่ว่า "มีสองอย่างที่ไม่ควรปล่อยให้เสรี 1. กัญชา และ 2. ท้อปนิวส์" ผมเห็นแล้วผมรู้สึกว่า คุณปิยณีทะลึ่งมากเลย หาเรื่องเข้าตัว เพราะคุณปิยณียังโพสต์แสดงความเห็นว่า "คอมเมนต์นี้ดีนะคะ ฝากรัฐบาลใหม่นำไปพิจารณาเพิ่มเติมด้วยค่ะ ล่าสุดข่าวปั่นเรื่องเมกาที่เราว่าติงต๊องๆ กันน่ะ มีคนเอาจริงเอาจังอยู่นะคะ ดูอย่างพี่นักแต่งเพลงท่านน้้นสิ แม่ประไพ"


ท่านผู้ชมครับ นี่คือการพูดจาพาดพิงถึงคนหลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว TOP NEWS ไม่ว่าจะเป็นคุณอัญชะลี ไพรีรัก คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล คุณธีระ ธัญไพบูลย์ รวมไปจนถึงคุณสันติสุข มะโรงศรี คุณดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ซึ่งคุณดี้นั้นเป็นนักแต่งเพลงชื่อดัง และชอบใช้ฉายานามว่า "แม่ประไพ" ในการโพสต์โซเชียลของตัวเอง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวไปแล้ว


เอาล่ะ เรามาดูกันก่อนว่าคุณปิยณี คือใคร ? ชื่อเล่นว่า อิ๊บ เกิดเมื่อ 2524 อายุ 42 ปี อายุยังอ่อนกว่าลูกชายผมอีกหลายปีเลย จบคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มเป็นนักข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ตั้งแต่ปี 2546 จนถึง 2551 ก่อนจะย้ายมาทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศที่ช่อง 3 มาจนถึงปัจจุบัน ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนัก รายการแฟลชนิวส์ และรายการขันข่าวเช้าตรู่ เสาร์-อาทิตย์ ในช่วงเวลา 06.00-06.55 น.


ท่านผู้ชมครับ คุณปิยณีครับ คุณเป็นสื่อมวลชนมา 20 ปี ไม่ได้สอนอะไรคุณเลยหรือ ไม่ว่าคุณจะสวมหมวกสื่อมวลชนแล้วโพสต์ลอยๆ ว่ากัญชาไม่ควรเสรี ผมถามคุณจริงๆ เถอะ คุณปิยณี ถามจริงๆ คุณรู้เรื่องกัญชามากน้อยแค่ไหน คุณเคยศึกษาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งหรือไม่ หรือคุณจำขี้ปากของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งอยู่ช่องเดียวกับคุณ

คุณไม่รู้เรื่องหรอก เรื่องกัญชา แล้วผมจะบอกให้คุณรู้ วันนี้กัญชาไม่ได้ปล่อยให้เสรี ไม่มี เขามีกฎระเบียบของกระทรวงชัดเจนว่าใครเปิดร้านกัญชา ทำโน่นทำนี่ ผิดกฎหมายหมด คุณปิยณีต้องไปโขกสับกับตำรวจ เจ้าหน้าที่ และกระทรวงสาธารณสุขสิ ว่าทำไมไม่ดำเนินการ แต่เขาป้องกันไว้แล้ว คุณไปจำขี้ปากเขา เพราะถ้าคุณบอกว่าถ้าเอากัญชาไม่เปิดเสรี กลับไปเป็นยาเสพติด คุณรู้สึกว่าคุณเท่ใช่ไหม เพราะยังมีประชาชนบางส่วนที่ด้อยปัญญาเหมือนคุณ

คุณปิยณี ผมกับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และหลายคน ต่อสู้เรื่องกัญชา ไม่ใช่เฉพาะเรื่องกัญชา เรื่องฟ้าทะลายโจรด้วย สมุนไพรไทย ต่อสู้มาตั้งแต่ ... คุณจำใส่กะโหลกคุณนะ เพื่อเอาไปใส่กะโหลกชูวิทย์ด้วย ตั้งแต่พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้มาเน้นนโยบายกัญชา สู้กันมานานแล้ว ถ้าคุณติดตามรายการผม คุณจะรู้ว่าภรรยาผม ช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้น รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เอกชน ผมก็ไปขอความกรุณาจากท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนนั้นว่าขอเอาน้ำมันกัญชามารักษาภรรยาผม ท่านก็หลับตาข้างนึ่ง แล้วก็บอกว่าคุณสนธิทำไปเลย แต่ไม่ต้องมาบอกผม ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ก็แล้วกัน ภรรยาผมผ่านช่วงสุดท้ายของชีวิตไปได้อย่างสงบเพราะน้ำมันกัญชา

ท่านผู้ชมครับ และอีกอย่างการที่คุณปิยณีบอกว่าเรื่องข่าวอเมริกาเข้ามาแทรกแซงไทย เป็นข่าวปั่น เป็นเรื่องติ๊งต๊อง ผมไม่กล้าว่าคุณโง่แล้วอวดฉลาด แต่คุณเป็นเพียงแต่ไม่ได้ศึกษาที่มาที่ไป ข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่มีปรากฏอยู่มากมาย คุณไม่มีวิสัยทัศน์ของสื่อมวลชนเลยแม้แต่นิดเดียว


ที่สำคัญ ที่คุณวิพากษ์วิจารณ์ TOP NEWS คุรไปด้อยค่าเขาในเชิงบูลลี่เขา ดูแคลนเขา ผมรับคุณไม่ได้ คุณวิเศษมาจากไหน คุณปิยณี นี่ วันนี้ผมควบคุมอารมณ์ไว้เยอะนะ คุณทำเรื่องเรือหายแบบนี้ออกมาได้อย่างไร ถ้าคุณไม่เข้าใจคำว่าเรือหาย คุณไปถามแฟนพันธุ์แท้ของผมแล้วกัน

คนทำสื่อเอง แม้กระทั่งคุณ จะมีรสนิยมความชอบในเรื่องการเมืองที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะคุณปิยณี ผมก็ไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ อ้างว่าตัวเองปกป้องสถาบัน แต่ผมเห็นว่า 8-9 ปีที่ผ่านมา พวกต่อต้านสถาบันกลับเพิ่มมากขึ้น นี่คือข้อผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ และผมเป็นคนที่วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ มากที่สุด ไม่ใช่คุณหรอก เพราะผมพูดด้วยเหตุด้วยผล จนกระทั่ง IO ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้ามาตอบโต้ผมเลยแม้แต่นิดเดียว และผมก็บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มาตั้ง 8-9 ปี พอได้แล้ว

กรณี TOP NEWS นั้น ถ้าเขารัก พล.อ.ประยุทธ์ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ผิดเช่นกัน เพราะการนำเสนอข่าวของเขา เขาก็มีข้อมูลฝั่งของเขาออกมาสนับสนุน ไม่ได้พูดลอยๆ นี่คุณพูดลอยๆ ด่า TOP NEWS เขา

ในหลายๆ ประเด็นข่าว TOP NEWS ที่คุณอัญชะลี ไพรีรัก คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล คุณธีระ ธัญไพบูลย์ และอื่นๆ คุณสันติสุข มะโรงศรี ในช่องเขา นำออกมา เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยไม่น้อย ผมถามคุณปิยณี แล้วคุณช่วยไปถามนายสรยุทธด้วย ว่าช่อง 3 ที่คุณอยู่ เคยทำข่าวเจาะอะไรบ้างไหมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ นอกจากเอาข้อความของกระแสข่าวรายวันมา ประดิษฐ์ประดอยวาทกรรมต่างๆ เช่น กรี๊ดเลย กรี๊ดเลย กรี๊ดเลย ทำได้แค่นี้เอง พวกคุณเคยทำข่าวเจาะเรื่องการคอร์รัปชันบ้างไหม ? ไม่เคย คุณสรยุทธก็ไม่เคย พวกคุณเคยทำข่าวเจาะหลายๆ เรื่องไหมที่เกิดขึ้น ที่ช่อง TOP NEWS เขาทำมา คุณสันติสุข มะโรงศรี เขาทำมา คุณก็ไม่เคย ทำได้อย่างเดียวคือแชร์คำพูดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมา ทำราวกับว่าคุณสรยุทธนั้นเป็นโฆษกส่วนตัวของนายชูวิทย์ แล้วก็คุณด้วย สวนสาธารณะที่เป็นสาธารณสมบัติหรือไม่ คุณสรยุทธเงียบกริบ ไม่กล้าพูดสักคำ


ที่พวกคุณออกมาแว้งกัดคนโน้นคนนี้ ด้อยค่าคนโน้นคนนี้ พวกคุณลืมไปแล้วว่าหนึ่งในเจ้านายของคุณ ชื่อ ประชา มาลีนนท์ ตระกูลมาลีนนท์ ซึ่งเป็นเจ้าของช่อง 3 หนีคดีรถและเรือดับเพลิง อยู่ต่างประเทศ ตอนนี้สิบปีแล้ว เพราะว่าศาลฎีกาได้พิพากษาแล้วว่าให้จำคุกนายประชา มาลีนนท์ ข้อหารับผลประโยชน์จากการประมูลเรือดับเพลิงและคดีรถดับเพลิง คุณปิยณี คุณสรยุทธ ผมไม่เคยเห็นคุณรายงานข่าวความคืบหน้าตรงนี้เลยว่าคุณประชาอยู่ที่ไหน ประชาอยู่ที่ไหน และความเสียหายหกพันกว่าล้านบาท จะชดใช้บ้านเมืองอย่างไร

ประชา มาลีนนท์
คุณประวิทย์ มาลีนนท์ เขาเป็นเพื่อนนักเรียนอัสสัมชัญศรีราชา รุ่นเดียวกับผม ผมเข้าใจดี นั่นก็คือน้องชายเขา คุณปิยณี และคุณสรยุทธ คุณก็คือลูกจ้างเขานะ ถ้าคุณยังไม่หยุดเรื่องเละเทะ เรื่องเฮงซวยแบบนี้ ผมจะประจานตระกูลมาลีนนท์ เรื่องประชา มาลีนนท์ ทุกครั้งที่ผมออกรายการ และเขาโทรศัพท์มาถามผม ซึ่งผมรู้จักคุณสุรินทร์ดี ผมจะบอกว่า ก็เพราะว่าคุณมีนักข่าวปากหมาอยู่บางคน เที่ยวพูดเรื่องที่โกหกพกลม เล่นวาทกรรม นึกว่าตัวเองเท่ ผมจะด่าทุกอาทิตย์ แล้วคุณคิดว่าพวกตระกูลมาลีนนท์เขามีความสุขไหมที่โดนผมด่า คุณสุรินทร์ คุณมีความสุขไหม เฮ้ย คุณดูแลลูกน้องของคุณหน่อยสิ คุณสุรินทร์ ไหนว่าช่องคุณเป็นช่องที่เน้นบันเทิงไง ผมจะรื้อฟื้นความจำให้คุณดู


สิบปีที่แล้ว 10 กันยายน 2556 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุกนายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยฯ มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นเวลา 12 และ 10 ปี ตามลำดับ มีความผิดมาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,681 ล้านบาท วันนั้นทั้งคู่ นายประชา และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ หนีคำพิพากษา หลบหนีไปต่างประเทศ คุณประชามีเงินเยอะ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ยุโรป ในประเทศซึ่งไม่มีสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน


คุณว่าข่าวนี้เป็นประโยชน์กับประชาชนหรือเปล่า ? เป็น แล้วผมไม่ได้มโนพูด ผมเอาข้อมูลมา ผมเป็นเจ้าแห่งข้อมูล เอาข้อมูลมายืนยันสิ่งที่ผมพูด ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทำไมคุณปิยณีหรือคุณสรยุทธไม่รายงานบ้าง ผมไม่แน่ใจ ทีเรื่องคนอื่นขยันนักขยันหนา แดกดันคนโน้นคนนี้ แต่เรื่องความชั่วของพรรคพวกตัวเอง เจ้านายตัวเอง ซึ่งเป็นเจ้าของช่อง 3 พวกคุณกลับเงียบกริบ!

กัญชา กับ พิธา คนขี้ลืม

ท่านผู้ชมครับ ผมจะรื้อฟื้นความทรงจำในเรื่องกัญชาให้กับคุณพิธา ว่าที่นายกฯ คนขี้ลืม และเป็นคนโกหกพกลมหลายๆ เรื่อง เพียงเพื่อให้ตัวเองนั้นได้เป็นนายกฯ สมหวัง

ท่านผู้ชมครับ วันนี้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกฯ คนหนุ่ม พูดแล้วพูดอีก ยืนยันว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้ได้ ทั้งๆ ที่บันทึกความเข้าใจร่วม หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง 8 พรรค ซึ่งคุณพิธาเป็นแกนนำ ในข้อที่ 16 ระบุว่า จะนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดให้โทษ โดยการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข


ท่านผู้ชมครับ และพวกติ่งคุณพิธา หรือพวกคอนด้อมส้ม ผมเคยเตือนคุณพิธาไปแล้วในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ตอนที่ 189 ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม ผมบอกคุณพิธาว่า คุณจะโกหกพ่อคุณ แม่คุณ พี่คุณ น้องคุณ หรืออดีตเมียคุณ กี่เรื่องก็แล้วแต่ แต่คุณอย่าโกหกประชาชน เพราะการโกหกประชาชนนั้นเป็นบาปกรรมที่ใหญ่หลวง แต่คุณไม่สนใจหรอก เพราะคุณเป็นคนรุ่นใหม่ คุณปลุกปั่นให้เด็กรุ่นใหม่ไม่ต้องเคารพพ่อแม่ ไม่ต้องมีความกตัญญูกตเวที เพราะฉะนั้นแล้ว คุณก็อาจจะมองว่าการโกหกประชาชนสำหรับคุณแล้ว คุณไม่เชื่อหรอกว่าเวรกรรมมีจริง

วันนั้นผมยกตัวอย่างถึงการพูดกลับไปกลับมาของคุณหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยกเลิก/แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรื่องครอบครัวคุณ ข้อเท็จจริงในปี 2549 เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางกลับมาร่วมงานศพของพ่อคุณ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความเห็นและนโยบายกัญชา คุณพูดเอาไว้เมื่อปี 2562 สี่ปีเอง คุณฉลาด ถ้าไม่ฉลาดคุณจะเรียนจบฮาร์วาร์ดได้อย่างไร แต่สี่ปีเอง ทำไมคุณถึงกลายเป็นคนที่มีโรคอัลไซเมอร์ จำอะไรไม่ได้เลย คุณพูดกลับไปกลับมาอย่างไร คุณพิธา ?


วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ก่อนเลือกตั้ง คุณพิธาไปพูดกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตอนหาเสียงที่ตลาดนกฮูก จังหวัดนนทบุรี ถึงจุดยืนเกี่ยวกับประเด็นกัญชา ว่า "ไม่เอากัญชาเสรี ไม่เอากัญชาเสรีสุดโต่ง ไม่เอากัญชาเสรีสุญญากาศ เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แล้วควบคุมให้ประโยชน์มากกว่าให้โทษ ชัดพอไหมครับพี่" นี่คือคำพูดที่คุณพูดกับชูวิทย์ คุณกลัวจะเสียคะแนนใช่ไหม คุณโดนชูวิทย์จับยัดปากคุณ ทำให้คุณเกิดอาการอัลไซเมอร์ทันที คุณลืมไปแล้วหรือ เมื่อสี่ปีที่แล้วคุณทำอะไรบ้าง วันนี้ผมมีหน้าที่มาเตือนสติคุณ เตือนความจำ เอาหลักฐานมาให้คุณ แล้วให้พวกคอนด้อมส้ม ติ่งพวกคุณที่ลุ่มหลง หลงใหล คลั่งไคล้คุณอย่างบ้าคลั่ง

คุณพอใจคำพูดของนายชูวิทย์ว่า "คุณพิธา ผมสนับสนุนพรรคก้าวไกล" แล้วคุณไปดูคุณพิธาวันนี้ คนในพรรคก้าวไกลหลายคน รวมทั้งทนายอานนท์ ตั้งข้อสงสัยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ คนที่คุณต้องการจะเอาคำพูดของเขาเพื่อให้ได้คะแนนเสียง หลายคนตั้งข้อสงสัยนายชูวิทย์ ผมไม่พูดถึงรายละเอียดคนๆ นี้ เพราะคนๆ นี้่ไม่มีราคา

แต่ถ้าคุณย้อนหลังกลับไปในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว สี่ปีก่อน คุณพิธา คุณจำได้ไหมว่าคุณพูดอะไรไว้ ถ้าคุณจำไม่ได้ ผมจะทบทวนความทรงจำให้ฟัง เผื่อมันจะกระตุกต่อมคิด กระตุกคุณธรรม จริยธรรม ที่ไม่ได้เกิดจากการเจือปนด้วยอคติ ความหลงตัวเอง ความอยากเอาชนะคะคานในการเมืองของคุณได้บ้าง

23 กุมภาพันธ์ 2562 คุณพิธา ข้อมูลผมมีเป๊ะๆๆ คุณพิธากล่าวปราศรัยเรื่องนโยบายกัญชา ในงานปิคนิคอนาคตใหม่ที่สวนเบญจกิติ มันมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ต่อสาธารณะ เนื้อหาคำปราศรัยของคุณดังกล่าวสรุปได้ว่า อันดับแรกเราต้องคิดก่อนว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป อ้าว ตายล่ะ แล้วที่คุณบอกว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นี่เท่ากับว่าคุณพิธาด่าไอ้คุณพิธา คุณพิธา 2566 ด่าไอ้พิธา 2562 ใช่ไหมที่พูดเรื่องนี้


วิธีคิดของผมเกี่ยวกับกัญชาก็คือ ประเทศไทยจะต้องเป็น Medical Hub แล้วก็เป็น Tourism Hub เกี่ยวกับกัญชาอันดังหนึ่งของเอเชียให้ได้ นั่นคือปลายทางที่เราต้องการ

คุณพูดต่อ "ประเทศไทยจะต้องเป็นหนึ่งในห้าผู้นำเกี่ยวกับเรื่องกัญชา มีออสเตรเลีย แคนาดา อเมริกา เนเธอร์แลนด์ และอิสราเอล ต้องมีไทยอยู่ในนั้นด้วย เพราะกัญชาไทยดีที่สุดในโลกแน่นอนในเรื่องของศักยภาพ เรามีความจำเป็นจะต้องบริหารมันให้ถูกต้อง เมื่อปลายทางเราคิดไว้แล้วว่าเราจะเป็นผู้นำในเอเชีย จะเป็นหนึ่งในห้าของโลก เราต้องย้อนกลับมาดูการแก้ปัญหาของเรา แน่นอนที่สุด วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีการปลดล็อกไปเรียบร้อยแล้ว เราต้องทำให้กัญชาไม่เสียของอีกต่อไป ในเรื่องของระยะสั้น มีความจำเป็นมากที่ต้องกระจายโอกาสกัญชาทั้งสองฝั่ง ฝั่งแรกคือผู้ป่วยที่เป็นโรคลมชัก ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ที่เป็นโรคพาร์กินสัน โรคไต คนที่อาจจะเจ็บป่วยจากโรคมะเร็ง ผู้ป่วยเหล่านี้มีความจำเป็นอยากหาวิธีรักษาทางเลือกมากกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน นี่คือสิ่งแรกที่เราต้องเข้าไปแก้ให้เร็วที่สุด เพราะเรื่องความเจ็บปวด เรื่องของชีวิต เรื่องของศีลธรรม บางทีมันสำคัญกว่ากฎหมาย มีความจำเป็นจะต้องเข้าไปกระจายโอกาสเรื่องพวกนี้"

วันนั้นคุณพิธา คุณพูดเองว่า ศีลธรรมบางทีสำคัญกว่ากฎหมาย แล้วคุณก็หาเสียงกับคนที่ใช้กัญชาเพื่อการรักษา คุณหาเสียง นอกจากนี้ คุณยังเล่าว่าคุณเดินสายไปเจอแม่ผู้ป่วยลมชักที่ต้องลักลอบสั่งกัญชา CBD จากอเมริกาขวดละสี่พันกว่าบาทมารักษาลูก ยิ่งกว่านั้น คุณพิธา คุณยอมรับไหมว่าคุณเองก็เป็นโรคลมชัก และคุณก็ใช้น้ำมัน CBD ของกัญชา รักษาเหมือนกัน คุณพิธาบอกว่า ตอนที่ผมอยู่อเมริกา เรื่องการที่มันเป็นสันทนาการ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย เพราะเขากำหนดไว้แล้วว่า 1 จอยท์ เท่ากับ 1 ออนซ์ / 30 กรัม อายุต้อง 21 ปีขึ้นไป ห้ามขับรถ ห้ามสูบในที่สาธารณะ ต้องอยู่ในพื้นที่ที่เป็นที่จำกัดของตัวเอง มันไม่ได้ต่างอะไรกับกฎระเบียบข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยเลยแม้แต่นิดเดียว

คุณพูดต่อ "ถามถึงสันทนาการไหม อาจจะเร็วเกินไปที่จะคิดถึงตรงนั้น ผมคิดว่าในระยะกลางเราต้องมีระบบ Sandbox ที่ใช้ประโยชน์ ทำให้กลายเป็น Medical Hub ให้กลายเป็น Tourism Hub แล้วให้ดูซิว่าในบริบทไทย กัญชาสันทนาการเหมาะสมหรือไม่ ใช้ตรงนั้นเป็นตัวศึกษา จะได้ไม่ต้องมาโต้แย้งกันในสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง"

ใครบอกว่าคุณพิธาสนับสนุนเฉพาะกัญชาทางการแพทย์ ไม่ใช่ หลายคนที่จะปกป้องพิธา บอกว่าคุณพิธาสนับสนุนเฉพาะกัญชาใช้ทางการแพทย์ คุณคงได้ยินชัดเจนถึงคำว่า "กัญชาสันทนาการ" และ "Tourism Hub" แล้วนะครับ ว่าคุณพิธามีจุดยืนเห็นด้วย ไม่ได้คัดค้าน

ในรายการตอนนั้นผมถามคุณว่า คุณพิธา จำได้บ้างไหมว่าคุณเคยพูดแบบนี้ หรือเวลาผ่านไปแค่ 4 ปี คนอายุสี่สิบกว่าอย่างคุณลืมไปหมดแล้ว หรือว่าโลกลมชักของคุณหายแล้ว แต่ดันเกิดมาเป็นโรคอัลไซเมอร์ยุคใหม่ขึ้นมา นี่ขนาดคุณยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ยังไม่ได้เป็นนายกฯ คุณยังความจำสั้นขนาดนี้ มาตอนนี้คุณทะลึ่ง และคุณก็ทะลึ่งจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

ผมพูดยังไม่ทันขาดคำเลย ก็มีคนหนึ่งออกมาช่วยผมเตือนความจำคุณพิธาอีกคนหนึ่ง คนๆ นี้เป็นปูชนียบุคคลด้านกัญชาของเมืองไทยด้วย นั่นคือ อาจารย์เดชา ศิริภัทร


ศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญหมอชาวบ้าน ปราชญ์ชาวนา ที่ผลักดันเรื่องชีววิถี เกษตรอินทรีย์ ข้าวปลอดสารเคมี รวมทั้งสมุนไพรกัญชา มาต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปี คุณหมอเดชาอดรนทนไม่ได้ ออกมาโพสต์เรื่องราวเตือนความทรงจำคุณพิธาไว้

คุณพิธาครับ สูดหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ ทบทวนความจำหน่อย อาจารย์เดชา บอกว่า เมื่อสี่ปีที่แล้ว เมื่อครั้งเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ คุณพิธาได้เคยร่วมกิจกรรมที่ชื่อว่า "เดินเพื่อผู้ป่วย กัญชารักษาโรค" ระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม - 9 มิถุนายน 2562 จากวัดป่าวชิรโพธิญาณ จังหวัดพิจิตร ไปยังวัดบางปลาหมอ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจุดประสงค์ของการเดินนั้นเพื่อรณรงค์ให้กัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ


คุณพิธาครับ ระหว่างที่คุณได้เดินรณรงค์ร่วมกัน คุณพิธาได้ตอบคำถามผู้มาสัมภาษณ์ คุณพิธาบอกว่า "ปัญหาที่ทำให้กัญชายังเป็นยาเสพติดอยู่ในขณะนั้น คือมายาคติเก่าๆ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็มีคนได้ มีคนเสีย อย่างที่รัฐโคโลราโด ยอดขายเบียร์ กับยอดขายบุหรี่ น้อยกว่ายอดขายกัญชาไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คนมอมเมากับเหล้า กับบุหรี่มานาน พอมีอะไรที่เป็นสมุนไพรกว่า ที่มันไม่ติด หยุดเมื่อไรก็หยุดได้ถ้าไม่อยากจะใช้แล้ว ติดยากกว่าบุหรี่เยอะ ยากกว่ากาแฟอีก แต่เมื่อมีคนที่ได้ ก็มีคนที่เสีย จึงทำให้มีแรงต้านอยู่"


เห็นไหม คุณเองยังยอมรับเลยว่าติดกัญชายังติดยากกว่าติดบุหรี่ ติดเหล้า แม้กระทั่งติดกาแฟ

นอกจากนี้ คุณพิธายังบอกว่าในฐานะที่คุณเป็นผู้ป่วยโรคลมชัก คุณบอกว่าคุณได้ประโยชน์จากการใช้กัญชารักษา ก็จะรณรงค์สร้างความเข้าใจ และบอกต่อให้คนในสังคมรับรู้ ในฐานะผู้แทนราษฎรด้วย ก็จะผลักดันทั้งนอกสภาฯ อย่างที่มาร่วมเดิน และในสภาฯ ก็จะผลักดันผ่านกลไกกรรมาธิการ รวมทั้งการตั้งกระทู้ถาม รวมทั้งคุณบอกว่า มีความจำเป็นต้องผลักดันกัญชา จากที่เคยได้รับอนุญาตให้ใช้ในวงจำกัดในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ต้องทำให้เสรีขึ้น

ไม่ทราบว่าคุณปิยณีฟังอยู่หรือเปล่า คุณพิธาเป็นคนพูดว่าต้องทำให้กัญชาเสรีขึ้น แล้วไปจำกัดในกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงแทน เป็นการพลิกกระดานจากขาวในดำ ให้เป็นดำในขาว โอ้! เล่นคำอีก ดูสิครับ ดูรูปที่คุณพิธายืนปราศรัยอยู่เมื่อสี่ปีที่แล้ว


 ในขณะที่ความทรงจำยังดีอยู่นะตอนนั้น แต่สี่ปีผ่านไป ... ความจริงคุณน่าจะเป็นตัวอย่างในการวิจัยเรื่องโรคอัลไซเมอร์นะ ว่าทำไมคนที่มีความจำแม่นยำเมื่อสี่ปีที่แล้ว (2562) พอมาถึงปี 2566 สี่ปี อายุแค่ 42 เรียนถึงฮาร์วาร์ด ลืมหมดเลยทุกอย่างที่เคยพูดเอาไว้ ที่เคยทำเอาไว้ มันเกิดอะไรขึ้น ?

ประเด็นครับ คุณพิธา สี่ปีก่อน ปลายพฤษภาคม ต้นมิถุนายน คุณเป็น ส.ส. ฝ่ายค้าน ยังไปร่วมเดินรณรงค์กับหมอเดชา ไปให้สัมภาษณ์ว่าจะเอากัญชาออกจากยาเสพติด แต่พอถึงวันนี้ คุณกำลังจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คุณกลับคำ ให้กัญชากลายเป็นตัวร้ายของสังคม ทุกคนงงกันหมด คุณพิธา อาจารย์เดชา ผมสงสารอาจารย์เดชา อายุก็มากแล้ว วัยเจ็ดสิบกว่า ตอนนั้นคุณพิธา คุณไปอาศัยเขาเพื่อสร้างกระแส คือเขาทั้งงงและสงสัย และเสียใจว่าทำไมคุณพิธาถึงพลิกลิ้น เปลี่ยนแปลงจุดยืนไปได้รวดเร็วขนาดนี้


คุณพิธาครับ มิหนำซ้ำ ขณะที่ต่อต้านกัญชา คุณพูดเองว่ากัญชาติดยากกว่าเบียร์ เหล้า กาแฟ แต่พรรคก้าวไกลที่คุณเป็นหัวหน้า กลับเดินหน้าเรื่อง "สุราก้าวหน้า" มันย้อนแย้งหรือเปล่า คุณบอกเองเลยว่ากัญชาติดยากกว่าเบียร์ เหล้า และกาแฟ แต่พรรคของคุณดันทะลึ่งไปผลักดันเรื่องสุราก้าวหน้า ก็คุณพูดเองว่าติดเหล้าติดง่ายกว่า แล้วคุณก็ไปทำสุราก้าวหน้า ทำให้คนติดเหล้ามากขึ้น นี่คุณเป็นนักการเมืองจากโลกไหนกันแน่ ไม่น่าจะอยู่ในโลกมนุษย์

สุราก้าวหน้าเป็นการมอมเมาประชาชนชัดๆ แต่คุณอ้างประเด็นรายได้เกษตรกร การท่องเที่ยว การกระจายรายได้ มาบังหน้า ทั้งๆ ที่จริงแล้ว เหล้า เบียร์ สุรา มีโทษมหันต์กว่ากัญชามากมาย ยังไม่มีประโยชน์ทางการแพทย์ใดๆ ด้วย ด้วยเหตุนี้ คุณพิธาครับ วันศุกร์ที่แล้ว นี่ผมเอาโปสเตอร์ที่คุณโฆษณา ว่า "หัวใจสุราก้าวหน้า ไม่ใช่แค่เรื่องสุรา แต่คือ ..." ขึ้นดูว่าคุณพูดอย่างไร


ศุกร์ที่แล้ว 25 พฤษภาคม 2566 อาจารย์เดชา หมอพื้นบ้าน ผู้บุกเบิกทำน้ำมันกัญชารักษาโรคช่วยเหลือประชาชน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เตือนสติคุณพิธา จาก ส.ส. ฝ่ายค้าน ทุกวันนี้กลายเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หมอเดชา บอกว่า "จำได้ว่าคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็มาร่วมเดินรณรงค์กับผม ได้ปราศรัยกับผู้ร่วมเดินว่า เป็นหนี้บุญคุณกัญชา ทำให้ผมหายจากโรคลมชัก" เนรคุณน้ำมันกัญชา CBD นี่คุณเนรคุณนะ "จึงเห็นด้วยกับการเดินรณรงค์ครั้งนี้ แต่ถ้าปีนี้คุณพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีก ผมก็จะเดินรณรงค์เพื่อเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติดอีกครั้ง และผมเชื่อว่าครั้งนี้คุณพิธาคงไม่มาร่วมเดินกับผมอีกอย่างแน่นอน แต่ประชาชนคนไทยจะมาร่วมเดินกับผม และประชาชนที่เดินคงจะมีมากกว่าปี 2562 อีกหลายเท่า ผมเชื่ออย่างนั้น"

หมอเดชาจำได้แม่น แต่ไม่รู้ว่าคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยังจำคำพูดตัวเองได้ไหมเมื่อสี่ปีก่อน คุณบอกว่ากัญชาติดยากกว่ากาแฟ แต่ที่มีคนต่อต้านเพราะยังมีมายาคติเก่าๆ และมีคนเสียประโยชน์ คุณพิธา คุณรู้หรือเปล่าว่าใครเสียประโยชน์ ? คุณบอกว่าคุณจะเดินหน้ารณรงค์ทั้งในฐานะผู้ป่วยลมชักที่ใช้กัญชารักษา และในฐานะ ส.ส. คุณพิธา นอกจากคุณจะเปิดประเทศในนโยบายพรรคก้าวไกล เพื่อให้อเมริกาเข้ามา โดยที่คุณชักชวนให้เข้ามา คุณลืมไปแล้วหรือว่าบริษัทยาต่างประเทศมันจดสิทธิบัตรยาที่ใช้กัญชาอยู่ในขณะนี้ เมื่อคุณใช้กัญชาเป็นยาเสพติดแล้ว อเมริกาก็จะบอกให้คุณเปิดประเทศให้กับบริษัทยาที่มีส่วนผสมของกัญชา เพื่อเอามาให้คนไทยรักษา ทั้งๆ ที่คนไทยสามารถจะรักษา หมอไทย แพทย์แผนโบราณ สามารถจะรักษาด้วย CBD กลายเป็นว่าคุณเปิดโอกาสให้คนไทยต้องรักษาด้วยราคาที่แพง

คุณจำได้ไหม คุณเป็นคนพูดเองว่ามีแม่ที่มีลูกเป็นลมชัก ต้องไปซื้อ CBD มา ขวดเล็กนิดเดียวสี่พันบาท นี่คุณกำลังจะซ้ำรอยแล้ว สร้างความทุกข์เข็ญ สร้างเวรสร้างกรรมให้กับประชาชนที่ต้องใช้กัญชา

ตอนนั้นคุณพูดเหมือนกับที่หมอเดชา หรือผม หรืออาจารย์ปานเทพพูด ต่างกันตรงที่ว่า วันนั้นกับวันนี้ผมพูดเหมือนเดิม ในขณะที่คุณเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งๆ ที่คุณควรจะเป็นคนที่ยืนหยัดเรื่องกัญชามากที่สุด เพราะมีประสบการณ์ตรงในการใช้รักษาโรคลมชักของคุณเอง การที่คุณรู้ดีแก่ใจว่ากัญชาสามารถรักษาโรคได้ แต่คุณกลับพูดกลับไปกลับมาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง คุณพิธาครับ คุณเป็นคนที่โคตรอำมหิตเลย อำมหิต โกหกตอแหล แล้วคนอย่างคุณจะไปเป็นนายกฯ แล้วทำไมพวกติ่งคุณ พวกคอนด้อมส้ม หรือพวกติ่งพิธา ถึงบอกว่า ให้โอกาสเขาทำงานหน่อย ก็มันโกหกตอแหลขนาดนี้แล้วผมจะให้โอกาสได้อย่างไร คนไม่มีจริยธรรมในตัวเอง ผมจะให้โอกาสได้อย่างไร

ผมถามว่า แม้แต่เรื่องกัญชาคุณยังไม่มีจุดยืน พลิกลิ้นไปพลิกลิ้นมา พวกที่ชอบคุณก็แห่ตามกันมา ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่นิดเดียวที่จะใฝ่หาความรู้ ทำความเข้าใจ หรือเกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น

คุณพิธาครับ เรื่องกัญชาแค่นี้คุณยังโกหกได้แบบหน้าด้านๆ หน้าตาย แล้วเรื่องอื่นๆ ประชาชนจะเชื่อคุณได้อย่างไร ผมจะเตือนอีกครั้งหนึ่งนะ ผมพูดคำเดิม คุณจะโกหกพ่อแม่พี่น้อง ลูกเมียคุณกี่เรื่องก็แล้วแต่ คุณอย่าโกหกประชาชน เพราะการโกหกประชาชนนั้นจะเป็นบาปกรรมที่ใหญ่หลวงมากๆ

เมื่อไทยจะกลายเป็นที่ฝึกงานว่าที่ รมว.คลัง


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามันมีบทสัมภาษณ์ชิ้นหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องที่พูดกันในหมู่ประชาชน นักธุรกิจ นักลงทุน ในตลาดเงินและตลาดทุน เป็นบทสัมภาษณ์ของคุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ที่ได้รับการเสนอตัวให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นการสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ ลงทุนแมน (longtunman) และ BillionMoney ที่ผ่านมา คุณศิริกัญญา หรือชื่อเล่นว่า คุณไหม อายุ 42 ปี สมัยที่เป็น ส.ส. ฝ่ายค้าน ได้รับคำชื่นชมมาก ผมเองก็ยังชื่นชมเธอเลย ซึ่งถ้าท่านผู้ชมไปพลิกดูประวัติของเธอแล้ว เธอเป็น ส.ส. รุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ค่อนข้างดี เพราะเธอเรียนจบเศรษฐศาสตร์โดยตรง ถึงแม้ว่าเศรษฐศาสตร์ที่เธอเรียนมานั้น เป็นเศรษฐศาสตร์ทางแนวตะวันตก เธอจบทั้งปริญญาตรี ซึ่งจบที่ธรรมศาสตร์ และปริญญาโท เธอจบที่มหาวิทยาลัยตูลูส ที่ฝรั่งเศส

เธอได้เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ อันดับ 3 พรรคก้าวไกล เมื่อพรรคก้าวไกลได้รับเลือกเข้ามาเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงอันดับหนึ่ง เธอก็เลยถูกชูให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการฯ โดยปริยาย น่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ที่เป็นผู้หญิงคนแรก


ท่านผู้ชมครับ เรื่องของเรื่องที่เอามาพูดวันนี้ ท่านผู้ชม ผมไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์หรอก คนที่เป็นผู้หญิง เป็นว่าการฯ แล้วอายุแค่ 42 ปี ผมเห็นด้วยว่าอายุเธอ วัยเธอ มีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ แต่ที่เป็นห่วงก็คือว่า จากการให้สัมภาษณ์ของเธอ และแนวคิดของเธอนั้น ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าเธอเหมาะที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือเปล่า สำหรับผมแล้ว ส่วนตัว เธอเหมาะที่จะเป็นประธานที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของท่านนายกรัฐมนตรี คือคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มากกว่า

เรื่องของเรื่องทั้งหมดนี้ พรรคก้าวไกล ก่อนการเลือกตั้ง ก็เหมือนกับพรรคการเมืองทุกพรรค นำเสนอเศรษฐกิจแบบแนวประชานิยม เน้นนโยบายแก้ปากท้องประชาชน อะไรบ้างล่ะ ? ยกตัวอย่าง ขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท มีสูตรขึ้นอัตโนมัติทุกปี นโยบายค่าแรง ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เท่ากับทำงาน 5 วัน คือวันละ 8 ชั่วโมง โดยถ้าเกิน นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลา หรือ OT แจกเงินเด็กเล็ก 1,200 บาททุกเดือน แจกเงินผู้สูงอายุ 3,000 บาททุกเดือน ให้สิทธิลาคลอดถึง 6 เดือน ลดค่าไฟทันที 70 สตางค์ต่อหน่วย รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด น้ำประปาดื่มได้


ทั้งหมดนี้ก็คือนโยบายที่คุณศิริกัญญาอ้างว่าเป็นนโยบายสวัสดิการก้าวหน้า ตั้งแต่เกิดจนตาย เธอคำนวณมาแล้วว่าต้องมีงบประมาณราวปีละ 650,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีประการหนึ่ง พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ เขามี Think Tank ของตัวเอง เรียกว่า "ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต" ไม่ได้ทำนโยบายเหมือนพรรคการเมืองรุ่นเก่าทั่วไป แบบสักแต่ว่าใช้เงินภาษี ร่างนโยบายประชานิยมขึ้นมาลอยๆ โดยไม่ได้ระบุที่มาของเงินที่จะใช้ คุณศิริกัญญา ได้แจกแจงว่าเงิน 650,000 ล้านบาท จะเอามาจากไหนบ้าง เธอบอกว่า 50,000 ล้าน ลดขนาดกองทัพ เรียกคืนธุรกิจกองทัพ 30,000 ล้าน ลดงบกลาง 60,000 ล้าน มาจากการเก็บภาษีความมั่งคั่ง ผู้ที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 300 ล้านบาท จะเก็บภาษี 0.5 เปอร์เซ็นต์ 150,000 ล้าน มาจากการขึ้นภาษีที่ดินรายแปลงและรวมแปลง 92,000 ล้านบาท มาจากการขึ้นภาษีนิติบุคคลทุนใหญ่ 50,000 ล้านบาท จากนโยบายหวยบนดิน นอกจากนี้ เธอยังมีนโยบายเก็บภาษีที่เกี่ยวพันกับตลาดหุ้น ตลาดทุนอีกหลายประการ

ความเห็นของเธอและนโยบายของเธอนั้นทำให้ตลาดทุนซวนเซมาก ก้าวไกลชนะเลือกตั้ง แต่หุ้นร่วงระนาว และคำให้สัมภาษณ์ของเธอนั้นมีผลลบต่อตลาดทุน หลายๆ อันที่คุณศิริกัญญาเสนออกมานั้น เป็นการเปิดประตูขึ้นมาสำหรับความคิดแบบใหม่ๆ แต่การเปิดประตูนั้น คุณศิริกัญญายังขาดประสบการณ์ในการทำงาน ทำให้เธอไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา ปรับทันทีเลยค่าแรง 450 บาท ก็เลยทำให้สภาอุตสาหกรรมฯ ต้องโวยวายออกมา แล้วทุกคนก็ยืนยันว่า ปรับเมื่อไรก็จะย้ายการลงทุนออกจากประเทศไทยทันที อันเป็นผลทำให้ในที่สุดแล้ว หลังจากที่เธอโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสภาอุตสาหกรรมฯ หลายๆ ฝ่าย และตลอดจนนักลงทุน ทำให้เธอต้องถอยออกมาว่าไม่ใช่ 450 บาทแล้ว


ท่านผู้ชมครับ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ตกไปต่ำสุด จาก 1,500 กว่า 1,540-1,490 จุด เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว คุณศิริกัญญาไปให้สัมภาษณ์กับสื่อในหัวข้อ "ทลายทุนผูกขาด และการเก็บภาษีความมั่งคั่ง" เธอเชื่อมโยงถึงตลาดทุน ค่าแรง ตลาดแรงงาน การแก้สัญญาสัมปทาน การเก็บภาษีต่างๆ ทำให้นักธุรกิจหรือนักลงทุนรายใหญ่ รายย่อย นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนอีกจำนวนมาก ผมยืนยันนะครับ จำนวนมากเลย ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน ตลาดเงิน และธุรกิจทั้งหลาย เริ่มเกิดความไม่เชื่อมั่นมาเป็นร้อยเท่าทวีคูณ หลายคนพูดชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายเศรษฐกิจที่สุดโต่ง ซึ่งก็เป็นปกติธรรมดาของนโยบายพรรคก้าวไกลที่สุดโต่งทุกเรื่องเลย โดยไม่คำนึงถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ ว่าจะทำแบบนี้ ทำตรงนี้ก่อนได้ไหม ทานข้าวก็ควรจะทานทีละคำ

นโยบายพรรคก้าวไกล รวมถึงนโยบายการคลังของคุณศิริกัญญา ก็คือว่า ถ้าจะทานข้าวไม่ต้องทานทีละคำ เอาทั้งหม้อข้าวยัดใส่ปากเข้าไปเลย หลายคนเปรียบเปรยว่าพรรคก้าวไกลขายความเป็นประชาธิปไตย แต่นโยบายกลับเป็นคอมมิวนิสต์


ท่านผู้ชมครับ ผมเชื่อว่าคนจำนวนมาก หรืออาจจะคนส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำ เลือกนโยบายพรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้อ่านนโยบายเศรษฐกิจอย่างละเอียดถี่ถ้วน หลายคนเลือกพรรคก้าวไกลเพียงเพราะคิดว่าเป็นพรรคทางเลือกในการจัดการระบอบอำนาจนิยมของทหาร ก็คือพูดง่ายๆ ว่า เบื่อลุงตู่ ลุงป้อม และลุงป๊อก ปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน เศรษฐกิจ สังคม แต่คนจำนวนไม่น้อยนึกไม่ถึงว่า พรรคก้าวไกลมาได้อันดับหนึ่ง และหลายคนก็ไม่เคยคิดว่าคุณไหม ศิริกัญญา จะได้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลายคนศึกษาประวัติ แนวคิดคุณไหมแล้วบอกว่าเธออาจจะเป็นได้แค่ที่ปรึกษา ขาดความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีฯ คลังอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เธอเน้นเหลือเกินเรื่องการเก็บภาษี เพื่อมาไฟแนนซ์นโยบายประชานิยมของพรรค แต่เธอไม่สามารถถ่ายทอดนโยบายที่สร้างความเชื่อมั่นและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนได้แต่อย่างใด

ความผิดหวังและความไม่เชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ผ่านคุณไหม ศิริกัญญา มิได้เพียงสะท้อนผ่านความเห็นผู้ที่ชมการให้สัมภาษณ์ แม้กระทั่งพิธีกรชายคนหนึ่งที่สัมภาษณ์คุณศิริกัญญาในการข่าวดังกล่าว คือ คุณเฉลิมพร ตันติกาญจนากุล ออกมาให้ความเห็นเช่นกัน คุณเฉลิมพร บอกว่า ประเทศไทยไม่ใช่ Sandbox ให้มาทดลองนโยบาย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือว่า เศรษฐกิจไทยไม่ใช่ที่ทดลองงานของมือใหม่หัดขับทางเศรษฐกิจ

ท่านผู้ชมครับ ตอนหนึ่งของความเห็นของคุณเฉลิมพร คุณเฉลิมพรบอกว่า การมองปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างรายได้นั้น (นี่ผมพูดเองนะครับ ... คุณศิริกัญญามองง่ายเกินไป เหมือนกับการไปซื้อขนมริมถนนแล้วก็กิน คือมันช่างง่ายเหลือเกิน) คุณศิริกัญญา "มองปัญหาความเหลื่อมบ้ำแบบง่ายเกินไป คือมองเป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นนายทุนกับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน คนรวยกับคนจน ทั้งที่สังคมมันซับซ้อนกว่านั้นมาก ยังมีคนอีกมหาศาลที่ยืนอยู่ตรงกลาง และจะต้องโดนลูกหลงจากสงครามที่คุณศิริกัญญาต้องการจะให้เกิดขึ้น"


คุณเฉลิมพรพูดสรุปง่ายๆ ว่า "แม้แรงงานและเกษตรกรคือรากฐานของประเทศ แต่ชนชั้นกลางคือคนขับเคลื่อนประเทศครับ คนกลุ่มนี้คือฐานรายได้ภาษีของรัฐขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับการเป็นผู้บริโภคหลังของเศรษฐกิจ ทำงานเก่ง ใช้เงินเก่ง ถ้าคนกลุ่มนี้ไม่โต ประเทศก็โตยาก แถมจะเปลี่ยนมากี่รัฐบาล คนกลุ่มนี้ก็ถูกลืมตลอด เพราะไม่รวยพอที่จะได้ประโยชน์จากรัฐ และไม่จนพอที่รัฐจะมาช่วยเหลือ ได้แต่ก้มหน้าดูแลตัวเองไปเงียบๆ"

คุณเฉลิมพร ระบุอีกว่า "จากนโยบายหลายๆ อย่างของก้าวไกล ฟังแล้วน่าจะไม่เอื้อต่อตลาดทุน ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดหุ้นไทยที่แทบไม่โตอยู่แล้ว แย่ลงไปอีก โอกาสที่ชนชั้นกลางจะสร้าง wealth ก็น้อยลงไปอีก แถมตลาดทุนคือเครื่องมือในการระดมทุนที่ดีที่สุดทางหนึ่ง ถ้าเครื่องมือนี้ง่อยเปลี้ย เศรษฐกิจย่อมมีปัญหา"

ตอนท้าย คุณเฉลิมพร พูดว่า "ผมเห็นด้วยกับก้าวไกลว่าประเทศนี้ต้องการการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจดีว่าก้าวไกลก็แบกความกดดันจากสิ่งที่ประกาศหาเสียงเอาไว้ แต่ต้อง make sure ว่าการเปลี่ยน เปลี่ยนแล้วต้องดีขึ้น เพราะประเทศไม่ใช่ sand box ให้มาทดลองนโยบาย" (โดยที่ตัวเองไม่มีประสบการณ์ในการบริหารงานเลยแม้แต่นิดเดียว)

ไม่เพียงแต่สะท้อนอาการขาดความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลอย่างรุนแรงของประชาชน แม้แต่ขาใหญ่ในวงการลงทุน ผู้บริหารกองทุนขนาดใหญ่ในตลาดทุนไทย อย่างเช่น คุณวรวรรณ ธาราภูมิ หรือ คุณตู่ ประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง ยังออกมาแสดงความเห็น


เธอออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเฉยๆ ว่า "ทำอย่างไรหุ้นถึงจะขึ้น ยกเลิกทุกนโยบายของว่าที่รัฐบาล เขียวทั้งกระดานทันที" ก็คือพูดง่ายๆ ว่า คุณวรวรรณพูดไม่ผิด เนื่องจากนโยบายของว่าที่รัฐบาลนี้เป็นนโยบายที่เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน นี่ผมพูดเองนะ คุณวรวรรณท่านไม่ได้พูด แต่หลักๆ ก็คือว่าพวกคุณน่ะเลอะเทอะ จะกินข้าวทั้งทีไม่รู้จักกินทีละคำ อยากให้กินเร็ว ก็กินทีละคำแต่ให้มันเร็วหน่อย ไม่ใช่ยัดทะนาน เอาข้าวทั้งหม้อใส่เข้าไปในปาก

โพสต์ดังกล่าวของคุณตู่ วรวรรณ ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่สำคัญ นักลงทุนเข้ามาแสดงความเห็นด้วย แต่เฟซบุ๊กกลับถูกพวกคอนด้อมส้มจัดทัวร์ไปลงอย่างหนัก เธอก็เลยออกมาโพสต์อีกข้อความหนึ่ง ซึ่งเจ็บมาก เธอบอกว่า "เลือกเขามาแล้วจนได้เสียงสูงสุดแล้วทำไมอ่อนไหวกับอะไรที่ง่ายๆ เล่า ความไม่มั่นใจของแฟนคลับสีส้มที่แสดงออกในเชิงลบต่อผู้อื่นจะทำลายความน่าศรัทธาของพรรคลงไปอย่างน่าเสียดายนะ ขอบอก"

การแสดงอาการเกรี้ยวกราด หยาบคาย จัดทัวร์ไปลงกับผู้ที่เห็นต่าง หรือที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างตรงไปตรงมานั้น กำลังทำให้เกิดการก่อตัวและขยายตัวขึ้นมากๆ จากประชาชน ทั้งกลุ่มที่เลือกก้าวไกล และไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกล เพราะการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่การกระทำของคนที่เคารพในกติกาประชาธิปไตย ที่พรรคก้าวไกลชอบพ่นน้ำลายออกมาตลอดเวลาว่า เคารพในประชาธิปไตย แต่การกระทำคือการแสดงออกถึงความเป็นเผด็จการ ถ้าใครเห็นต่าง ไม่ได้ ต้องไล่ล่า จัดทัวร์ไปลง รุมด่าทอ ดิสเครดิตทุกวิถีทาง ผมจะเตือนว่าสุดท้ายจะนำไปสู่ความเสื่อมของพรรคก้าวไกลในที่สุด


ท่านผู้ชมครับ อีกประเด็นหนึ่งซึ่งผมจำเป็นต้องพูด เพราะว่าผมเข้าใจว่าคุณศิริกัญญาพูดด้วยความที่ตัวเองนั้นเป็นนักวิชาการทางตะวันตก มองปัญหาทางเศรษฐกิจแบบตะวันตก ซึ่งก็สอดคล้องกับนิสัยใจคอและพฤติกรรม ตลอดจนจริตของผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และหลายๆ คนที่มีอำนาจอยู่ในพรรคก้าวไกล ก็เป็นคนที่อิงฝรั่ง ฝรั่งทำอะไรก็ถูกหมดทุกอย่าง

คุณศิริกัญญาได้พูดคำหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าคุณศิริกัญญาหลงทาง วันนี้ไปไหนก็ไม่รู้แล้ว คุณศิริกัญญาบอกว่าเศรษฐกิจไทยโตช้า เพราะยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป ท่านผู้ชมครับ ผมนึกไม่ถึงว่าคุณศิริกัญญาจะมีความโง่ถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่การศึกษาอะไรทุกอย่างดูว่าเป็นคนฉลาด ผมเองยังเคยชมท่านเลย แต่คำพูดนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงความมีอคติ ไม่ได้ใช้หลักการ ไม่ได้ใช้ความจริงมาวิเคราะห์ แต่อคติกับประเทศจีน ผมไม่อยากจะตือนหรอกว่า คุณศิริกัญญาก็ลูกเจ๊กเหมือนผม คนแต้จิ๋วเหมือนกัน ของคุณคนแต้จิ๋ว ผมคนไหหลำ พ่อของคุณศิริกัญญาทำธุรกิจเรื่องรถเมล์อยู่ที่จังหวัดชลบุรี คุณศิริกัญญาเป็นลูกคนเล็ก คุณศิริกัญญายอมรับว่าเป็นคนดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง งานนี้คุณศิริกัญญาให้สัมภาษณ์แบบเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ โดยที่ไม่ได้ดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

คุณศิริกัญญาให้สัมภาษณ์แบบนี้ก็เลยกลายเป็นประเด็น คนก็เลยย้อนดูคำพูดบรรยายการหาเสียงของคุณศิริกัญญาในช่วงหลังๆ ที่ผ่านมา พบว่าเธอเพียงให้ความเห็นเรื่องเศรษฐกิจการคลัง ตลาดเงิน ตลาดทุน การค้า ภาษี แต่สองเดือนที่แล้วเธอยังกล่าวเป็นประเด็นนโยบายการค้า การลงทุน เอาไว้อย่างนี้ครับ "เศรษฐกิจไทยโตช้าเพราะยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป"


เธอไปบรรยายพิเศษ เปิดวิสัยทัศน์นโยบาย SMEs พรรคก้าวไกล ในหัวข้อ "ห่วงโซ่ตลาดโลก 2023 การตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจประเทศใหม่ๆ" ซึ่งเธอบรรยาย 45 นาที เธอพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจไทยกับจีนถึงสองครั้ง ทั้งสองครั้งเธอพูดชัดเจนว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุที่เศรษฐกิจไทยโตช้าเพราะยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป

เอาล่ะ เรามาดูกัน ประเด็นคือคนที่ฟังคุณศิริกัญญาพูด ก็ตั้งคำถามกับคุณศิริกัญญาเหมือนกัน ว่า เศรษฐกิจไทยที่โตช้าเพราะเราพึ่งพิง ยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป จริงหรือเปล่า ? แล้วถ้าไม่พึ่งพิง ยึดติดกับตลาดจีน ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก เพื่อนบ้านใกล้ชิดเรา ในปีนี้เศรษฐกิจจีนตั้งเป้าจะโตอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงมากในระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เราจะไปพึ่งเศรษฐกิจใคร คุณศิริกัญญา ถ้าคุณไม่พึ่งจีน คุณจะพึ่งอเมริกา หรือกลุ่มประเทศ G7 ใช่ไหม ? อเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี ซึ่งกำลังจะเจ๊งกันอยู่แล้ว เดี๋ยวผมจะพูดเรื่องเยอรมนีให้คุณศิริกัญญาเข้าใจ ว่าเยอรมนีมันใกล้เจ๊งแล้ว recession มาแล้ว และมันจะกระทบกับกลุ่มประเทศอียูทุกประเทศ ทำให้ร่วงผล็อยไปเลย

ท่านผู้ชมครับ สัปดาห์ที่แล้ว คุณศิริกัญญาฟังให้ดีๆ คุณอาจจะไม่รู้เรื่องภูมิรัฐศาสตร์ดีนัก ฟังผม ไม่เสียหาย เพราะผมพูดความจริง คุณจะไปฟังพวกเฮ้าเลี่ยนที่เป็นเจ้านายคุณ หรือเป็นผู้ใหญ่ แล้วเชียร์กลุ่มประเทศ G7 คุณศิริกัญญาเอาภูมิรัฐศาสตร์เบสิคก่อน กลุ่มประเทศ G7 มันเป็นประเทศทางตะวันตกที่เอามารวมตัวกัน แล้วกำหนดแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง ในโลกนี้ให้เดินตามเส้นทางที่มันวางเอาไว้


G7 ประชุมที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น การประชุม G7 ประกอบด้วย อเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี อังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งที่ผมเอ่ยชื่อมานี้ มันกำลังร่วงผล็อย ขาลงทุกคน สื่อมวลชนที่อวย G7 ก็บอกว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก แม้กระทั่ง VOA (Voice of America) ภาคภาษาไทย ก็ให้คำนิยามว่า เป็นกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่ร่ำรวยที่สุดในโลก คุณศิริกัญญาครับ ท่านผู้ชมครับ คำพูดนี้ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงอีกต่อไปแล้ว ผมจะเอาข้อมูลให้ดูก็ได้

ขนาดเศรษฐกิจของ G7 ในขณะนี้ เป็นแค่ 27 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่า GDP โลก เฉพาะในช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมา (2555-2565) อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของกลุ่ม G7 คิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่า GDP ของโลกเท่านั้น แค่ 15 เปอร์เซ็นต์เอง ในทางกลับกันครับ คุณศิริกัญญา สัดส่วนทางเศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS หรือระเบียบโลกใหม่ที่ออกมา (B = Brazil, R = Russia, I = India, C = China, S = South Africa) เติบโตจนกระทั่งปัจจุบันกินสัดส่วน GDP ซึ่งถ้าเราคิดตามกำลังซื้อ หรือ PPP (Purchasing Power Priority) คุณศิริกัญญาคงเข้าใจดีนะ ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่ผมพอรู้เรื่องบ้าง ตอนนี้กลุ่ม BRICS แซงกลุ่ม G7 ไปเรียบร้อยแล้ว แซงไปแล้วครับคุณศิริกัญญา G7 มันคือของชำรุดทางประวัติศาสตร์ G7 ที่คุณศิริกัญญาหวังจะไปพึ่งพาในการค้าเพื่อให้ประเทศไทยเจริญเติบโต ด้วยความเชื่ออย่างผิดๆ ของคุณศิริกัญญาว่า เศรษฐกิจไทยโตช้าเพราะไปพึ่งจีนมากเกินไป


คุณศิริกัญญาครับ จีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของสินค้าและบริการของไทย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร การท่องเที่ยวที่ไทยตั้งเป้าว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามา 5 ล้านคน ในปี 2566 จะสร้างรายได้ 446,000 ล้านบาท แล้วคุณศิริกัญญาบอกว่าเราพึ่งจีนมากไป ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพึ่งสิ คุณศิริกัญญาก็บอกว่าจีนไม่ต้องมาแล้ว เพราะเราพึ่งมากไป เพราะฉะนั้นคุณก็ไปเอานักท่องเที่ยวเยอรมนี อียู มาแทนสิ คุณเอาญี่ปุ่นมาแทนสิ เขาอยู่ใน G7 คุณเอาแคนาดามาแทนสิ คุณเอาอเมริกามาแทนสิ คุณก็เอามาแทนไม่ได้ เพราะว่ากลุ่มจีนเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนรายได้การท่องเที่ยวให้ประเทศไทย

คุณศิริกัญญาถ้าคุณมีเวลา และคุณเอาตีนติดดิน คุณเป็นคนเมืองชลบุรี คุณไปถามนักธุรกิจ คนทำมาค้าขายที่พัทยาดู ว่าระหว่างจีน กับอเมริกา และจีน กับทางอียู ใครที่ใช้เงินในพัทยามากที่สุด จีนครับ คุณศิริกัญญา จีนครับ ถึงคุณอยู่เมืองชล ผมก็อดีตนักเรียนที่เมืองชล ผมเรียนที่อัสสัมชัญศรีราชา ผมยังมีพรรคพวกหลายคน ตอนนี้แก่เฒ่าไปแล้ว แต่ลูกหลานก็ทำธุรกิจในพัทยา เขาบอกชัดเจน

ส่งออก คุณศิริกัญญา วันนี้ข่าวใน South China Morning Post เขาบอกว่าตอนนี้ทุเรียนไทยขายดิบขายดีในจีน ขายดิบขายดีในจีน จนกระทั่งหลายประเทศรู้ และอยากแย่งชิงตลาดทุเรียนในจีนจากไทย ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซีย แม้กระทั่งในประเทศจีนเอง ก็เริ่มทดลองพันธุ์ทุเรียนของตัวเองขึ้นมา คุณศิริกัญญาครับ ถ้าเราพึ่งเศรษฐกิจจีนมากเกินไป ถ้าอย่างนั้นคุณศิริกัญญาไม่ต้องส่งทุเรียนไปขาย ดีไหม มังคุดอีกล่ะ มะม่วงอีกล่ะ รายได้จากผลไม้ที่เข้าประเทศไทยมูลค่าเป็นล้านๆ บาท เผลอๆ จะถึงสองล้านล้านบาทเสียด้วยซ้ำ คุณศิริกัญญา เวลาคุณพูดอะไร อย่าเอาอคติมาพูด ถ้าคุณเอาตัวเลขที่ผมเสนอให้คุณดู คุณจะเข้าใจดี

ในมุมกลับ ผมจะเสนอว่า ถ้าคุณไม่พึ่งจีนแล้ว เศรษฐกิจไทยไปไหนไม่รอดหรอก ผมพูดอย่างนี้ ผมพูดถูก และผมเชื่อว่าคนที่ฟังผมพูดวันนี้จะเห็นด้วยกับผม และไม่เห็นด้วยกับคุณ คุณรู้หรือเปล่า คุณศิริกัญญา วันนี้การบินไทยยื่นเรื่องขอบินเข้าจีนอีก 40-50 เที่ยวบิน แต่จีนยังไม่ตอบ แล้วคุณคิดว่าพวกคุณ ก้าวไกล ซึ่งทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้าให้กับอเมริกา อียู คุณก็คือสุนัขรับใช้ของตะวันตก คุณกร่างไปสิ แล้วถ้าวันหนึ่งจีนเขาบอกว่า ประเทศไทยไม่ควรจะมาแล้ว เหมือนที่จีนบอกคนจีนว่าอย่าไปเกาหลี ญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นยืนข้างไต้หวัน ส่วนเกาหลียืนข้างไต้หวัน และอเมริกา

คุณศิริกัญญาครับ ภูมิรัฐศาสตร์เกี่ยวข้องกับการค้าขาย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีข้อยกเว้น วันนั้นถ้าเราขาดรายได้จากการท่องเที่ยว ขาดรายได้จากผลไม้ส่งออก ถ้าจีนเห็นว่าเมืองไทยซ่านัก ทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้าให้กับอเมริกา เขาจะบอก เฮ้ย มาเลเซียคุณส่งทุกเรียนเพิ่มเข้ามา อินโดนีเซียเพิ่มเข้ามา ลดโควตาจากประเทศไทยลงไป คุณศิริกัญญา และพรรคพวกคุณ และพี่น้องคุณที่เมืองชลบุรี จะรับผิดชอบกับความพินาศฉิบหายของเศรษฐกิจทางภาคตะวันออก จันทบุรี ตราด การท่องเที่ยวที่พัทยา คุณรับผิดชอบได้ไหม ก็คุณพูดเองนี่ว่าเราอวยจีนมากเกินไป พึ่งจีนมากเกินไป ผมไม่เข้าใจ คุณใช้ส่วนไหนของสมองมาใช้คำพูดอย่างนี้ แล้วเดี๋ยวผมจะพูดถึงเรื่องเยอรมนีให้คุณศิริกัญญาเข้าใจว่าคุณศิริกัญญาที่คิดว่าจะพึ่งอียูนั้น คุณฝันลมๆ แล้งๆ ผมไม่ต้องเรียนเศรษฐศาสตร์หรอก แต่ผมรู้ว่าคุณพลาดไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ผมยังยืนยันว่าคุณเป็นที่ปรึกษาได้ แต่คุณไม่ควรจะเป็นผู้บริหาร เพราะคนที่จะเป็นผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ไกล ต้องเข้าใจทุกอย่าง เข้าใจหลักภูมิรัฐศาสตร์ วันนี้คุณศิริกัญญา คุณจะทำนโยบายทางการคลังโดยที่ไม่พิจารณาถึงความเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์นั้น ไม่ได้เลยครับ

เศรษฐกิจเยอรมันเข้าสู่ภาวะถดถอย

ท่านผู้ชมครับ คุณศิริกัญญาครับ ผมกำลังจะพูดถึงประเทศเยอรมนี ที่ผมเชื่อว่านี่คือเสาหลักของกลุ่มประเทศอียู คือยุโรปทางตะวันตก ซึ่งก็น่าจะเป็นประเทศที่คุณศิริกัญญาและพรรคก้าวไกลมุ่งหวังว่ากลุ่มประเทศทางตะวันตกจะเป็นกลุ่มประเทศที่น่าจะใกล้ชิดกับประเทศไทยในเรื่องการค้าขายมากกว่าจีน


24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ชี้แจงว่า เยอรมนีนั้นได้ก้าวเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Recession เพราะทำไม ? เพราะว่า GDP ของเยอรมนีในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว หดตัวไปถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ แล้วต่อมาด้วยไตรมาสที่ 1 ติดลบอีก 0.3 เปอร์เซ็นต์ ในหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว GDP ที่ติดลบติดกันสองไตรมาสนั้น ก็เท่ากับว่าเยอรมนีได้ก้าวเข้าสู่ Recession คือถดถอยในเชิงเทคนิค

ท่านผู้ชมครับ เยอรมนีมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป จริงๆ แล้วเป็นเสาหลักของยุโรปเลย ระบบเศรษฐกิจเยอรมนีนั้นมีประมาณระดับสี่ของโลก มีมูลค่าประมาณ 4.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 150 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจของเยอรมนีนั้น มี GDP รองมาจากอเมริกา จีน และญี่ปุ่น อยู่อันดับสี่ ราคาของในเยอรมนีทุกวันนี้ อุปโภคบริโภค ใช้ในชีวิตประจำวันของคนเยอรมัน ราคาขึ้นขั้นต่ำสุด 30 เปอร์เซ็นต์ คือทุกอย่างแพงขึ้นเกือบครึ่งหนึ่ง


ในไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2566) การลงทุนในเยอรมนีจะเพิ่มขึ้น การลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ส่วนการค้าระหว่างประเทศ เยอรมนีส่งออกเพิ่มขึ้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ การนำเข้าลดลง 0.9 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวก แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีในไตรมาสแรกปีนี้ รอดพ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้

ที่สำคัญที่สุด คนทั่วโลกสนใจว่า ครึ่งหลังของปีนี้ เยอรมนีจะมีการฟื้นตัวได้หรือไม่ เรามาฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญระดับโลก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก ที่เป็นกลาง สถาบันการเงิน IG นักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์จำนวนมากในโลกนี้ได้ฟันธงลงไปเลยว่า ยากที่เศรษฐกิจเยอรมนีจะฟื้นขึ้นในไตรมาสนี้ รวมถึงระยะเวลาอันใกล้ วิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอยยังมีแนวโน้มที่จะแผ่ลามไปอย่างรวดเร็วไปทางมหาอำนาจเศรษฐกิจตะวันตก อียูทั้งอียู ยุโรปทั้งยุโรป อังกฤษ และอเมริกา

ถ้าท่านผู้ชมติดตามสถานการณ์ในยูเครน แล้วท่านเชื่อมโยงไทม์ไลน์ เส้นทางเวลา ปะติดปะต่อ ตั้งข้อสังเกตเรื่องราวต่างๆ ก็จะพบว่า มีเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าสนใจ ท่านผู้ชมครับ ตามผมมา

ข้อที่หนึ่ง สงครามยูเครนปะทุเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ไตรมาสแรกของปี 2565 ไตรมาสที่ 1-3 ของปี 2565 ระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ภาวะเศรษฐกิจเยอรมนีแม้จะเติบโตได้ไม่ดีนัก แต่ก็อยู่ในภาวะที่ยังไม่ถดถอย คือยังไม่มี Recession จนกระทั่งถึงปลายเดือนกันยายน 2565 เกิดอะไรขึ้น ท่านผู้ชมจำได้ไหม ? เกิดมีการระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม ซึ่งการระเบิดครั้งนี้ได้มีการพิสูจน์ชัดเจนพอสมควร รวมทั้งการเขียนข่าวเชิงลึกของนายซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวพูลิตเซอร์ไพรซ์ที่มีชื่อในโลกนี้


กุมภาพันธ์ 2566 ผมเคยเปิดเผยข้อมูลผ่านรายการนี้ไปแล้วว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นายซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวเจาะระดับตำนาน ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ไพรซ์จากอเมริกา อายุ 85 ออกมาแฉว่า รัฐบาลอเมริกาต่างหาก คือผู้ที่วางแผนทำลายท่อก๊าซรัสเซียที่เชื่อมไปยังเยอรมนี โดยให้องค์กร CIA เป็นผู้ลงมือ พูดชัดเจนครับ CIA ลงมือ แล้วคนที่รู้เรื่องนี้คือ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาสภาความมั่นคง

ความสำเร็จครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ความสำเร็จในการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 เกิดขึ้นหลังจากทำเนียบขาว กองทัพ และสำนักงานข่าวกรองกลาง (CIA) ประสานงานกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ธันวาคม 2564 แล้ว ว่าจะทำอย่างไรจะไม่ให้เหลือหลักฐานโยงใยไปถึงอเมริกา ได้มีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษขึ้นมาดูแลกิจการนี้ ซึ่งนายเจค ซัลลิแวน ที่ทำงานใกล้ชิดกับโจ ไบเดน นั้นเกี่ยวข้องด้วย และแน่นอนที่สุด นายโจ ไบเดน ก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน


ประเด็น พอท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ถูกสหรัฐฯ ระเบิดทิ้่งไปแล้วเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 ชาวเยอรมนีก็มาถูกตัดขาดจากก๊าซราคาถูกจากรัสเซีย ต้องไปหาแหล่งพลังงานจากแหล่งอื่นมาทดแทน เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว LNG ที่ต้องนำเข้าจากทางเรือมาทางอเมริกา ซึ่งแน่นอน ราคาแพงกว่ามากๆ เลย หลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับก๊าซที่ส่งทางท่อจากรัสเซีย

จากนั้นมา ภาวะเศรษฐกิจของเยอรมนีก็ถดถอยอย่างต่อเนื่องสองไตรมาสติดๆ กัน นี่ไงครับคือหลักฐานเชิงประจักษ์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างชัดเจนของการระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ที่อเมริกาจัดทำด้วยความร่วมมือของยูเครน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ประชาชนชาวเยอรมนีอย่างชัดเจนที่สุด

ที่สำคัญที่สุด ท่านผู้ชมครับ และคนที่หาว่าผมมโน แม้กระทั่งสื่อทางการของเยอรมนีก็ยอมรับว่าตอนนี้เยอรมนีอยู่ในสภาวะที่ขาดนวัตกรรมขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ

มีสำนักข่าว สื่อมวลชนที่เป็นสื่อสาธารณะของเยอรมนี ชื่อ DW TV อ้างอิงผลการศึกษาล่าสุดของมูลนิธิ Bertelsmann ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ระบุว่า เยอรมนีในขณะนี้ไม่มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่ติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจมาตลอด คงพอจะทราบดีถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่เรื่องแบงก์ในสหรัฐอเมริกาล้มมาเรื่อย จากซิลิคอนวัลเลย์แบงก์ ซิกเนเจอร์แบงก์ เฟิร์สรีพับลิค มาจนถึงเครดิตสวิส ที่รัฐบาลสวิส โดนมิโนทางเศรษฐกิจโลกตะวันตกกำลังล้มครับ จะลามจากอเมริกามาเยอรมนี มายุโรป หรือลามจากยุโรป ไปอเมริกา ก็ไม่รู้ แต่เศรษฐกิจการเงินและการคลังกำลังประสบปัญหาวิกฤตอย่างรุนแรง และไม่ใช่ปัญหาระยะสั้นด้วย เป็นปัญหาระยะยาว แต่คุณไหม คุณศิริกัญญา ตันสกุล ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากพรรคก้าวไกล กลับมาบอกว่า เศรษฐกิจไทยโตช้าเพราะยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป ผมถามคุณศิริกัญญาตรงนี้แล้วกัน ถ้าจะให้เศรษฐกิจโต แล้วไม่ไปผูกกับจีน จะให้ไปผูกกับหมาหรือแมวที่ไหนครับ คุณ เพราะถ้ากวาดตามองไปทั่วโลกแล้ว คุณจะเห็นว่านอกจากจีน ซึ่งเป็นแกนหลักของกลุ่ม BRICS แล้ว เศรษฐกิจประเทศ G7 ในโลกมันย่ำแย่หมด ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ หรือเยอรมนี เราเข้าใจตรงกันนะครับท่านผู้ชม ส่วนคุณศิริกัญญาจะเข้าใจตรงกับผมหรือไม่ ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่คุณศิริกัญญาจะพูดอะไรจากนี้ไป สงวนปากสงวนคำนะครับ และอย่า ... อย่าเป็นอันขาด ที่จะเอาความไม่เข้าใจภูมิรัฐศาสตร์ แล้วเอามาเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจไทย เพราะเศรษฐกิจทุกประเทศในโลกนี้มีการเชื่อมโยงกับภูมิรัฐศาสตร์ทั้งสิ้น

อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า G7 นั้น GDP ทำมาสิบปี GDP แค่ 15 เปอร์เซ็นต์ วันนี้ BRICS ตั้งขึ้นมาหลัง G7 แต่เศรษฐกิจ BRICS เจริญเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจของ G7 ไปเรียบร้อยแล้ว เข้าใจไหมครับ ? ถึงคุณจะไม่เข้าใจ ผมก็ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าคุณเอนไปทางตะวันตก 100 เปอร์เซ็นต์ และความคิดเห็นพึ่งพาตะวันตก จะทำให้ประเทศชาติฉิบหายต่อไป และผมจะพูดอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจจะช็อกท่านผู้ชม ท่านผู้ชม ผมใช้คำว่า "ช็อก" ครับ

เปิดหลักฐาน อเมริกาแทรกแซงไทย

ท่านผู้ชมครับ วันศุกร์ที่แล้ว วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม ในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ผมเอาข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพยายามแทรกแซงทางการเมือง การเลือกตั้ง และความมั่นคงของไทย โดยใช้ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า Hybrid War หรือที่ผมตั้งว่า "สงครามพันทาง" จะมีคนไทยบางส่วนรู้เห็นเป็นใจกับอเมริกา โดยเฉพาะบุคลากรระดับแกนนำพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และกลุ่มม็อบสามนิ้วที่พรรคก้าวไกล และพรรคอนาคตใหม่ สนับสนุนมาตลอด


ในช่วงหลังก็ส่งคนอย่างนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่า การแทรกแซงของอเมริกานั้นเป็นเรื่องแต่ง เป็นจิตวิทยาหมู่ เรื่องมอมเมา แต่เรื่องมาเฟียจีนสีเทา เป็นเรื่องจริง

สัปดาห์ที่แล้ว ในรายการผมก็เปิดหลักฐานให้ดูชัดๆ ในแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของทั้งทำเนียบขาว และของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ของเพนตากอน กระทรวงกลาโหมอเมริกา เขาระบุชัดมานานแล้วว่าประเทศไทยนั้นเป็นหนึ่งในห้าหมากสำคัญของเขาในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก โดยประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด ร่วมกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์


ท่านผู้ชมครับ ทั้งนี้ในรายงานยุทธศาสตร์ของอินโด-แปซิฟิก ของกระทรวงกลาโหมอเมริกานั้น เผยแพร่มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 (4 ปีที่แล้ว) เขายังระบุลงรายละเอียดเกี่ยวกับความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทยด้วย ในรายงานฉบับดังกล่าวของเพนตากอน หน้าที่ 29-30 ระบุชัดเจนจนถึงว่า ตำแหน่งแห่งที่ของประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยข้อความระบุว่า ในฐานะพันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่แนบจุดศูนย์กลางอาเซียน ตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ระหว่างเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีบทบาทเป็นกุญแจสำคัญในเชิงภูมิยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

การสามารถเข้าถึงท่าเรือและฐานทัพอากาศที่อู่ตะเภา รวมไปถึงท่าเรือน้ำลึกสัตหีบนั้น เป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวางกำลังกองกำลังสหรัฐฯ ซึ่งรายงานดังกล่าวระบุและยืนยันว่าปัจจุบันอเมริกาพึงพอใจต่อการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารกับทหารไทย


ประเด็นครับ เอกสารและหลักฐานข้างต้นนั้น ผมไม่ได้เพิ่้งนำเสนอเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผมเสนอมาเป็นปีๆ แล้ว ตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แต่พอวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ได้เสียงเป็นอันดับหนึ่ง ผมก็ชี้ให้เห็นว่า จุดนี้เป็นจุดอ่อนและอดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งปัจจุบันคือพรรคก้าวไกล ที่จากพฤติกรรมและท่าทีที่ผ่านมาดำเนินนโยบายตามก้น รับใช้ชาติตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา และยุโรป มาตลอด

ท่านผู้ชมครับ เดี๋ยวจบเรื่องนี้แล้ว ผมจะเอาข่าวที่ช็อกและข่าวที่ยืนยันให้เห็นว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นไม่ผิด และให้ท่านผู้ชมที่รักชาติ รักบ้านเมือง รับฟังให้ดีๆ ใช้ปัญญาตรึกตรองดูว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นถูกหรือผิด

ผมเอาภาพให้ดูนะครับ เปิดให้ดูหลายรอบแล้ว แต่ฉายตัวอย่างให้ดูอีกรอบหนึ่ง คือภาพที่นายธนาธรไปรับทราบข้อกล่าวหาที่โรงพัก แล้วก็มีตัวแทนของชาติตะวันตก ทั้งอียู และอเมริกา ไปให้กำลังใจ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความคิดและจุดยืน ท่าทีชัดเจนของบุคลากรระดับแกนนำของพรรคก้าวไกล ที่แสดงให้เห็นถึงช่วงความคิดที่โปรตะวันตก และต่อต้านจีนอย่างชัดเจน


วันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และว่าที่รัฐมนตรีฯ คลังของพรรค บรรยายพิเศษเปิดวิสัยทัศน์นโยบาย SMEs จากพรรคก้าวไกล สร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตด้วยธุรกิจขนาดย่อม ในหัวข้อ "ห่วงโซ่ตลาดโลก 2023 การตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจประเทศใหม่ๆ" โดยเนื้อหาหลักที่ น.ส.ศิริกัญญา พูด มติชนได้มาพาดหัวคลิป ระบุว่า "เศรษฐกิจไทยโตช้าเพราะยึดติดกับตลาดจีนมากเกินไป"

ก่อนที่ผมจะพูดต่อนะครับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในมติชน ที่ใหญ่กว่าาคุณขรรค์ชัย บุนปาน คือ คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องประหลาดใจว่าทำไมมติชนถึงเชียร์พรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่ ทุกอย่าง


ท่านผู้ชมครับ หลังจากที่ผมพยายามชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการแทรกแซงการเมือง การเลือกตั้ง ความมั่นคงของไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยกหลักฐานต่างๆ ซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ไม่ได้มโนขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะกรณีของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำเชียงใหม่ ที่อเมริกาทุ่มเงินนับหมื่นล้านบาท และกำลังก่อสร้างอยู่ แล้วเดี๋ยวหลังจากข่าวชิ้นนี้ไปแล้ว ผมจะพูดเรื่องบทบาทอเมริกา และบทบาทพรรคก้าวไกล ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าทำไมอเมริกาต้องสร้างกงสุลสหรัฐฯ มูลค่าหมื่นล้านบาท มันเกี่ยวโยงกัน และกรณีพยายามแทรกแซงการเมือง เศรษฐกิจของไทย โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย คือ นายโกเดค ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง


ตอนเข้าไปชี้แจงต่อกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐฯ เขาประกาศเลยว่า หนึ่ง จะแทรกแซง กดดัน ให้ไทยร่วมกดดันรัฐบาลทหารพม่า ซึ่งเดี๋ยวต่อจากนี้ไปผมจะพูดข่าวที่จะช็อกท่านผู้ชมทุกคน ว่ามันตรงกับที่นายโกเดคพูดเลย คือการแทรกแซง กดดันไทย ให้ร่วมกดดันพม่า สอง ผลักดันเรื่องกฎหมายอาญา มาตรา 112 สาม จะปรับปรุงเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และ สี่ จะบีบให้ไทยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและพลังงานจากพม่า


ท่านผู้ชมครับ ผมพูดไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ ผมบอกว่าพวก IO พวกคอนด้อมส้ม พวกแกนนำพรรคก้าวไกล รวมทั้งสื่อไทยจำนวนมาก ที่พยายามออกมาบอกว่าเรื่องที่ผมพูดนั้นมันเป็นเรื่องมโน ทั้งๆ ที่หลักฐานที่แสดงให้ท่านผู้ชมมันทนโท่คาตาแบบนี้ ท่านผู้ชมครับ แสดงว่าพวกนี้มันโง่จริง หรือไม่ก็อคติบังตา ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ อ่านหนังสือน้อย หรือเลือกอ่าน/เลือกเชื่อเฉพาะสื่อตะวันตก ทั้งๆ ที่เอกสารเหล่านี้ก็มีเป็นภาษาอังกฤษ เป็นเอกสารทางการ เป็นข่าว สามารถอ่านได้จากอินเทอร์เน็ต เสิร์ชจากกูเกิลเอาก็เจอ

ล่าสุดมีกรณีนี้อีกแล้วครับท่านผู้ชม สื่อทางช่องโทรทัศน์ PPTV ของพี่เสริฐ หมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของเครือข่ายโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งที่ผ่านมาทีมข่าว PPTV นอกจากพยายามเกาะติดคำโกหกของนายชูวิทย์ตลอดเวลาแล้ว คือพูดง่ายๆ ว่ารายงานข่าวคำโกหกของนายชูวิทย์อย่างหน้าตาเฉย โดยไม่ดูว่าคำพูดนั้นเป็นคำโกหกหรือไม่ ล่าสุดยังออกมาทำข่าวเรื่องการแทรกแซงการเมืองของอเมริกาที่ไม่ค่อยจะฉลาดด้วย


26 พฤษภาคม สื่อ PPTV รายงานข่าวว่า ทีมข่าว PPTV ได้สอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กรณีมีการส่งข้อมูลในโลกออนไลน์ว่าอเมริกาจะเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยจริงหรือไม่ ต่อมา น.ส.นิโคล ฟ็อกซ์ โฆษกสถานทูตอเมริกา ได้อัดคลิปตอบ PPTV ว่า อเมริกาไม่มีฐานทัพในไทย และไม่มีการหารือเกี่ยวกับการตั้งฐานทัพในไทย โดยยืนยันว่า ตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อร้อยปีก่อน ความร่วมมือทวิภาคีทุกด้านได้ดำเนินการผ่านการปรึกษาหารือกับรัฐบาลไทย โดยมีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยและอเมริกา

ท่านผู้ชมครับ ขอเว้นนิดหนึ่ง แต่คุณนิโคล ฟ็อกซ์ ไม่ได้บอกว่า แต่ถ้ารัฐบาลไทยซึ่งเป็นสุนัขรับใช้อเมริกา ยินดีเปิดประตูให้อเมริกามาใช้อู่ตะเภา และใช้ท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ อเมริกาก็ยินดีที่จะตอบสนองด้วยความเต็มใจ เพราะรอมานานแล้ว นี่คือคำพูดของผม ซึ่งไม่ผิด ท่านผู้ชม เดี๋ยวหลังจากข่าวชิ้นนี้ไปแล้ว ท่านผู้ชมฟังที่ผมพูดแล้วท่านผู้ชมจะเห็นว่า สนธิ ลิ้มทองกุล พ่อหมอ ไม่เคยผิด และก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ โฆษกสถานทูตอเมริกายังปฏิเสธว่าอเมริกาไม่ได้ให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะอเมริกาสนใจเพียงกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย และเฝ้ารอจะทำงานกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ประเด็น น.ส.นิโคล ฟ็อกซ์ โฆษกสถานทูตอเมริกา ออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีฐานทัพในไทย ที่มาต้องทำการปรึกษารัฐบาลไทยก่อน ความจริงของเอกสารของเพนตากอน กระทรวงกลาโหม มันระบุชัดเจนแล้วว่า ท่าเรือสัตหีบ กับสนามบินอู่ตะเภา มันพร้อมใช้อยู่แล้ว มันมีซ้อมรบ ปฏิบัติการทางทหารร่วมกันทุกปี คอบร้าโกลด์ก็จัดกันทุกปี สัตหีบ แหลมฉบัง อู่ตะเภา อ่าวไทย พัทยานั้น กองทัพอเมริกา ทหารอเมริกัน มันรู้ทุกซอกทุกมุม ทะลุปรุโปร่ง แทบจะเป็นบ้านที่สองของมันอยู่แล้ว จะเข้ามาเมื่อไรก็ได้ จะบินออกไปเมื่อไรก็ได้ จะเอาเรือเข้ามาจอดเมื่อไรก็จอด ทหารไทยเปิดทางสะดวกให้อยู่แล้ว


นอกจากนี้ ในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กองทัพเรืออเมริกามีการมาเยือนของเรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกา USS-Nimitz ได้ข่าวว่านอกจากมาเยือนแล้ว ยังขนอาวุธออกมาเต็มเลย แล้วก็ผ่องถ่ายออกจากเรือ แต่ไม่รู้ว่าขนไปไหน แต่มีคนกระซิบบอกว่ามันไปอยู่ที่ชายแดนไทย-พม่าเรียบร้อยแล้ว

ท่านผู้ชมครับ การที่โฆษกหญิงสถานทูตอเมริกาบอกว่าอเมริกาไม่ได้ให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองไทย แต่คุณโฆษกจะปฏิเสธไหมว่าช่วงหลายต่อหลายปีที่ผ่านมา คุณใช้กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือที่เขาเรียกว่า NED : National Endowment for Democracy ซึ่งเป็นหน่วยงานสาขาของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา


ที่แม้กระทั่งผู้อำนวยการ NED ในยุคนั้น สารภาพว่า NED คือองค์กร CIA ภาคพลเมือง คุณจะปฏิเสธไหม หลักฐานมีครับ แล้วคุณจะไม่เคยให้เงินได้อย่างไร คุณอ้างว่าไม่ได้ให้เงินสนับสนุนมูลนิธิ สื่อ องค์กรหลายต่อหลายแห่งในประเทศไทย ที่ผ่านมาฝ่ายม็อบสามนิ้วพยายามเคลื่อนไหว ยกเลิก มีการแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ บ่อนทำลายสถาบันของประเทศไทย แล้วคุณให้เงินช่วย iLaw ประชาไท Human Rights Watch และหนังสือพิมพ์ หรือบล็อก Isaan Record คุณช่วยมาแล้ว

คุกลับCIA ที่อเมริกาไม่เคยพูดถึง

ท่านทูต ท่านโฆษกสถานทูตอเมริกา คุณนิโคล ฟ็อกซ์ ผมจะเตือนความจำในเรื่องคุก CIA ในประเทศไทย ให้คุณรับทราบไว้หน่อย คุณบอกว่าคุณไม่เคยยุ่ง ไม่เคยแทรกแซง ผมไม่กล้าพูด เพราะแถวบ้านผมเขาเรียกว่านี่คือการตอแหล เอาเป็นว่าคุณพูดไม่จริงก็แล้วกัน ที่สำคัญ คุณ ไม่ว่าจะเป็นคอนด้อมส้ม ติ่งพรรคก้าวไกล แกนนำพรรคก้าวไกล สื่อมวลชนไทยหัวใจตะวันตก คุณจำเรื่องคุกลับ CIA ในไทยได้ไหม พวกคุณอาจจะจำไม่ได้หรือแกล้งลืม แต่ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ ผมไม่ลืม ผมจะเอามาเล่าให้คุณฟัง


เรื่องคุกลับ CIA ในประเทศไทยเคยถูกพูดถึงมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2548 ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร วอชิงตันโพสต์ หนังสือพิมพ์ของอเมริกาเอง เสนอข่าวว่า หลังโศกนาฏกรรม 9/11 (11 กันยายน 2544 หรือ ค.ศ. 2011) CIA ได้สร้างเครือข่ายคุกลับที่เรียกว่า Black Site สถานที่มืดดำ ไว้ใน 8 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปตะวันออก รวมทั้งประเทศไทย เพื่อใช้กักขังผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อการร้ายในกลุ่มอัลกออิดะห์ สถานที่ลับนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเรือนจำลับที่ CIA ตั้งขึ้นเมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว รวมประเทศไทยเข้าไปด้วย มีที่ประเทศไทย อัฟกานิสถาน ประเทศประชาธิปไตยหลายแห่งในยุโรปตะวันออก รวมทั้งเรือนจำเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อ่าวกวนตานาโม ในคิวบา ทั้งหมดนี้อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและนักการทูต ทั้งปัจจุบันและอดีต จาก 3 ทวีป นี่คือข่าวจากวอชิงตันโพสต์ระบุมา

ในกรณีของประเทศไทยนั้น ถูกระบุว่า คุกนี้สร้างขึ้นเมื่อกลางปี 2545 และปิดลงเมื่อกลางปี 2546 หลังจากเรื่องแดงขึ้นมา โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่าสถานที่ตั้งสถานีวิทยุเสียงอเมริกา Voice of America หรือ VOA ที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี น่าจะเป็นที่ตั้งคุกลับ แต่คุณทักษิณตอนนั้นเป็นนายกฯ บอกว่าไม่มีคุกลับในไทยแต่อย่างใด ตอนหลังเรื่องนี้ถูกสื่อตะวันตกนำมาเอ่ยอ้างถึงอีกหลายครั้ง แต่ไม่มีหลักฐานชี้ชัด ซึ่งรัฐบาลและกองทัพไทยทุกสมัยให้การปฏิเสธมาตลอดว่าไม่เคยอนุญาตให้ CIA ตั้งคุกลับในไทย แต่รัฐบาลอเมริกาและสื่อต่างประเทศหลายสำนัก รายงานยืนยันข้อมูลดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ท่านผู้ชมครับ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็ปรากฏออกมาในปี 2561 เรื่องกลับมาแจ่มแจ้งแดงแจ๋ในสมัยนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้เสนอชื่อนางจีน่า แฮสเปล ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน CIA แทนนายไมก์ พอมเพโอ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในยุคนายทรัมป์

นางจีน่า แฮสเปล
แต่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่านางจีน่า แฮสเปล เธอมีประวัติด่างพร้อย กระแสต่อต้านจากการที่เรื่องนี้เข้าไปต้องผ่านการยอมรับของวุฒิสภาของอเมริกา สมาชิกวุฒิสภาเขาแจ้งออกมาเลยว่า นางจีน่า แฮสเปล มีประวัติด่างพร้อยจากการที่เคยดูแล Black Sites หรือสถานที่ดำ ก็คือคุกลับในไทย ซึ่งมีผู้ถูกคุมขัง ตกเป็นเหยื่อการทรมานและการอุ้มหาย

นอกจากนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ท่านคอนด้อมส้มทั้งหลาย นี่เป็นข้อมูลอเมริกาทั้งสิ้น ข้อมูลประเทศที่คุณเทิดทูนเป็นพ่อของคุณ คณะกรรมาธิการวิสามัญด้านข่าวกรองของวุฒิสภา SSCI : Senate Select Committee on Intelligence ความยาว 6,000 หน้า ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2557 ระบุว่า คุกลับแห่งนี้มีชื่อว่า สถานกักกันเขียว "Detention Site Green" ในรายงานของข้อมูลนี้ ปี 2557 แสดงความร่วมมือการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างไทยกับอเมริกา ปรากฏอยู่ในรายงานของคณะกรรมาธิการ ภายหลังเหตุการณ์ 9/11 มีปฏิบัติการร่วมกันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง การส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยให้กับ CIA รายงานของ SSCI ระบุถึงเหตุผลหลายข้อที่ CIA เลือกไทยเป็นที่ตั้งคุกลับ คือ แนวคิดการคุมตัวผู้ต้องสงสัยในฐานทัพสหรัฐฯ ถูกปฏิเสธ เพราะว่าพวกเขาต้องแจ้งให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศทราบ สอง เรือนจำขนาดใหญ่ที่อ่าวกวนตานาโม ในคิวบา ไม่เหมาะสม เพราะว่าเก็บความลับได้ยาก และเจ้าหน้าที่ FBI หรือกองทัพอเมริกา อาจจะพยายามควบคุมการสอบสวน


ขณะที่อุดรธานีของไทย ที่วัดพ่อแม่ครูอาจารย์ผมอยู่ วัดป่าบ้านตาด เป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลด้วยเหตุผลหลายข้อ คือ หนึ่ง ทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา มีการร่วมมือทางกองทัพและข่าวกรองระหว่างสองประเทศอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ไทยอนุญาตให้อเมริกาใช้ฐานทัพอากาศสำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มคอมมิวนิสต์ในประเทศเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ข้อสี่ อุดรธานีเป็นหนึ่งในฐานทัพหลักของอเมริกา มีฝูงบินประจำการเป็นของตัวเอง ถูกใช้งานอย่างมากโดย CIA ในเวลานั้น ในช่วงปี 2545-2546

ท่านผู้ชมครับ ประเด็น นี่ล่ะครับข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องสหรัฐอเมริกาไม่เคยแทรกแซงประเทศไทย ที่หลายๆ คนออกมาพยายามแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ทุกวันนี้ ผมอยากจะถาม PPTV ซึ่งเป็นสำนักข่าวที่ทำข่าวต่างประเทศที่พึ่งพาข้อมูลจากตะวันตกอย่างเดียว และผมถามคุณนิโคล ฟ็อกซ์ ว่า คุกลับ CIA ที่อยู่ในประเทศไทย ที่อุดรธานี ไม่กี่ปีมานี่เอง เรื่องก็เพิ่งจะมาแจ่มแจ้งแดงแจ๋สมัยที่นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดี คนรายงานข่าวกันทั่วโลก ค้นหาข้อมูลในกูเกิลก็ขึ้นมาเป็นพรืด อย่างนี้ทั้งหมดมันเป็นข่าวปลอมหรือข่าวลวงโลกครับ แล้วที่คุณโฆษกหญิงพยายามออกมาตอบว่า นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 190 ปีก่อน ความร่วมมือทวิภาคีทุกด้านได้ดำเนินการผ่านการปรึกษารัฐบาลไทย แสดงว่าคุกลับ CIA ที่อุดรธานี รัฐบาลไทยยุคนั้นต้องรู้เห็นเป็นใจ เห็นชอบด้วยกับ CIA ล่ะสิ เพียงแต่งุบงิบปกปิดกัน ไม่ให้คนไทยทั้งประเทศรู้หรือระแคะระคายแม้แต่น้อย ใช่ไหม

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่แปลกใจที่โฆษกสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย จะออกมาแก้ข่าวเรื่องอเมริกาใช้ไทยเป็นหมากสำคัญในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เพื่อปิดล้อมจีน เพราะเป็นหน้าที่ของเขา เป็นผลประโยชน์ เป็นความมั่นคงของประเทศเขา แต่ที่ผมสงสัยคือสื่อไทย นักการเมืองไทย และคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะสื่ออย่าง PPTV ที่ตีข่าวนี้ ผมอยากถามว่าเดี๋ยวนี้ทางทีมข่าว PPTV ทำข่าวง่ายๆ อย่างนี้จริงๆ รึ ใครพูดอะไร เอาออกมาออกอากาศ เหมือนกับที่คุณชูวิทย์พูดอะไร PPTV ก็เกาะติดออกอากาศสด สัมภาษณ์พิเศษ ใครก็ตาม โกหกอย่างไร นักข่าว PPTV พร้อมจะเป็นกระบอกเสียงให้ เอาอย่างนี้จริงๆ หรือ ? จริงๆ แล้วนักข่าวต่างประเทศ PPTV สามารถจะกดดเข้าไปในกูเกิล แล้วเช็ก "คุกลับ CIA" ได้ คุณก็น่าจะรู้ว่าสิ่งที่นิโคล ฟ็อกซ์ พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก

ผมถามพี่เสริฐหน่อย เรารู้จักกันดี สนิทสนมกันมาก ผมสนิทกับครอบครัวพี่เสริฐเยอะมาก พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ซึ่งเป็นหลานพี่เสริฐ ก็สนิทกับผม พี่่แบงค์ ซึ่งเป็นน้องสาวพี่เสริฐ ก็สนิทกับผม ผมอยากถามว่าเดี๋ยวนี้ PPTV ที่พี่เสริฐให้เงินสนับสนุนและเป็นเจ้าของอยู่ กลายเป็นกระบอกเสียงให้คุณชูวิทย์ และกลายเป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกาไปตั้งแต่เมื่อไร เพราะว่าในที่สุดแล้ว PPTV ก็จะเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน เช่นกัน

สหรัฐฯ กำลังเชิดก้าวไกล แทรกเพื่อนบ้าน


ท่านผู้ชมครับ ต่อเนื่องมาจากโฆษกของสถานทูตอเมริกา น.ส.นิโคล ฟ็อกซ์ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เครือข่ายคนเชียงใหม่รักในหลวง ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน และประชาชนราวๆ ร้อยกว่าคน รวมตัวหน้ากงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ ยื่นหนังสือถึงทูตอเมริกา เรียกร้องให้อเมริกาหยุดแทรกแซงประเทศไทยและสถาบันกษัตริย์ รศ.ธีระ วิสิทธิ์พานิช อดีตอาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนเครือข่ายคนเชียงใหม่รักในหลวง ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกของทางกลุ่ม ด้านหน้าสถานกงสุลใหญ่อเมริกา ระบุถึงความกังวลที่ทางเครือข่ายคนเชียงใหม่รักในหลวง มีต่อท่าทีในการแทรกแซงกิจการภายในประเทศ อาทิเช่น นางซูซาน ไวลด์ ส.ส. อเมริกา เสนอร่างมติสภาผู้แทนราษฎร 369 เข้ารัฐสภาอเมริกา เรียกร้องให้รัฐบาลไทยรักษาหลักการประชาธิปไตย ปล่อยตัวและยุติการดำเนินคดีกับนักกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะเด็กและนักเรียนที่ถูกฟ้องดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมือง มาตรา 112 รวมถึงเรียกร้องให้อเมริกาหยุดยุยงปลุกปั่นให้ไทยกับพม่ามีปัญหาในประเทศด้วยกัน ท่านผู้ชมครับ นี่คือตัวอย่างหนึ่ง

ท่านผู้ชมที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลที่จังหวัดเชียงใหม่ ผมรู้ว่าอาจจะเป็นนักศึกษาใน มช. อาจารย์หลายคน เยอะมาก คุณรู้หรือเปล่าว่าพรรคก้าวไกลที่คุณเทิดทูน คือพรรคที่จะทำให้ประเทศไทยสิ้นชาติ คุณอยากรู้ว่าเพราะอะไรผมถึงพูดอย่างนี้ เดี๋ยวตามผมมา

ท่านผู้ชมครับ สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เป็นเรื่องของความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองเรา ประเทศไทยจะล่มสลายหรือไม่ ประเทศไทยจะกลายเป็นยูเครน 2 หรือไม่ อยู่ที่ตรงนี้ และผมไม่ได้พูดแบบมโน ผมมีหลักฐาน

ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าในเอกสารเว็บไซต์ของพรรคก้าวไกล เขาได้ลงเป็นนโยบายต่างประเทศออกมาแล้ว มีหลักฐานให้เห็นชัดเจน เขาบอกว่า พิจารณาทบทวนหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกันระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนเฉพาะกิจ นั่นก็คือที่ผมพูดตลอดเวลาว่าอะไรที่เกิดขึ้นอีกประเทศหนึ่งนั้น เราไม่ยุ่ง เป็นเรื่องภายในประเทศเขา ในเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง เช่น การแก้ไขปัญหาประเทศเมียนมา และปัญหาฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้าน


จริงๆ แล้วปัญหาฝุ่นนั้นเป็นปัญหาที่เอามาติ่งเอาไว้เท่านั้นเอง แต่หลักการก็คือว่า นโยบายพรรคก้าวไกลก็คือว่า พรรคก้าวไกลจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาภายในของประเทศพม่า โดยที่เขาระบุว่า ไม่ต้องรอทุกประเทศในอาเซียนให้ความยินยอมก่อน เพราะสถานการณ์ในประเทศหนึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อประเทศรอบข้างเกินกว่าจะนิ่งเฉยได้ แปลว่าอะไร ?

แปลว่า ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลแล้ว ถ้าพรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับนโยบายของอเมริกา อย่างที่อเมริกาเคยพูดแล้วว่าจะกดดันให้ไทยนั้นเข้าไปจัดการกับเรื่องราวของประเทศพม่า ความวุ่นวายในประเทศพม่า โดยนายโกเดคเป็นคนพูดเอง ท่านผู้ชมจำได้หรือเปล่า ที่ผมบอกว่าเขาให้สัตยาบันไว้กับกรรมาธิการการต่างประเทศของวุฒิสภา ในวันที่เขาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตอเมริกาประจำประเทศไทย

นอกจากนั้นแล้ว ท่านผู้ชมฟังให้ดีๆ เขาอ้างว่า พรรคก้าวไกลเชื่อมั่นในค่านิยมก้าวหน้า สิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย แต่พร้อมจะสร้างความร่วมมือกับประเทศจีน เพื่อเป้าหมายที่จะสร้างเอเชียที่สงบสุขและมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ท่านผู้ชมครับ นี่คือคำพูดของประเทศอเมริกาตลอดเวลา เพราะอเมริกาบอกว่าต้องการที่จะเข้ามาเพื่อสร้างประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้ และสร้างเอเชียที่สงบสุข แต่เอเชียที่สงบสุขนั้น มันสงบสุขไม่ได้ เพราะอเมริกาไปแทรกแซงไต้หวัน อเมริกาไปแทรกแซงฮ่องกงโดยผ่านนายโจชัว หว่อง และคนที่พยายามปฏิวัติฮ่องกง อเมริกาต้องการที่จะให้ประเทศจีนต้องล่มสลายไป บอยคอตทางด้านเศรษฐกิจในเรื่องของไมโครชิป เซมิคอนดักเตอร์ ห้ามหัวเว่ยไม่ให้ทำธุรกิจการค้าในโลกนี้ เพราะกลัวว่าหัวเว่ยจะก้าวหน้ากว่าอเมริกา

อเมริกาต้องการสร้างความสงบสุขที่เอเชีย ท่านผู้ชมครับ สร้างความสงบสุขโดยมีฐานทัพอเมริกาอยู่ที่โอกินาวา มีฐานทัพอเมริกาอยู่ที่เกาหลีใต้ แล้วกำลังจะให้ไต้หวันติดขีปนาวุธเพื่อต่อต้านจีน นี่คือการสร้างความสงบสุขหรือ ? อเมริกาส่งพวก CIA ทหารรับจ้างเข้าไปในพม่า โดยผ่านทางชายแดนไทย นอกจากนั้นแล้ว ยังส่งอาวุธ ซึ่งการขนส่งมาจากหลายทาง ล่าสุดเรือบรรทุกเครื่องบิน Nimitz ซึ่งมาแวะเทียบท่าที่แหลมฉบัง ก็มีการขนข้าวของเต็มไปหมด ไม่มีใครรู้ว่าขนไปไหน แต่มีคนที่อยู่วงในบอกว่าเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ส่งไปให้พม่า


ท่านผู้ชมฟังคำพูดนี้ต่อไป นี่คือคำพูดของพรรคก้าวไกล จะให้ประเทศไทยเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอเมริกา แปลไทยเป็นไทย วันนี้พรรคก้าวไกลถ้าเป็นรัฐบาล ก็จะให้ประเทศไทยเลือกอเมริกา คือถ้าอเมริกาจะทำอะไรกับจีน ชักชวนประเทศไทยทำด้วย ประเทศไทยก็พร้อมจะทำให้ เหมือนอย่างที่สถานทูตอเมริกาประกาศออกมาว่า ไม่เคยเข้ามาในประเทศไทยถ้าไม่ได้รับเชิญ ต้องปรึกษาหารือรัฐบาลไทย ท่านผู้ชมจำได้ไหม ผมพูดไปแล้วว่าอเมริกาพูดชัดเจน จำได้หรือเปล่า ในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ในหลักฐานของอเมริกาและกระทรวงกลาโหมอเมริกา ระบุว่า ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องให้ความสำคัญ "สูงสุด" ร่วมกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์

มิหนำซ้ำยังพูดต่อว่า ภูมิยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก อเมริกาต้องสามารถเข้าถึงท่าเรือ ฐานทัพอากาศที่อู่ตะเภา รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ นี่คือคำพูดของอเมริกา เป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวางกำลังของกองกำลังสหรัฐฯ รายงานข่าวระบุ ยืนยันว่า อเมริกาพึงพอใจในการแบ่งปันข้อมูลความลับกับประเทศไทย

ท่านผู้ชมครับ พรรคก้าวไกลแถลงเป็นนโยบายในหนังสือของเขา หลักฐานนี้ชัดเจน จะให้ไทยเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอเมริกา และตั้งเป้าในการเพิ่มทรัพยากรสำหรับการฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ที่จัดขึ้นในไทย รวมทั้งความร่วมมือในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก

ท่านผู้ชมครับ อ่านระหว่างบรรทัดคืออะไร ? อ่านระหว่างบรรทัดก็คือว่า ประเทศไทยยินดีที่จะเป็นพรมเช็ดเท้าให้อเมริกาอย่างแน่นอนที่สุด ภายใต้การบริหารงานของพรรคก้าวไกล พร้อมจะเปิดประตูให้อเมริกามาปักหมุดในประเทศไทย ก็คือพูดง่ายๆ ว่าถ้าเวลามีเรื่องมีราวเกิดขึ้นมา เรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกา ตลอดจนทหารอเมริกา สามารถจะใช้พื้นที่ประเทศไทยได้ เพราะว่าพรรคก้าวไกลระบุลงไปแล้วว่าเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอเมริกา เราไม่เคยพูดอย่างนี้มาเลย ท่านผู้ชม เราอยู่ในเอเชีย เราไปในภูมิภาคเอเชีย ไปกว่างโจว ไปฮ่องกง ไปพนมเปญ ไปโฮจิมินห์ซิตี ไปฮานอย เราบินเครื่องบินแค่ 1-2 ชั่วโมง อเมริกามันอยู่อีกทวีปหนึ่ง ท่านผู้ชมครับ อเมริกามันเคยจริงใจกับใคร มันเข้าปากีสถานไปทำลายเขา ฆ่าเขา ถูกเขาไล่ออกเหมือนหมาที่ไม่มีเจ้าของ มันเข้าไปในอิรัก ฆ่าคนอิรักเป็นล้านๆ คน จนวันนี้มันก็จะไปตั้งฐานทัพในอิรักส่วนหนึ่งเพื่อที่จะสูบน้ำมัน มันแอบตั้งฐานทัพอยู่ในซีเรียเพื่อสูบน้ำมัน มันเข้าไปในลิเบีย ฆ่ากัดดาฟี เพื่อเอาน้ำมัน


มันสนับสนุนม็อบฮ่องกง เพื่อที่จะล้มล้างประเทศจีน ประกาศฮ่องกงเป็นอิสรภาพ แล้วมันก็สนับสนุนม็อบสามนิ้ว เพื่อเดินหน้าล้มล้างสถาบันกษัตริย์ แล้ววันนี้พรรคก้าวไกลมาบอกว่าจะเป็นพันธมิตรทางด้านความมั่นคงของอเมริกา ก็สรุป วันนี้ประเทศไทยเลือกอเมริกาแล้วใช่ไหม เมื่อเลือกอเมริกาแล้ว มันไม่ต้องทำอะไรหรอก พรรคก้าวไกลจะเปิดประตูให้มันเอง แล้วมันก็จะอ้างว่าพรรคก้าวไกลเชิญมันเข้ามา แล้วมันก็จะส่งอาวุธข้ามไทยเข้าไปพรมแดน ผมเคยบอกท่านผู้ชมแล้วไงว่า ในประเทศในภูมิภาคนี้ไม่มีใครเหนือใคร คุณทำอะไร อีกฝั่งตรงข้ามเขารู้หมด และเขาก็เตรียมพร้อมหมด เขาเตรียมพร้อมอย่างไร ? ผมเล่าคราวที่แล้ว อาทิตย์ที่แล้ว ผมเล่าให้ฟังแล้วว่าประเทศจีนมีทหารอยู่ในพม่าตอนนี้แสนคน ทหารจีนอยู่ในพม่าแสนคน ทำอะไร ? ป้องกันท่อส่งก๊าซที่จีนลงทุนกับพม่า เพื่อส่งก๊าซในอ่าวของพม่ากลับไปที่ประเทศจีน แสนคน แล้วกำลังแสนคนนี้เป็นกำลังที่พร้อมจะรบได้ทุกเมื่อ

วันนี้ฝ่ายกบฏพม่าเริ่มใช้โดรนไปโจมตีทหารพม่า ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่มันเอาโดรนมาจากไหนล่ะ ถ้ามันไม่เอามาจากอเมริกา แล้วมันผ่านทางไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ผ่านไทย อีกหน่อยพอก้าวไกลประกาศว่าประเทศไทยเป็นพันธมิตรทางความมั่นคงกับอเมริกา ท่านจะเริ่มเห็นทหารรับจ้างอเมริกา ทหารต่างๆ ของอเมริกามาในรูปแบบของพลเรือน ซึ่งทุกวันนี้ที่เชียงใหม่ก็มีทหารเต็มไปหมดแล้ว แต่มานอกเครื่องแบบ

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่เคยคิด ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้อ่านนโยบายต่างประเทศแบบนี้ ประเทศไทยจะเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอเมริกา และตั้งเป้าในการเพิ่มทรัพยากรในการฝึกคอบร้าโกลด์ การฝึกคอบร้าโกลด์ก็คือการย้ายทหาร กองกำลัง รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบิน เข้ามาร่วมฝึก พอฝึกแล้วไม่ออกไปไหน อยู่ประมาณสัก 6 เดือน เรือบรรทุกเครื่องบินก็วิ่งอยู่แถวนั้น ท่านผู้ชมคิดว่าจีนเขาไม่ตอบโต้หรือ

คุณศิริกัญญา คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คุณปิยบุตร แสงกนกกุล พวกคุณต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะถ้าจีนเขาตอบโต้ เขามีวิธีตอบโต้เยอะแยะไปหมด เขาตอบโต้ทางเศรษฐกิจเรา เศรษฐกิจไทยเจ๊ง ท่องเที่ยวเจ๊ง ผลไม้ไทยเจ๊ง ผมถามว่าพวกคุณ พวกติ่งก้าวไกลทั้งหลาย คุณรับได้ไหม แล้วเมืองไทยจะกลายเป็นเมืองกระสุนปืนตก แต่ก่อนยังเป็นการคาดคะเน อนุมาน วันนี้ชัดเจนแล้ว ท่านผู้ชม ชัดเจนแล้วว่าพวกนี้เป็นพวกขายชาติ วันนี้ผมไม่มีสี ผมมีอยู่อย่างเดียว ผมต้องการปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พรรคก้าวไกลมันระยำ มันใช้เสียงข้างมากมาอันดับหนึ่ง เพราะว่ามันมีคนอยู่เยอะ หลงใหลมันโดยที่ไม่รู้เนื้อหาพวกนี้ อเมริกามันไปที่ไหน มันเคยอยู่ที่ไหน พอมันเริ่มแพ้ มันทิ้งทันทีเลย มันเททิ้ง สมัยก่อนที่มันบุกเข้าไปในเวียดนาม มันยุให้โง ดินห์ เดียม, เหงียน วัน เถี่ยว รบกับเวียดกง พอเวียดกงชนะ ท่านผู้ชมเห็นภาพแล้วไม่ใช่หรือ เฮลิคอปเตอร์บินจากสถานทูตอเมริกาออกไป มีคนห้องกระโตงกระเตงหนีออกไป แล้วมันทิ้งเลยจริงๆ นะท่านผู้ชม มันทิ้งอัฟกานิสถานเลย อาวุธเป็นแสนๆ ล้านบาท มันทิ้งเลย มันไม่สนใจ มันทิ้ง มันเข้าไปปกครองเขา 20 ปี และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

ยูเครนวันนี้มันแพ้แล้ว แพ้รัสเซียแล้ว มันเริ่มทิ้งยูเครน เพื่อให้ยุโรป อียู รับผิดชอบ ให้นาโตรับผิดชอบต่อไป แล้วมันก็ move ณ เวลานี้มันย้ายมาที่เอเชียแปซิฟิก มุ่งเป้าที่ไต้หวัน และจะใช้ไทย ให้ไทยเปิดประตูให้มันเข้ามา ใช้ตามหลักการที่มันพูด


หลักการที่มันพูดอยู่ในอินโด-แปซิฟิก ว่า เราต้องสามารถเข้าถึงท่าเรือ ฐานทัพอากาศที่อู่ตะเภา รวมไปถึงท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ เป็นช่องทางสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวางกำลังและกองกำลังสหรัฐฯ ท่านผู้ชมครับ นี่คือหลักฐาน มันเตรียมมาทำให้ประเทศไทยเป็นยูเครน 2 แล้ว มันไม่ได้สนใจพวกก้าวไกลหรอก ถ้ามันบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำลายจีน ในการต่อสู้กับจีน ท่านผู้ชม ท่านคิดว่าจีนเขาจะสั่งเฉยให้ทำเหรอ วันนี้เขาใช้ความอดกลั้นอย่างมาก ในฐานะที่เขาเคารพสถาบันกษัตริย์ เขาเงียบ เขาไม่แสดงออกอะไร แต่ถ้าเขาขยับแล้วเราจะรับไม่ไหว งานนี้ 

แล้วถ้าเศรษฐกิจเราฉิบหาย ผมถามพรรคก้าวไกล ถามคุณศิริกัญญา ถามธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถามพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และผมถามปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าอเมริกามันจะเอาเงินทองมาช่วยประเทศไทยไหม ถ้าประเทศไทยจนลงมา ตอบให้ผมหน่อย ถ้าชาวสวนผลไม้ที่จันทบุรี ที่ตราด ทางภาคตะวันออก ทุเรียนทางใต้ ทุเรียนทางเหนือ ไม่ว่าจะเป็นที่อุตรดิตถ์ ที่โน่นที่นี่ มังคุด ผลไม้ต่างๆ จีนเขาง่ายนิดเดียว เขาไม่ให้เอาเข้าประเทศ รายได้ที่คุณเคยได้ปีละ 2 ล้านล้านบาท หายวับไปกับตา พวกคุณ พรรคก้าวไกล ศิริกัญญา ตันสกุล ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปิยบุตร แสงกนกกุล คุณรับผิดชอบได้ไหม


แล้วผมจะฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาลอีก 7 พรรค ผมถามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณชลน่าน ศรีแก้ว ผมถามคุณทักษิณ ชินวัตร ที่มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย ผมถามคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งยึกยักมาก อยากจะร่วมกับก้าวไกล ถ้าวันหนึ่ง... ไม่ใช่วันหนึ่ง มันชัดเจน มันชัดเจนครับคุณจาตุรนต์ ผมไม่ได้มโน ไม่ได้อนุมาน นี่อยู่ในนโยบายของพรรคก้าวไกล "จะเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอเมริกา และตั้งเป้าในการเพิ่มทรัพยากรการฝึกร่วมคอบร้าโกลด์" ถ้าวันนั้นมาถึง คุณจาตุรนต์ ฉายแสง คุณจะรับผิดชอบได้ไหม และหลายๆ คนที่เฮ้าเลี่ยน เพื่อประชาธิปไตยใช่ไหม

ผมถามพี่วันนอร์ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พี่วันนอร์เป็นมุสลิม อเมริกาฆ่าคนมุสลิมทั่วโลก จนวันนี้มันยังหนุนหลังอิสราเอลให้ฆ่าชาวปาเลสไตน์ วันนี้ตะวันออกกลาง ชาวมุสลิมเขารวมตัวกันแล้ว เขาไม่ยอมเป็นทาสมัน เขาต้องการสันติภาพ คุณวันนอร์กำลังสนับสนุนพรรคการเมืองที่เอาประเทศที่มันฆ่าชาวมุสลิมเข้ามาแทรกแซงในภูมิภาคนี้ได้อย่างไร


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย มีอยู่ 6 เสียง คุณหญิงมีความสุขใช่ไหมที่จะได้ร่วมรัฐบาล และที่จะได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีกับเขาบ้าง แต่ในที่สุดแล้วรัฐบาลที่เป็นเสียงข้างมากของมัน ต้องการเปิดประตูให้อเมริกาเข้ามา จากการแถลงนโยบาย เป็นนโยบายของพรรค เป็นทางการ ผมทวนอีก "ประเทศไทยจะเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอเมริกา" ก็คือว่า ความขัดแย้งของมหาอำนาจนี้ ก็คือความขัดแย้งที่ประเทศไทยตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ภายใต้การบริหารงานของพรรคก้าวไกล จะต้องเปิดประตูให้อเมริกา ถ้าอเมริกาขอร้องมา แล้วถ้าไทยต้องแทรกแซงพม่า ไทยมีปัญญาแทรกแซงได้อย่างไร พม่าเองก็มีอาวุธ ถ้าพม่าโจมตีไทย เพราะไทยไปแทรกแซงเขา พิธาก็เลยจะบอกว่า ขอเชิญอเมริกาส่งทหารเข้ามาช่วย ส่งอาวุธเข้ามาช่วย ฉิบหายเลย ท่านผู้ชม ทหารจีนที่อยู่ในประเทศพม่าหนึ่งแสนคน อย่าไปนึกว่าเขามาเฝ้าท่อส่งก๊าซโดยไม่มีอาวุธ รัสเซียเพิ่งซ้อมรบกับจีน และลาว รัสเซียมีกองบินอยู่ที่ทางเหนือของลาว และมีอาวุธยุทโธปกรณ์เต็มไปหมด แล้วทหารจีนพร้อมจะลงมาที่ลาว ท่านผู้ชม หลับตาถึงวันนั้น แล้วทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากพรรคก้าวไกล

คุณชูวิทย์ คุณวิโรจน์ ผมไม่ได้มโน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณวิโรจน์ นี่เป็นนโยบายพรรคคุณ พรรคที่จะทำเมืองไทยกลายเป็นยูเครน 2 พรรคที่จะมีสงครามในประเทศไทย คุณนึกว่าจีนเขาไม่มีแสนยานุภาพหรือ แสนยานุภาพเขามีหลายประการ และเขาเหนือกว่าอเมริกา เพราะเขาอยู่ในถิ่นของเขา อยู่ในดินแดนของเขา กองทัพเรือเขาก็มีอยู่ที่ฐานทัพเรียม ที่กัมพูชา ลาวก็อยู่ที่นั่นแล้ว พม่าก็มีอยู่ เรานี่ถูกเขาล้อมหมดแล้ว พม่า ลาว เขมร ทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหม ถ้าเห็นด้วย เราต้องไม่ให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลอย่างเด็ดขาด นอกจากไม่ให้แล้ว ยังต้องเปิดโปงความชั่วช้าสามานย์ที่ทำทุกอย่าง ขายชาติขายแผ่นดินให้กับอเมริกา นี่คือคนบาปของแผ่นดิน ท่าน ส.ส. และ ส.ว. 18 คน ที่ได้ข่าวว่าจะลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล คุณก็คือคนขายชาติขายแผ่นดินเช่นกัน ลงไปเลย จะได้เอาชื่อต่างๆ 18 คนนี้ มาจารึกในประวัติศาสตร์ วันไหนถ้าเกิดสงครามในประเทศไทย พวกนี้ล่ะจะต้องรับผิดชอบ

ท่านผู้ชมครับ ขอโทษที อารมณ์มันแรงเรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ แลผมไม่ได้พูดโดยไม่มีหลักฐาน ท่านผู้ชม นี่หลักฐาน นโยบายต่างประเทศของพรรคก้าวไกล ท่านผู้ชมครับ ไม่ต้องกลัว ผมไม่ยอมแน่ๆ ผมเรียนท่านผู้ชมแล้ว วันนั้นมาเมื่อไร ผมพร้อมจะลงถนนได้ทันที คุณชูวิทย์รู้ไว้ด้วย ผมจะลงถนน ส่วนคุณจะเกาะกระแสด้วยหรือไม่ ก็ช่างหัวคุณ ผมไม่สนใจ คุณวิโรจน์ นี่ไม่ใช่จิตวิทยาหมู่แล้วนะ คุณนี่ช่างซ่อนเร้นกันดี มิน่า พรรคก้าวไกลถึงต้องการจะคุมกระทรวงกลาโหม เห็นหรือยังท่านผู้ชม ต้องการคุมกลาโหม มหาดไทย เพื่ออะไรล่ะ ? เพื่อทำให้ทหารอ่อนแอ ลดงบประมาณทหาร ลดกำลังพล

ท่านผู้ชมครับ ผมไม่นึกเลยว่าอายุผมขนาดนี้แล้ว ผมจะเจอความเลวทรามต่ำช้าของคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วยกับผม อย่าหยุดเพียงแค่นี้ กระจายคำพูดของผมออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หาแนวร่วม ถามทุกคนที่เดินถนนว่าอยากให้เมืองไทยมีสงครามไหม ถ้าไม่อยากให้มีสงครามก็บอกไปเลยว่า ใครจะเป็นคนนำสงครามเข้ามา นั่นคือพรรคก้าวไกล ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ นั่นคือคำตอบหรือยังว่าทำไมมันถึงพยายามล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เพราะสถาบันกษัตริย์นั้นใกล้ชิดกับจีน ใกล้ชิดกับรัสเซีย เพราะฉะนั้นแล้วในสายตาพวกมัน ประเทศไทยไม่มีกษัตริย์ ดีที่สุด ท่านผู้ชมเข้าใจประเด็นนี้หรือยัง

พิธา ก้าวไกล = เซเลนสกี ยูเครน


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมคิดเหมือนผมหรือเปล่า ว่านายพิธา กำลังทำตัวเป็นเซเลนสกีของยูเครน กำลังมีช่องทางที่จะออกเป็นนโยบายเพื่อเปิดประตูให้อเมริกาเข้ามา เหมือนกับที่อเมริกาเข้าไปสนับสนุนเซเลนสกี โดยเบื้องหลังเซเลนสกีนั้น คือผลพวง ผลผลิตในการเป็นรัฐบาลจากการหนุนหลังของอเมริกา เหมือนพรรคก้าวไกล อเมริกาเป็นคนสร้างพรรคก้าวไกลขึ้นมา แล้วหลายอย่าง ท่านผู้ชมครับ ผมคิดว่าคุณพิธากำลังจะกลายร่างเป็นเซเลนสกีของประเทศไทย เพราะเมืองไทยอีกไม่นาน ถ้ายังเดินตามนโยบายต่างประเทศของคุณพิธา และพรรคก้าวไกล เมืองไทยเป็นยูเครน 2 แน่นอน


คุณอย่ามาพูดว่าเรื่องมันยังไม่เกิด คุณเตรียมตัวให้มันเกิดแล้วไม่ใช่หรือ เพียงแต่ว่า ใครเผลอปั๊บ ถ้าไม่มีคนอย่างผมอยู่ หรือถ้าไม่มีคนสนใจเรื่องนี้อยู่ คุณก็เปิดประตูให้อเมริกาเข้ามา คุณไม่รู้หรอกหรือว่าพวกคุณกำลังจะทำความพินาศฉิบหายให้กับชาติ

เอาล่ะ ผมจะเอาข้อมูลอย่างหนึ่งให้คุณดู คุณรู้จักคนชื่อ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ไหม ? คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ผมรู้จักดี เพราะว่าผมก็เป็นเหมือนลูกหลานคนหนึ่งของนายห้างเทียม โชควัฒนา ทั้งคุณบุณยสิทธิ์ คุณบุญชัย คุณบุณยสิทธิ์ เป็นคนที่ไม่เคยยุ่งเรื่องการเมืองเลย เป็นคนที่ไม่พูด รูดซิปที่ปาก ใครจะเลวทรามอย่างไร คุณบุณยสิทธิ์เฉยหมด แต่งวดนี้คุณบุณยสิทธิ์พูดออกมา ผมยังตกใจเลยว่านี่จากปากของคุณบุณยสิทธิ์เหรอ คุณบุณยสิทธิ์พูดอย่างนี้ คุณพิธา ท่านผู้ชมครับ คุณบุณยสิทธิ์บอกว่าห่วงว่าที่รัฐบาลชุดใหม่บริหารงานไม่เป็น หวั่นพาประเทศเป็นเหมือนยูเครน โอ้โห ตายล่ะ เซเลนสกีภาคภาษาไทย จะว่าอย่างไรเรื่องนี้


คุณบุณยสิทธิ์ยอมรับว่าเป็นห่วงนโยบายปรับขึ้นค่าแรง 450 บาท เพราะถ้าค่าแรงพุ่งสูง จะทำให้นักลงทุนเบนเข็มย้ายการลงทุนไปประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เวียดนาม อุตสาหกรรมเสื้อผ้า แม้ไม่ได้ขึ้นค่าแรงก็ยังมีการย้ายออกไปที่เวียดนามแล้ว ในค่าแรงปัจจุบัน อีกอย่าง การขึ้นค่าแรงกระทบต่อธุรกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ส่วนนโยบายการทลายทุนผูกขาดและเก็บภาษีความมั่งคั่งที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบต่อความมั่นใจของผู้ประกอบการนี้ คุณบุณยสิทธิ์บอกว่าไม่เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะเป็นแนวทางที่เหมือนกันทั้งโลก ส่วนรัฐบาลพรรค 8 พรรค ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 7 คณะ หนึ่งในปัญหาคือการแก้เรื่องเศรษฐกิจ มองว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ยังไม่รู้ว่าดีหรือไม่ เพราะไม่รู้แนวทางการแก้ปัญหารูปแบบไหน การตั้งรัฐบาลอาจจะมีความล่าช้า ไม่น่ากังวล ไม่กระทบต่อการลงทุน คุณบุณยสิทธิ์คิดว่าประเทศไทยยังดีกว่าประเทศอื่น ท่านฝากการบ้านไปให้รัฐบาลชุดใหม่ ให้เร่งพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ต้องพัฒนาเศรษฐกิจ ให้คนมีการศึกษา ให้คนมีงานทำ เช่น พัฒนาด้านการเกษตรให้มีราคาสูงขึ้น คนที่ทำการเกษตรจะได้มีรายได้เทียบเท่ากับคนที่ทำงานอุตสาหกรรม จะทำให้เศรษฐกิจไม่มีคนว่างงาน


ตรงข้าม ถ้าราคาสินค้าเกษตรลดลง คนจะหนีจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จะมีปัญหาเรื่องค่าแรงอีก ส่วนการที่ประเทศจะมีนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด คุณบุณยสิทธิ์บอกว่า คนรุ่นใหม่จะมีไอเดียแบบใหม่ ทำอะไรเร็วขึ้น ส่วนคนอายุมากจะรอบคอบ อาจจะทำงานช้า เพราะฉะนั้นแล้ว มีคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นจุดเด่น ในต่างประเทศเขามีนายกรัฐมนตรีรุ่นใหม่ รวมทั้งบางประเทศก็มีผู้หญิง ทั่วโลกก็มีการเปลี่ยนแปลง ถือว่าอายุไม่เกี่ยวอะไร คุณบุณยสิทธิ์พูดต่อว่า อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้เปรียบเสมือนขับรถหรู รถเร็ว รถมาสแตง แต่ยังต้องให้ความสำคัญและระวังภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ผมเตือนไปแล้วนะคุณพิธา และคุณผมเตือนคุณศิริกัญญาไปแล้วนะ ผมยกตัวอย่างเยอรมนีไปแล้วใช่ไหม ว่าจะทำให้อียูถดถอย อเมริกาถดถอย ขณะที่การทำธุรกิจยุคนี้ต้องรู้จักปรับตัว บริษัทเอกชนก็สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนมาก็พร้อมให้ความร่วมมือปรับตัวเช่นกัน

คุณบุณยสิทธิ์พูดเจ็บมาก ปัจจัยเสี่ยงอันดับแรกของการทำธุรกิจปีนี้ คือ คุณพิูธาฟังให้ดีๆ นะครับ ปัจจัยเสี่ยงอันดับแรกคือของการทำธุรกิจปีนี้คือ “ความมั่นคงของประเทศ” ความมั่นคงของประเทศ ผมห่วงคนผู้นำประเทศ บริหารไม่เป็น และทำให้เป็นเหมือนประเทศยูเครน


ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมรู้ไหม สหพัฒนพิบูลไม่ใช่ธุรกิจผูกขาด เป็นการทำมาค้าขายแข่งขันกันโดยเสรี การที่คุณบุณยสิทธิซึ่งระมัดระวังในการพูดออกมาพาดพิงทางการเมือง ออกมาพูดแบบนี้ ท่านผู้ชมเดาเอาแล้วกันว่า ความคิดลึกๆ แล้ว นักธุรกิจระดับคุณบุณยสิทธิ์เขาคิดอย่างไรบ้าง

ท่านผู้ชมครับ วันนี้ขอประทานโทษหน่อยที่ผมอาจจะพูดจาแบบองค์ลง แต่ผมรับไม่ได้กับการที่จะเปิดประเทศ ออกนโยบายประกาศเป็นพันธมิตรทางความมั่นคงกับอเมริกา และจะเพิ่มทรัพยากรในการซ้อมรบคอบร้าโกลด์ ก็คือสรุปง่ายๆ ว่า จะทำตามที่อเมริกาสั่ง ถ้าอเมริกาบอกให้ต่อต้านจีน ก็จะต่อต้าน หลายคนที่ผมพูดถึงวันนี้ ไม่ได้มีเจตนา แต่ผมเอาความจริงเข้าว่า คุณศิริกัญญา คุณต้องยอมรับ คุณพลาดไปแล้ว คุณไม่ค้าขายกับจีน แล้วคุณจะค้าขายกับหมาที่ไหนที่จะให้ประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด รวมทั้งพิธีกรช่อง 3 ทั้งสองคน ให้คุณรับทราบด้วยว่า คุณเป็นแค่ลูกจ้างเขานะ คุณอย่าทะลึ่งเกินเลยเถิดไป

ท่านผู้ชมครับ เราค่อยเจอกันอาทิตย์หน้า สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น