xs
xsm
sm
md
lg

น่าคิด! “ดร.อานนท์” ชี้ ลัทธิ “ชังชาติ” ร้ายแรงกว่า “ล้มเจ้า” ระบุ เพราะถ้าคนไทยสมาทานชังชาติ ประเทศถึงกับอยู่ไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ภาพ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากแฟ้ม
“ดร.อานนท์” ชี้ ลัทธิชังชาติ ร้ายแรงกว่าลัทธิล้มเจ้า ระบุ หากลัทธิล้มเจ้าทำสำเร็จ สถาบันจะหายไปจากประเทศไทย แต่ประเทศชาติอาจยังคงอยู่ แต่ถ้าคนไทยทุกคนสมาทานลัทธิชังชาติ ประเทศก็ไม่อาจจะดำรงอยู่ได้

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แง่คิด 5 ธ.ค. 66 ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ลัทธิชังชาติร้ายแรงกว่าลัทธิล้มเจ้า” ระบุว่า

“ผมมีความเห็นว่า ลัทธิล้มเจ้า เป็นภัยต่อสถาบันหลักของชาติ ต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นภัยสำหรับผู้ที่แสดงออกอย่างไม่ถูกต้อง แต่หากมีความฉลาดพอ เช่น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็ยังไม่ต้องคดีใดๆ ทั้งสิ้น แต่ให้เด็กๆ ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง เข้าคุกหัวโตไป โดยตนเองยุยงปลุกปั่น ให้ความคิดอยู่เบื้องหลัง ไม่ออกหน้า ไม่พูดเอง

ส่วนลัทธิชังชาตินั้น ถ้าวิเคราะห์โดยใช้ทฤษฎีทางจิตวิทยาแล้ว คนที่สมาทานลัทธิชังชาติ จะขาดการพัฒนาตนเอง สร้างปัญหาความแตกแยกขัดแย้งในสังคม กล่าวโทษด่าทอทุกสิ่งอย่าง เป็นพลังทางลบที่ทำให้คนที่สมาทานลัทธิชังชาติขาดความเจริญก้าวหน้าในชีวิต เพราะมัวแต่ด่าทอกล่าวโทษคนอื่นอยู่ร่ำไป ไม่ได้คิดแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น

ในภาพรวมสำหรับประเทศชาตินั้น ลัทธิชังชาติ ร้ายแรงกว่าลัทธิล้มเจ้า เพราะหากลัทธิล้มเจ้าทำได้สำเร็จ ซึ่งเอาเข้าจริงไม่มีทางทำได้สำเร็จ สถาบันจะหายไปจากประเทศไทย แต่ประเทศชาติอาจจะยังคงอยู่ แต่ถ้าคนไทยทุกคนสมาทานลัทธิชังชาติเข้ามาไว้ในใจตนกันทุกคนแล้ว ประเทศก็จะไม่อาจจะดำรงอยู่ได้ เพราะจะด่าทอกล่าวโทษกันไปมา ไม่มีใครลุกขึ้นมาพัฒนาแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น

ลัทธิชังชาติจึงเป็นลัทธิของผู้พ่ายแพ้อย่างแท้จริงในชีวิตจริง เป็นลัทธิของคนที่ด่าเงาและความมืดแทนที่จะจุดไฟในความมืด แม้จะเป็นเพียงแสงอันริบหรี่เพียงชั่วคราวก็ยังดีกว่าเสียงด่าเงาและความมืดที่ดังก้องยาวนานแต่ไม่เกิดประโยชน์อันใดและการเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่”
กำลังโหลดความคิดเห็น