xs
xsm
sm
md
lg

อย่าฝันหวานว่าได้งบช่วยเหลือ 6 หมื่นล้านดอลลาร์จาก US เสียที จะทำให้ยูเครนก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอย่างแน่นอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แตะบ่าเดินเคียงคู่ไปกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน  ก่อนหน้าเข้าร่วมหารือในวาระทำงานว่าด้วยยูเครน ระหว่างการประชุมซัมมิตของผู้นำกลุ่ม จี7 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2023
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

$60 billion in US aid: no certain path to victory
By STEFAN WOLFF
23/04/2024

โอกาสพักหายใจสำหรับให้เคียฟได้มีเวลาปรับปรุงฐานะเพื่อการเจรจาต่อรองของฝ่ายตนให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น เมื่อในที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายจะต้องนั่งลงพูดจากันเพื่อนำสงครามคราวนี้ไปสู่จุดจบ?

ต้องเสียเวลาอยู่หลายเดือนทีเดียวไปกับการชะลอเลื่อนช้า แล้วยูเครนยังต้องร้องวอนขออย่างจนตรอกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯก็ผ่าน [1] ร่างกฎหมายให้อำนาจฝ่ายบริหารในการให้ความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่าราว 60,000 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน

ร่างกฎหมายนี้ยังจะต้องผ่านขั้นตอนให้วุฒิสภาอเมริกันพิจารณารับรองอีก แล้วจากนั้นก็ต้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย แต่เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า สภาสูงสหรัฐฯได้เคยผ่านร่างกฎหมายที่มีข้อความคล้ายๆ กันนี้ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว ตลอดจนการที่ ไบเดน เรียกร้องสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นยิ่งว่าจำเป็นต้องสนับสนุนยูเครน เรื่องเหล่านี้จึงน่าจะเป็นการเพียงการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนแบบแผนอย่างเป็นทางการเท่านั้น
(หมายเหตุผู้แปล – วุฒิสภาสหรัฐฯเลือกใช้วิธีนำเอาร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรมาพิจารณา และลงมติผ่านในคืนวันอังคาร (23 เม.ย.) จากนั้นประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ลงได้นามบังคับใช้ร่างนี้เป็นกฎหมายในวันพุธ(24) ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://edition.cnn.com/2024/04/24/politics/biden-signs-foreign-aid-bill/index.html และ https://apnews.com/article/joe-biden-mike-johnson-ukraine-israel-b72aed9b195818735d24363f2bc34ea4)

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เป็นอันว่าความสนับสนุนจากสหรัฐฯก็ได้เข้ามาช่วยรักษาให้ยูเครนอยู่รอดปลอดภัย ไม่ต้องประสบกับความพ่ายแพ้ปราชัยอย่างที่ก่อนหน้านี้เห็นกันว่าแทบจะเป็นการแน่นอนอยู่แล้ว [2] กระนั้นหรือ? คำถามนี้ยังไม่สามารถที่จะให้คำตอบตรงไปตรงมาอย่างชัดเจนได้หรอก สิ่งที่แน่นอนคือมันทำให้ยูเครนได้มีเวลาพักหายใจ [3] ในสมรภูมิ --รวมทั้งมีโอกาสที่จะหยุดยั้งชั่วคราวการรุกคืบของฝ่ายรัสเซีย ที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคงสม่ำเสมอในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งคำนวณสุทธิแล้วทำให้มอสโกเป็นฝ่ายที่ช่วงชิงดินแดนได้เพิ่มมากขึ้น

นอกเหนือจากต้องผ่านขั้นตอนการอนุมัติรับรองจากวุฒิสภาและจากประธานาธิบดีสหรัฐฯแล้ว ยังมีความยากลำบากทางด้านการส่งกำลังบำรุงบางประการ [4] ที่จะต้องแก้ไขเอาชนะอีกด้วย พวกฮาร์ดแวร์ทางการทหารซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างเร่งด่วนของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเครื่องกระสุน เวลานี้มีการลำเลียงมาเก็บรักษาเอาไว้ในโปแลนด์ ซึ่งอยู่ประชิดติดต่อกับยูเครนเสร็จสรรพอยู่แล้ว ทว่าสิ่งเหล่านี้ก็ยังจำเป็นต้องขนส่งต่อไปให้ถึงแนวหน้า และประสานเข้าไปในยุทธศาสตร์ยุทธวิธีการป้องกันซึ่งพวกกองทหารยูเครนที่นั่นใช้กันอยู่

อย่างไรก็ดี เมื่อคำนึงว่าพวกผู้นำของยูเครนเวลานี้ต่างมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยขึ้นมาแล้วจากความรู้ที่ว่ายุทธสัมภาระทั้งหลายกำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ เคียฟย่อมสามารถที่จะผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการปันส่วนเครื่องกระสุนที่พวกเขาถูกบีบคั้นให้ต้องทำในระยะหลังๆ นี้ แล้วหากรวมเข้ากับขวัญกำลังใจที่เพิ่มพูนขึ้นของกองทหารเข้าไปอีก นี่ย่อมหมายความว่าสถานการณ์ของแนวหน้าน่าที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น กระทั่งก่อนที่ยุทธสัมภาระใหม่ของสหรัฐฯจะเดินทางไปถึงด้วยซ้ำ

เจตนารมณ์ทางการเมือง

นอกเหนือจากความผ่อนคลายโล่งอกแล้ว แพกเกจความช่วยเหลือนี้ยังจะสามารถให้อะไรที่ดีๆ อย่างแท้จริงได้ยิ่งกว่านั้นอีกมากน้อยแค่ไหน? เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง การที่จะประคับประคองรักษาให้มีความช่วยเหลือทางทหารและความช่วยเหลือรูปแบบอื่นๆ ไหลเข้าสู่ยูเครนอย่างมีความยั่งยืนนั้น มันไม่ใช่เพียงแค่เป็นคำถามทางการเงินเท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใดเลยมันคือเรื่องของเจตนารมณ์ทางการเมือง

การชะลอชักช้ามาเป็นแรมเดือนที่เกิดขึ้นในรัฐสภาสหรัฐฯคราวนี้ โดยสาระสำคัญที่สุดแล้วมันเป็นประเด็นการเมืองภายในสหรัฐฯเองซึ่งเกิดขึ้นมาในปีที่มีการจัดเลือกตั้งประธานาธิบดี ทั้งนี้ หลังจาระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับเรื่องยูเครนออกมาแบบสับสนชวนงุนงงอย่างต่อเนื่องกันไม่ขาดสาย เขาก็หนุนหลัง [5] ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นชาวพรรครีพับลิกันด้วยกัน(และตามปกติแล้วได้ชื่อว่าเป็นคนซึ่งอยู่ในคาถาของเขา) ที่ตัดสินใจนำเอาร่างกฎหมายช่วยเหลือยูเครนฉบับนี้เข้าสู่การโหวตลงคะแนนของบรรดา ส.ส.ทั้งสภาเมื่อวันเสาร์ (20 เม.ย.) ที่ผ่านมา กระนั้นยังคงปรากฏว่าจำนวนของ ส.ส.รีพับลิกันที่คัดค้านร่างกฎหมายนี้ [6] ยังคงมีมากกว่าจำนวนที่สนับสนุนอยู่นั่นเอง

ยิ่งกว่านั้น ในกรณีที่ถ้าหาก ทรัมป์ สามารถหวนกลับคืนสู่ทำเนียบขาวได้สำเร็จภายหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ เรื่องความขุ่นข้องไม่พอใจเป็นการส่วนตัวหรือกระทั่งความอิจฉาริษยา [7] ที่เขามีอยู่กับยูเครน และกับโวโลดิมีร์ เซเลสกี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของยูเครน คือเรื่องซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เรื่องนี้ -เช่นเดียวกับการที่เขาเคยแสดงความชื่นชมยกย่อง วลาดิมีร์ ปูติน ครั้งแล้วครั้งเล่าในอดีตที่ผ่านมา— ย่อมทำให้ตัวเขา และสหรัฐฯด้วย กลายเป็นพันธมิตรที่ไม่มีความแน่นอนเอาเลยในระยะยาวสำหรับยูเครน

แล้วสภาพเช่นนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเพียงแค่สหรัฐฯเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ระหว่างการพิจารณาร่างงบประมาณที่ครอบคลุมกรอบเวลาหลายปีของสหภาพยุโรป ปรากฏว่า อียู ก็ประสบความยากลำบากอยู่มาก [8] กว่าที่จะสามารถผ่านแพกเกจให้ความช่วยเหลือสนับสนุนยูเครนออกมาได้ โดยที่มีสาเหตุสำคัญมาจากการที่ในบรรดาผู้นำของรัฐและของรัฐบาลชาติสมาชิกอียูทั้ง 27ประเทศนั้น มีผู้ซึ่งเอนเอียงไปทางนิยมรัสเซียอยู่ด้วย ถึงแม้จริงๆ แล้วก็มีอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น นั่นคือนายกรัฐมนตรีวิกตอร์ ออร์บัน แห่งฮังการี อย่างไรก็ดี มาถึงเวลานี้ ออร์บัน ดูเหมือนจะหาพันธมิตรที่มีความคิดเห็นทำนองเดียวกันในหมู่ชาติอียู [9] ได้อีกคนหนึ่งแล้ว ซึ่งได้แก่ นายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย ผู้ซึ่งเพิ่งแสดงความคิดเห็นคัดค้านความพยายามในการจัดหาความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน ไม่เพียงเท่านั้นเขายังโต้แย้งว่าเคียฟควรที่จะหาทางตกลงรอมชอมด้วยการเจรจากันกับมอสโกจะดีกว่า

การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ น่าที่จะ [10] ทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปมีสัดส่วนของสมาชิกฝ่ายนิยมรัสเซียเพิ่มมากขึ้น โดยฝ่ายนี้แสดงการคัดค้านไม่เอาด้วยกับนโยบายให้ความสนับสนุนแก่ยูเครนแบบปลายเปิดอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ขณะที่อิทธิพลของพวกเขาต่อการตัดสินใจทางด้านงบประมาณยังถือว่ามีอยู่จำกัด แต่แน่นอนทีเดียวว่าพวกเขาสามารถสร้างปัญหาระดับสำคัญๆ ขึ้นมา ในกระบวนการเจรจาเพื่อพิจารณารับเอายูเครนเข้าเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป

ศักยภาพในทางเศรษฐกิจ

นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องฐานทางอุตสาหกรรมกลาโหมของสหรัฐฯและยุโรปในปัจจุบัน ซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงกับได้ผ่านการเร่งรัดปรับปรุงยกระดับขึ้นมาอย่างพอเพียง จนสามารถแข่งขันอย่างทัดเทียมกับภาคกลาโหมของรัสเซียที่มีผลผลิตทางทหารออกมาเพิ่มขึ้นอย่างมากมายกว้างขวาง และยังกำลังเสริมความแข็งแกร่งของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ การที่รัสเซียสามารถเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าสู่การเป็นระบบเศรษฐกิจแห่งสงครามได้เช่นนี้ ยังเนื่องจากได้รับการหนุนส่ง จากความสนับสนุนและจากอาวุธยุทธสัมภาระซึ่งมาจากอิหร่าน [11], เกาหลีเหนือ [12], และจีน [13] อีกด้วย

มีความมั่นอกมั่นใจกันอยู่บ้างว่า ศักยภาพการผลิตทางการทหารของสหรัฐฯและของยุโรป ตลอดจนในยูเครนเอง จะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างสำคัญภายในปี 2025 เวลาเดียวกันนี้ก็มีความข้องใจสงสัยกันอยู่บ้าง [14] เช่นกันว่า รัสเซียจะสามารถประคับประคองอัตราผลผลิตทางทหารในปัจจุบันของพวกเขาเอาไว้ได้หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าหากสหรัฐฯและอียูพยายามลงแรงเพื่อทำให้จีน [15] และอิหร่าน [16] หมดความกระตือรือร้นในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่มอสโก

ทว่ากระทั่งภายใต้ฉากทัศน์ของการสมมุติสถานการณ์แบบมองโลกแง่ดีมากๆ โดยมีทั้งการกำหนดเงื่อนไขให้ปัจจัยการลงทุนในฐานอุตสาหกรรมกลาโหมของฝ่ายตะวันตกโดยรวม สามารถที่จะประคับประคองยืนอยู่ในระดับที่มีความยั่งยืนในระยะยาวได้ พร้อมกันนั้นยังมีการเพิ่มปัจจัยแรงบีบคั้นสร้างความยากลำบากทั้งทางเศรษฐกิจและทางการส่งกำลังบำรุงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ให้แก่การประคับประคองภาคกลาโหมของทางฝ่ายรัสเซีย ผลสรุปยังคงออกมาว่า การที่จะไปให้ถึงจุดปรับเปลี่ยนในระดับที่เกิดการเปลี่ยนเกมในดุลแห่งอำนาจนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้

รัสเซียคือฝ่ายครองฐานะเป็นผู้ริเริ่ม อย่างน้อยที่สุดก็ในขณะนี้

นอกจากนี้แล้ว รัสเซียในขณะนี้ไม่ว่าจะพิจารณาจากแง่มุมไหน ก็ยังคงเป็นผู้ที่ได้เปรียบทางด้านกำลังคนอย่างชัดเจน ไม่เพียงเท่านั้นรัสเซียยังครองความเหนือกว่าในด้านการเป็นเจ้าเวหา เมื่อพิจารณาจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่เครื่องกระสุนร่อยหรอลงไปทุกที ตลอดจนเป็นฝ่ายที่ได้รับแรงโมเมนตัมแห่งการปฏิบัติการ [17] ในสมรภูมิอยู่ในเวลานี้ สิ่งหนึ่งที่รัสเซียจะต้องกระทำอย่างไม่ต้องสงสัยในปัจจุบัน ย่อมได้แก่การเพิ่มความพยายามขึ้นอีกเป็นเท่าๆ ตัว [18] ในการรุกซึ่งกระทำอยู่เวลานี้

รัสเซียจะต้องคอยหาทางใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบต่างๆ เหล่านี้ ก่อนที่การป้องกันของยูเครนจะได้รับการค้ำจุนหนุนเสริมจากการมาถึงของความช่วยเหลือทางทหาร และกระทั่งเป็นไปได้ [19] ว่า จากพวกที่ปรึกษาทางทหารของสหรัฐฯในจำนวนที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม

จุดสุดท้ายที่มีคุณค่าแก่การเน้นย้ำ ได้แก่เรื่องที่ว่า ยูเครนนั้นไม่ได้เป็นเพียงวิกฤตการณ์ความมั่นคงระดับใหญ่โตเพียงอย่างเดียวที่ฝ่ายตะวันตกกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ในเวลาเดียวกับที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนยูเครนคราวนี้ ก็ยังมีการโหวตลงมติผ่านงบประมาณให้ความสนับสนุนทางทหารแก่อิสราเอลและไต้หวัน ทำให้ยอดเม็ดเงินที่อนุมัติทั้งหมดเป็นไปได้รวมกันแล้วจะแตะระดับ 100,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว พิจารณา [20] จากการที่ปัจจุบันสหรัฐฯมียอดหนี้สินของภาครัฐบาลกลางอยู่ในระดับ 34 ล้านล้านดอลลาร์อยู่แล้ว –โดยที่กำลังเพิ่มขึ้นมา 1 ล้านล้านดอลลาร์ในทุกๆ 100 วันอีกด้วย— จึงย่อมก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาเกี่ยวกับความสามารถของสหรัฐฯที่จะอนุมัติแพกเกจความช่วยเหลือขนาดนี้กันอย่างยั่งยืนเป็นระยะยาว โดยที่คำถามไม่ใช่ดำรงอยู่เฉพาะแค่ช่วงเวลาที่จะเกิดการครองอำนาจเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองของทรัมป์อีกด้วย

เมื่อนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมดมารวมกันเข้า มันจึงอาจจะหมายความว่าการคาดการณ์ทำนายที่ว่ายูเครนจะมีชัยชนะในสงครามสู้รบ [21] กับรัสเซียภายในระยะเวลา 1 ปีหลังจากได้รับความสนับสนุนเพิ่มเติมจากสหรัฐฯในคราวนี้ อย่างเก่งที่สุดก็เป็นการมองโลกในแง่ดีจนเกินเหตุ และอย่างเลวร้ายที่สุดมันก็คืออาการหลงผิดอย่างเป็นภัยอันตรายยิ่ง การประเมินค่าอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่านี้สมควรที่จะออกมาว่า ความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ในการช่วยเหลือยูเครนอย่างกว้างขวางใหญ่โตยิ่งขึ้นซึ่งได้หล่นหายไปนาน แต่เวลานี้ฝ่ายตะวันตกดูเหมือนกลับมาค้นพบมันอีกครั้งหนึ่ง [22] แล้วนั้น มันก็คือการให้โอกาสแก่เคียฟในการปรับปรุงฐานะเพื่อการเจรจาต่อรองของฝ่ายตนให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น เมื่อในที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายจะต้องนั่งลงพูดจากันเพื่อนำสงครามคราวนี้ไปสู่จุดจบ

ทว่าแม้กระทั่งเรื่องนี้ก็ยังอาจจะกลายเป็นเพียงความเชื่อความปรารถนาที่ไม่อาจเป็นจริงได้อยู่นั่นเอง เมื่อพิจารณาจากถ้อยคำโวหารแห่งชัยชนะที่ยังคงปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ทั้งในมอสโก [23] และในเคียฟ [24] ดังนั้น สำหรับในขณะนี้แล้ว สงครามที่จะสู้รบกันไปตลอดกาลอีกสงครามหนึ่ง จึงอาจจะแค่เพิ่งมาถึงช่วงของการพอประคับประคองกันไปได้มากขึ้นอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น

สเตฟาน วูลฟ์ เป็นศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ อยู่ที่มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม, สหราชอาณาจักร

(ข้อเขียนนี้มาจากเว็บไซต์ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น https://theconversation.com/ โดยสามารถติดตามอ่านข้อเขียนดั้งเดิมชิ้นนี้ได้ https://theconversation.com/ukraine-war-us-60-billion-in-us-military-aid-a-major-morale-boost-but-no-certain-path-to-victory-228414)

ทั้งนี้ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น แถลงเปิดเผยผลประโยชน์และความเกี่ยวข้องของผู้เขียน ในหัวข้อที่เขียนถึงในบทความชิ้นนี้ ดังนี้:

สเตฟาน วูลฟ์ ในอดีตเคยเป็นผู้รับเงินทุนสนับสนุนแบบให้เปล่าจาก สภาวิจัยสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของสหราชอาณาจักร (Natural Environment Research Council of the UK), สถาบันสันติภาพของสหรัฐฯ (United States Institute of Peace), สภาวิจัยเศรษฐกิจและสังคมของสหราชอาณาจักร (Economic and Social Research Council of the UK), ราชบัณฑิตยสภาสหราชอาณาจักร (British Academy), โปรแกรมวิทยาศาสตร์เพื่อสันติภาพ องค์การนาโต้ (NATO Science for Peace Programme), โปรแกรมกรอบโครงอียู 6 และ 7 และขอบเขต ปี 2020 (EU Framework Programmes 6 and 7 and Horizon 2020), โปรแกรม ฌอง มอนเนต์ ของอียู (EU's Jean Monnet Programme) เขายังเป็นผู้ดูแล (Trustee) คนหนึ่ง และเหรัญญิกกิตติมศักดิ์ (Honorary Treasurer) ของสมาคมการเมืองศึกษาแห่งสหราชอาณาจักร (Political Studies Association of the UK), และเป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ศูนย์นโยบายการต่างประเทศ (Foreign Policy Centre) ในกรุงลอนดอน


เชิงอรรถ

[1] https://www.reuters.com/world/us/us-house-vote-long-awaited-95-billion-ukraine-israel-aid-package-2024-04-20/
[2] https://theconversation.com/ukraine-is-losing-the-war-and-the-west-faces-a-stark-choice-help-now-or-face-a-resurgent-and-aggressive-russia-227875
[3] https://www.bbc.co.uk/news/world-europe-68868399
[4]https://www.nytimes.com/2024/04/20/us/politics/weapons-aid-ukraine-military.html
[5]https://www.reuters.com/world/us/trump-meet-with-embattled-house-republican-speaker-mike-johnson-2024-04-12/
[6]https://www.nytimes.com/interactive/2024/04/20/us/politics/ukraine-israel-foreign-aid-vote.html
[7] https://www.politico.eu/article/why-donald-trump-hates-ukraine-us-congress-kyiv-war/
[8] https://theconversation.com/ukraine-opening-eu-accession-talks-is-an-important-boost-for-zelensky-despite-orbans-obstruction-219987
[9] https://www.bbc.co.uk/news/world-europe-68843542
[10] https://ecfr.eu/publication/a-sharp-right-turn-a-forecast-for-the-2024-european-parliament-elections/
[11]https://foreignpolicy.com/2023/03/03/russia-iran-drones-uav-ukraine-war-military-cooperation-sanctions/
[12]https://www.theguardian.com/world/2023/oct/27/north-korean-arms-supply-russia-war-ukraine-munition-shipments
[13]https://www.reuters.com/world/blinken-says-china-is-russias-primary-military-complex-supplier-2024-04-19/
[14]https://www.washingtonpost.com/world/2024/04/19/russia-weapons-production-ukraine-war/
[15]https://www.politico.eu/article/antony-blinken-head-back-china-armed-threat-russian-military-aid/
[16] https://www.politico.eu/article/g7-gives-iran-sharp-warning-not-to-send-ballistic-missiles-to-russia/
[17]https://www.understandingwar.org/backgrounder/russian-offensive-campaign-assessment-april-20-2024
[18]https://www.reuters.com/world/kremlin-us-house-passage-ukraine-aid-bill-will-hurt-ukraine-cause-more-deaths-2024-04-20/
[19] https://www.businessinsider.com/us-considers-deploying-more-military-advisers-to-ukraine-russia-2024-4
[20] https://www.businessinsider.com/us-debt-problem-explained-deficit-gdp-inflation-economy-interest-rates-2024-4
[21]https://thehill.com/opinion/international/4602883-ukraine-needs-one-more-year-to-win-and-congress-can-make-that-happen-now/
[22]https://www.ft.com/content/cc322202-97da-40e6-bdd2-ae1c89deea10
[23]https://www.reuters.com/world/europe/russia-says-deeper-us-hybrid-war-using-ukraine-will-end-vietnam-style-2024-04-21/
[24]https://www.reuters.com/world/europe/zelenskiy-urges-speedy-passage-ukraine-aid-us-senate-transfer-weapons-2024-04-21/
กำลังโหลดความคิดเห็น