xs
xsm
sm
md
lg

เชิญรับยาช่อง4! "โจ๊ก สายมู" ยกตัวเป็น "พระพรหม" จะลงโทษขบวนการ “4 คูณ100” เพ้อ “4ต.” ต่อ เต่า ตุ้ม ไตร รุมสยบปีก! ** “ลุงป้อม” ขยาดนาฬิกา ตอนนี้ขอมีแค่เรือนเดียวพอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เชิญรับยาช่อง4! "โจ๊ก สายมู" ยกตัวเป็น "พระพรหม" จะลงโทษขบวนการ “4 คูณ100” เพ้อ “4ต.” ต่อ เต่า ตุ้ม ไตร รุมสยบปีก!

ไม่รู้ว่าเพี้ยนเพราะอากาศร้อนจัด หรือ เป็นนิสัยถาวรที่ “โจ๊ก สายมู” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ทำอยู่เป็นนิจไม่อาจรู้ได้ แต่ ปฏิบัติที่ชวนให้คิดจิตป่วยต้องเชิญรับยาช่อง 4 หรือไม่ก็ยังดำเนินต่อจากวันก่อนที่บอกว่า ถ้าให้ประชาชนเลือก ผบ.ตร. ตัวเองเข้าวินชัวร์ป๊าด เพราะ คนทั่วไปคิดอะไรไม่ออกบอกโจ๊ก

เที่ยวล่าสุดเพิ่มเติมความเพี้ยน คือ มาในนามของ พระพรหม!

แม้ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพราะต้องคดีพัวพันเว็บพนันและฟอกเงิน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บุกถิ่นเก่าเพื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ จากกรณี “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” รรท.ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ร่ายวาจา การมาดำเนินการในส่วนของคำสั่งทางปกครองที่ให้ตนออกจากข้าราชการไว้ก่อนนั้น เป็นผลต่อเนื่องมาจากคดีอาญา ว่าเป็นการแก้คำสั่งโดยชอบหรือไม่ หากเห็นว่า เป็นการออกโดยไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว

“โจ๊ก” มาพร้อมชาร์ต สรุปว่าวันนี้เป็นภาคของคำสั่งให้ออกจาราชการไว้ก่อน และเรื่องทั้งหมดที่ทำกับตัวเองเป็นขบวนการที่เรียกว่า “ 4×100” ที่มักใช้ในขบวนการค้ายาเสพติด ที่ใช้อำนาจ มีลักษณะทำเป็นกระบวนการ

ตั้งแต่ชุดตรวจค้นที่เข้าไปตรวจบ้านตนที่มาจาก 4 ต. โดยมี “ต่อ เต่า ตุ้ม ไตร”

“มีขบวนการ “4 คูณ 100” สยบปีก “พระพรหม” ซึ่งขบวนการนี้เป็นพวกเสพติดอำนาจ อยากมีอำนาจ ประพฤติชั่ว โดยแบ่งงานกันทำ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
“โจ๊ก” โหวกเหวกว่า วันนี้ตัวเองยังมีสถานะเป็น รอง ผบ.ตร. ตามด้วยโวยวายสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาปลดป้ายเขาออกได้อย่างไร ถอดออกจากเว็บไซต์ได้ยังไง? ที "รองรอย" พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ย้ายไปนานแล้ว ไม่เห็นทำ

ขณะที่ สำทับด้วยความแค้นว่า จะยื่นฟ้องดำเนินคดีทั้งหมด สุดท้ายคนสั่งจะตายมีอยู่คนเดียวที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเป็น ผบ.

โวยวายไม่พอ ยังพูดแบบเหนือๆ ว่า “ผมต้องสอนว่า มวยมันคนละชั้น ผมเจอมาเยอะกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นไม่ได้แอ้มผมหรอก”
และขู่เตือนคนเป็นปฏิปักษ์กับตัวเอง คุกรออยู่ มีเวลาอยู่ในราชการอีก 2 ปี แต่จะต้องต่อสู้คดีอีกยาวนาน

ทว่า สิ่งที่ “โจ๊ก สายมู” พูดต่อทำเอาต้องถาม เพราะอากาศร้อนจัดเจ้าตัวเจอพิษสุนัขบ้าเล่นงานหรือเปล่า ก็อย่างที่บอก ตะโกนให้คนรู้กันทั่วไปว่า ชื่อของตัวเองลองไปเปิดกูเกิ้ลดู ว่า "สุรเชษฐ์" คือ "พระพรหม"

เพราะฉะนั้น วันนี้พระพรหมจะให้โทษ คณะสอบสวนทำคดีตัวเอง แถมปรามาสว่า ทำมาสี่เดือน เสียเงินไปเยอะ เอกสารหนาเตอะ แต่ส่งไปเขาไม่พิจารณาหรอก เพราะ มิชอบ

นี่คืออาการของ “โจ๊ก” ตอนนี้...ถึงขึ้นยกตัวเป็นพระพรหม จะลงโทษคนนั้นคนนี้ นี่ควรต้องกินยาด่วนถามใจตัวเองดู

จริงอยู่ว่า “สุรเชษฐ์” แปลว่า พระพรหม แต่โจ๊กลืมไปหรือเปล่าว่า ความหมายของชื่อกับการกระทำของคนบางครั้งมันก็ตรงกันข้าม ดึงสติคิดหน่อย นะครับนะ.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
** “ลุงป้อม” ขยาดนาฬิกา ตอนนี้ขอมีแค่เรือนเดียวพอ

เมื่อวันก่อน ( 24 เม.ย.67) สำนักงานป.ป.ช. เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายราย ในจำนวนนั้นนมี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมอยู่ด้วย

ที่ต้องแจ้งครั้งนี้ เพราะ “ลุงป้อม” ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีการแจ้ง
บัญชีทุก 3 ปี

“ลุงป้อม”ระบุสถานะ “โสด” มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 87,841,457 บาท เงินฝาก 40,480,965 บาท เงินลงทุน 6,530,991 บาท ที่ดิน 3 แปลงรวม 17 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่หมู่บ้านกฤษดานคร มูลค่า 10 ล้านบาท ยานพาหนะ 5 คัน 13.6 ล้านบาท

มีรายได้รวมต่อปี 2,348,316 บาท เป็นเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ 762,540 บาท เงินช่วยค่าครองชีพ 146,736 บาท เงินเดือนรองนายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) 893,040 บาท เงินประจำตำแหน่ง 546,000 บาท มิได้ระบุรายจ่าย ต่อปี

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ยานพาหนะ 5 คันของ “ลุงป้อม”ก็มีรถยนต์หรู Jaguar รุ่น I-Pace AWD HSE 1 คัน ได้มา 28 มิ.ย.64 มูลค่า 4 ล้านบาท และปี 2565 ได้รถยนต์ Mercedes Benz รุ่น V250d ได้มา 6 มิ.ย.65 มูลค่า 2.5 ล้านบาท

ที่สะดุดตา สะดุดใจ ก็คือในหมวดทรัพย์สินอื่น “ลุงป้อม”แจ้งว่าถือครองนาฬิกาแค่ 1 เรือน TW STEEL มูลค่า 15,000 บาท มีแหวน 9 วง รวมมูลค่า 132,000 บาท และปืนอีก 3 กระบอก

เรื่องนาฬิกากับ “ลุงป้อม” พูดขึ้นมาเมื่อไร ก็ทำให้นึกถึงภาพจำ ตอนที่ “ครม.ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถ่ายรูปหมู่ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2560

ระหว่างที่รอถ่ายภาพนั้น คงเป็นจังหวะที่แดดแยงตา “ลุงป้อม”ก็เลยต้องยกมือบังแดด ก็เลยเห็นแหวนเพชรเล่นแสงระยิบระยับ แถมยังมีนาฬิกาหรู ยี่ห้อริชาร์ดมิลล์ Richard Mille รุ่น RM 029 ราคาอยู่ที่ประมาณเรือนละ 3.6 ล้านบาท อยู่บนข้อมืออีกด้วย

จึงกลายเป็นที่วิพากวิจารณ์ พร้อมตั้งข้อสังเกต นำไปสู่การตรวจสอบว่า “ลุงป้อม” ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินเหล่านี้ด้วยหรือไม่

ไม่เพียงเท่านั้น บรรดานักสืบโซเชียลฯ ก็พากันขุดภาพเก่าว่า “ลุงป้อม” เคยใช้นาฬิกาหรูยี่ห้อใด ราคาเท่าไร ขุดไปขุดมา รวมแล้ว 22 เรือน มีทั้ง Rolex, Patek Philippe, Richard Mille, Audemars Pigue , A. Lange & Sohne

เมื่อเป็นประเด็นร้อน และอยู่ในความสนใจของสังคม ก็เข้าทาง “นักร้อง” จึงเป็นที่มาของการให้ ป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบ เล่นเอากระเทือนไปถึงรัฐบาล “ลุงตู่” ด้วย เพราะตอนนั้น “ลุงป้อม” เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ถ้าตรวจสอบแล้ว ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ก็ต้องออกจากตำแหน่งรองนายกฯ

ป.ป.ช. ใช้เวลา กว่า 1 ปี สำหรับการแสวงหาข้อเท็จจริง ทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์ดังกระหึ่มเป็นระยะ ว่ามีความล่าช้า และอาจไม่เที่ยงตรงหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ซึ่งในที่สุดแล้ว ป.ป.ช. ก็มีมติ 5:3 ไม่รับพิจารณา“นาฬิกาหรู” เป็นคดี เพราะจากการตรวจสอบเชื่อได้ว่า นาฬิกาทั้ง 22 เรือน พล.อ.ประวิตร ยืมเพื่อนสนิทร่วมรุ่นเซนต์คาเบรียล และเพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 6 ด้วยกันมา

เพื่อนคนนั้นก็คือ “เสี่ยคราม” ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ต้นปี 2560 และนาฬิกาเหล่านั้น ก็ได้คืนเจ้าของไปหมดแล้ว

ส่วนแหวนนั้นเป็น "มรดกจากบิดาตกทอดถึงมารดา" ก่อนจะได้รับมาระหว่างดำรงตำแหน่ง

จึงเป็นที่มาของคำว่า “แหวนแม่ -นาฬิกายืมเพื่อน” และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ “ลุงป้อม” หลุดจากคดี มีนาฬิกาหรูแต่ไม่แจ้งป.ป.ช.

หลังจากนั้น “ลุงป้อม” เคยยื่นแสดงบัญชีอีกหลายครั้งแต่ไม่ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องนาฬิกา

กระทั่งครั้งล่าสุดนี้ที่ “ลุงป้อม” แจ้งว่ามีนาฬิกา TW STEEL 1 เรือน มูลค่า 15,000 บาท จึงมีเสียงวิพากวิจารณ์ว่า คงเข็ดขยาดกับเรื่อนาฬิกา เลยขอมีแค่เรือนเดียวพอ
กำลังโหลดความคิดเห็น