ชาวอุบลราชธานีปีติ ในหลวงพระราชทานเงินส่วนพระองค์ 29.15 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมอาคารผู้ป่วยใน 3 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ ผู้ว่าฯ เตรียมเป็นประธานพิธีมอบเช็คพระราชทานวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.)
วันนี้ (16 มี.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บนสื่อสังคมออนไลน์ มีการเผยแพร่หนังสือ ลงวันที่ 10 มี.ค. พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำหนังสือถึงประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เรื่อง พระราชทานค่าใช้จ่ายจากเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
สาระสำคัญระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระมหากรุณาค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเสียหายด้านคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้อาคารของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2568 พร้อมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับการต่อเติมทางเชื่อมระเบียง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 29,154,335.52 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงให้อาคาร 3 สามารถเปิดบริการ ได่เป็นปกติทุกชั้น และจัดหาคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อให้บริการผู้ป่วยได้ตามปกติ พร้อมกันนี้ได้นำส่งเช็คจำนวน 1 ฉบับ เพื่อโรงพยาบาลฯ จะได้ดำเนินการตามพระราชประสงค์ต่อไป
ด้านสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ประชาสัมพันธ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระมหากรุณาค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเสียหายด้านครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ได้รับผลกระทบ
จากเหตุเพลิงไหม้อาคารของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี วันจันทร์ที่ 17 มี.ค. 2568 ณ ห้องประชุมรวงผึ้ง อาคาร 5 ชั้น 4 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับพิธีมอบเช็คพระราชทานจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุมรวงผึ้ง อาคาร 5 ชั้น 4 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม โดยมีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน
อนึ่ง เหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารผู้ป่วยใน 3 หรืออาคาร 3 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จ.อุบลราชธานี เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 31 ม.ค. 2568 ต้นเพลิงเกิดจากชายรายหนึ่งวางเพลิงใส่เตียงคนไข้ในห้องผู้ป่วย และใช้อาวุธปืนข่มขู่ไม่ให้ดับไฟ แล้วขับรถยนต์หลบหนีไป ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หลังเพลิงสงบพบว่าอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เสียหายจำนวนมาก ขณะที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ หลังจอดรถแล้วหลบหนีเข้าไปในป่าข้างโรงพยาบาลนาเยีย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า วางเพลิงเผาทรัพย์ในสถานที่ราชการ และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต