'ทักษิณ' ไม่คิดเขี่ยพรรคร่วมฯ โนแคร์กระแสต้านกาสิโน กลับมาเป็นรัฐบาลก็จะดันอีก

'ทักษิณ' ไม่คิดเขี่ยพรรคร่วมฯ โนแคร์กระแสต้านกาสิโน กลับมาเป็นรัฐบาลก็จะดันอีก

วันสองวันมานี้หลายคนอาจตามหา 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ไปอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด เนื่องจากมีข่าวคราวที่พาดพิงทักษิณหลายเรื่อง โดยเฉพาะรายงานข่าวที่ระบุว่าพร้อมจะดีดพรรคร่วมรัฐบาลออกไป หากไม่ยกมือสนับสนุนร่างกฎหมายกาสิโน ซึ่งเจ้าตัวออกมายืนยันว่าข่าวลือที่ออกมาไม่เป็นความจริง แต่ยืนยันว่าเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร จะเดินหน้าต่อแน่นอน เพราะสมัยหน้ารัฐบาลก็ยังเป็นพรรคเพื่อไทย

"เป็นการพูดกันไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีการพูดข่มขู่ใคร แต่ยอมรับว่ามีคุยกับน้องๆที่เจอกัน ว่าเป็นอย่างไรซึ่งเป็นเพียงการถามความคิดเห็น ไม่มีเรื่องข่มขู่ว่าใครไม่สนับสนุนแล้วต้องพ้นจากการร่วมรัฐบาลไม่มี และที่ผ่านมามีการหารือทั่วไปกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเพียงการถามความคิดเห็น แต่ละคนก็ไม่ได้ขัดข้อง วันนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้บอกว่าจะพิจารณาเรื่องเร่งด่วนทางเศรษฐกิจก่อน แต่ไม่ได้ยกเลิกเพียงแต่ขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน" ท่าทีจากทักษิณ

ทักษิณ ยังระบุอีกว่า “อย่างว่าก็มีขี้อิจฉาริษยากัน มองคนนั้นคนนี้ได้นั่นคนนี้ได้นี่ คนที่เห็นด้วยเยอะแต่เงียบ ที่ไม่เห็นด้วยแล้วออกมา บางครั้งก็ถูกชี้นำในทางที่ผิด เช่น ไปเปรียบเทียบกับบ่อนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรงนั้นเป็นกาสิโนจริงๆ เพราะไม่มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เลย แต่ของเราไม่ได้ทำแบบนั้น ถ้าเราทำแบบนั้นประเทศก็พัง"

พอถูกถามว่าถ้ารัฐบาลหน้าไม่ใช่พรรคเพื่อไทย กฎหมายนี้จะถูกตีตกหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า " รัฐบาลหน้าก็พรรคเพื่อไทย"

"หากประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าจะให้ไปได้ก็ไปได้ แต่เราก็อยากให้เป็นความพอใจและสมัครใจของทุกฝ่าย ไม่อยากฝืนความรู้สึก แน่นอนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็ต้อง มีคนไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ตั้งใจทำให้บ้านเมือง ไม่อยากเห็นบ่อนเล็กบ่อนน้อยเต็มไปหมด" ทักษิณ ระบุ

ขณะเดียวกัน นายทักษิณ ได้เดินทางไปยังพรรคเพื่อไทยร่วมงานรดดำหัวเนื่องในโอกาสเทศสงกรานต์ โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า "ขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่ดีเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและนำไปสู่การทำนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าปี 2570 ไม่ใช่ปีหน้า ขออย่าหวั่นไหวเพราะอาจมีคนปั่นกระแสเยอะ ก็ขอให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา และหลังสงกรานต์ไปแล้วอีกไม่กี่เดือน บ้านเมืองจะค่อยๆคลี่คลายทั้งปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงตามที่นายกฯ พยายามจะทำซึ่งจะได้รับความร่วมมืออย่างดีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเห็นผลอย่างชัดเจนในปี 2569"