xs
xsm
sm
md
lg

"พีระพันธ์-เทพรัตน์" รู้มั้ย "ป่าทิพย์" กฟผ. คนผิดไม่ถูกลงโทษแต่คนโดนโทษกลับเป็นพนักงานผู้น้อยที่หวังดี!? ** เลือกตั้งซ่อมเมืองคอน “กล้าธรรม”ปักธง “ประชาธิปัตย์”จบ “ภูมิใจไทย”อาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า - อนุทิน ชาญวีรกูล
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++"พีระพันธ์-เทพรัตน์" รู้มั้ย "ป่าทิพย์" กฟผ. คนผิดไม่ถูกลงโทษแต่คนโดนโทษกลับเป็นพนักงานผู้น้อยที่หวังดี!?

คืบหน้าล่าสุดจากโครงการ "งามไส้" ปลูกป่าล้านไร่ ที่ปลูกไปปลูกมากลับเป็น "ป่าทิพย์" ของ กฟผ.หรือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

แว่วข่าวจากวงใน กฟผ.เปิดเผยว่า มีพนักงานจำนวนหนึ่งที่ออกมาตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของโครงการปลูกป่าล้านไร่ นี้แทนที่จะได้รับการดูแลที่ดีในฐานที่ปกป้ององค์กรมิให้มัวหมอง กลับถูกฝ่ายบริหารทำตรงกันข้าม ถูกลงโทษด้วยการ “ระงับเงินโบนัส” และ “กดดันทางอ้อม” แม้ผลการสอบสวนภายในจะพบความผิดปกติในโครงการแล้วก็ตาม!

ถ้ายังจำกันได้ เรื่อง "ป่าทิพย์" ถูกเปิดโปง หลังรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" โดย สนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อปีที่แล้ว
จากโครงการ กฟผ.ทำแผนปลูกป่าปีละ 100,000 ไร่ เป็นระยะเวลา 10 ปี รวม 1 ล้านไร่

รวมงบประมาณราว 5,270 ล้านบาท ส่อกลิ่นไม่ดี ที่กลายมาเป็นประเด็นให้พนักงานที่ทนไม่ไหวอยากให้ตรวจสอบหลายจุด
ตั้งแต่เริ่มต้น ขั้นตอนปลูกป่าที่เป็นที่มาของคำว่า "ป่าทิพย์" นั้น เพราะเมื่อกรรมการลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่าป่าที่ปลูกมีต้นไม้เฉพาะด้านหน้า แต่เข้าไปด้านในกลับไม่ได้มีการปลูกป่าให้เป็นไปตามข้อตกลง หรือ TOR

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
ว่ากันว่า เมื่อกรรมการตรวจรับงานไม่ผ่านถึง 3 ครั้ง และได้ร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาว่า พบการทุจริต ปรากฏว่า ถูกกลั่นแกล้งด้วยการสั่งย้ายให้ไปอยู่ในตำแหน่งอื่น เพื่อกีดกันไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานโครงการปลูกป่า แล้วรีบเปลี่ยนกรรมการตรวจรับงานชุดใหม่ เพื่อให้การตรวจรับงานของโครงการผ่านทุกพื้นที่และเบิกเงินจาก กฟผ.ได้

ที่อะเมซิ่งที่สุด ก็เห็นจะเป็นในช่วงปีแรกที่มีการดำเนินการ 97,000 ไร่ เห็นว่า มีคนเข้าไปตรวจสอบแค่ 2 คน!

เมื่อ"ป่าทิพย์" ถูกเปิดเผย ฝ่ายบริหารก็ว้าวุ่นกันหนัก จน "พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบ

ผลการสอบสวนภายในฟังว่าก็พบความผิดปกติในโครงการตามข่าวแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

เวลาล่วงเลยมาจนข้ามปี 2568 คนทำผิดไม่ถูกลงโทษแต่คนหวังดีกับ กฟผ.กลับโดนโทษซะงั้น! พนักงานหดหู่ใจ รู้สึกเหมือนถูกกลั่นแกล้ง เพียงเพราะต้องการให้งานถูกต้อง

เทพรัตน์ เทพพิทักษ์
ความเจ็บปวดนี้ ฝ่ายบริหารไม่น่าจะเข้าใจ คนในกฟผ.แค่ถามว่าเงินงบประมาณหายไปไหน!? ทำไมผลงานปลูกป่าไม่เป็นไปตามแผน แต่แทนที่จะได้คำตอบ และแก้ปัญหา กลับมาโดนแบบนี้

วันนี้คงต้องถามดังๆ ไปยัง "เทพรัตน์ เทพพิทักษ์" ผู้ว่าการ กฟผ.และ “พีระพันธุ์” รมว.พลังงาน ว่า การระงับโบนัสพนักงานผู้น้อยที่ถามถึงความโปร่งใส “ป่าทิพย์” เป็นการข่มขู่ หรือไม่?

ทำไมผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องยังไม่ถูกดำเนินการ แม้โครงการจะพบปัญหา?

หาก กฟผ.ยึดถือ ความโปร่งใสตรวจสอบได้และยึดหลักธรรมาภิบาล ควรหรือไม่ที่จะต้องแสดงให้ชัดเจน ส่งเรื่องให้ป.ป.ช. ตรวจสอบ!

การลงโทษพนักงานผู้น้อยที่กล้าเสนอความจริง เป็นวัฒนธรรมองค์กรแบบไหน !? เรียกว่า ‘ปิดปาก-ปิดตา’ เอากับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือ คิดว่าจะปิดเรื่อง "ป่าทิพย์" ด้วยฝ่ามือเอาไว้เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างงั้นหรือ ?!

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
++ เลือกตั้งซ่อมเมืองคอน “กล้าธรรม”ปักธง “ประชาธิปัตย์”จบ “ภูมิใจไทย”อาย

การเลือกตั้งซ่อม ที่ จ.นครศรีธรรมราช เขต 8 (อ.นาบอน ช้างกลาง ฉวาง และ พิปูน) เมื่อ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา แทนตำแหน่งว่าง เนื่องจาก “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” สส.คนเดิม จากพรรคภูมิใจไทย โดนใบแดง เรื่องซื้อเสียงและต้องชดใช้งบเลือกตั้ง 8 ล้านบาท

การเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัคร 6 คน แต่ที่อยู่ในกระแส และถูกพูดถึง มี 4 คน คือ

1. “ไสว เลื่องสีนิล” สามีของ มุกดาวรรณ ที่พรรคภูมิใจไทย ส่งมารักษาเก้าอี้ตัวเดิม

2. “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” จากพรรคประชาธิปัตย์ เขาเคยเป็น สส. 8 สมัย จากเขต 8 นี้ แต่เมื่อครั้งที่แล้ว ให้ลูกสาว ลงแทน แล้วตัวเองไปลงเขต 7 ปรากฏว่า แพ้ทั้งคู่ คราวนี้มาลง หวังทวงเก้าอี้คืน

3. “ณัฐกิตต์ อยู่ด้วง” จากพรรคประชาชน ความหวังของคนพันธุ์ส้ม

4. “ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ” จากพรรคกล้าธรรม อดีต สจ. ที่เป็นลูกเขยของ “ชินวรณ์”

ส่วนอีก 2 คน “ว่าที่พันตรี กวี ไกรทอง” จากพรรคพร้อม และ “พิษณุ รสมาลี” พรรคทางเลือกใหม่ เป็นไม้ประดับ

การขับเคี่ยวกันของ 4 ผู้สมัคร จาก 4 พรรค ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งคึกคักมาก

ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ
มีการวิเคราะห์กันว่า “ไสว” เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย ที่หัวหน้าพรรค คือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นถึง รมว.มหาดไทย ที่ควบคุมองคาพยพในสายปกครอง น่าจะใช้สิ่งที่มีทำให้คนของตัวเองได้เปรียบ ยิ่งมีกระแส “ไม่เอากาสิโน” ของ “ลูกเนวิน” เลขาธิการพรรค ก็น่าจะเป็นแรงผลักดัน ให้ไปถึงฝันได้

ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าคู่ “พ่อตา-ลูกเขย” คือ “ชินวรณ์ กับ ก้องเกียรติ” จะมาแย่งคะแนน ตัดคะแนนกันเอง

ส่วนพรรคส้มนั้น ความรู้สึกของคนใต้ ที่ติดตามการเมือง ย่อมรู้ ย่อมเห็นว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ของพรรคประชาชน เป็นแค่ “ฝ่ายค้านทิพย์” เพราะไม่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างจริงจัง ปล่อยให้ “พ่อนายกฯ” มากำกับดูแลนายกฯอีกที จึงเชื่อว่ายากที่ “ณัฐกิตต์” จะได้ใส่สูท เข้าสภา

อย่างไรก็ตาม การหาเสียงเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้าย ที่ “ชวน หลีกภัย” ผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ลงพื้นที่ไปช่วย “ชินวรณ์” ขณะที่ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ลูกพี่ของ “กัน จอมพลัง” ก็ลงไปปักหลัก ช่วย“ก้องเกียรติ” พบปะประชาชน เพื่อบอกว่า ยุคนี้การเลือกตัวแทน ต้องเลือกคนที่ใกล้ชิดประชาชน คนที่มีเส้นสาย ถึงจะช่วยเราได้ เมื่อเราเดือดร้อน

พร้อมสโลแกน “ผมช่วยใครไม่เคยจำ แต่ใครช่วยผม ผมจำไม่มีวันลืม”

อนุทิน ชาญวีรกูล
ผ่านคืนสุดท้ายก่อนหย่อนบัตร “ประธาน กกต.” บอกไม่มีคืนหมาหอน และไม่มีเรื่องร้องเรียนว่ามีการซื้อเสียง

หลังการหย่อนบัตร นับคะแนน ปรากฏว่า ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดคือ “ก้องเกียรติ” จากพรรคกล้าธรรม ได้ 38,680 คะแนน รองลงมาเป็น “ไสว” จากพรรคภูมิใจไทย 28,417 คะแนน “ณัฐกิตต์” จากพรรคประชาชน ได้ 6,811คะแนน และ “ชินวรณ์” จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 4,190 คะแนน

“ไสว” ที่เป็นเต็งหนึ่งมาก่อน ด้วยสภาพแวดล้อมดี น้ำเลี้ยงดี กลับถูก “เด็กผู้กอง” แซง แถมทั้งห่างไปกว่า 1 หมื่นแต้ม ทำเอาแม่ทัพภาคใต้ ของพรรคภูมิใจไทยอย่าง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงาน และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ถึงกับไม่อยากพูดถึงการเลือกตั้งครั้งนี้

ขณะที่“พรรคส้ม” ก็พูดเอาหล่อ บอก 6,811คะแนน ที่ได้มานั้น เป็นคะแนนบริสุทธิ์... พูดยังกะว่าอีก 7 หมื่นกว่าคะแนนที่ออกมาใช้สิทธิ์นั้น เป็นคะแนนที่ไม่บริสุทธิ์

ชินวรณ์ บุณยเกียรติ
ส่วนประชาธิปัตย์ รอบนี้ ที่บอกว่าจะมาทวงเก้าอี้คืน แต่ได้มาแค่ 4 พันกว่าคะแนน แพ้แม้กระทั่งพรรคส้ม ใครๆ ก็ว่า ประชาธิปัตย์ยุคนี้ จบแล้ว คนใต้ไม่เอาแล้ว เพราะอุดมการณ์เปลี่ยน!!

แต่คนในพื้นที่บอกว่า “ชินวรณ์” ตอนหาเสียงนั้น ดูขึงขัง จริงจัง หวังจะกลับมาเป็น สส.อีกครั้งให้ได้ แต่สุดท้าย สั่งเทคะแนนไปให้ “ลูกเขย” เพราะถ้ามัวมาแย่งชิงกันเอง ก็จะแพ้ภูมิใจไทย ...ตัวเองยอมไม่เป็นสส. ให้ลูกเขยเป็นดีกว่า

ก็ไม่รู้ว่า “นายหัวชวน” ที่อุตสาห์หอบสังขาร ลงไปช่วยหาเสียง เมื่อได้ฟังคนในพื้นที่ เขาพูดกันอย่างนี้แล้วจะคิดอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น