xs
xsm
sm
md
lg

‘ไอซ์ รักชนก’ แฉอีกตึก 2,600 ล้านของ กสทช.สร้างไม่เสร็จ ต้องยกเลิกสัญญา ขอแก้แบบ ส่อควักงบเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



"ไอซ์ รักชนก" แฉอีกตึก 2,600 ล้านของ กสทช.เริ่มสร้างตั้งแต่ ม.ค.62 กำหนดเสร็จปี 65 แต่ไม่ทีทีท่าจะเสร็จ อ้างติดสถานการณ์โควิด จนตอนนี้ กสทช.บอกเลิกสัญญา ขอแก้แบบ เชื่อต้องควักงบเพิ่มอีก จับตา กสทช.งบมหาศาลจากค่าธรรมเนียม ใช้ได้อย่างอิสระไม่ผ่านสำนักงบฯ-สภา แต่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เหน็บยุค คสช.ขยันของบสร้างตึกฉ่ำทุกที่

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน โพสต์ภาพพร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก "รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork" ว่า ตึกพันล้านร้อนๆ มาเสริฟอีกตึกแล้วจ้า รอบนี้เป็นตึก กสทช งบ 2,600ล้านบาท น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าในยุครัฐบาลคนดีย์ ยุครัฐประหาร รัฐบาล คสช. ทำไมถึงขยันของบสร้างตึกกันฉ่ำทุกที่

วันนี้ กมธ. ติดตามงบฯ ลงพื้นที่ตึกใหม่ กสทช. ใหญ่ๆ เบิ้มๆ ภายใต้งบ 2,600ล้านบาท! + ค่าแบบกับค่าจ้างคุมงานอีก 100 ล้านบาท ริเริ่มจ้างทำแบบตั้งแต่ปี 56 แต่เริ่มสร้างตึก มกรา 62 ซึ่งจริงๆ ต้องเสร็จ ตั้งแต่ 65 แต่อ้างติดโควิด ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็​จ

และปัจจุบัน กสทช. ได้บอกยกเลิกสัญญาจ้างไปแล้วด้วยเหตุผลร้อยแปดประการ ส่วนนึงเพราะ กสทช. ต้องการแก้แบบเพิ่มอีก ซึ่งแน่นอนว่าบอกเลิกสัญญาและการเปลี่ยนแบบก็ต้องควักจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิมอีก


ทาง กมธ ติดตามงบฯ ได้ขอแบบแปลนและ BOQ รายการของต่างๆในตึกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เกิน 10วัน น่าจะได้ข้อมูลว่าไส้ในตึกนี้มีอะไรบ้าง จะหรูหราหมาเห่าเท่าตึก สตง. ไหม รอประชันกันได้เลย

แต่เรื่องที่น่าสนใจนอกจากเรื่องตึก 2600 ล้านบาท สร้างไม่เสร็จ คือ

1)กระบวนการงบประมาณของ กสทช. เพิ่งจะได้รับรู้วันนี้ว่า นอกจากที่มาของบอร์ด/คณะกรรมการ จะไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนแล้ว กระบวนการงบก็ยังเป็นอิสระสูงมากถึงขนาดที่ไม่ต้องผ่านสำนักงบประมาณแผ่นดิน และไม่มีส่วนใดใดเลยที่ต้องให้สภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากประชาชนพิจารณาแม้แต่บาทเดียว

เพราะกสทช. มีเงินรายได้จากค่าธรรมเนียมโดยจะเก็บไม่เกิน 2% จากรายได้ทั้งหมดของ “ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือกิจการ โทรคมนาคมตามกฎหมาย” ซึ่งปีนึงก็หลายพันล้านอยู่แล้วก็เอาตรงนี้มาบริหารจัดการเอง จึงไม่ต้องขอเงินจากงบประมาณ
ถ้าเอาตามที่สำนักงาน กสทช. บอก ระบวนการใช้งบจะเริ่มจาก สำนักงานเลขา กสทช. ทำคำของบประมาณ แล้วส่งให้คณะกรรมการซึ่งตั้งขึ้นเองโดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงบประมาณ 4-5คนมาช่วยปรับลด จากนั้นจะส่งไปรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการDE ที่มีนายกเป็นประธาน และส่งเข้าบอร์ด เพื่อให้บอร์ดตั้งอนุมากลั่นกรองอีกรอบ แต่น่าแปลกมาก สิ่งที่สำนักงานบอกเรากับข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน ข้อแรกสำนักงบประมาณบอกว่าไม่รู้ว่ามีกระบวนการนี้ และไม่น่าจะมีการส่งคนจากสำนักงบประมาณเข้ามาช่วยกลั่นกรอง ข้อสอง ตัวบอร์ด กสทช. ผู้ที่จะอนุมัติงบประมาณหลายพันล้าน ในปีที่ผ่านมาได้เห็นคำของบประมาณก่อนวันที่ต้องอนุมัติ เพียง 3วัน แล้วจะไปตั้งอนุเพื่อกลั่นกรองได้ยังไง มีใครโกหกใครหรือกระบวนการตรงไหนอยู่ในหลุมดำอีกแล้วหรือป่าว


2) อัตรากำลังพลจะเพิ่มเท่าไหร่ก็ได้ไม่จำกัด บอร์ดสามารถพิจารณาเองได้เลย ซึ่งถ้าเป็นกำลังพลข้าราชการต้องขอเพิ่มผ่าน กพ. ถ้าเป็นกำลังพลรัฐวิสาหกิจต้องขอเพิ่มผ่าน สคร. แต่ กสทช เคาะเองเพิ่มเองได้เลย ซึ่งจะตามมาด้วยการที่ใช้งบประมาณอย่างบานปลาย ได้รู้มาว่าเค้ามีการแจกเข็มที่เป็นทองแท้ 100% ให้กับคนเกษียณอายุด้วยนะ น่าอิจฉาแทนหน่วยงานอื่นจริงๆ

3) อีกทั้งยังมีกองทุน กทปส. ที่มีเงินเป็นหมื่นๆล้าน หยิบใช้กันสบายมือ ส่วนนึงเอาไปทำโครงการ USO จุดประสงค์ลดความเหลื่อมด้านอินเตอร์เนต แต่ไส้ในก็มีการทุจริตเอื้อประโยชน์กันแหลกลาน และยังเป็นเหมือนกองทุนที่หน่วยงานรัฐหรือผู้มีอำนาจมาควักเงินไปใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ที่เอาเงินไปซื้อลิขสิทธฺ์บอลโลก 600ล้าน แต่สุดท้ายคนไทยไม่ได้ดูฟรี ทั้งๆที่ทรูจ่ายแค่ 300ล้าน เป้นคดีฟ้องร้องซึ่งไม่รู้ว่าใครต้องคืนเงินเท่าไหร่จนถึงทุกวันนี้

4)** ทุกคนอาจจะยังไม่ทราบ 5ปี มาแล้วนะคะ ที่ กสทช. ยังไม่มีเลขาจริงๆสักที อีกทั้งตัวประธาน กสทช. เองก็มีข้อครหาในคุณสมบัติ และที่สำคัญคือ กสทช. ก็ได้ชี้ว่าเป็นองค์กรที่มีความขัดแย้งภายในสูงมากเพราะมีฝั่งที่ยอมให้นายทุนค่ายมือถือ ‘จูงจมูก’ กับฝั่งที่ไม่ยอมสยบ


เป็นองค์กรที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างเพราะผู้นำไร้ความสามารถ มาตารอะไรในการกำกับดูแลผู้ให้บริการก็หละหลวมไม่กล้าแตะต้องกลุ่มทุรสักเรื่อง ทั้งเรื่องการจัดการปัญหา SMS สแกมหลอกลวง เสาร์เนตเถื่อนตามชายแดนและเบอร์ม้าที่เอื้อแก๊งคอลเซนเตอร์ ทุกอย่างคืบหน้าช้ามาก

เป็นอีกหน่วยงานที่ไอซ์อยากให้ทุกคนสนใจ เพราะเราจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือกันทุกเดือน บางคนจ่ายรายวันด้วยซ้ำ กฏหมายให้อำนาจเค้าดำเนินการอย่างอิสระเพื่ออยากให้อยู่เหนือการควบคุมของฝ่ายการเมืองและกลุ่มทุน แต่วันนี้ชัดเจนแล้ว ว่าองค์กรนี้ถูกครอบงำด้วยกลุ่มทุนกลุ่มใด

ค่าเนตน่ามือถือจริงๆมันก็เหมือนค่าไฟ เป้นสัมปทานของนายทุนที่เราต้องจ่ายกันทุกเดือน และมันค่อยๆซึ่งหลายๆคนอาจจะไม่สังเกตเห็นว่าหลังการควบรวมเราต้องจ่ายเพิ่มขึ้นโดยที่คุณภาพลดลง เรื่องนี้ไม่ใช้เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องทำอย่างตั้งใจ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปตามระเบียบและกฏหมายทุกประการ และคนที่เดือดร้อน สุดท้ายไม่แคล้วประชาชนตาดำๆอีกตามเคย

กำลังโหลดความคิดเห็น