xs
xsm
sm
md
lg

พร้อมเปิดศึกเดนมาร์ก!? ทรัมป์ขู่อีกรอบ ไม่ตัดความเป็นไปได้ใช้กำลังยึดกรีนแลนด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่อีกรอบเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารผนวกกรีนแลนด์ โดยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะยึดดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กแห่งหนี้ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ

ความเห็นนี้ถือเป็นคำขู่ล่าสุดของทรัมป์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการเข้าควบคุมเกาะที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้ ที่เขายืนกรานว่าอเมริกาต้องการได้ไว้ในครอบครอง เพื่อจุดประสงค์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ

"ผมไม่ตัดความเป็นไปได้ของมัน" เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ คริสเทน เวเกอร์ พิธีกรของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์(4พ.ค.) "ผมไม่ได้บอกว่าผมจะทำมัน แต่ผมไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ"

"เราต้องการเกาะกรีนแลนด์เป็นอย่างมาก กรีนแลนด์มีจำนวนประชากรน้อยมากๆ ซึ่งเราจะดูแลและเราจะทะนุถนอมพวกเขา แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือ เราต้องการเกาะแห่งนี้เพื่อความมั่นคงระหว่างประเทศ" ทรัมป์กล่าว พร้อมระบุว่า

ที่ผ่านมา ทรัมป์ แสดงออกซ้ำๆเกี่ยวกับความสนใจซื้อกรีนแลนด์ หรือเข้าควบคุมเกาะแห่งนี้โดยใช้กำลังหรือบีบบังคับทางเศรษฐกิจ แม้พันธมิตรนาโต้อย่างเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดดังกล่าว

มีหลายปัจจัยที่ขับเคลื่อนความสนใจของทรัมป์ ในนั้นได้แก่ตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ที่พิเศษของเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสหรัฐฯกับยุโรป ที่อาจช่วยปัดเป่าความเสี่ยงถูกโจมตีใดๆจากรัสเซีย อ้างอิงความเห็นของพวกผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้แล้วมันยังตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางการเดินเรือสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งของช่องว่าง GIUK Gap (Greenland-Iceland-United Kingdom gap) พื้นที่ยุทธศาสตร์ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือที่เป็นจุดคอขวดของกองทัพเรือ

อย่างไรก็ตามพวกผู้เชี่ยวชาญแสดงความสงสัยว่า ทรัมป์ อาจเพ่งเล็งไปที่แง่มุมอื่นๆของเกาะกรีนแลนด์ อาทิความเป็นขุมทรัพย์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งอาจเริ่มเข้าถึงได้มากขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนหลอมละลายน้ำแข็งของดินแดนแห่งนี้ ในนั้นรวมถึงน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และแร่แรร์เอิร์ธ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างสูงในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กังหันลมและยุทโธปกรณ์ทางทหาร

หลังจาก ทรัมป์ เริ่มส่งเสียงความปรารถนาอยากผนวกกรีนแลนด์ มันได้โหมกระพือคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยในอนาคตของเกาะแห่งนี้ ในขณะที่ทั้งสหรัฐฯ รัสเซียและจีน ต่างแย่งชิงอิทธิพลในแถบอาร์กติก

อย่างไรก็ตามชาวกรีนแลนด์ตอบโต้ความปรารถนานั้นอย่างแข็งกร้าว "ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่าสหรัฐฯจะได้กรีนแลนด์ ขอผมพูดให้ชัด สหรัฐฯจะไม่ได้มัน เราจะไม่เป็นของๆใคร เราคือผู้ตัดสินใจอนาคตของตนเอง" เยนส์-เฟรเดริค นีลเซน นายกรัฐมนตรีของเกาะกล่าวเมื่อเดือนมีนาคม หลัง ทรัมป์ บ่งชี้อีกครั้งเกี่ยวกับการใช้กำลังทหาร

กรีนแลนด์ ไม่ใช่ดินแดนอธิปไตยเดียวที่ ทรัมป์ เพ่งเล็ง โดยประธานาธิบดีรายนี้ขู่ซ้ำๆว่าจะผนวกแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่าง 2 พันธมิตรเก่าแก่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พรรคลิเบอรัลของแคนาดา คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งทั่วไป โดยนายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ขี่กระแสความรู้สึกต่อต้านทรัมป์ จนเป็นฝ่ายคว้าชัย และใช้คำปราศรัยประกาศชัยชนะ ประกาศกร้าวว่าแคนาดาจะไม่มีวันยอมจำนนแก่สหรัฐฯ

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ในวันอาทิตย์(4เม.ย.) ทรัมป์ บอกว่ามีความเป็นไปได้เป็นอย่างสูง ที่เขาจะไม่ใช้กำลังทหารผนวกแคนาดา "ผมมองไม่เห็นมันกับแคนาดา ผมมองไม่เห็นทาง ผมจำเป็นต้องพูดอย่างตรงไปตรงมากับคุณ" เขากล่าว

ทรัมป์ เผยว่าเขาพูดคุยทางโทรศัพท์กับ คาร์นีย์ หลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง พร้อมเรียกผู้นำแคนาดา "ว่าเป็นชายที่นิสัยดีมากๆ" เขาแสดงความยินดีกับ คาร์นีย์ แต่ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับคำขูผนวกแคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน

คาร์นีย์ มีกำหนดเดินทางมาพบทรัมป์ ในวอชิงตัน ในวันอังคาร(6เม.ย.) และเมื่อถูกถามว่าหัวข้อนี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยระหว่างการเดินทางเยือนดังกล่าวหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ผมจะพูดในเรื่องนี้อยู่ตลอด ถ้าแคนาดาเข้ามาเป็นรัฐๆหนึ่ง มันจะยอดเยี่ยมมากๆ พวกเขาจะเป็นรัฐหัวแก้วหัวแหวน"

(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น)
กำลังโหลดความคิดเห็น