ศาลฎีกานัดไต่สวนกรณีทักษิณ บังคับคดีไม่เป็นไปตามหมายจำคุกจริงหรือไม่ ทนายความทักษิณบอกยังตอบไม่ได้ ด้านชาญชัยเผยเท่ากับศาลเป็นผู้เสียหาย กำลังพิจารณาหาความจริง ทนายนกเขาชี้ บังคับโทษให้จำคุกจริงหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องเริ่มบังคับโทษเลย
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังศาลเห็นว่าอาจมีการบังคับคำพิพากษาไม่เป็นไปตามหมายจำคุกตามคำพิพากษา ว่า วันนี้เป็นการนัดของศาลเพื่อมาไต่สวนหรือจะดำเนินกระบวนการใดนั้นต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจก็มาทำหน้าที่ วันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะดูกันว่า กระบวนการพิจารณาคดีนับจากนี้ไป ศาลจะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ตนไม่สามารถตอบได้ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขอให้เสร็จกระบวนการก่อน เพราะไม่รู้ว่าข้างในจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง แต่ในฐานะทนายความพอคาดเดาได้ แต่ขอให้เป็นหลังจากนี้ ส่วนนายทักษิณจะมาศาลหรือไม่ ยังตอบไม่ได้
ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พร้อมด้วยนายคมสัน โพธิ์คง นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางมาที่ศาลเช่นกัน นายชาญชัย กล่าวว่า ในวันนี้มาฟังตามที่ร้องขอต่อศาลเอาไว้ เป็นนัดแรกที่ศาลนัดทุกฝ่ายเอาไว้ หากมีอะไรเพิ่มเติมอาจจะแจ้งให้ศาลทราบทีหลัง ตนขอมาฟังเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการหาข้อเท็จจริง เพราะตนส่งคำร้องพร้อมข้อเท็จจริงให้กับศาลเยอะมาก วันนี้หากศาลมีคำสั่งเพิ่มเติมก็ต้องรอฟังคำสั่งศาลอีกครั้งหนึ่งว่าจะรับหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะศาลมีอำนาจหาข้อเท็จจริงเองอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีอยู่แล้วก่อนที่เราจะมี เมื่อศาลถามว่ามีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ตนพร้อมที่จะยืนหยัดให้กับศาล ซึ่งตนได้เตรียมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายพอสมควร แต่ต้องให้ศาลถามก่อนถึงจะพูดได้
ทั้งนี้ แม้ศาลจะระบุว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตนเข้ามาฟังในฐานะอดีตผู้ร้องเรื่องนี้ และศาลนำสำนวนของตนไปให้ทุกคน ทั้งโจทก์และจำเลยไปแก้ อยากฟังว่าแก้อะไรบ้าง ถ้าไม่ตรงจะได้ทำบันทึกให้ศาลทราบ แต่ว่าศาลน่าจะอ่านทั้งหมด ตนจะได้ศึกษาด้วยว่าคดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ ไม่ใช่คดีการเมือง เป็นคดีของการที่ทำให้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง บ้านเมืองจะได้มีขื่อมีแป ส่วนทนายความนายทักษิณขอขยายระยะเวลาถือเป็นสิทธิ เพราะนายทักษิณอาจจะได้รับหมายจากศาลล่าช้า จึงใช้สิทธิตรงนี้ ซึ่งศาลให้ความเป็นธรรมเป็นเรื่องปกติ คดีนี้ไม่ใช่คดีใหม่ แต่เป็นการบังคับคดีที่ศาลได้ออกคำสั่งไปแล้ว มีการจำคุกตามหมายศาลจริงหรือไม่ เป็นการหาความจริงว่ามีการจำคุกจริงหรือไม่ ศาลให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจง ซึ่งจะพิจารณาว่าจริงหรือไม่จริง
ส่วนการลงโทษแพทย์ 3 คนของแพทยสภาจะเกี่ยวข้องหรือไม่ เห็นว่าทุกเรื่องเชื่อมโยงกันหมดแต่ไม่เจาะจง เป็นแค่องค์ประกอบเพราะศาลจะดูหลักกฎหมาย และดูว่าที่ศาลสั่งนั้นทำตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น กฎหมายในการส่งตัวนักโทษของกรมราชทัณฑ์อยู่ภายใต้กฎหมายวิอาญา ต้องอธิบายให้ศาลฟังได้ว่าใช้กฎหมายฉบับเดียวโดยตัดอำนาจศาลเพราะอะไร ศาลจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ให้จำคุก 1 ปีตามที่ถวายฎีกาและมีพระบรมราชโองการ ได้จำคุกจริงไหม ศาลพิจารณาขอบเขตตรงนี้เท่านั้น ศาลอาจจะเห็นว่าอะไรที่ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนที่เกี่ยวข้องคือฝ่ายนิติบัญญัติต้องไปแก้ไข ส่วนฝ่ายบริหารต้องระมัดระวัง ส่วนนายทักษิณจำคุกจริงหรือไม่ ศาลจะพิจารณาตามข้อเท็จจริง และนายทักษิณต่อสู้ได้เต็มที่ ถ้าเป็นเรื่องจริงมีหลักฐานเวชระเบียนและใบเสร็จก็เอามายื่นต่อศาลได้ ถ้าไม่จริงนายทักษิณมีโทษหนักขึ้นไปอีก
"ศาลกำลังพิจารณาหาความจริงเท่านั้นเอง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พอหลังจากรับคดีผม เท่ากับศาลเป็นผู้เสียหายเอง ศาลก็สั่งให้ทุกฝ่ายเป็นผู้ชี้แจง เพื่อให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเอง" นายชาญชัย ระบุ
ด้าน นพ.ตุลย์ กล่าวเสริมว่า ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการบังคับคดี มีบางฝ่ายพยายามบอกว่าการบังคับคดีเป็นของกรมราชทัณฑ์แต่เพียงฝ่ายเดียวซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะคาบเกี่ยวกับศาล ซึ่งศาลยังมีอำนาจคอยติดตามว่าการบังคับคดีทำได้ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเมื่อนายชาญชัยเห็นว่าไม่มีการบังคับคดีอย่างถูกต้อง จึงร้องเรียนตามข้อบังคับข้อที่ 62 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 นายทักษิณได้เปลี่ยนสถานที่จากราชทัณฑ์เป็นโรงพยาบาลตำรวจ 180 วัน ข้อเท็จจริงตรงนี้อาจมีส่วนสำคัญที่องค์คณะจะพิจารณาว่ามีส่วนสำคัญว่าการบังคับคดียังไม่เกิดขึ้นแม้แต่วันเดียว มีผลต่อการพิจารณาว่าการบังคับคดีเกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนที่สองระยะเวลา 180 วัน การพักโทษที่อนุญาตโดย รมว.ยุติธรรมเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ถ้ารวมทั้งสองส่วนองค์คณะเห็นว่าไม่ถูกต้อง ศาลก็อาจมีหมายให้นายทักษิณกลับเข้าสู่เรือนจำตามหมายเดิม
ส่วนนายนิติธรกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่โจทก์คนเดิม คือ อัยการและ ป.ป.ช. จำเลยคนเดิม คือ นายทักษิณ เป็นการไต่สวนเพื่อบังคับคดี ประเด็นอยู่ที่มีเหตุกรณีว่า คดีนี้เมื่อศาลพิพากษาจำคุกไปแล้ว มีการบังคับโทษให้จำคุกจริงหรือไม่ วันนี้จะมีการไต่สวนหรือไม่ก็ต้องดูบุคคลที่ศาลได้ออกคำสั่งให้เรียกคำชี้แจงมา แต่ละคนต้องส่งเอกสารเข้ามา และวันนี้ตัวบุคคลก็ต้องมา ส่วนนายทักษิณเห็นว่าให้ทนายความมา วันนี้ศาลนัดเป็น 2 เรื่อง นัดเพื่อการไต่สวน และนัดพร้อม ถ้ามีพยานมาแล้ว ศาลเห็นควรว่าจะไต่สวน ศาลก็จะไต่สวน ส่วนที่ยังไม่มาก็จะเลื่อนไป หากพบว่าการบังคับโทษยังไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และใครเป็นผู้กระทำ ศาลจะลงรายละเอียดไว้และดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ทั้งนี้ ศาลกำหนดว่าเป็นนัดพร้อมกับไต่สวน ก็อาจมีการไต่สวนบ้าง ถ้าหากคำชี้แจงยังมีข้อต้องซักถาม และคงจะมีอีกนัดหนึ่งเพราะนายทักษิณขอเลื่อนไป คดีนี้ศาลจะทำให้กระจ่าง เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่ให้มีข้อสงสัย และให้เวลากับทุกฝ่ายตามกฎหมายอย่างเต็มที่
ส่วนกรณีแพทยสภาถือว่าเป็นที่ยุติแล้ว แต่สิ่งที่จะหารือคือการพักโทษ ที่ผ่านมามีการร้องรวมกับคำร้องหลักว่าหลังจากนี้กระบวนการพักโทษมีปัญหา เพราะบ่งชี้ถึงอาการของนายทักษิณ ถึงกระบวนการรักษา เพราะฉะนั้นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องตามไป คือ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาการพักโทษ จะดำเนินการส่วนหนึ่ง ส่วน คปท. จะต้องเคลื่อนเรื่องการพักโทษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องจัดการกับแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจทั้งสองคน ตามมติแพทยสภาเพราะยังรับราชการอยู่ ส่วนศาลจะนำมติแพทยสภาหรือไม่ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นเอกสารสำคัญก็อาจให้แพทยสภาส่งเข้ามา ทุกอย่างเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน ทุกฝ่ายมาจากรากปัญหาเดียวกัน คือการบังคับโทษนายทักษิณ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงเรียกเอกสารมาที่ศาล วันนี้ประเด็นคือบังคับโทษหรือไม่ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อีกด้านคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายเป็นไปตาม ป.วิอาญาหรือไม่ ซึ่งจะย้อนกลับไปที่ราก ถ้าศาลสั่งว่าการบังคับโทษไม่ถูกต้องก็ต้องเริ่มบังคับโทษเลย
ถามว่ามีส่วนร่วมยังไงกับรัฐบาลปัจจุบัน นายนิติธร กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันมีส่วนร่วมให้เกิดเรื่องแบบนี้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะต้องมีส่วนในการบังคับคดี บริหารกระบวนการยุติธรรม และต้องรับผิดชอบกรณีที่มีการบังคับใช้กฎหมายไม่ถูกต้องหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีทุกคนเพิกเฉยหมด คดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานย้อนกลับไปกรณีพักโทษในอดีต ติดคุก 10 ปี 50 ปี อยู่เรือนจำ 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือนแล้วออกไป จะกระเทือนกันหมด
