xs
xsm
sm
md
lg

'ฮุน เซน' ย้ำกัมพูชาต้องการสันติภาพ-ไม่ใช่อาวุธ เปรียบ 'ไทย' ก้าวร้าวเหมือนตอนรัสเซียบุกยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุกัมพูชาไม่ได้แสวงหาอาวุธหรือเครื่องกระสุนเพื่อจะนำไปสู่สงครามนองเลือดกับไทย แต่ขอเรียกร้องการสนับสนุนเพื่อนำไปสู่ทางออกที่สันติและถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมเปรียบเปรยการกระทำของไทยว่าก้าวร้าวไม่ต่างกับรัสเซียบุกยูเครน

ในการโพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อค่ำวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ฮุน เซน ได้อ้างถึงตอนที่กัมพูชาโหวตคัดค้านการบุกยูเครนของรัสเซียในที่ประชุมสมัชขาใหญ่สหประชาชาติ

"ทั้งเพื่อนร่วมชาติและมิตรของเราในต่างแดนอาจจะเข้าใจดีขึ้นแล้วว่า ทำไมผมถึงตัดสินใจสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะผู้แทนกัมพูชาโหวตคัดค้านรัสเซียในปี 2022 ซึ่งเป็นท่าทีที่ทำให้หลายชาติรู้สึกประหลาดใจ"

"ผมเชื่ออยู่เสมอว่า วันหนึ่งไทยก็จะทำเหมือนที่เคยทำเมื่อปี 2008 และ 2011 วันนี้เราได้เห็นแล้วถึงการกระทำอันก้าวร้าว และไม่สนใจกฎหมายระหว่างประเทศ"

"ดังนั้น การตัดสินใจของผมคงจะเป็นที่เข้าใจทั้งจากประชาคมโลกที่เคารพกฎหมาย และในบริบทความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยในอนาคต"

ยิ่งไปกว่านั้น ฮุน เซน ยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่มีนโยบายต่างประเทศอิงกับหลักนิติธรรมช่วยผลักดันให้ทั้งไทยและกัมพูชาแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ และใช้กฎหมายระหว่างประเทศมาเป็นตัวตัดสิน

เขายังร้องขอให้ประเทศเหล่านี้ร่วมกันกดดันไทยให้ยอมไปศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทชายแดน 4 จุด ได้แก่

1. สามเหลี่ยมมรกต ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแนวพรมแดนระหว่างไทย ลาว และกัมพูชา
2. ปราสาทตาเมือนธม
3. ปราสาทตาเมือนโต๊ด และ
4. ปราสาทตาควาย

"กัมพูชาไม่ได้ร้องขออาวุธหรือเครื่องกระสุนที่จะนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดกับไทย แต่เราขอเรียกร้องการสนับสนุนและการส่งเสริมเพื่อนำไปสู่ทางออกที่สันติผ่านการเจรจาทวิภาคีและ และช่องทางกฎหมาย" เขาย้ำ

ฮุน เซน บอกด้วยว่า กัมพูชาและไทยมีพรมแดนติดกันเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร แต่กัมพูชายกเพียง 4 จุดที่เปราะบางและสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะด้วยอาวุธให้ไปแก้ไขข้อพิพาทผ่านระบบศาล

"พื้นที่พิพาท 4 จุดนี้ไม่สามารถแก้ไขผ่านกลไกทวิภาคีได้ ต่อให้อีก 100 ปีก็ตาม ดังนั้นจึงมีเพียงศาล ICJ ที่จะสามารถยุติเรื่องนี้ได้" ฮุน เซน กล่าว

อดีตนายกฯ กัมพูชายังกล่าวชื่นชมแบบอย่างที่ดีจากอาเซียน รวมถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่เคยนำข้อพิพาทดินแดนขึ้นสู่ศาล ICJ และต่างก็ยอมรับในคำพิพากษาของศาล ซึ่งช่วยให้ความสัมพันธ์ของประเทศเหล่านี้แข็งแกร่งมั่นคงและปราศจากความตึงเครียดที่ไม่รู้จบ

"การหลบเลี่ยงการแก้ไขปัญหาด้วยกฎหมายเท่ากับเป็นการละเมิดและไม่สนใจหลักนิติธรรม ในระเบียบโลกที่ให้คุณค่าและเคารพหลักการทางกฎหมาย" ฮุน เซน เอ่ยทิ้งท้าย

ที่มา: Khmer Times
กำลังโหลดความคิดเห็น