xs
xsm
sm
md
lg

CIBนำทรัพย์ คดีทิดแย้ม กว่า 60 ล้านบาท ส่งมอบให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงทำการเก็บสำหรับเป็นหลักฐานในคดีเก็บตรวจสอบ คดีวัดไร่ขิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นครปฐม - ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับป.ป.ช. , ป.ป.ท. , ป.ป.ง. , สตง. และ พศ. แถลงความคืบหน้านำทรัพย์กว่า 60 ล้านบาทส่งมอบให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงทำการเก็บสำหรับเป็นหลักฐานในคดี หลังจากมีการยึดทรัพย์ของผู้เกี่ยวข้องมาแล้วประมาณ 150 ล้านบาท

วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่วัดไร่ขิง พระอรามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.พ.ต.อ. จำนาญ จันทร์เทศ ผก.ก.ปปป.,5 บก.ปปป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.

พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายคณพล หงสารางกูร ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาค 3, นางเยาวนิต หล่อระดับเพชร ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าที่คดีติดตามทรัพย์สินที่ พระธรรมวิชราณวนุตร (แย้ม อินทร์กรุงเก่า) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และพวกรวม 5 คนได้มีการยักยอกจากวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ซึ่งมีความเสียหายไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท จนเป็นคดีดังในวงการสงฆ์ไทย

โดยในการแถลงข่าว ได้มีการนำของกลางจากการกระทำความผิด จากการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงาน ดำเนินการสืบสวนขยายผล จากกรณีเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 มีการจับกุมพระธรรมวิชราณวนุตร (แย้ม อินทร์กรุงเก่า) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมพวก ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดหาหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์อันเป็นของตนๆ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฯ" เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันสืบสวนรวบรวมข้อมูล และสืบทราบว่าผู้ต้องหาและเครือญาติได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์อันควรเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือสิ่งของหรือทรัพย์สินที่เป็นทรัพย์สินที่ได้มา หรือได้ใช้ไปจากการกระทำความผิด ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์วัดไร่ขิง

ซึ่งมีลักษณะการกระทำผิด และการปกปิดทรัพย์สิน โดยการซื้อที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกทั้งการใช้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือ ครองทรัพย์สิน และการกระจายทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายค้นจำนวน 4 หมาย (หมายค้นที่ 39/68, 40/68, 41/68 และ 42/68 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568) เข้าทำการตรวจค้นพร้อมกัน 4 จุดในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.สุโขทัย จ.มุกดาหาร จ.เชียงใหม่ และ จ.กำแพงเพชร โดยจากการตรวจค้นพบทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ โดยเฉพาะรถ 10 คัน ประกอบด้วย

1. รถยนต์ ยี่ห้อ FORD รุ่น RANGER สีน้ำเงิน มูลค่าประมาณ 1,900,000 บาท
2. รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD 2.5 HYBRID สีขาว มูลค่าประมาณ 4,700,000 บาท
3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น GRAND FILANO สีแดง มูลค่าประมาณ 70,000 บาท
4. รถยนต์ ยี่ห้อ HYUNDAI รุ่น GRAND STAREX สีขาว มูลค่าประมาณ 2,700,000
5. รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD HYBRID Z สีขาว มูลค่าประมาณ 4,700,000 บาท
6. รถยนต์ ยี่ห้อ BENZ S Class สีน้ำตาล มูลค่าประมาณ 4,000,000 บาท
7. รถยนต์ ยี่ห้อ BENZ สีแดง มูลค่าประมาณ 3,000,000 บาท
8. รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น 520d M SPORT สีขาว มูลค่าประมาณ 3,500,000 บาท
9. รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น COMMUTER สีเทา มูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท
10. โฉนดที่ดินพร้อมบ้าน อ.หาดแสง จ.เชียงใหม่ มูลค่าประมาณ 2,300,000 บาท
11. โฉนดที่ดินพร้อมบ้านจำนวน 10 หลัง อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ มูลค่าประมาณ 10,000,000 บาท
12. สัญญาขายที่ดิน อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ มูลค่าประมาณ 2,400,000 บา
13. โฉนดที่ดิน 2 แปลง พร้อมบ้าน 1 หลัง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
14. โฉนดที่ดินพร้อมบ้าน อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
15. พระเครื่องเลี่ยมทองคำ 100 องค์ อ.สุโขทัย มูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
16. เครื่องประดับ มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท
17. ทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ มูลค่าประมาณ 56,670,000 บาท

โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่าในการแถลงข่าวความคืบหน้าในคดีดังกล่าว ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจยึดมาจากการจับกุมนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งโอนและส่งต่อให้ นายสางอรัญญาและนางพชรพร หรือเตยและนายฉัตรชัย สามี นำมาเก็บรักษาระหว่างรอคดีสิ้นสุด

โดย พบว่า มีรถ 4 คันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพราะกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินที่ได้จากวัดไร่ขิงไปซื้อ ส่วนอีก 6 คัน ซึ่งเป็นรถโบราณนั้น พบเป็นการซื้ออย่างถูกต้อง แต่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบระหว่างรอให้คดีสิ้นสุด โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทรัพย์สินจากกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องหาทั้งหมด ประมาณ 150 ล้านบาท

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวว่า จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดได้โอนเงินผ่านบัญชีของตัวเองไปยังกลุ่มผู้ต้องหา และทางกลุ่มผู้ต้องหาได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ซื้อที่ดินในจังหวัดต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 68 ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ 4 จุดประกอบด้วยที่ สุโขทัย กำแพงเพชร มุกดาหาร และขอนแก่น เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม และร้านกาแฟ รวมถึงมีการนำเงินไปซื้อรถตู้หรู 4 คัน ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่านำเงินของวัดซื้อรถดังกล่าวโอนเป็นชื่อของตัวเองและรถตู้หรู 4 คันที่นำมาด้วย เพื่อฝากวัดให้เก็บรักษาไว้ เนื่องจากคดียังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และทรัพย์สินทั้งหมดที่นำมาฝากไว้ เป็นสิ่งที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่สามารถชี้แจงที่มาได้

รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ทรัพย์สินที่ยึดรวมมาได้ทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 150 ล้านบาทและยังไม่ปรากฏนำมาแถลงข่าวในวันนี้ ก็ยังมีส่วนที่ต้องเร่งติดตามมาอีกเช่นกันโดยจะแบ่งเป็นในส่วนของเครือญาตในกลุ่มของนางพชรพร หรือเตย นายฉัตรชัยสามี และนางสาวอรัญญาวรรณ โดยจะมีการสอบถามและเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ชี้แจงอีก โดยขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ชัดเจน 5 คนเช่นเดิม ซึ่งทรัพย์สินหลายส่วนที่มีการ นำมาแถลงและเตรียมนำมาตรวจสอบอีกครั้งเราเชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากวัดไร่ขิงเนื่องจากทุกคนไม่สามารถระบุและชี้แจงอาชีพที่ชัดเจนเป็นแหล่งที่มาของเงินได้

ซึ่งจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้นคณะทำงานได้มีการนำชมทรัพย์สินที่ทำการยึดมาได้ทั้งหมดซึ่งนำมาจัดแสดงโชว์ไว้ที่ภายในวัดไร่ขิง โดยหลังจากนั้นได้มีการนำกุญแจรถถวาย ส่งมอบให้กับ พระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพื่อให้ทำการเก็บรักษาในส่วนที่เป็นคดีของกลางต่อไป

ด้านพระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เปิดเผยว่า การดูแลรักษาของกลางหลังจากนี้ จะจัดระบบการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ของวัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ส่วนตู้บริจาคของเดิมที่มีอยู่ประมาณ 180 ตู้ ขณะนี้เหลือเพียงประมาณ 150 ตู้ เนื่องจากได้มีเจ้าภาพที่เป็นเจ้าของตู้ได้นำ กลับไปแล้ว และในการจัดระบบการจัดการทางด้านการเงินของวัดก็เป็นที่เรียบร้อยดีไม่มีปัญหา ส่วนจะมีการดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไรก็ได้มีการ ประสานกับหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดูแลกำกับจนปรากฏความชัดเจนขึ้นแล้ว ส่วนการเรียกศรัทธาของวัดนั้น เบื้องต้นเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อวัดไร่ขิง จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบกับความศรัทธาของประชาชน และสถานการณ์ของวัดไร่ขิงก็กลับมาสภาวะปกติแล้ว

นายไพโรจน์ นิยมเดช ผอ.กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ปปช. กล่าวว่าขณะที่นายแย้ม หรืออดีตพระแย้ม ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพระอารามหลวง ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานของเจ้าหน้าที่รัฐ ป.ป.ช. ก็มีอำนาจในการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติโดยได้ทำการสืบสวนหาข้อมูล และส่งต่อ ปปป. นำเสนอต่อคณะกรรมการให้มีการพิจารณาคดีต่อไปด้วย

สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบนั้น ทาง ปปง.ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนผ่านธุรกรรมทางการเงิน จนพบการกระทำความผิด ทำให้ดำเนินการนำทรัพย์สินมาคืนให้กับวัดได้ ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินที่เหลือ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 90 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ยังต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม เบื้องต้นเชื่อว่าจะมีทรัพย์สินที่ต้องตรวจยึดเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งและยังต้องมีการติดตามเร่งรัดเอาทรัพย์ที่ถูกโยกย้ายออกไปกลับมาให้มากที่สุด

ทั้งนี้ในการแถลงข่าวหลายหน่วยงานได้มีการแสดงข้อมูลว่านับจากนี้ในการบริหารจัดการวัดต่างๆจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีวัดหลังจากมีการให้ตรวจสอบและส่งยอดเงินในบัญชีให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสำนักงานพุทธศาสนาประจำจังหวัดเป็นระยะเวลาหกเดือนเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งปี และจะต้องมีการชี้แจงที่มาที่ไปของรายได้อย่างถูกต้องตรวจสอบได้ โดยนับจากนี้หากใครยังคงมีการทุจริตแม้จะเป็นพระระดับเจ้าอาวาสก็จะไม่ละเว้นในการดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งหมดอย่างเข้มงวดต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น