xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 ผู้บริหาร บริษัท SCT โกงซื้อ-ขายทองคำ เสียหายกว่า 500 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตำรวจ บช.ก.บุกรวบ 2 ผู้บริหาร SCT หลอกซื้อ-ขายทอง อายัดทรัพย์สิน 54 ล้าน พบผู้เสียกว่า 60 ราย สูญเงินรวมกว่า 500 ล้านบาท

วันนี้ ( 26 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง บช.ก. พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.วิทยา ตรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุมนายพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์อายุ 54 ปี และนายอาศุพล ปริยกนกอายุ 42 ปีตามหมายจับศาลอาญาที่ 3747,3748/2568 ลง 24 มิ.ย.68 ข้อหา “ร่วมกันยักยอก, ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

ทั้งนี้เมื่อประมาณเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้พากลุ่มผู้เสียหายรวม 69 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท SCT หลังซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร โดยบริษัทแห่งนี้ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำผ่านหน้าร้านและผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งมีรูปแบบการประกอบธุรกิจ คือ เทรดทองคำแท่งผ่านแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ชื่อเดียวกับชื่อร้านทอง, รับซื้อ-ขายทองคำและรับหลอมทองคำ มีการชักชวนประชาชนทั่วไปให้สมัครสมาชิก เทรด ซื้อ ขาย และนำทองคำมาหลอมกับบริษัทฯ โดยเสนอรับซื้อ-ขาย ในราคาที่ดีกว่า ราคาทองคำที่สมาคมทองคำกำหนด คิดค่าหลอมต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

โดยในช่วงต้นปี 2568 บริษัทฯ เริ่มมีการผัดผ่อนการชำระเงิน และการส่งมอบทองคำ เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยง ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2568 ได้ประกาศระงับการให้บริการ โดยปิดทั้งช่องทางหน้าร้าน และหยุดการให้บริการทั้งหมด ทำให้มีกลุ่มลูกค้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 500 ล้านบาท

เนื่องด้วยคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง เป็นคดีที่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงมีคำสั่ง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานงานสืบสวนสอบสวน คลี่คลายคดีนี้ โดยประกอบด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 3 กองบังคับการ ในสังกัด ได้แก่ บก.ปอศ., บก.ปคบ. และ บก.ป.คณะพนักงานสืบสวนสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน อนุมัติหมายจับต่อศาล ออกหมายจับ นายพิพัฒน์ และนายอาศุพล ซึ่งเป็น กรรมการของ บริษัทดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้นจำนวน 3 จุดประกอบด้วยบริษัท SCT ซินเนอร์จี่คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด เลขที่ 99-101 ถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ, จ.นครราชสีมาและ จ.ราชบุรี จนนำไปสู่การจับกุมตัว นายพิพัฒน์ และนายอาศุพล พร้อมตรวจยึดพยานหลักฐาน เป็นคอมพิวเตอร์ จำนวน 22 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง, แท็บเล็ต จำนวน 2 เครื่อง, โน้ตบุ๊ค จำนวน 8 เครื่อง, โทเคนธนาคาร จำนวน 9 ชิ้น, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 เล่ม, ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูล SSD จำนวน 1 อันพยานเอกสาร จำนวน 14 ลัง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง จำนวน 21 บัญชี คิดเป็นยอดเงินรวมกว่า 54 ล้านบาท

สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



















กำลังโหลดความคิดเห็น