xs
xsm
sm
md
lg

ชาวชำราก จ.ตราด ตื่นตัวซ้อมแผนอพยพหลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่น่าไว้ใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:




ตราด –
เพื่อความไม่ประมาท ชาวชำราก จ.ตราด ตื่นตัวซ้อมอพยพทั้งตำบล ทหารแนะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจทุกคนต้องรู้ขั้นตอนช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด ย้ำระเบิดลงลูกแรกต้องหนีทันที ด้านชาวบ้านในพื้นที่บอกเหตุการณ์ครั้งนี้น่ากังวลกว่าปี 2528

วันนี้ ( 26 มิ.ย.) นายภิญโญ ดีหลาย กำนันตำบลชำราก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการที่ 22 บ้านชำราก หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด และ ตำรวจ สภ.บ้านท่าเลือน รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ม. 5 เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยบ้านชำราก และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลชำราก ได้ร่วมกันซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ- อพยพ และให้การช่วยเหลือผู้ป่วย รวมทั้งผู้สูงอายุแบบเสมือนจริงหากเกิดสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นไปตามมาตรการซ้อมแผนฉุกเฉินตำบลชำราก ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย. – 8 ก.ค. 2568

โดยตำบลชำราก เป็น 1 ใน 4 ตำบลของ อ.เมืองตราด ที่มีเขตแดนติดกับประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย ต. ชำราก , ต.ท่ากุ่ม ,ต.ตะกาง และ ต.แหลมกลัด ซึ่งทั้ง 4 ตำบลมีสถานที่ราชการ โรงเรียน วัด สถานีอนามัย และบ้านเรือนประชาชนที่มีระยะห่างจากชายแดนตั้งแต่ 2-15 กิโลเมตรเท่านั้น

ทั้งนี้ ในปี 2528 ชายแดนตราดเคยเกิดสงครามระหว่างเขมรแดงและเวียดนาม จนทำให้มีลูกระเบิดตกลงมาในพื้นที่บ้านเรือนประชาชนจนต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย และยังทำให้นักเรียนไม่ได้เรียนหนังสือนานหลายเดือน


ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการที่ 22 บ้านชำราก ได้ชี้แจงสถานการณ์ให้ชาวบ้านเข้าใจว่า ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่น่าไว้วางใจ และอาจมีการเคลื่อนกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งการซ้อมอพยพในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ประชาชนรู้ขั้นตอนและเส้นทางการอพยพที่ถูกต้องและปลอดภัย

อีกทั้งยังเป็นการลดความสับสน และความตื่นตระหนกหากมีการสู้รบกันจริง โดยได้มีการเน้นย้ำต่อประชาชนว่า เมื่อมีลูกระเบิดลูกแรกตกลงมาในพื้นที่ ประชาชนจะต้องรู้ตัวว่าต้องอพยพในทันที

ด้านชาวบ้านในพื้นที่บอกเล่าถึงความทรงจำที่น่ากลัวในอดีตเมื่อปี 2528 ว่าในสมัยนั้นยังไม่มีรถยนต์ การหลบหนีจึงทำได้เพียงอาศัยรถไถที่เคลื่อนตัวไปได้อย่างช้าๆ ท่ามกลางความหวาดกลัวจนทำให้ภาพในอดีตยังคงชัดเจน อยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อได้ยินเสียงดังบนท้องฟ้าก็จะมองเห็นดวงไฟสีแดงเต็มไปหมดและทุกคนจะต้องรีบวิ่งไปรวมตัวกันในหลุมบังเกอร์ที่เคยมีให้ใช้ในสมัยนั้น

แต่ปัจจุบันความกังวลในสถานการณ์ แตกต่างจากอดีต เพราะชาวบ้านมองว่าเหตุการณ์สู้รบในสมัยก่อนเป็นลักษณะความขัดแย้งภายของประเทศเพื่อนบ้านที่ล้ำข้ามแดนเข้ามา แต่ปัจจุบันเป็นความขัดแย้งกันโดยตรงระหว่างกัมพูชาและบไทย ซึ่งเชื่อว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นจะรุนแรงกว่าในอดีต


นายเตธรรศ รัตนไชย ปลัดอำเภอเมืองตราด กล่าวว่าการซ้อมแผนในครั้งนี้ ได้มีการดำเนินการในหลายมิติ คือ การเตรียมหลุมหลบภัยที่ได้สำรวจและเตรียมความพร้อมของหลุม รวมทั้งบังเกอร์ในทุกพื้นที่ และหมู่บ้านชายแดนทั้ง 19 หมู่บ้าน 4 ตำบล เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ส่วนการซ้อมแผนอพยพประชาชน ก็เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนที่หน่วยงานราชการได้วางไว้ได้อย่างถูกต้อง ขณะที่ปัจจุบันการรับรู้ข่าวสารของประชาชนรวดเร็วมากขึ้น โดยทางการได้เน้นย้ำให้รับฟังข่าวสารจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการ คือ ผู้นำท้องที่และท้องถิ่น (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) เป็นหลัก เพื่อป้องกันความสับสนและความตื่นตระหนก






กำลังโหลดความคิดเห็น