สำนักพุทธฯ ห่วงพระสึก หารือ "สุชาติ" ดัน กม.คุ้มครองศาสนา ป้องนารีพิฆาต-พระนอกรีต พร้อมทบทวนกฎหมายเอาผิดทางอาญา หวังแก้วิกฤตศรัทธา
ต้องยอมรับว่ากรณีของสีกากอล์ฟที่กลายเป็นนารีพิฆาตพระในเวลานี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนพอสมควร หลังจากพระชั้นผู้ใหญ่ในหลายวัดต่างทยอยลาสิกขาหรือบางรูปก็เก็บตัวเงียบ ทำให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่อาจนั่งอยู่เฉยๆได้เหมือนที่ผ่านมา
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ทางพศ. ได้หารือนายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการมส. แล้ว เห็นว่าควรนำ ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ…. กลับมาพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าว มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทำให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งพระภิกษุและฆราวาส อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวก่อน เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมมหาเถรฯ ต่อไป
ขณะที่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า แนวคิดจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนายังมีข้อจำกัดทางกฎหมาย ทำให้จำเป็นต้องเชิญธนาคารของรัฐบาลเข้ามาร่วมดำเนินงาน หรือจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องจัดตั้งธนาคารใหม่
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเสนอให้คุ้มครองพระภิกษุผู้ประพฤติดี และการจัดการกับพระภิกษุผู้ประพฤติมิชอบ แต่ที่ยังมีช่องว่างทางกฎหมายและมีข้อจำกัดด้านอำนาจหน้าที่ของพศ.ทำให้การดำเนินการในบางกรณีไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพระพุทธศาสนาจำเป็นต้องทบทวนให้ครอบคลุมกรณีที่เกิดปัญหา เช่น มีสตรีเข้ามาสร้างปัญหา หรือ พระภิกษุบางรูปประพฤติตนไม่เหมาะสม แต่ปกปิดข้อมูลไว้ ควรพิจารณาแก้ไขกฎระเบียบและข้อกฎหมายบางประการ และบางกรณีสมควรรับผิดทางอาญาด้วยหรือไม่ ทั้งนี้การปรับโครงสร้างพศ. ควรดำเนินการควบคู่กับการแก้ไขปัญหาของสงฆ์ ของพระพุทธศาสนา และมีบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาร่วมพัฒนาองค์กร
“ขณะนี้เกิดวิกฤตวงการสงฆ์ เป็นเรื่องที่ทำให้พุทธศาสนิกชน มีความไม่สบายใจ และตนเองมีความห่วงใยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นในฐานะกำกับดูแล พศ. จะนำข้อเสนอไปพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน” นายสุชาติ กล่าว