xs
xsm
sm
md
lg

อย่าสองมาตรฐาน เล่นงาน “จอนนี่มือปราบ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ถึงนาทีนี้ “จอนนี่มือปราบ” อดีตอินฟูเอนเซอร์สายตำรวจคนดัง มีงานเข้าไม่เลิก หลังจากวิพากษ์วิจารณ์ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปลับเจรจา “ฮุน เซน” ซึ่งนับเป็นปฐมบทมรสุมชีวิต

ย้อนกลับไปวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ดาบตํารวจ ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “จอนนี่ มือปราบ” โพสต์คลิปวิพากษ์วิจารณ์ “นายกฯอิ๊งค์” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ หลังจากฟังคลิปเจรจากับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในทำนองว่า “นายกฯ อิ๊งค์” ไม่มีท่าทีปกป้องอธิปไตยไทย ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ควรลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งคลิปดังกล่าวของ “จอนนี่” เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 จอนนี่ประกาศวางปืน “ลาออกจากตำรวจ” โดยให้เหตุผลระบบขัดต่ออุดมการณ์ กฎหมาย ระบบระเบียบ และหน้าที่ไม่เอื้อต่อการทำงาน แต่เบื้องลึกเบื้องหลังจริง ๆ อาจเพราะมีแรงกดดันจาก “ผู้หลักผู้ใหญ่” ที่ไม่แฮปปี้กับการออกมาวิจารณ์นายกรัฐมนตรีของจอนนี่

แม้ว่าก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 จอนนี่เคยประกาศว่าจะลาออกจากอาชีพรับราชการตำรวจ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 ด้วยเหตุผลในใจที่มีมากมาย แม้ว่าจะยังรักในอาชีพตำรวจ แต่เมื่ออุดมการณ์ขัดต่อระบบจึงจำเป็นต้องยุติอาชีพตำรวจลงในอีก 1 ปี ครบราชการบำนาญ

ต่อเมื่อจอนนี่โพสคลิปไล่ “นายกฯอิ๊งค์” การลาออกจากอาชีพตำรวจของเขาจึงมาถึงก่อนกำหนด พร้อมกับมรสุมที่ถาโถมโหมกระหน่ำ

มรสุมลูกแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 คล้อยหลังคำประกาศวางปืนของจอนนี่ เพียง 5 วัน เท่านั้น โดยร.ต.อ.กัมพล จำปาสี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม ร้องเรียนตำรวจ บก.ปปป. ให้ตรวจสอบวินัยจอนนี่หลังโพสต์วิจารณ์นายกฯ รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินของจอนนี่ว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะยศนายดาบไม่น่าร่ำรวยขนาดนั้น

ทางด้าน “ดาบจอนนี่” ก็สวนหมัดกลับโดยเข้าแจ้งความ สภ.พิบูลมังสาหาร เอาผิดกับผู้หมิ่นประมาท พร้อมเปิดแหล่งที่มาของรายได้จากการเปิดค่ายเพลง ธุรกิจร้านอาหาร รีสอร์ท ค้าขายออนไลน์ และทำคลิป

ขณะเดียวกัน จอนนี่ยังโพสต์ในเฟซบุ๊กตอบโต้คู่กรณีด้วยว่า “การข่าว เพื่อนรุ่นผม จากนครปฐม ให้ข้อมูลมาว่ารองสารวัตรรับงานมา 2 พัน และค่าน้ำมันรถอีก 7 ร้อย เพื่อดิสเครดิตผม ไอ้สั...! ชื่อเสียงกู มึงคิดทำลายแค่เงิน 2,700 นี่นะ แต่อนิจจา กระแสตีกลับเจ้าตัวจนต้องมุดหน้าเวลานี้ กูอายแทนต้นสังกัดมึงทางนครปฐมจริง ๆ”

เวลานั้น นายรณณรงค์ แก้วเพชร ทนายความ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายดาบตำรวจไม่อยู่ในรายการที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมาย เลยไม่เข้าใจว่าจะไปตรวจสอบจอนนี่มือปราบทำไม?

สำหรับธุรกิจในเครือจอนนี่กรุ๊ป ปี 2568 ประกอบด้วย 1. แวะจอนนี่ 2. จอนนี่แซ่บ สาขา ในตัวเมืองอุบลฯ 3. จอนนี่แซ่บ สาขา แก่งสะพือ 4. จอนนี่ร้านอาหารญี่ปุ่น 5. จอนนี่ฟาร์มสเตย์ 6. จอนนี่ฟุตบอลคลับอคาเดมี่ 6. จอนนี่ควายงาม 7. จอนนี่ไก่ชน 9. จอนนี่แค้มปิ้ง แอนด์ ฟิสชิ่งปาร์ค 10. จอนนี่คาเฟ่

11. จอนนี่รีสอร์ต 12. จอนนี่พูลวิลล่า 13. จอนนี่ล่องแพ 14. จอนนี่สินค้าออนไลน์ 15. จอนนี่ยูทูปเพจเฟซบุ๊ก 16. จอนนี่ channel 17. จอนนี่กาแฟ 18. จอนนี่ของฝาก 19. จอนนี่โปรดัคชั่น 20. จอนนี่เร็คคอร์ด 21. จอนนี่มิวสิค.

เมื่อมรสุมลูกแรกกลายเป็นเพียงลมพัดแผ่ว หลังจากนั้นไม่นาน มรสุมลูกที่สองก็ถาโถมเข้ามา โดยเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าแจ้งความ บก.ปทส.ดำเนินคดีกับจอนนี่ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกล้ำ “เขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย”

วันเดียวกัน จอนนี่ก็แจ้งความกลับ นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ และเจ้าหน้าที่อีก 2 ราย ข้อหาหมิ่นประมาท และมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อด้วยเดินทางไป ป.ป.ช.และ ป.ป.ท.เอาผิดเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย

“ตรวจมึงอย่าเลือกตรวจ มึงตรวจให้หมดนะครับ ผมยินดีให้ตรวจสอบเป็นอย่างยิ่งหากผมผิดรื้อของผมได้เลย รีสอร์ทของผมรื้อได้เลย แต่ตรวจต้องตรวจทุก ๆ รีสอร์ทที่ตั้งมาก่อนผม ตรวจหมู่บ้าน ตรวจวัด ตรวจโรงเรียนด้วย อยู่ในพื้นแผ่นดินเดียวกัน” จอนนี่โพสต์ตอบโต้

จอนนี่ เล่าว่า ที่ดินที่เขาซื้อไว้ทํารีสอร์ทนั้นเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่อาศัยมาตั้งแต่ก่อนปี 2511 มีวัด มีโรงเรียน มีผู้ใหญ่บ้าน อบต. เอกสารชุมชนครบ แต่พอเขาเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นการถือครองมือที่สามแล้ว กลับถูกตรวจสอบอย่างหนัก โดนตั้งข้อหาและถูกดําเนินคดี ขณะที่สถานที่อื่นใกล้เคียงกลับไม่ถูกแตะ

ที่น่าแปลกประหลาดใจไม่น้อย หากย้อนดูอีกกรณี คือ “สนามบินอนุทิน ชาญวีรกูล” สนามบินกระโดดร่มลําตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ที่อยู่ในพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองลําตะคอง ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เช่นเดียวกัน

สนามบินนี้ถูกใช้งานจริง มีการจดทะเบียน มีรันเวย์ถาวร มีภาพใช้งาน มีผู้เข้าออกต่อเนื่อง แต่เมื่อเรื่องนี้เป็นข่าว หน่วยงานรัฐกลับแค่ลงบันทึกประจําวันว่าเป็นที่ของนิคมแล้วเงียบ ไม่มีการแจ้งความ ไม่มีคําสั่งรื้อถอน หรือดําเนินการใด ๆ

ทั้งที่ตาม พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ การใช้ที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา การเข้าใช้ทรัพย์ของรัฐโดยไม่มีสิทธิ์ จําคุกไม่เกินหนึ่งปี มาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จําคุก 1 ถึง 10 ปี

ทั้งสองกรณี ไม่มีเอกสารสิทธิ และอยู่ในเขตนิคมฯ ข้อกฎหมายเดียวกัน แต่บังคับใช้กฎหมายกันราวฟ้ากับเหว กรณีรีสอร์ตจอนนี่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแจ้งความตั้งข้อหา เสี่ยงโดนรื้อ ส่วนสนามบินอนุทิน ลงบันทึกเฉยๆ ไม่แจ้งความ ไม่ดําเนินคดี นี่คือสองมาตรฐานชัดเจน

กรณีนี้ ถ้าจอนนี่ผิด “สนามบินอนุทิน” ก็ต้องผิด ถ้าสนามบินไม่ผิด จอนนี่ควรโดนเล่นแรงขนาดนี้หรือไม่ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของอดีตตํารวจชั้นผู้น้อยกับนักการเมืองใหญ่ แต่คือคําถามของประชาชนทั่วประเทศ ที่อยู่ในที่ดินรัฐมาทั้งชีวิต แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ และเมื่อมีปัญหากลับถูกไล่หรือไล่จับ

สนามบินลําตะคอง ไม่มีคําสั่งรื้อถอน แต่อีกด้านหนึ่ง ชาวบ้านนิคมลําโดมน้อยร้องขอเอกสารสิทธิมานาน แต่ไม่เคยได้ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาแก้ไขให้จริงจัง จะปลูกบ้านก็ผิด จะโอนให้ลูกหลานก็ไม่มีสิทธิ์ แต่เมื่อเกิดข้อพิพาทกลับถูกดําเนินคดี ไล่รื้อหรือไล่ฟ้อง เป็นภาพสะท้อนโครงสร้างสองมาตรฐาน รัฐใช้อํานาจกฎหมายเหมือนอาวุธเลือกจัดการเฉพาะคนที่ไม่มีอํานาจต่อรอง

อย่างไรก็ตาม ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร วิเคราะห์กรณีรีสอร์ตในนิคมฯของจอนนี่ว่า “อยู่มาร้อยวันพันปีไม่เคยมีการตรวจสอบ พอจอนนี่มือปราบวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก็ถูกตรวจสอบทันที ไม่แปลกที่จอนนี่จะบอกว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ แต่อย่างไรก็ต้องย้อนกลับไปว่าที่มาที่ไปถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ในการเลือกดำเนินคดีจะบอกว่าละเว้นหรือเลือกปฏิบัติ ก็คงต้องอยู่ที่หน่วยงานในพื้นที่ว่าบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่ อาจจะมีบางรีสอร์ทช้า หรือบางรีสอร์ทไวมาก ๆ ก็เป็นไปได้” ทนายรณณรงค์ ระบุ

ดูเหมือนว่า คดีสร้างรีสอร์ทบนที่ดินนิคมฯ ของจอนนี่จะอยู่ในข่ายบังคับใช้กฎหมายอย่างไว เพราะ พล.ต.ต.วัชรินทร์ ฟูสิทธิ์ ผบก.ปทส. ระบุว่า ตำรวจ บก.ปทส.ได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดี พร้อมสอบปากคำผู้รับมอบอำนาจเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนี้ได้นัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ , กรมพัฒนานิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ผู้เสียหาย ไปตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้

จอนนี่ มือปราบอินดี้” ปัจจุบัน อายุ 44 ปี เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี วัยเด็กฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาเข้าเมืองกรุงมาเป็นเด็กวัด เล่นฟุตบอลพร้อมเรียนหนังสือไปด้วย จนได้เป็นนักเตะเยาวชนสโมสรองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของจอนนี่ เริ่มขึ้นเมื่อสอบได้เป็นนักเรียนพลตำรวจ รับราชการครั้งแรกที่ สน.คันนายาว เมื่อปี 2543 ทำงานเป็นนักสืบอยู่ในพื้นที่ บก.น.2 กว่า 13 ปี พิชิตคดีสำคัญหลายคดี จนกระทั่งผู้ใหญ่เห็นฝีไม้ลายมือก็ชวนมาอยู่ที่กองปราบปราม และเริ่มสร้างชื่อ โดยงานแฝงตัวหาข่าวเป็นงานถนัดของเขา ทั้งปลอมตัวเป็นคนขับวินมอไซด์ ขับแท็กซี่ ขายไส้กรอก คนงานก่อสร้าง เสี่ยสวนยาง บางคดียอมติดคุกเพื่อไปหาข่าวในเรือนจำ ส่งคนร้ายเข้าคุกจำนวนมาก จนได้รับรางวัลตำรวจสืบสวนดีเด่นอีกด้วย

ด้วยบุคลิกแตกต่างจากตำรวจทั่วไป เขาจึงกลายเป็นที่สนใจของสื่อและชาวบ้าน จากนั้นก็ถูกเชิญไปออกรายการทีวีจนมีชื่อเสียงโด่งดังชั่วข้ามคืน และได้เปิดเพจจอนนี่ตะลึงกรุง และช่องยูทิวบ์ เผยแพร่คดีที่ตัวเองจับกุม และไลฟ์สไตล์ติดดิน มีผู้ติดตามนับล้านคน
กำลังโหลดความคิดเห็น