xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 3 เมียนมาแก๊งฟอกเงินผ่าน Huione Pay ของหลานฮุน เซน ตรวจยึดเงินสดกว่า 46 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม 3 ผู้ต้องหาชาวเมียนมา ฟอกเงินข้ามชาติผ่านกระเป๋าเงินคริปโตฯ Huione Pay ของหลานชาย ฮุน เซน แห่งกัมพูชา ยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาท พบหลอกเหยื่อลงทุนเข้าบัญชีม้า แล้วฟอกเงินผ่านเหรียญ USDT ส่งต่อแพลตฟอร์มฉาวฝั่งเขมร แล้วแปลงเป็นเงินสด นำไปให้นายทุนชาวจีนฝั่งเมียวดีอีกที

วันนี้ (8 ส.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติผ่านกระเป๋าเงินคริปโตเคอเรนซี่ ฮุ่ยวัน เปย์ (Huione Pay) ของนายฮุนโต หลานชายของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยจับกุมนายอู ชิน อายุ 57 ปี ,นางธิดา อายุ 57 ปี และนายเล่า เวย อายุ 54 ปี สัญชาติเมียนมา ที่บ้านพักใน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, โดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ กก.3 บก.ปอท. ว่าถูกมิจฉาชีพชักชวนลงทุนเทรดหุ้นผ่านเฟซบุ๊ก อ้างได้กำไรดี จากนั้นได้ให้เข้ากลุ่มไลน์ มีหน้าม้าคอยแจ้งว่าเทรดได้กำไรและถอนเงินได้จริง ผู้เสียหายใช้เวลาศึกษาข้อมูลประมาณ 2-3 เดือน ก่อนตัดสินใจลงทุน จากนั้นแอดมินกลุ่มจะให้เข้ากลุ่ม VIP ติดต่อผ่านไลน์ ก่อนที่จะให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Ulela Max และโอนเงินเพื่อลงทุนเทรดหุ้น อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทน 10% ช่วงแรกผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีม้านิติบุคคล ชื่อบัญชี บริษัท ยูเลล่า เทรดดิ้ง 999 จำกัด จำนวนหลักแสนบาท พบว่าถอนเงินพร้อมกำไรได้จริง จึงได้โอนเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านบาทอีกหลายครั้ง ไปยังบัญชีม้านิติบุคคล 4 บัญชี บัญชีม้าบุคคล 8 บัญชี รวม 18 ครั้ง เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกและไม่สามารถถอนเงินได้ จึงได้เข้าแจ้งความดังกล่าว

เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าหลังจากบัญชีม้าต่างๆ ได้รับเงินแล้ว จะเปลี่ยนเป็นเงินคริปโตเคอเรนซี่สกุล USDT ผ่าน BinanceTH และ Bitkub ของไทย ก่อนโอนต่อไปยัง Private Wallet จำนวนหลายกระเป๋าเพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยพบว่ามีการทำรายการที่ตึกออฟฟิศ ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก่อนโอนไปยัง Wallet ของ Huione Pay ของประเทศกัมพูชาเพื่อฟอกเงิน ก่อนโอนต่อไปยัง Wallet ของผู้รับผลประโยชน์อีกหลายบัญชี แล้วโอนให้กับกลุ่มผู้ต้องหาชาวเมียนมา โดยพบว่าจะมีการรับโอนเหรียญสกุล USDT วันละประมาณ 20-30 ล้านบาท แล้วเปลี่ยนเป็นเงินสดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง Binance, OKX และผู้ให้บริการของไทย ได้แก่ Bittazza, Maxbit และ Z.COM เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารไทยของกลุ่มผู้ต้องหา แล้วถอนเงินสดที่ธนาคารในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก วันละประมาณ 20-30 ล้านบาท

เมื่อถอนเงินแล้วจะนำเงินสดให้ชาวเมียนมา ขนข้ามชายแดนบริเวณด่าน ตม.แม่สอด ไปส่งต่อให้นายทุนชาวจีนยังฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาต่อไป โดยพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาถอนเงินสดกว่าเดือนละ 1,000 ล้านบาท ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 28 คน โดยเป็นกลุ่มบัญชีม้า 24 คน และชาวเมียนมา ผู้รับผลประโยชน์ 4 คน และได้นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายพร้อมจับกุมผู้ต้องหาชาวเมียนมา 3 ราย ทำหน้าที่กดเงินสดและขนเงินไปให้นายทุนยังฝั่งประเทศเมียนมา พร้อมตรวจยึดเงินสดรวมกว่า 46 ล้านบาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบว่าแก๊งดังกล่าวเชื่อมโยงกับนายก๊ก อาน หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ชาวกัมพูชา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผล อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ต้องหาระดับสั่งการบางราย กบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย แต่ฝ่ายไทยจะขอให้ตำรวจสากลออกหมายจับเพื่อกดดันขบวนการเหล่านี้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น