แรงงานเขมรแห่กลับไทย! หลังเศรษฐกิจกัมพูชาไม่เป็นตามที่ผู้นำโฆษณา ฝ่ายความมั่นคงตรวจเข้มชายแดน จับกุมแรงงานผิดกฎหมายต่อเนื่อง รัฐบาลไทยยันดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
แรงงานชาวกัมพูชาที่เพิ่งบอกลาจากการทำงานในประเทศไทยเพื่อกลับกัมพูชาตามคำขู่ของผู้นำกัมพูชาไม่ทันไร ปรากฎว่ามีความเคลื่อนไหวของแรงงานเขมรที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยอีกครั้ง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง พบว่า ในช่วงนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติ หลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) รายงานว่า ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวนมากหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้นำรัฐบาลกัมพูชาได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในไทยเดินทางกลับประเทศ โดยบอกว่าหากกลับบ้านจะมีงานให้ทำ มีเงินใช้ ทำให้มีแรงงานเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินทางกลับ กลับไม่เป็นอย่างที่แจ้งไว้ จึงจำเป็นต้องลักลอบเดินทางกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการในการตรวจตราอย่างเข้มงวด
“แม้จะมีการผ่อนผันแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย แต่ไทยยังคงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการคุ้มครองความมั่นคงของประเทศและการบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลขอยืนยันว่า ยังคงปฏิบัติระหว่างกันด้วยหลักมนุษยธรรม และยังคงช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชาทุกประการ ตามหลักกฎหมายของประเทศไทย เพื่อให้อยู่ทำงานและอาศัยบนแผ่นดินไทยได้อย่างปลอดภัย” นายจิรายุ กล่าว
ขณะที่ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ตลอดเดือนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและแรงงานจังหวัดบริเวณชายแดนว่า มีแรงงานกัมพูชาหลายพันคนตัดสินใจเดินทางกลับประเทศหลังเชื่อข้อมูลจากเพจและแอปพลิเคชันที่อ้างว่ามีงานรายได้สูงรออยู่ แต่เมื่อเดินทางกลับไป กลับพบว่าไม่มีงานจริงตามที่อ้าง บางรายสูญเสียเงินค่าเดินทางและค่าดำเนินการเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องประสบปัญหาขาดรายได้และความเป็นอยู่ลำบาก
“ขอให้แรงงานกัมพูชาทุกคนตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐของทั้งสองประเทศ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ใช้ข่าวปลอมล่อลวง ซึ่งนอกจากจะเสียโอกาสทางอาชีพแล้ว ยังอาจสูญเสียเงินทอง และเสี่ยงต่อการถูกจับกุม ดำเนินคดี และส่งกลับประเทศ โทษฐานลักลอบเข้าเมือง” นายพงศ์กวิน กล่าว