ข่าวคราวเกี่ยวกับนักวิจัยระดับหัวกะทิชาวจีนผละจากสหรัฐอเมริกา หันมาทำงานร่วมกับประเทศบ้านเกิดเมืองนอนยังคงเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เฉา ถิง” นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ( AI ) ระดับแถวหน้า ลาออกจากงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายวิจัยของห้องปฏิบัติการวิจัยไมโครซอฟต์ รีเสิร์ช เอเชีย ( Microsoft Research Asia - MSRA) เมื่อเดือนกรกฎาคม เพื่อมาร่วมงานกับสถาบันวิจัยอุตสาหกรรมเอไอในสังกัดมหาวิทยาลัยชิงหวา ภายใต้การดูแลของจาง หย่าฉิน อดีตกรรมการผู้จัดการ MSRA ตามที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ระบุ
นับเป็นการย้ายค่ายการทำงานในเวลาที่AIกลายเป็นแนวรบใหม่ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
MSRA ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ก่อตั้งโดยบิลล์ เกตส์แห่งไมโครซอฟต์บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอเมริกาเมื่อปีพ.ศ. 2541 ( ค.ศ. 1998 ) จุดมุ่งหมายก็เพื่อดึงดูด “ แหล่งรวมความสามารถทางปัญญาอันล้ำลึก”ของจีน โดยว่าจ้างนักวิจัยหลายร้อยคนเข้าร่วม เสนอค่าตอบแทนสูงกว่าที่อื่นพร้อมสภาพการทำงานเยี่ยม
ห้องปฏิบัติการแห่งนี้เป็นผู้บุกเบิกงานวิจัยของไมโครซอฟต์เกี่ยวกับการจดจำเสียง ภาพ และใบหน้า รวมถึงโครงการด้านAI ต่าง ๆ กลายเป็นห้องปฏิบัติการสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในด้านนี้ และเติบโตจนเป็นศูนย์วิจัยใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟต์นอกสหรัฐฯ และเป็นแห่งแรกในเอเชีย
นิตยสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ( MIT Technology Review ) ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ถึงขนาดยกย่องในบทความเมื่อปี 2547 ( 2004 ) ว่า เป็น "ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ยอดนิยมมากที่สุดในโลก"
ทว่าขณะนี้ MSRA กำลังถูกกดดันจากมาตรการจำกัดของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ประกอบกับภาคส่วน AI ของจีนเองก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ไมโครซอฟต์จึงย้ายที่ตั้งศูนย์วิจัยแห่งใหม่ไปอยู่ในประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น และสิงคโปร์
อนาคตของทีมงานในศูนย์วิจัยหลักที่กรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้เริ่มง่อนแง่น
หัวกะทิด้านAI ทยอยลาออก
หลิว เถี่ยเยี่ยน รองประธาน MSRA ลาออกจากบริษัทเมื่อปีที่แล้ว และเข้าร่วมงานกับวิทยาลัยจงกวนชุน ซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ในฐานะหัวหน้าผู้ก่อตั้งวิทยาลัยและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เขาเคยดำรงตำแหน่งอาวุโสหลายตำแหน่งที่ไมโครซอฟต์ รวมถึงตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย AI เพื่อวิทยาศาสตร์ (AI for Science) โดยต่อมา นักวิจัยฝ่าย AI เพื่อวิทยาศาสตร์ถูกเลิกจ้างยกทีมในเดือนมิถุนายน
บทบาทใหม่ของเฉาที่มหาวิทยาลัยชิงหวาเป็นผลสืบเนื่องจากไมโครซอฟต์ตัดสินใจลดการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนและย้ายนักวิจัยบางส่วนจากปักกิ่งไปยังแคนาดา
เฉาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียในปี 2556 ( 2013 ) ทำงานเป็นนักวิจัยหลังปริญญาเอกที่ห้องปฏิบัติการหลักแห่งชาติสำหรับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ของสถาบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ในสังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนอยู่ 2 ปี
ต่อมาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์อาวุโสที่ห้องปฏิบัติการคอมไพเลอร์และภาษาโปรแกรมของหัวเว่ย เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน
เฉาร่วมงานกับ MSRA ในปี 2561 ( 2018 ) เพื่อรับผิดชอบงานด้านเทคโนโลยีเอดจ์ เอไอ ( Edge AI ) ซึ่งเป็นอัลกอริทึมโมเดลรากฐานขนาดใหญ่
การวิจัยของเธอเน้นไปที่ Edge AI ระบบอนุมาน AI และตัวเร่งความเร็ว AI แบบใหม่
ในบทความซึ่งเผยแพร่บนบัญชีโซเชียลมีเดียของ MSRA เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เฉาได้พูดถึงเทคโนโลยีการประมวลผลที่ "คาดว่าจะทำให้อุปกรณ์แบบ edge-to-cloud สามารถรันโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยตรงจากที่เก็บข้อมูลโดยไม่ต้องใช้ตัวเร่งความเร็ว AI เพิ่มเติม”
ที่มา : SCMP