ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (13 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ เตรียมที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานใหม่ต่อรัสเซีย แต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ทุกประเทศยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และดำเนินมาตรการที่เหมือนกันทั้งหมด
“ผมพร้อมที่จะคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหญ่ เมื่อทุกประเทศในนาโตเห็นพ้องและเริ่มดำเนินการเช่นเดียวกัน และเมื่อทุกประเทศในนาโตยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย” ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้พยายามกดดันนาโตให้เพิ่มการคว่ำบาตรด้านพลังงานต่อรัสเซียเพื่อยุติสงครามในยูเครน ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ ทรัมป์ ยังหาทางปิดฉากไม่ได้เสียทีแม้จะเคยข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะลงโทษรัสเซียและพันธมิตรให้หนักขึ้นก็ตาม
ทรัมป์ถูกคนในสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์ว่าขีดเส้นตายสองสัปดาห์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้รัสเซียลดความตึงเครียด แต่สุดท้ายก็ปล่อยผ่านพ้นโดยไม่มีบทลงโทษที่เป็นรูปธรรม ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสในเดือน ส.ค. พบว่า 54% ของชาวอเมริกัน รวมถึง 1ใน 5vของฐานเสียงพรรครีพับลิกันของทรัมป์ เชื่อว่าประธานาธิบดีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากเกินไป
โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (13 ว่า "สหภาพยุโรปได้มีส่วนร่วม และจะยังคงมีส่วนร่วมต่อไปกับพันธมิตรระดับโลกที่เกี่ยวข้องในบริบทของการคว่ำบาตรรัสเซีย และการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว"
อัวร์ซูลา ฟอน เแดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวแถลงนโยบายประจำปีนี้ว่า มาตรการคว่ำบาตรใหม่ใดๆ ก็ตามจะต้องสอดคล้องกับกฎของสหภาพยุโรป รวมถึง "หลักการที่ยึดถือกันมายาวนานว่ามาตรการคว่ำบาตรของเราไม่มีผลบังคับใช้นอกอาณาเขต"
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ได้หารือกันในวันศุกร์ (12) เกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม และการรีดภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ ที่ถูกพิจารณาว่ามีส่วนเอื้ออำนวยให้รัสเซียทำสงครามในยูเครน
รายได้จากพลังงานยังคงเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญที่สุดของเครมลินเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการทำสงคราม ทำให้การส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซียถูกตะวันตกล็อกเป้าคว่ำบาตร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์เตือนว่าการปิดกั้นน้ำมันดิบรัสเซียอย่างเข้มงวดก็เสี่ยงที่จะทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติตะวันตกเอง และอาจทำให้สาธารณชนเห็นดีเห็นงามน้อยลง
นับตั้งแต่ปี 2023 ตุรกีซึ่งเป็นรัฐสมาชิกนาโตกลายเป็นผู้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียรายใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากจีนและอินเดีย ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด (Centre for Research on Energy and Clean Air) ขณะที่รัฐสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มนาโต 32 ประเทศที่ยังคงรับซื้อน้ำมันจากรัสเซียอยู่ได้แก่ ฮังการีและสโลวาเกีย
ทรัมป์ ซึ่งใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่สนามกอล์ฟของเขาในเมืองเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า นาโตในฐานะกลุ่มควรกำหนดอัตราภาษีนำเข้าจากจีน 50% ถึง 100% โดยให้เหตุผลว่าว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนที่มีต่อรัสเซียอ่อนแอลง
ทรัมป์ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียเพิ่มอีก 25% เพื่อกดดันให้นิวเดลีระงับการซื้อน้ำมันดิบราคาถูกจากรัสเซีย ส่งผลให้สินค้าแดนภารตะที่ส่งไปขายอเมริกาตอนนี้ถูกเก็บภาษีมากถึง 50% และกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่าง 2 ประเทศ
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังไม่ใช้มาตรการเดียวกันนี้กับจีนซึ่งก็เป็นลูกค้าน้ำมันรัสเซียเช่นกัน เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อภาวะสงบศึกการค้า และการบรรลุข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมกับปักกิ่ง
ที่มา: รอยเตอร์