ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง-อดิศร" 5 แกนนำเสื้อแดง คดีชุมนุมขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 52 จากที่ยื่นฟ้องทั้งหมด 13 คน "จตุพร" เผยเตรียมใจแล้ว พร้อมรับผลการกระทำ ไม่อยากให้คดียืดเยื้อ แนะทักษิณอยู่ในคุก ปล่อยวางดีที่สุด ย้ำไม่มีอะไรติดค้าง
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งที่ 2 คดีหมายเลขดำ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมแกนนำ นปช. และแนวร่วมอื่นๆ เป็นจำเลย 1-13 ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548
กรณีระหว่างวันที่ 31 ม.ค. – 9 เม.ย. 2552 พวกจำเลยได้ร่วมกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยปิดทางเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี รวมถึงมีผู้ชุมนุมบางส่วนบุกไปยังบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี (ขณะนั้น) เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี รวมทั้งปิดล้อมสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่งใน กทม. จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
โดยจำเลยทั้ง 13 คน ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง แกนนำคนเสื้อแดง จ.สกลนคร นายณรงศักดิ์ มณี นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือ พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง นายอดิศร เพียงเกษ นายพีระ พริ้งกลาง (เสียชีวิต) และนายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตนักแสดง
สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาครั้งแรก แต่เนื่องจากนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จำเลยที่ 11 อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา ส่วนนายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 10 มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลสั่งออกหมายจับ และปรับนายประกัน
ต่อมา ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 5 แกนนำ นปช. คนละ 4 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ และนายอดิศร เพียงเกษ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันตัว
ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เตรียมใจมาแล้วเหมือนกับทุกครั้ง โดยตนไม่มีความวิตกกังวลใด ๆ คดีนี้มีระยะเวลาทั้งหมด 16 เกือบ 17 ปี ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล การต่อสู้คดีก็ได้ทำกันมาอย่างครบถ้วนและดีที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาตนไม่ได้พูดคุยกับจำเลยคนอื่นมาก่อนเลย ต่างก็รู้ตามขั้นตอนการต่อสู้คดีอยู่แล้ว และพร้อมที่จะรับในสิ่งนั้น จากการต่อสู้ที่ผ่านมาตนอาจจะมีคดีมากกว่าแกนนำคนอื่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการขึ้นศาลถือเป็นการเตรียมใจตลอด ถ้าผลลัพธ์เป็นโทษแต่ไม่ได้ประกันตัวก็ต้องยอมรับ หรือถ้าได้รับการประกันตัวก็สู้กันต่อในชั้นอุทธรณ์ ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้คดีนี้ยืดเยื้อ อยากให้อ่านคำพิพากษาให้เรียบร้อยไปเลยในวันนี้
ถามว่าอยากฝากอะไรถึงนายทักษิณ ที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า คนที่อยู่ในเรือนจำถือเป็นโชคชะตาชีวิตอย่างหนึ่ง เหมือนอยู่ในสุสานคนเป็น ต้องอยู่แบบคนตาย อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ แต่ถ้าอยู่แบบคิดว่าเคยเป็นอะไรมา อนาคตจะทำอย่างไร ตัวเองจะเป็นทุกข์เสียเอง ซึ่งตนผ่านตรงจุดนั้นมาแล้วและตนได้แต่แนะนำว่าการปล่อยวางเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนตัวตนไม่มีเรื่องติดค้างใด ๆ กับนายทักษิณ ต่างคนต่างทำหน้าที่กันไปและไม่มีเรื่องส่วนตัว และยืนยันว่าที่ผ่านมาตนก็ยึดแนวทางนี้มาโดยตลอด ส่วนเรื่องการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณครั้งที่ 2 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมทั้งคนปัจจุบันต่างเห็นพ้องต้องกันคือให้ยกฎีกา การยื่นครั้งที่ 2 ในมุมมองตนถือว่าถูกต้องแล้ว และเป็นสิทธิ์ของคนที่อยู่ในเรือนจำที่ต้องการอิสรภาพ ถ้าคนที่ถูกพิพากษาในชั้นต้นก็ต้องสู้ในชั้นอุทธรณ์ ส่วนถ้าคดีถึงที่สุดก็ต้องยื่นถวายฎีกา