อิสราเอลส่งทั้งรถถัง เรือ และเครื่องบินรบ ถล่มพื้นที่ส่วนต่างๆ ของฉนวนกาซาในวันอังคาร (7 ต.ค.) โดยไม่ยอมให้ชาวปาเลสไตน์ได้หยุดพักหายใจในวันครบรอบการโจมตีของฮามาสที่นำไปสู่สงครามซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลา 2 ปีเต็ม อีกทั้งตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายหนักหน่วงของการเจรจาเพื่อยุติศึกภายใต้ข้อเสนอของทรัมป์
ประชาชนทั้งในเมืองข่านยูนิส ที่อยู่ทางใต้ของกาซา และในกาซาซิตี้ ทางตอนเหนือของดินแดนนี้ บอกว่า รถถัง เรือ และเครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีอย่างหนักในตอนเช้าวันอังคาร ขณะที่กองทัพอิสราเอลแถลงว่า ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นนักรบฮามาสได้ยิงจรวดข้ามแดน และกองทัพอิสราเอลยังคงจัดการมือปืนที่ซุ่มโจมตีจากกาซา
นอกจากนั้น นักรบปาเลสไตน์กลุ่มต่างๆ ซึ่งรวมถึงฮามาส และอิสลามิกญิหาด ยังประกาศเนื่องในวันครบรอบ 2 ปีการโจมตีอิสราเอลว่า ไม่มีใครมีสิทธิ์ยึดอาวุธไปจากชาวปาเลสไตน์ และอาวุธที่ชอบธรรมจะตกทอดไปยังชาวปาเลสไตน์จากรุ่นสู่รุ่นจนกว่าดินแดนและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของปาเลสไตน์จะได้รับการปลดปล่อย
ที่อิสราเอลวันเดียวกัน มีการจัดพิธีรำลึกการโจมตีของฮามาสในหลายสถานที่ เช่น สถานที่จัดเทศกาลดนตรีทางตอนใต้ของประเทศที่ถูกฮามาสบุกเข้าสังหารเหยื่อกว่า 370 คน และจับตัวประกันหลายสิบคน รวมทั้งที่จัตุรัสตัวประกันในกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งมีการจัดชุมนุมเรียกร้องการปล่อยตัวประกันเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่ตัวแทนของอิสราเอลและฮามาสยังคงเจรจาหารือกันทางอ้อมที่อียิปต์เป็นวันที่ 2 เพื่อหาทางยุติสงครามตามข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่เห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงชาติอาหรับและพวกประเทศตะวันตก
ข้อเสนอของทรัมป์กำหนดให้ยุติการสู้รบในกาซา ปล่อยตัวประกัน และเปิดทางในการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา
ทรัมป์ที่อวดอ้างว่า ตนเป็นผู้นำโลกคนเดียวที่สามารถสร้างสันติภาพในกาซา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (6) ว่า มีโอกาสมากที่อิสราเอลและฮามาสจะสามารถทำข้อตกลงสันติภาพที่มีความยืนยาวถาวร
ทั้งนี้การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับฮามาสเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ ที่เมืองชาร์ม เอล ชีค เมืองรีสอร์ตริมทะเลแดงของอียิปต์ โดยมีผู้แทนจากอียิปต์ อเมริกา และกาตาร์เข้าร่วมในฐานะผู้ไกล่เกลี่ย
เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์คนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับการเจรจาเผยว่า จะมีการหารือกันต่อในวันอังคาร โดยในช่วแรกของการเจรจานั้น ฮามาสได้ระบุจุดยืนในเรื่องการปล่อยตัวประกัน ระดับและกำหนดเวลาในการถอนทหารอิสราเอลออกจากกาซา รวมทั้งยังแสดงความกังวลว่า อิสราเอลอาจไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงถาวรและการถอนทหารอย่างครอบคลุม
การเจรจานี้เกิดขึ้น 1 วันก่อนวันครบรอบ 2 ปีเหตุการณ์ที่ฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2023 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,200 คน และฮามาสยังจับตัวประกัน 251 คนกลับไปคุมขังในกาซา ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดที่อิสราเอลเคยเผชิญมานับจากเหตุการณ์โฮโลคอสต์ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในยุโรปโดยนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 1941-1945
การโจมตีดังกล่าวยังเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซา หลังจากอิสราเอลยกทัพไปแก้แค้น ซึ่งได้สังหารชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 67,160 คน และบ้านเมืองพังราบคาบ ประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.2 ล้านคนของกาซากลายเป็นคนไม่มีที่อยู่อาศัยและอยู่ในสภาพอดอาหาร
ทางด้านแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอิสราเอลผู้หนึ่งเผยว่า การเจรจาเริ่มแรกโฟกัสที่การปล่อยตัวประกัน โดยอิสราเอลจะยอมถอนหารจนถึงเส้นสีเหลืองในกาซาเท่านั้น ที่หมายถึงเขตแดนสำหรับการถอนกำลังเบื้องต้นของอิสราเอลตามแผนการของทรัมป์ ซึ่งจะทำให้เกิดพื้นที่กันชนทางยุทธศาสตร์ และการถอนทหารขั้นต่อไปจะขึ้นอยู่กับว่า ฮามาสปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่
ชาวปาเลสไตน์ในกาซาต่างมองว่า ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้เป็นความหวังสุดท้าย แต่หากการเจรจาล้มเหลว นี่อาจหมายถึงโทษประหารชีวิตสำหรับพวกเขา
ในส่วนชาวอิสราเอลต่างต้องการยุติสงครามเช่นเดียวกันเพื่อนำตัวประกันกลับบ้าน แต่ก็มีพวกสมาชิกปีกขวาจัดในคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งยังคงคัดค้านการหยุดพักการสู้รบ
นอกจากนั้น แม้ทรัมป์ต้องการผลักดันการเจรจาให้ลุล่วงโดยเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคาดว่า จะต้องมีการหารือกันต่อไปอย่างน้อยอีก 2-3 วัน
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการวางแผนหยุดยิงและแหล่งข่าวปาเลสไตน์อีกคนสำทับว่า เส้นตายการส่งคืนตัวประกันภายใน 72 ประกันอาจเป็นไปไม่ได้สำหรับตัวประกันที่เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากต้องใช้เวลาค้นหาและกู้ร่างขึ้นมาจากใต้ซากปรักหักพัง
ประเด็นที่อาจเป็นปัญหาคือข้อเรียกร้องของอิสราเอลให้ฮามาสวางอาวุธที่ระบุอยู่ในแผนการของทรัมป์ เนื่องจากฮามาสยืนกรานว่า จะไม่วางอาวุธเด็ดขาดเว้นแต่อิสราเอลจะยุติการยึดครองกาซาและมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นมา
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)