เอเจนซีส์ - นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ จอห์น คลาก (John Clarke) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส มีแชล เดโวเรต์(Michel Devoret) และนักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน จอห์น มาร์ตินิส (John Martinis) 3 คนร่วมกันรับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปีนี้จากผลงานการค้นพบปรากฎการณ์การทะลุผ่านเชิงควอนตัม(quantum mechanical tunnel)ในบอร์ดแผงวงจรอิเล็กทรอนิก เป็นความก้าวหน้าที่วางรากฐานของสาขาควอนตัมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอื่นๆ
CNN ของสหรัฐฯรายงานวันนี้(7 ต.ค)ว่า คณะกรรมการรางวัลโนเบลแสดงความชื่นชมต่อนักฟิสิกส์ 3 คนได้แก่นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ จอห์น คลาก (John Clarke) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส มีแชล เดโวเรต์ (Michel Devoret) และนักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน จอห์น มาร์ตินิส (John Martinis)ถึงการค้นพบต่อคุณสมบัติอันแปลกประหลาดของโลกควอนตัมที่สามารถทำให้ระบบมีขนาดใหญ่พอที่จะสามารถถือในมือได้”
ผลงานของพวกเขาปูทางไปสู่การใช้งานของกลศาสตร์ควอนตัมในโลกที่แท้จริงที่ควบคุมหนทางที่โลกทำงานในระดับต่ำกว่าอะตอมที่เล็กที่สุดและช่องว่าง โจนาธาน แบกเกอร์ (Jonathan Bagger) นักฟิสิกส์อนุภาคและซีอีโอสมาคมนักฟิสิกส์อเมริกัน (American Physical Society) กล่าว
คลาก หนึ่งในผู้ชนะได้ตอบคำถามในงานแถลงข่าวโดยเปิดใจว่า เขารู้สึกตกตะลึงที่ได้รู้ว่าเขาชนะรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ปีนี้
“พวกเราไม่ได้ตระหนักเลยว่านี่อาจนำมาสู่รางวัลโนเบล”
และเสริมต่อว่างานวิจัยของพวกเขาเกิดขึ้นในยุค 80 ที่มหาวิทยาลับ UC Berkley ที่ศาสตราจารย์ยังคงประจำมาจนถึงทุกวันนี้
คลากชี้ว่า งานวิจัยของคนทั้งสามนำมาสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นต้นว่า โทรศัพท์มือถิอ
CNN ของสหรัฐฯอธิบายว่า ฟิสิกส์สาขากลศาสตร์ควอนตัม(Quantum mechanics)นั้นอธิบายถึงสสารและพลังงานมีพฤติกรรมอย่างไรในระดับหรือต่ำกว่าระดับอะตอม เพื่อเปิดโอกาสให้อนุภาคสามารถผ่านทะลุสิ่งกีดขวางในกระบวนการที่เรียก “การทะลุผ่านเชิงควอนตัม” (Quantum Tunnelling)
ซึ่งนักฟิสิกส์ทั้งสามได้ทำการวิจัยที่สาธิตให้เห็นถึงปรากฎการณ์การทะลุผ่านเชิงควอนตัมสามารถเห็นได้บนขนาดที่เห็นผ่านกล้องจุลทัศน์ในระบบที่ใหญ่พอที่จะเห็นและสัมผัสได้
ในปี 1984 และปี 1985 คลาก , เดโวเรต์ และมาร์ตินิสได้พัฒนาระบบไฟฟ้าตัวนำยิ่งยวดที่จะสามารถผ่านอนุภาคฟิสิกส์หนึ่งไปสู่ที่อื่นได้เหมือนเช่นหากมีคนปาลูกเทนนิสให้กระทบกำแพงแต่กลับกลายเป็นว่าลูกเทนนิสไม่กระดอนกลับที่สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ปาลูกเทนนิสที่ไม่กระดอนกลับ
สถาบันรางวัลโนเบลได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X เกี่ยวกับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์และความก้าวหน้าของโลกควอนตัมที่นำมาสู่การชนะรางวัลร่วมกันของนักฟิสิกส์ 3 คนมีใจความในบางส่วนว่า
“เมื่อคุณปาลูกบอลใส่กำแพง คุณสามารถแน่ใจว่ามันจะกระดอนกลับมาหาคุณ แต่คุณกลับประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ลูกบอลกลับโผล่ไปอีกด้านหนึ่งของกำแพง ซึ่งในกลศาสตร์ควอนตัมสิ่งนี้ถูกเรียกว่าการทะลุผ่านเชิงควอนตัมและนี่เป็นประเภทของปรากฎการณ์ที่สร้างชื่อเสียงต่อความแปลกประหลาดและยากที่จะเข้าใจ”
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ มัลคอล์ม คอนโนลลี (Malcolm Connolly) ประจำคณะฟิสิกส์ของวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนแสดงความเห็นว่า “รางวัลโนเบลในปีนี้ได้ยอมรับนักบุกเบิกที่แสดงให้พวกเราเห็นเป็นครั้งแรกว่าแม้กระทั่งวงจรอิเล็กทรอนิกยังสามารถแสดงพฤติกรรมเหมือนเช่นระบบควอนตัมได้อย่างแท้จริง”
และเสริมว่า “การค้นพบของพวกเขาเหล่านี้ต่อการทะลุผ่านเชิงควอนตัม และ energy quantization หรือระบบจะดูดซับหรือปล่อยพลังงานในจำนวนที่เท่ากันที่เป็นการวางพื้นฐานต่อ "superconducting qubit" ในทุกวันนี้ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มของการแข่งขันระดับโลกในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัวที่เป็นจริง”