xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” ดิ้นครอบงำ “บอร์ดการบินไทย”? เช่า “แอร์บัส” โยง “ปิยสวัสดิ์” ส่งกลิ่น?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หลังฟื้นชีพออกจากแผนฟื้นฟูฯ และเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ทันไร การบินไทย ก็วนลูปกลับมาเสี่ยงถูกครอบงำและสุ่มเสี่ยงต่อการย่ำรอยสู่วิกฤตอีกครั้ง

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในการบินไทยแล้วโชยกลิ่นทะแม่ง ๆ ในเวลานี้ มีอยู่สองประเด็น ซึ่งเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ โดยเฉพาะแวดวงตลาดหุ้นที่เพิ่งขี่กระแสราคา THAI พุ่งแล้วพลันดำดิ่งสู่ก้นเหว นั่นคือ การเสนอรายชื่อกรรมการ (บอร์ด) ใหม่ แทนบอร์ดเดิมที่จะหมดวาระลง 4 คน และข้อเสนอเพิ่มบอร์ดจาก 11 คน เป็น 15 คน นั่นหมายความว่ามี 8 รายชื่อ ที่จะขยับสับเปลี่ยนและเข้ามาใหม่

ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือ การผลักดันเช่า มาเสริมฝูงบิน โดยมีมูลค่ารวมทั้งแพจเกจประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 13,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่มาในจังหวะการปรับเปลี่ยนบอร์ดใหม่พอดิบพอดี

ที่น่าสนใจคือ รายการนี้มีการลากเอาชื่อ“นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์”อดีตประธานแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกรรมการการบินไทยในเวลานี้ที่ใกล้หมดวาระลงและมีแรงกดดันไม่อยากให้เขาอยู่ต่อ เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะ“ผู้ผลักดัน” แผนเช่าแอร์บัส Airbus A330-200 ทั้ง ๆ ที่ หากย้อนกลับไปดูข่าวคราวที่ผ่านมาจะพบว่า นายปิยสวัสดิ์ คือผู้ตัดสัมพันธ์การบินไทย-แอร์บัส ไม่เพียงแต่ขายทิ้งเครื่องบินเก่าแอร์บัส แต่แผนการจัดซื้อจัดหาฝูงบินใหม่ยังหันไปเลือกเครื่องบินโบอิ้งแทนที่จะเลือกแอร์บัส

คลังเดินหมากอยากคุมบอร์ดใหม่?

มาว่ากันเรื่องการสรรหาบอร์ดบินไทยกันก่อน เพราะร้อนแรงในระดับที่หุ้นการบินไทย ในช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในอาการทรุดตัวโงหัวไม่ขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นอย่างแรง

ดูจากราคาหุ้นในวันที่กลับเขามาเทรดบนกระดานตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังการฟื้นฟูฯกิจการสำเร็จ การบินไทย ปิดอยู่ที่ 10.50 บาทต่อหุ้น และต่อมายังขยับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 15.20 บาท/หุ้น เมื่อเทียบกับราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนอยู่ที่ 4.48 บาทต่อหุ้น และสูงกว่าราคาปิดสุดท้ายก่อนถูกพักการซื้อขายไปก่อนหน้านี้ที่ 3.32 บาท โดยราคาหุ้น THAI ปิดตลาดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 สูงสุดอยู่ที่ 10.50 บาทต่อหุ้น ต่ำสุดอยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น

การปรับเปลี่ยนบอร์ดการบินไทย ซึ่งมีกระแสข่าวสะพัดว่ากระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วนร้อยละ 38.90 เตรียมเสนอรายชื่อบุคคลเข้าเป็นกรรมการชุดใหม่ถึงระดับการ “ครอบงำ”บอร์ดกันเลยทีเดียว เพราะคลังเสนอถึง 10 คน โดยจะทดแทนกรรมการที่ต้องพ้นวาระตามกฎหมาย และเข้าดำรงตำแหน่งในส่วนที่เพิ่มขึ้น

คำถามคือการเปลี่ยนแปลงบอร์ดชุดใหญ่นี้ อาจจะเป็นแผนยึดอำนาจของคลัง และการเข้าแทรกแซงการบินไทยของฝ่ายการเมือง ใช่หรือไม่? และนั่นทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนกังวลว่าการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสนะในการบริหารงานของบริษัท และกระทบต่อทิศทางการฟื้นฟูกิจการที่กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี

แต่ที่เป็นเรื่องสำคัญสุด คือกรรมการที่มีแรงกดดันอยากถอดออกจากบอร์ดมากที่สุด คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย และเป็นผู้นำทีมบริหารแผนฟื้นฟูฯ จนการบินไทยกลับคืนสู่น่านฟ้ากว้างอย่างเต็มภาคภูมิ

การเปลี่ยนตัวบุคคลสำคัญในบอร์ด จึงอาจส่งผลกระทบถึงความต่อเนื่องในการดำเนินงาน รวมไปถึงความเป็นอิสระในการบริหารงานจนการบินไทยล้มละลายและเดินเข้าสู่แผนฟื้นฟูฯ มาแล้ว

จากข้อกังขาต่าง ๆ นาๆ ราคาหุ้นดำดิ่ง ทำให้นายลวรรณ แสงสนิทปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด ออกมาเคลียร์คัทว่า กระทรวงการคลัง ได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อมาทดแทนชุดเก่าที่หมดวาระลง และเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คน เป็น 15 คน เพื่อให้สามารถตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่จำเป็นให้ครบถ้วน เช่น คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ที่ยังไม่มี

ปัจจุบัน การบินไทย มีเพียงคณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการสรรหาและค่าตอบแทน โดยกระบวนการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ใช่แต่งตั้งแบบหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะการบินไทยพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจไปแล้ว

นายลวรรณ แสงสนิท
นายลวรรณ ยังรับประกันมั่นเหมาะว่า “ “ตราบใดที่ผมยังเป็นประธาน จะไม่มีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น ทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสทุกเรื่อง”

สำหรับรายชื่อกรรมการที่ได้รับการเสนอเบื้องต้นมีทั้งหมด 17 คน ซึ่งมาจากการเสนอชื่อของกรรมการในการประชุม เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 โดยกระทรวงการคลังเสนอ 10 รายชื่อ ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้นเกิน 5% ยังสามารถเสนอชื่อเพิ่มเติมได้ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2568

จากนั้น คณะกรรมการสรรหา จะทำการคัดเลือกให้เหลือ 8 คน ก่อนเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 และนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี (AGM) เดือนธันวาคม 2568

ขณะเดียวกันนายชาย เอี่ยมศิริประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THAI ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ข่าวเรื่องการเปลี่ยนบอร์ดและความเคลื่อนไหวภายในนั้นยังไม่มีข้อสรุปบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระ และชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้าชิงตำแหน่งกรรมการใหม่ได้ตามหลักธรรมาภิบาล

การเมืองล้วงลูกหวั่นวิกฤตซ้ำ

ถึงแม้ว่านายลวรรณ จะเอาตำแหน่งประธานบอร์ดการบินไทย รับประกันความโปร่งใสในทุกเรื่อง แต่หากฟังจากปากของนายปิยสวัสดิ์ ซึ่งมี “ประสบการณ์ตรง” ในการรับมือกับการ “ล้วงลูก” และแทรกแซงจากฝ่ายถืออำนาจรัฐ คล้ายกับเป็นหนังคนละม้วน

นายปิยสวัสดิ์ ซึ่งรับเชิญสมาคมนักข่าวฯ ร่วมเสวนาในหัวข้อ “ตีโจทย์การบินไทย เดินต่ออย่างไรไม่ให้ซ้ำรอย” เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เล่าว่า ที่ผ่านมาการบินไทยแย่และทรุดลง เพราะมีการแทรกแซจากข้างนอก แต่งตั้งคนที่ไม่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบน และคนพวกนี้สุดท้ายแล้วก็รับใช้คนที่เป็นหนี้บุญคุณ

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์
ตัวอย่างการจัดซื้อจัดจ้าง จะเห็นว่าเมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เข้ามาตรวจสอบ นักการเมืองไม่โดนคดีเพราะสั่งด้วยวาจา แต่ผู้บริหารการบินไทยโดน การโกงกินมาจากเอาคนของตัวเองขึ้นมา ทำให้องค์กรอ่อนแอ เพราะบริหารโดยคนที่ไม่เก่ง ไม่มีประสิทธิภาพเหมือนก่อนการฟื้นฟูการบินไทย

นายปิยสวัสดิ์ ยังเล่าถึงตอนที่เขาเองเป็นประธานบอร์ดการบินไทย มีแรงกดดันจากข้างนอกพอสมควรในการแต่งตั้งคน ไม่ใช่แค่ระดับบนแต่เขาล้วงไปถึงระดับล่าง แล้วผลักดันให้เติบโตขึ้นมา วงจรนี้กลับคืนมาได้ถ้าไม่ได้ระวัง ส่วนผู้บริหารการบินไทยชุดปัจจุบันมาจากช่วง 5 ปีที่ทำแผนฟื้นฟูฯ มีความสามารถที่สุดที่ทำให้การบินไทยฟื้นขึ้นมาและรู้ธุรกิจการบิน

เขายังชี้ว่า การเลือกบอร์ดในการเข้ามาบริหารการบินไทย เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมากรรมการรัฐใจไม่กว้างเลย โดยก่อนหน้านี้ในการเลือกตั้งกรรมการ ทางตัวแทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด เสนอคนมานั่งเป็นกรรมการก็ตกไป

และครั้งที่แล้วมีการตกลงกับกระทรวงการคลังแล้วว่า จะคงจำนวนบอร์ดไว้ที่ 11 คน แม้ว่าตามข้อบังคับจะตั้งได้ 15 คน แต่รัฐบาลชุดก่อน จะเพิ่มขึ้นมาอีก 4 คน ในช่วงปลายปีนี้ ถ้าเลือกคนไม่ดี ก็คิดว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัท และราคาหุ้นหรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2569 จะพ้นช่วงล็อกอัพ พีเรียด หรือช่วงห้ามผู้ถือหุ้นที่แปลงหนี้เป็นทุนขายหุ้น 6 เดือน

“คนที่จะมาเป็นกรรมการควรจะถามตัวเองด้วยซ้ำว่าเข้ามาแล้วเพิ่มมูลค่าให้บริษัทได้ ถ้าตอบว่าไม่รู้ เข้ามาเสวยตำแหน่งเฉย ๆ อย่าเอามาเลย คนที่เข้ามาเป็นกรรมการต้องช่วยบริษัทฟื้นฟูต่อไปได้อย่างยั่งยืน การสรรหากรรมการเป็นเรื่องสำคัญ ....” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

ปริศนาเช่าแอร์บัส - ซื้อโบอิ้ง โยง “ปิยสวัสดิ์”

เป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะที่กระแสปรับเปลี่ยนบอร์ดการบินไทยร้อนแรงขึ้น ก็มีข่าวปล่อยเรื่องการเช่าเครื่องบินแอร์บัสของการบินไทย โดยการผลักดันของนายปิยสวัสดิ์ ผ่านหน้าสื่อหลายสำนัก เนื้อหาออกมาในท่วงทำนองเดียวกัน

กล่าวคือ มีการอ้างแหล่งข่าวจากการบินไทย ที่ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2568 ปลายแผนฟื้นฟูฯ นายปิยสวัสดิ์ ผลักดันให้ฝ่ายจัดการเสนอเช่าเครื่องบิน Airbus A330 มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และแผนดังกล่าวถูกนำเสนออีกครั้ง หลังจากบอร์ดชุดใหม่เข้ามาบริหารงานในเดือนมิถุนายน 2568 โดยให้เหตุผลว่าจะใช้ทดแทนเครื่องบิน Boeing 777 และรุ่น 787 ที่คาดว่าจะส่งมอบล่าช้าในปี 2570 รวมทั้งมีเครื่องจำนวนหนึ่งต้องจอดเนื่องจากปัญหาเครื่องยนต์ Rolls Royce รุ่น Trent 1000 ที่ขาดอะไหล่ และอาจส่งผลให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามประมาณการ

ข้อเสนอดังกล่าว บอร์ดยังไม่ตัดสินอนุมัติ เนื่องจากมีข้อกังขาหลายประเด็น

นายชาย เอี่ยมศิริ
ข้อแรกขัดกับยุทธศาสตร์ลดความซับซ้อนของฝูงบิน เพราะปัญหาเดิมของการบินไทยคือมีเครื่องบินและเครื่องยนต์หลายรุ่นมากเกินไป ทำให้เป็นภาระด้านค่าใช้จ่าย อะไหล่ และการเตรียมนักบิน แผนยุทธศาสตร์ฝูงบินในอนาคตจึงกำหนดให้เหลือเพียง 4 รุ่น ได้แก่ Boeing 777, 787, Airbus A350 และ A321 ซึ่งไม่รวม A330 ที่ฝ่ายจัดการเสนอมา

ข้อสองการบินไทยเคยยกเลิกสัญญาเครื่องบิน A330 ออกไป 5 ลำ และมีแผนปลดประจำการเครื่องรุ่นนี้ทั้งหมดในปี 2573 การเช่ากลับมาอีกจึงเป็นคำถามว่าสอดคล้องกับทิศทางหรือไม่

ข้อสามเครื่องบิน Airbus A330 ที่จะเช่ามีอายุประมาณ 8 ปี เมื่อนำมาใช้งานจะต้องปรับปรุงภายในห้องโดยสาร ซึ่งใช้ทั้งเวลาและงบประมาณเพิ่มเติม

ข้อสี่ครื่องบิน Airbus A330 เป็นเครื่องบินเทคโนโลยีรุ่นเก่า ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักมากและค่าซ่อมบำรุงสูง เมื่อรวมกับเครื่องยนต์ Rolls Royce ทำให้กินน้ำมันมาก ขณะที่ค่าน้ำมันคิดเป็น 30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

และตามข้อมูล ระบุว่า Airbus A330 สามารถบินได้ไกลสูงสุดประมาณ 7 ชั่วโมง ในขณะที่ Boeing 777 บินได้ระดับ 10 ชั่วโมงขึ้นไป เมื่อต้องการเครื่องบินมาทดแทนเครื่องบินพิสัยไกลที่ส่งมอบล่าช้า ทำไมถึงเลือกเครื่องบินพิสัยกลางที่ไม่สามารถบินในเส้นทางไกลแบบเดียวกันได้

ข้อเสนอดังกล่าวจึงนำมาซึ่งความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกันคือ ความเสี่ยงในเชิงยุทธศาสตร์ที่ขัดกับแผนระยะยาวของบริษัท นำไปสู่ความเสี่ยงด้านเทคนิคและการปฏิบัติการ และความเสี่ยงด้านการเงินจากต้นทุนดำเนินการที่สูงขึ้นทั้งค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง

หลังจากมีข่าวเช่าแอร์บัส A330 นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างจัดหาเครื่องบินเช่าจำนวน 8 – 10 ลำ เพื่อทดแทนฝูงบินที่ปลดระวางจำนวน 9 ลำ โดยก่อนหน้านี้การบินไทยได้เจรจาจัดหาเครื่องบินเช่าไปแล้ว แบ่งเป็น B777-300ER 3 ลำ และ B787 จำนวน 6 ลำ แต่การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ และมีสายการบินอื่นจัดซื้อไปก่อน ทำให้ดีลต้องยกเลิก

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร
สำหรับการเร่งจัดหาเครื่องบินทดแทนดังกล่าว จะนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เป็นการเช่าเครื่องบินลำตัวกว้าง เพื่อให้บริการในเส้นทางระยะไกลแบบเดิม เบื้องต้นจะเช่าประมาณ 6 ปี หากการเจรจายุติเร็วจะรับมอบเครื่องได้กลางปี 2569 หากล่าช้าจะส่งให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างเครื่องบินลำตัวแคบและลำตัวกว้าง ซึ่งตอนนี้การบินไทยทยอยรับมอบเครื่องบินลำตัวแคบรุ่น A321 Neo 17 ลำ หากไม่มีเครื่องบินลำตัวกว้างมาเสริมแทนที่ปลดระวางจะกระทบต่อแผนกลยุทธ์การขายตั๋วแบบ Network และฮับการบินของไทย

ย้อนเวลากลับไปดูแผนจัดหาฝูงบินตามแผนฟื้นฟูฯ การบินไทยนั้น นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TG เปิดเผยภายหลังแถลงข่าวร่วมกับบริษัท โบอิ้ง และบริษัทจีอี แอโรสเปซ ในงานสิงคโปร์แอร์โชว์ 2024 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า การบินไทยมีความชัดเจนที่จะจัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliner ลำใหม่ จำนวน 45 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ GEnx รวมทั้งสิทธิในการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมในอนาคตสูงสุด รวมเป็น 80 ลำ

ข้อตกลงดังกล่าวมีความยืดหยุ่นในการเลือกแบบเครื่องบินต่าง ๆ ในตระกูล Dreamliner เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่แตกต่างกัน รวมถึงทางเลือกในการปรับเปลี่ยนแบบเครื่องบินบางส่วนเป็นโบอิ้ง 777X เครื่องบินลำตัวกว้างรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับพิสัยการบิน ความจุผู้โดยสาร และสมรรถนะขั้นสูงสุด จะส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารจัดการฝูงบิน เส้นทางบิน และต้นทุนดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบิน การจัดหาฝูงบินใหม่เป็นการเดินตามกรอบยุทธศาสตร์ ซึ่งระบุไว้ในแผนฟื้นฟูและแผนธุรกิจ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 30-35% จากปัจจุบันอยู่ที่ 21%

เครื่องบิน Airbus A330-200
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงแผนการจัดหาเครื่องบินที่ลงนามสัญญากับบริษัท โบอิ้ง และบริษัท จีอี แอโรสเปซ ดังกล่าวข้างต้น หากจัดหา 80 ลำตามแผน จะทำให้ปี 2576 การบินไทยมีฝูงบิน 154 ลำ สนับสนุนนโยบายเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคของรัฐบาล

หากเช็กราคาดู โบอิ้ง 787-8 ลำละ 239 ล้านดอลลาร์ 787-9 ลำละ 281 ล้านดอลลาร์ 787-10 ลำละ 325 ล้านดอลลาร์ การซื้อเครื่องบิน 787 จำนวน 80 ลำครั้งนี้ จะมีมูลค่าราว 800,000 ล้านบาท เลยทีเดียว ถือเป็นดีลที่ใหญ่มากที่สุดดีลหนึ่งของเอเชียและของโลก

Thaiarmedforce.com เว็บไซต์ข่าวสารทางทหารและความมั่นคง โพสต์ในทวิตเตอร์ (X) ในเวลานั้นว่า “ดีลนี้ถือเป็นการสูญเสียของ Airbus ที่การบินไทยเป็นลูกค้าที่ดีมาตลอดในช่วงหลัง และแน่นอนว่าคนที่สูญเสียยิ่งกว่าคือ Rolls-Royce เพราะการบินไทยใช้แต่เครื่องยนต์ Rolls-Royce มาตลอดในช่วงหลัง ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของผู้ผลิตเครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษรายนี้ สะท้อนว่าการบินไทยขาดความเชื่อมั่นจนพร้อมจะกลับไปหา GE ที่เคยทิ้งไปในอดีต และในเมื่อ A350 มีตัวเลือกเครื่องยนต์เพียงเครื่องเดียว ก็ทำให้การบินไทยไม่เลือก Airbus เปลี่ยนไปเลือก Boeing ในที่สุด”

เมื่อโบอิ้งเป็นตัวเลือกสุดท้าย แล้วเหตุไฉนอดีตประธานแผนฟื้นฟูฯการบินไทย จึงเจอเล่นงานด้วยเรื่องการผลักดันเช่าเครื่องแอร์บัส ท่ามกลางฝุ่นตลบเปลี่ยนและเพิ่มบอร์ดบินไทยใหม่ ที่ว่ากันว่าจะไม่เอา “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ – ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” เสียแล้ว

และนั่นจึงเป็นเรื่องที่จำต้องตาเรื่องบอร์ดการบินไทยเพราะมีข้อสงสัยว่าเกี่ยวโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น