xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเล่ห์โรงสี-ท่าข้าว!ฉกนโยบายชะลอขายรัฐจ่ายเพิ่ม ล่อ-ยื้อจ่ายสด ทำชาวนาพิจิตรระทมขายข้าวตั้งแต่เมษาฯวันนี้ยังไม่ได้เงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



พิจิตร – ชาวนาพิจิตรยังระทมไม่หยุด..ราคาข้าวตกต่ำไม่พอ โรงสี-ท่าข้าวบางแห่งขาดเงินหมุน ซื้อข้าวแล้วไม่มีเงินจ่าย จนต้องพากันร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรม ผู้ว่าฯสั่งด่วนตั้งทีมเปิดข้อกฎหมายดำเนินคดี เบื้องต้นพบใบอนุญาตท่าข้าวกับพ่อค้าเป็นคนละคน แถมบางรายฉวยนโยบายชะลอขายรัฐจ่ายเพิ่ม 500 ล่อชาวนา-ยื้อจ่ายสด


กรณีชาวนาตะพานหิน จ.พิจิตร เดือดร้อนเข้าร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรม ว่าขายข้าวให้กับท่าข้าว “เจ๊ปลา” (นามสมมุติ) ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.วังหว้า อ.ตะพานหิน ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ 2568 แล้วไม่ได้เงิน บางรายได้รับการทยอยจ่ายรายละ 10,000-30,000 บาท บางรายยังไม่ได้เงินเลยก็มี พอชาวนารวมตัวจะไปแจ้งความ “เจ๊ปลา” ก็จะมาเจรจาแล้วหยอดเงินให้คราวละ 10,000-20,000 บาท จึงทำให้ชาวนาเดือดร้อน

ล่าสุด น.ส.ธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร , นายกิติพล เวชกุล รองผู้ว่าฯ , พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล รองผู้อำนวยการ รมน.จังหวัดพิจิตร (ทหาร) , นาย ประเสริฐ ใจสนธิ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สนง.อัยการคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายฯจังหวัดพิจิตร , นายสามารถ เดชบุญ เกษตรจังหวัดพิจิตร , นายจอมชัย รอดทัดทาน สหกรณ์จังหวัดพิจิตร , นายกฤษฏิ์ สิทธิยศ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทน นายอำเภอตะพานหิน พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนชาวนา ได้หารือร่วมกัน

ในที่ประชุมมีชาวนา 2 ราย ระบุว่าช่วงเช้า 12 พ.ย.ก่อนที่จะมาประชุม “เจ๊ปลา”ได้โอนเงินจ่ายค่าข้าวเปลือกให้กับ 2 แกนนำอีกด้วย

เบื้องต้น ผู้ว่าฯพิจิตร จึงสั่งการให้ระดมผู้ที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายและผู้ปฏิบัติงานจากหลายหน่วยงานรวมแล้วเกือบ 30 คน เพื่อจะบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีอาญา-คดีแพ่ง กับ “เจ๊ปลา” และท่าข้าวที่ใช้เป็นจุดรับซื้อข้าวจากชาวนากลุ่มนี้ ซึ่งก็พบว่ามีกรรมวิธีการดำเนินการที่สลับซับซ้อนพอควร แต่ด้วยจังหวัดพิจิตร เจอขบวนการโกงชาวนามาในทุกรูปแบบแล้วจึงมีโมเดลในการเอาผิด โรงสี-ท่าข้าว


โอกาสนี้ ได้มีการสอบถามว่าจากนโยบายผู้ว่าฯพิจิตร ที่รณรงค์บอกกับชาวนาว่าวิธีแก้กลโกงโรงสี-ท่าข้าว คือต้องซื้อ-ขาย จ่ายเงินสดเท่านั้น ขอให้เปิดเผยรายชื่อ-ที่ตั้งโรงสี/ท่าข้าว แหล่งรับซื้อข้าวจากชาวนามีที่ไหนซื้อด้วยเงินสดบ้าง เพื่อสื่อมวลชนจะได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวนาได้รับรู้และนำข้าวไปขาย

ปรากฎว่าประธานชมรมโรงสีข้าวพิจิตร ตอบกลางที่ประชุมว่าถึงแม้จะเป็นโรงสีขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ ก็คงต้องขอเวลา 3-5 วัน ในการชำระเงิน จึงกลายเป็นว่า “โรงสี-ท่าข้าว พิจิตรบางแห่งไม่สามารถซื้อข้าวจากชาวนาแล้วจ่ายเงินสดได้จริง”

อย่างไรก็ตาม นายจอมชัย รอดทัดทาน สหกรณ์จังหวัดพิจิตร ก็ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า จุดรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาที่นำมาขายแล้วจ่ายเงินสดในช่วงนี้มีสหกรณ์ฯ เพียง 9 แห่ง คือ 1. สหกรณ์การเกษตร เมืองพิจิตร จำกัด 2. สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส. จำกัด (ใช้สถานที่เอกชน ) 3. ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรพิจิตร จำกัด 4. สหกรณ์การเกษตรตะพานหิน จำกัด 5. สหกรณ์การเกษตรบางมูลนาก จำกัด 6. สหกรณ์การเกษตรทับคล้อ จำกัด 7. สหกรณ์ชาวนา วชิรบารมี 8. สหกรณ์การเกษตรสามง่าม จำกัด 9. สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินสามง่าม1 จำกัด

ซึ่งรับซื้อข้าวจากเกษตรกรชาวนาที่ขึ้นทะเบียนการปลูกข้าวกับ สนง.เกษตรฯ โดยจ่ายเงินสด อีกทั้ง สหกรณ์ทั้ง 9 แห่งนี้ ก็เข้าร่วมโครงการชะลอการขายของรัฐบาล ซึ่งชาวนาจะได้เงินเพิ่มอีก 500 บาท แต่หลังจากที่ขายแล้วจะได้เงินสดตามราคาข้าวเปลือกในท้องตลาด ส่วนเงินอีก 500 บาท ต้องรออีกระยะหนึ่งถึงจะได้


สหกรณ์จังหวัดพิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากโครงการชะลอการขายแล้วได้เงินเพิ่ม 500 บาท นี้เอง จึงทำให้มีโรงสี-ท่าข้าว บางแห่งใช้เป็นข้ออ้างชาวนาว่าถ้าไม่รับเงินสดทั้งหมดตอนส่งมอบข้าวหรือรับเงินบางส่วน ก็จะได้เงินเพิ่มอีกตันละ 500 บาท ซึ่งหากชาวนาหลงเชื่อก็อาจถูกหลอกลวงได้ ดังนั้นจึงยืนยันว่าถ้าอยากขายข้าวเปลือกแล้วได้เงินสดก็มีสหกรณ์ทั้ง 9 แห่ง ให้เป็นทางเลือก แต่ท่าข้าวที่ซื้อขายจ่ายเงินสดก็ยังมีอีกหลายแห่ง

ทั้งนี้หลังจากประชุมในช่วงเช้าเสร็จสิ้น ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกิติพล เวชกุล รองผู้ว่าฯพิจิตร และคณะ ก็ลงพื้นที่จุดรับซื้อข้าวของ หจก.ทุ่งโพธิ์พืชผล ต.ทุ่งโพธิ์ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเปิดรับซื้อข้าวหอมมะลิอย่างเดียวในราคาตันละ 13,000 บาท ความชื้น 15% ส่วนข้าวเกี่ยวสดความชื้นไม่เกิน 25% ก็รับซื้ออยู่ที่ตันละ 12,000 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสดทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น