ตราด - หน่วยงานชายแดนตราด ร่วมรับตัว 28 คนไทยถูกหลอกทำงานเป็นแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา อ้างหลงคำชวนงานสบาย-รายได้ดีสุดท้ายทำยอดไม่ได้ทั้งถูกทุบตี ทั้งไม่ได้เงิน ด้านสาวสุพรรณบุรี วัย 19 ปีสารภาพถูกทำร้าย-ข่มขืนจากหัวหน้าชาวจีนหลังพยายามขอความช่วยเหลือจากทางบ้าน พบ 4 ใน28 มีหมายจับต้องถูกส่งตัวดำเนินคดี
วันนี้ ( 13 พ.ย.) นายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.คลองใหญ่และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ที่ 182 บ้านหาดเล็ก และตำรวจภูธรคลองใหญ่ ได้ร่วมกันรับมอบตัวชาวไทยจำนวน 28 ราย ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็น หลังได้รับการช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในการออกเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Travel Document) ให้แก่กลุ่มคนไทยที่เดินทางไปขอรับความช่วยเหลือ เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยแรงงานไทยทั้ง 28 รายเป็นชาย 20 ราย และหญิง 8 ราย ทั้งหมดมีอายุประมาณ 18 - 37 ปีและมาจากหลายจังหวัดของไทย นอกจากนั้นยังพบว่า 4 ใน 28 ราย มีหมายจับตำรวจจึงถูกแยกตัวออกมา เพื่อส่งตัวดำเนินคดีตามหมายจับของแต่ละจังหวัด
ชายวัย 21 ปีชาว จ.หนองคาย เล่าว่าตนเองได้เห็นประกาศรับสมัครแอดมินตอบแชทออนไลน์ของบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่เมื่อมีการติดต่อประสานงานและเดินทางมาถึง อ.อรัญประเทศ ได้ถูกคนที่พูดคุยด้วยถูกยึดโทรศัพท์มือถือและบัตรประจำตัวประชาชน ก่อนจะพาตัวไปที่ จ.ไพรแวง ที่อยู่ริมชายแดนประเทศกัมพูชา- เวียดนามและถูกบังคับให้ทำงานในตึกสแกมเมอร์ มีหน้าที่หลอกคนไทยในลักษณะหลอกลงทุน ด้วยการปลอมเป็นตัวละครต่างๆและปลอมบริษัทเอกชน
ซึ่งการทำงานใน 2 เดือนแรกได้ค่าจ้าง 800 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ะถูกหักค่าประกัน 400 ดอลลาร์ต่อเดือน เมื่อทำยอดไม่ได้ในเดือนต่อๆ จึงถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง และในตึกดังกล่าวยังมีชาวไทยทำอยู่เป็นจำนวนมาก และบางคนยังสามารถหลอกเหยื่อซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน ให้ลงทุนได้มากถึงเดือนละ 6-7 ล้านบาท
ด้านหญิงสาววัย 19 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี บอกว่าตนเองได้เห็นประกาศสมัครรับสมัครงานในตำแหน่งแอดมินตอบแชทผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีค่าจ้างประมาณ 25,000 - 30,000 บาทต่อเดือน จึงตัดสินใจสมัครงานกับบริษัทดังกล่าว จากนั้นจึงมีคนขับรถมารับถึงที่ จ.สุพรรณบุรี และได้พาไปนอนพักที่กรุงเทพฯ 1 คืน ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้นจะด้มีคนไทยพาเดินทางไปยังบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ โดยอ้างว่าจะต้องฝึกงานก่อน
จากนั้นได้พาข้ามแดนไปยังด่านปอยเปรต จ.ศรีโสภณ ประเทศกัมพูชา เพื่อไปยังตึกสแกมเมอร์ 7 ชั้น และบังคับให้ทำงานโพสต์รับจ้างเช่าบัญชี (บัญชีม้า) ซึ่งระหว่างนั้นตนเองได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอความช่วยเหลือจากทางบ้าน เนื่องจากไม่ใช่งานที่ต้องการจะทำ
“ กระทั่งถูกจับได้ว่าแอบใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ จึงถูกหัวหน้าชาวจีนยึดโทรศัพท์มือถือและทำร้ายร่างกายและข่มขืน ซึ่งการทำงานในกัมพูชา ไม่ได้รับเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว และสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเขมรเข้าจับกุมเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ” หญิงสาววัย 19 ปี กล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวคนไทยทั้งหมดไปสอบปากคำที่ร้อย อ.ส.ที่ว่าการอำเภอคลองใหญ่ ก่อนปล่อยตัว 24 คนให้เดินทางกลับภูมิเนาเนื่องจากพบว่าเป็นการถูกหลอกให้ไปทำงานจริง ส่วนคนไทยที่เหลืออีก 4 คนพบว่ามีหมายจับตำรวจจากหลายพื้นที่และจะต้องถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฏหมาย
