“อรรถพล” จ่อลงพื้นที่ภาคใต้ 5-6ธันวาคมนี้ สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงานเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในสถานีบริการในพื้นที่น้ำท่วม ยันการขนส่งน้ำมันและก๊าซหุงต้มไม่สะดุด เร่งฟื้นฟูโรงไฟฟ้าที่หยุดไปให้กลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าโดยเร็ว เผยโรงไฟฟ้าจะนะปิดซ่อมยาว 2เดือน ยืนยันพลังงานทั้งไฟฟ้า น้ำมันและLPGมีเพียงพอใช้ในช่วงการฟื้นฟูหลังน้ำลด
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังคงได้รับผลกระทบและต้องเร่งฟื้นฟู ซึ่งสำนักงานพลังงานจังหวัดสงขลาได้ตั้งศูนย์อำนวยการด้านพลังงานเพื่อช่วยเหลือเหตุอุทกภัยในจังหวัดสงขลา ที่ให้ความสำคัญในการดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจไม่ให้กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยให้กรมธุรกิจพลังงานเร่งการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันไม่ให้มีการปนเปื้อนจากน้ำท่วมเพื่อเปิดให้บริการประชาชนโดยเร็ว ขณะนี้มีสถานีบริการน้ำมันใน 9 จังหวัดภาคใต้ เปิดให้บริการแล้ว79% หรือ 414 แห่งจากทั้งหมด 521 แห่ง คงเหลือ107 แห่งที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู คาดว่าจะเปิดครบ 100%ภายใน 1-2สัปดาห์นี้ ส่วนโรงบรรจุก๊าซ LPG สามารถเปิดให้บริการได้ 97% หรือประมาณ 96 แห่งจากทั้งหมด 99 แห่ง คาดว่าจะกลับมาให้บริการได้ 100% ภายใน 1 สัปดาห์
สำหรับโรงไฟฟ้าไฟฟ้า ในช่วงวิกฤติน้ำท่วมมีโรงไฟฟ้าต้องหยุดชั่วคราว 12 แห่งคิดเป็นกำลังผลิต 1,600 เมกะวัตต์ ปัจจุบันกลับมาเดินเครื่องได้แล้ว 4 แห่ง ส่วนโรงไฟฟ้าจะนะ จำเป็นต้องหยุดเดินเครื่องชั่วคราวคาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องได้ในอีก 2เดือนข้างหน้า ซึ่งช่วงวิกฤติน้ำท่วม ได้สั่งการให้โรงไฟฟ้าใกล้เคียงเดินเครื่องเต็มที่เพื่อไม่มีปัญหาไฟฟ้าภาคใต้ขาดแคลนเช่น โรงไฟฟ้าขนอม เดินเครื่องเต็มที่ 930เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้ากระบี่(ใช้น้ำมันเตา) เดินเครื่องเต็มศักยภาพ เสริมไฟฟ้าแรงสูงจากส่วนกลางอีก 1,200เมกะวัตต์ และไฟฟ้าจากเขื่อนรัชชประภา 240เมกะวัตต์เพื่อรับมือความต้องการใช้ไฟฟ้า ซึ่งในช่วงที่ประชาชนฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายนี้ โรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้ากระบี่ยังคงเดินเครื่องเต็มที่
ส่วนข้อเสนอการลดค่าไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วมนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่ต้องพิจารณาอัตราค่าไฟ และระยะเวลาการปรับลดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายอรรถพล กล่าวว่า ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงจะลงพื้นที่ภาคใต้ระหว่างวันที่ 5-6 ธันวาคมนี้ เพื่อช่วยเหลือในการฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานยังคงให้ความช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งถุงยังชีพรวมกว่า 47,000 ถุง น้ำดื่มกว่า 104,000 ขวด นอกจากนั้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ยังมอบน้ำมันสนับสนุนการทำงานของจิตอาสาและกองทัพบกรวม 8.4 ล้านบาท และส่งมอบก๊าซหุงต้มกว่า 930 กิโลกรัม (62 ถัง) สำหรับใช้ในโรงครัวในพื้นที่ และได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันภาคเอกชน มอบน้ำมันรวม 1.37 ล้านบาท และก๊าซหุงต้มเพิ่มเติมอีก 30 ถัง และเงินช่วยเหลือ รวมทั้งยังได้ประสานงานและสนับสนุนงานต่างๆ ที่ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานในพื้นที่ เช่น การมอบถังออกซิเจนทางการแพทย์ขนาด 0.5 คิว จำนวน 200 ถัง ให้แก่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์และโรงพยาบาลหาดใหญ่ และเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจำนวน 30 เครื่องสำหรับกองทัพเรือเพื่อสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของประชาชน เป็นต้น
ส่วนในด้านการฟื้นฟู กฟผ. ได้ประสานงานกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน โดยจะดำเนินการในระหว่างวันที่ 5 – 9 ธันวาคม 2568 อีกทั้ง ปตท. ได้เปิดให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองในสถานีบริการ 5 แห่งในจังหวัดสงขลา สำหรับรถยนต์ 500 คันและรถจักรยานยนต์ 2,500 คันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
"เรายังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยังมีการทยอยส่งเครื่องอุปโภคบริโภค เวชภัณฑ์ ถุงยังชีพและน้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้เร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในสถานีบริการ ให้ได้คุณภาพ จัดส่งก๊าซหุงต้มเพื่อใช้ในโรงครัวสำหรับประกอบอาหาร รวมทั้งขอให้ติดตามการขนส่งน้ำมันและก๊าซหุงต้มให้เพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่ รวมทั้งได้เร่งให้โรงไฟฟ้าที่ยังไม่ได้รับผลกระทบเดินเครื่องเต็มศักยภาพ รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชน” นายอรรถพล กล่าว

