xs
xsm
sm
md
lg

"ดีเอสไอ" ตั้งคณะสอบ บ.สแกนม่านตาแลกเหรียญ - "คุกวีไอพี" เร่งสรุปส่ง ป.ป.ช. ก่อนสิ้นปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เผยรับคดีพิเศษ บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตาแลกเหรียญดิจิทัล โยงเอี่ยว "เบน สมิธ" ด้านคดี "คุกวีไอพี" จ่อสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ก่อนสิ้นปี

วันนี้ (11 ธ.ค.) ณ สำนักงานศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ลงนามร่วมกับบริษัทจากประเทศสิงคโปร์ ทำธุรกิจสแกนม่านตาแลกเหรียญดิจิทัล พบมีข้อมูลคนไทยกว่า 1.2 ล้านคน เป็นคดีพิเศษที่ 148/2568 ฐานความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ นายเบน สมิธ ที่พัวพันกับกลุ่มสแกมเมอร์ข้ามชาติ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล โดยเบื้องต้นได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขึ้นมาเพื่อสืบสวนสอบสวนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่จะต้องดำเนินการมีหลายมิติ เช่น การตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลซึ่งปรากฏข้อมูลว่าได้ทำบันทึกข้อตกลง หรือ MOU ร่วมกันว่าทำเพื่อจุดประสงค์อะไร ส่วนรายละเอียดความคืบหน้าขณะนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเจ้าหน้าที่เพิ่งเริ่มกระบวนการในการสืบสวนคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะ

ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องกรณี "คุกวีไอพี" ที่อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ต้องขังชาวจีนนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า เบื้องต้นมีความคืบหน้าไปมากทั้งการสืบสวนสอบสวนรายละเอียดจากพยานบุคคล ทั้ง ผู้ถูกคุมขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมถึงการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งกรณีนี้หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาเอาผิด
ภายใน 30 วัน

"โดยการสอบปากคำขณะนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบไปแล้วมากกว่า 20 ปาก ซึ่งกรอบระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ พบข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด แต่ส่วนนี้ก็อาจยืดหยุ่นได้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ได้ก่อนสิ้นเดือนธันวาคม 2568"
กำลังโหลดความคิดเห็น