โพลชี้คะแนนนิยมพรรคประชาชนลดลง แต่ "เท้ง ณัฐพงษ์" ไม่หวั่นกระแสขาลง ลั่นพรรคไร้ความเทา เดินหน้าเปลี่ยนความเชื่อใจเป็นความเชื่อมือ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนก่อนเลือกตั้ง
แม้ว่าผลการสำรวจความนิยมทางการเมืองของนิด้าโพล จะระบุชัดเจนว่าพรรคประชาชนและนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค จะได้รับความนิยมมาเป็นลำดับหนึ่ง แต่ในอีกมุมหนึ่งพบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจทั้ง 4 ไตรมาส พบว่าคะแนนนิยมพรรคประชาชนลดลงทั้งตัวบุคคลและพรรค ขณะที่คะแนนของกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจโหวตให้ใคร กลับพุ่งสูงขึ้น ในประเด็นนี้ นายณัฐพงษ์ แสดงความคิดเห็นว่า เมื่อมองดูตัวเลขของทุกพรรคการเมือง พบว่าพรรคประชาชนยังได้เปรียบทุกพรรคการเมือง สะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาชนมีผู้สนับสนุน และทำให้ประชาชนเชื่อใจว่าพรรคทำเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศแน่นอน
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า หากย้อนดูการเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2562-2566 พบว่าฐานคะแนนที่มั่นของพรรคส้มเติบโตขึ้นและใหญ่ขึ้น เมื่อถึงเวลาใกล้วันเข้าคูหาทุกคนจะมีภารกิจร่วมกันในการเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ ในการโน้มน้าวประชาชนคนไทยที่อาจจะยังไม่รู้ว่าจะโหวตให้ใคร ให้สุดท้ายวันเข้าคูหาโหวตให้กับพรรคประชาชน ดังนั้นตนเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนทำงานร่วมกันมา แม้จะเป็นฝ่ายค้าน โดนทุบทำลายมาหลายครั้ง โดนกระแสและปัญหารุมล้อมหลายอย่าง แต่จากการทำงานที่เข้มข้นของทุกคนทำให้พรรคประชาชนเติบโต
"ส่วนหนึ่งยุทธศาสตร์ของพรรคประชาชนคือการเปลี่ยนความเชื่อใจให้เป็นความเชื่อมือ ตอนนี้คนไม่ได้สงสัยแล้วว่าพรรคประชาชนไม่เทาแน่นอน แต่พรรคประชาชนไม่ได้มีประวัติในอดีตที่เคยมีอำนาจเข้าไปอยู่ในฝ่ายบริหาร จึงทำให้คนที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ในผลโพลอาจจะยังไม่เชื่อมั่น ว่าถ้าเลือกพรรคประชาชนแล้วจะเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง ทำให้พรรคต้องคัดเลือกผู้สมัครโดยกระบวนการที่เข้มข้น เพื่อให้ได้แคนดิเดตที่ดีที่สุด ที่เป็นตัวแทนของชาวแรงงาน เข้าไปเป็นตัวแทนที่อยู่ในลำดับบัญชีรายชื่อที่พร้อมให้ประชาชนเลือก" นายณัฐพงษ์ กล่าว
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความคิดเห็นต่อกรณีสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชาจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ว่า ครั้งนี้สถานการณ์มีความรุนแรงมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา และมีความสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ ต้องไม่ทำให้เรื่องความขัดแย้งตามแนวชายแดน กลายเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายใครก็ตาม ควรคิดบนพื้นฐานของผลประโยชน์ประเทศชาติ
“คิดว่าต้องประเมินสถานการณ์อย่างเรียลไทม์ โดยดูจากความเป็นจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องไม่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นผลประโยชน์ของพรรคการเมือง แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ดังนั้น ประเภทโยนหินถามทางต่างๆ ก็ไม่แน่ใจว่าการคิดแบบโยนหินถามทางนั้นคิดบนพื้นฐานอะไร" นายรังสิมันต์ กล่าว